Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 นิทานอ่านสบาย : ชีวิตดั่งดอกไม้ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2005, 1:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 31 สิงหาคม 2548 15:26 น.



มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งหลังจากแต่งงานกัน พวกเขาก็ตั้งใจทำมาหากิน เก็บหอมรอม ริบ จนปลูกบ้านหลังเล็กๆได้หลังหนึ่ง เหมือนที่เคยหวังกันไว้ จากนั้นเขาก็เริ่มวางแผนการงานให้มั่นคงขึ้น ขยันขันแข็งขึ้น ทำงานมากขึ้น และพักผ่อนให้น้อยลง เพราะตั้งใจจะเก็บเงินอีกก้อนให้เพียงพอสำหรับการมีสมาชิกใหม่ตัวน้อยๆ เพิ่มขึ้นอีกคนในครอบครัว แต่เมื่อความฝันทั้งหมดเริ่มเป็นรูปร่าง ไม่นานฝ่ายชายกลับต้องมาตายจากไปด้วยอุบัติเหตุ ทิ้งให้หญิงสาวนอนซมเศร้าโศกเสียใจ ไม่เป็นอันกินอันนอน ไม่ทำงาน ไม่ดูแลตัวเองและบ้านช่อง ปล่อยให้ความทุกข์เกาะกินหัวใจและชีวิตของตน ราวกับจะปล่อยตัวเองให้ตรอมใจจนตาย



เพื่อนข้างบ้านคนหนึ่ง เฝ้ามองดูความหมดอาลัยตายอยากของหญิงสาวผู้นี้ด้วย ความสังเวช วันหนึ่งเขาจึงเดินเข้ามาที่บ้านหญิงสาวพร้อมกับกระถางดอกไม้ ที่ดอกของมันกำลังเบ่งบานชูช่อไสว สีสันก็สวยงามยิ่งนัก ใบเขียวสดราวกับใบไม้ในภาพวาด เลยทีเดียว



“ข้าฝากให้เจ้าช่วยดูแลต้นไม้ต้นนี้หน่อยได้ไหม ข้าจะไปต่างเมือง แล้วอาทิตย์หน้า ข้าจะมาเอาคืน อย่าปล่อยให้มันเxxx่ยวเฉาซะล่ะ”



พอพูดจบเพื่อนบ้านก็เดินจากไป โดยที่หญิงสาวยังไม่ได้เอ่ยอะไรสักคำ เพราะนาง เองยังอยู่ในอาการแปลกใจ ที่มีคนเอาต้นไม้มาฝากไว้เช่นนี้



อาทิตย์ต่อมา เมื่อเพื่อนบ้านกลับมารับต้นไม้คืน เขาเห็นว่าดอกไม้เพียงดอกเดียว ที่มีอยู่นั้น ได้เxxx่ยวเฉาลงไปแล้ว ก็ด่าว่าหญิงสาวต่างๆนานา หาว่าไม่ดูแล ไม่ใส่ใจ หญิง สาวจึงรีบอธิบายเหตุผลทันที



“ข้าก็รดน้ำแล้ว แต่ดอกไม้นั้น มันย่อมเxxx่ยวเฉาไปตามกาลเวลา ถึงแม้จะยังอยู่กับต้นก็ตาม มันเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่ความผิดของข้าเลย”



เพื่อนบ้านสบโอกาสจึงรีบกล่าวขึ้นว่า “เมื่อเจ้ารู้ว่า ดอกไม้มันย่อมเxxx่ยวแห้งไปตาม ธรรมชาติ แล้วไยกลับไม่รู้ว่า ความตายก็เป็นไปตามธรรมชาติเหมือนกัน ถึงจะไม่มีดอกไม้ที่สวยสดดังเดิม แต่ลำต้นของมันก็ยังมีชีวิตอยู่ ยังมีวันข้างหน้า ยังมีวันเติบโต เจ้าจะปล่อยให้ลำต้นที่เหลือ ตายไปพร้อมกับดอกไม้ที่เxxx่ยวเฉาไปแล้วอย่างนั้นหรือ”



เมื่อได้ฟังคำจากเพื่อนบ้าน หญิงสาวก็เริ่มมีสติ และเริ่มต้นชีวิตตัวเองใหม่ทันที

.........



คนเรานั้นเมื่อมองต้นไม้ ใบหญ้า มองสัตว์น้อยใหญ่ มองสิ่งมีชีวิตอื่นๆ เวลาเห็น มันตายไป ก็เข้าใจว่ามันคือธรรมชาติ คือวัฏจักรของชีวิต มันคือการเวียนว่ายตายเกิด แต่เมื่อมีความตายเกิดขึ้นกับคนใกล้ชิด คนในครอบครัว เรากลับรับไม่ได้ ทำใจไม่ได้ เสียอกเสียใจ วิญญาณแทบจะหลุดลอยตามไปกับผู้ตาย ทั้งๆที่ชีวิตคนเรา ก็ไม่ต่างจากพืชและสัตว์ทุกชีวิต ต่างมีเกิด ดับ เหมือนกันทั้งนั้น พืช สัตว์ตายได้ แต่คนใกล้ตัวตายไม่ได้อย่างนั้นหรือ



ไม่มีใครหายใจแทนเรา หรือกินข้าวแทนแล้วเราอิ่มได้ ถึงจะไม่มีคนที่เรารัก แต่ชีวิตเรายังต้องเดินต่อไป พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้เราพึ่งใคร จะกี่พุทธภาษิต ก็สอนให้เราพึ่งตัวเอง หากเรามัวแต่เสียใจกับสัจธรรมของชีวิต เราจะจมปลักอยู่อย่างนั้น ไม่มีวันเอาชนะความเปลี่ยนแปลงได้ แต่ถ้าเราเข้าใจว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมาพร้อมกับความตาย วันหนึ่งทุกชีวิตต้องตาย เหมือนที่เรามองต้นไม้ใบหญ้า เxxx่ยวแห้งเฉาไป เราก็จะไม่มีความทุกข์จากอนิจจังของโลก





 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 03 ก.ย. 2005, 5:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาสาธุด้วยครับ



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
บิว
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 พ.ย.2005, 7:28 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดีมากเลยคับ

 
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 13 มิ.ย.2008, 3:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทโธ ขอบคุณครับ ซึ่ง
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง