Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 คนใจดี คนใจร้าย (รศ.วิเชียร เกษประทุม) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.พ.2006, 10:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

เรื่องจาก : นิทานพื้นบ้าน ชุดที่ ๒
ชุด "คติสอนใจ" สำหรับเด็กและเยาวชน
โดย : รศ.วิเชียร เกษประทุม



มีครอบครัวอยู่สองครอบครัว ครอบครัวหนึ่งคนในครอบครัวนั้นใจดี มีความเมตตากรุณา
เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ส่วนอีกครอบครัวนั้นใจร้าย มีแต่ความคิดอิจฉาริษยา เห็นแก่ตัว

มีเทวดาองค์หนึ่งอยากทราบถึงสภาพชีวิตจิตใจของคนในเมืองมนุษย์ว่า มีจิตใจดีหรือใจร้ายอยู่มากน้อยเพียงใด จึงได้เสด็จลงมายังเมืองมนุษย์โดยแปลงเป็นพระธุดงค์

เมื่อถึงเมืองมนุษย์ซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาบ่ายแล้ว ก็ตรงไปยังบ้านของคนใจร้าย พบสองสามีภรรยาอยู่ที่บ้านพอดี จึงเอ่ยขึ้นว่า

"โยม อาตมาขอน้ำฉันสักขันหนึ่งเถอะ อาตมาเดินทางมาไกลรู้สึกกระหายน้ำจังเลย"

"น้ำที่บ้านฉันไม่มีเลยท่าน นิมนต์ไปขอที่บ้านอื่นเถอะ"

"อย่างนั้นขออาตมาปักกลดอยู่ในบริเวณบ้านของโยมหน่อยจะได้ไหมโยม"

"คงไม่ได้หรอกท่าน เพราะบริเวณบ้านของฉันมันคับแคบ ไม่มีที่พอจะให้ท่านปักกลดได้หรอก"

"งั้นก็ไม่เป็นไร อาตมาลาก่อนละนะโยม" ว่าแล้วพระธุดงค์ก็เดินออกจากบ้านสามีภรรยาใจร้ายไปด้วยความผิดหวัง คิดในใจว่า "นี่หรือน้ำใจของมนุษย์ที่มักแสดงตนว่าตนเองเป็นสัตว์ประเสริฐ"

พระธุดงค์ก็เดินทางต่อไป จนถึงบ้านของคนใจดีสองสามีภรรยาเห็นพระธุดงค์เข้า ก็รีบลงจากบ้านมายกมือไหว้ แล้วพูดกับพระธุดงค์ว่า

"พระคุณเจ้าจะไปไหนหรือครับ นิมนต์ขึ้นบนบ้านก่อนครับ" สามีพูด

"ขอบใจมากโยม อาตมาธุดงค์มาเพื่อโปรดญาติโยมนี่แหละ"

"ขอบพระเดชพระคุณท่านมาก ที่ได้เมตตามาโปรดถึงที่นี่ ขอท่านได้ฉันน้ำแก้กระหายก่อนครับ" สามีพูดพร้อมกับยกน้ำขึ้นถวาย แล้วพูดต่อไปว่า

"คืนนี้ ผมขอนิมนต์ท่านปักกลดอยู่ที่นี่ก่อน อย่าเพิ่งธุดงค์ไปไหนนะครับ เพื่อผมสองคนจะได้มีโอกาสได้ทำบุญบ้าง"

"ขอบใจมากจ้ะโยม โยมมีน้ำใจต่ออาตมามากเหลือเกิน อาตมาจะไม่ลืมบุญคุณของโยมเลย" พระธุดงค์พูด

คืนนั้นพระธุดงค์ได้ปักกลดอยู่ในบริเวณบ้านของสามีภรรยาผู้ใจดีนั้น ครั้นถึงรุ่งเช้า สองสามีภรรยาได้นำอาหารมาถวายพระธุดงค์ เมื่อพระธุดงค์ฉันอาหารเสร็จแล้ว ก็ได้ให้พรสองสามีภรรยา และท่านได้พูดกับสองสามีภรรยาผู้มีน้ำใจว่า

"โยม ก่อนที่อาตมาจะจากโยมไป อาตมาไม่มีสิ่งใดจะตอบแทนในน้ำใจอันประเสริฐของโยม นอกจากต้นไม้ต้นนี้ ขอให้โยมนำไปปลูกดูแลให้ดีเถิด" พระธุดงค์พูดแล้วก็ส่งต้นไม้นั้นให้สามีคนใจดี

เมื่อพระธุดงค์จากไปแล้ว สองสามีภรรยาแห่งบ้านคนใจดีก็นำต้นไม้นั้นไปปลูกไว้ใกล้ๆ บ้านของตน ชั่วเวลาเพียง ๗ วันเท่านั้น ต้นไม้วิเศษต้นนั้นก็โตวันโตคืน โตจนโอบไม่รอบ สองสามีดีใจมากจึงปรึกษากันว่าจะอาต้นไม้นั้นไปทำอะไรดี

ในที่สุดก็ตกลงโค่นต้นไม้นั้น แล้วนำมาทำครกกับสากตำข้าว พอทำเสร็จแล้วก็เอาข้าวมาตำ ข้าวกระบุงหนึ่งตำมาออกได้หลายสิบกระบุง ยิ่งตำข้าวมากก็ยิ่งออกมามากออกมาไม่หยุด ทำให้สองสามีภรรยาแห่งบ้านคนใจดีร่ำรวยขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เป็นคนมีอันจะกิน มีฐานะดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

เรื่องครกตำข้าวของบ้านคนใจดี ได้ลือไปถึงบ้านของคนใจร้ายสองสามีภรรยา บ้านคนใจร้ายจึงคิดอยากจะได้ครกวิเศษลูกนั้นมาตำข้าว จะได้ร่ำรวยอย่างครอบครัวของคนใจดีบ้าง

เมื่อคิดดังนั้นแล้วจึงตรงไปยังบ้านของคนใจดีทันที ครั้นถึงภรรยาของบ้านคนใจร้ายก็เอ่ยขึ้นว่า

"นี่ท่านทั้งสอง ฉันขอยืมครกกับสากของท่านไปตำข้าวที่บ้านของฉันสักวันจะได้ไหมจ้ะ"

"ได้สิจ้ะ อย่าว่าแต่วันเดียวเลย จะยืมกี่วันก็ได้ ตำข้าวเสร็จเมื่ไรก็นำเอามาคืนก็แล้วกัน ฉันไม่หวงหรอก" ภรรยาบ้านคนใจดีพูด

"อย่างนั้นก็ขอบใจท่านทั้งสองมาก ที่ได้ให้ครกกับสากฉันขอยืม ฉันลาก่อนละนะ อีกสองสามวันจะเอามาคืน" ภรรยาบ้านคนใจร้ายพูด แล้วก็ช่วยกันกลิ้งครกไป

เมื่อถึงบ้านของตน ทั้งสองสามีภรรยาบ้านคนใจร้ายก็รีบนำข้าวเปลือกมาตำ ตอนแรกทดลองใส่ข้าวไปหนึ่งกระบุงก่อนแล้วก็ลงมือตำ

ตำไปได้สักพักปรากฏว่าข้าวหดตัว ลดเหลือเพียงครึ่งกระบุง จึงใส่ข้าวเปลือกลงไปสองกระบุง ตำแล้วข้าวหดตัวเหลือเพียงหนึ่งกระบุง ยิ่งเอาข้าวมาตำมากเท่าไหร่ ข้าวก็หดลดน้อยลงเท่านั้น จนทั้งสองสามีภรรยาไม่กล้าเอาข้าวมาตำอีก

ด้วยความโกรธสองสามีภรรยาแห่งบ้านคนใจร้าย จึงช่วยกันเอามีดมาผ่าครกกับสากที่ขอยืมมาจากบ้านคนใจดีจนแหลกใช้การไม่ได้

ฝ่ายสองสามีภรรยาแห่งบ้านคนใจดี เมื่อทราบข่าวว่า ครกกับสากของตน ที่คนใจร้ายขอยืมไปนั้น ถูกฟันทำลายจนแหลกใช้การไม่ได้ ก็เดินทางไปยังบ้านของคนใจร้าย พบเศษครกกับสากทิ้งอยู่เกลื่อนก็เก็บเอาทั้งหมด แล้วนำกลับบ้าน

เมื่อถึงบ้านแล้ว สองสามีภรรยาบ้านคนใจดีก็ปรึกษากันว่า จะนำเศษไม้มาทำอะไรกันดี ในที่สุดก็ตกลงว่าจะทำหีบใส่ของ ชั่วเวลาไม่นาน ทั้งสองสามีภรรยาก็ช่วยกันทำหีบไม้ได้สำเร็จดังใจ

เมื่อได้หีบไม้มาแล้วก็นำเอาเงินและทองที่เก็บสะสมมาเป็นเวลานาน ซึ่งมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้นใส่ลงไปในหีบ

ครั้นวันรุ่งขึ้น ได้นำหีบมาเปิดดูก็พบทองคำเต็มหีบ ทั้งสองสามีภรรยาบ้านคนใจดีจึงร่ำรวยยิ่งขึ้น

เรื่องหีบวิเศษของบ้านคนใจดีได้ลือไปถึงบ้านของคนใจร้ายอีกเช่นเคย สองสามีภรรยาบ้านคนใจร้าย จึงคิดอยากจะได้หีบวิเศษนั้นมาใส่เงินทองของตน จะได้ร่ำรวยอย่างครอบครัวของคนใจดีบ้าง

เมื่อคิดดังนั้นแล้วจึงตรงไปยังบ้านคนใจดีทันที ครั้นถึงภรรยาของบ้านคนใจร้ายก็เอ่ยขึ้น

"นี่ท่านทั้งสอง ฉันขอยืมหีบของท่านไปใส่เงินใส่ทองบ้างจะได้ไหม๊ ฉันอยากจะรวยอย่างท่านทั้งสองบ้าง"

"ได้สิจ้ะ ฉันไม่หวงหรอก แต่อย่าทำลายหีบของฉันอีกก็แล้วกัน" ภรรยาบ้านคนใจดีพูด

"จ๊ะ ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำแบบนั้นอีก ถ้าท่านให้ฉันขอยืม"

"เอ๊า นี่หีบ เมื่อเธอเสร็จธุระแล้วก็รีบนำมาส่งฉันก้แล้วกัน" ภรรยาบ้านคนใจดีพูด พร้อมส่งหีบไม้ให้กับภรรยาบ้านคนใจร้าย ทั้งสองสามีภรรยาบ้านคนใจร้ายเมื่อได้หีบแล้วก็รีบนำกลับมายังบ้านของตนทันที

เมื่อถึงบ้านก็รีบนำเงินและทองที่เก็บสะสมมาทั้งหมดใส่ลงในหีบ แล้วปิดหีบนำไปเก็บไว้

พอรุ่งเช้าก็รีบนำหีบมาเปิดออกดู ในใจทั้งสองคนคิดว่าคงจะมีทองคำเต็มหีบอย่างแน่นอน แต่เหตุการณ์กลับตรงกันข้าม ปรากฏว่าในหีบใบนั้นมีแต่ก้อนหินเต็มไปหมด

ทั้งสองสามีภรรยาบ้านคนใจร้ายเห็นดังนั้น ต่างหน้ามืดจะเป็นลมด้วยความโกรธ จึงหยิบหีบใบนั้นทุ่มลงกับพื้นจนหีบแตกกระจาย เพราะหีบวิเศษทำให้เขาประสบหายนะล่มจม เงินทองที่หามาได้ตลอดชีวิตไม่มีเหลือเลย กลายเป็นหินไปหมดนั่นเอง


ข้อคิด

๑. คนที่มีความเมตตากรุณา เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละช่วยเหลือผู้อื่นเสมอ ทำสิ่งใดก็จะประสบแต่ความเจริญรุ่งเรือง

๒. คนที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว คิดเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ไม่เคยเป็นผู้ให้ จิตใจคับแคบ ทำสิ่งใดก็จะประสบแต่อุปสรรคและความหายนะ

๓. ความโลภอยากได้ของคนอื่นมาเป็นของตน จะนำมาซึ่งความทุกข์ความเดือดร้อนแก่ตนเองและครอบครัว


ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้


คัดลอกจาก :
http://www.dhammathai.org/dhammastory/story72.php

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 17 มี.ค.2006, 7:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ สาธุ

สาธุด้วยครับ

ผีเสื้อ
 

_________________
"อย่าลืมตัว อย่าลืมปัจจุบัน อย่าลืมปฏิบัติ"
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
ธีรสิทธ
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 29 พ.ย. 2006
ตอบ: 1
ที่อยู่ (จังหวัด): พระนครศรีอยุธยา

ตอบตอบเมื่อ: 29 พ.ย.2006, 6:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอเป็นงานนะคับ คือว่าจะเอาข้อมูลไปทำใบงานด้วยอ่ะนะ
ขำ -------ขอบคุณคร๊าบบบบบบบ------- ขำ
สาธุ สาธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messengerหมายเลข ICQ
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 12 มิ.ย.2008, 2:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทโธ คนเราควรที่จะมีจิตใจเมตตา และอย่าเห็นของคนอืนเป็นของเรา ยิ่งไปยืมของคนอื่นมาแล้วทำลายให้เสียหายนี้ ไม่รู้จิตใจทำด้วยอะไร เมื่อยืมมาก็ต้องรักษาให้ดี
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง