Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 พ่อค้าสองตระกูล (ธรรมสภา) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 03 เม.ย.2006, 8:50 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



พ่อค้าสองตระกูล.JPG


พ่อค้าสองตระกูล
นิทานธรรม ฉบับพิเศษ
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา



ครั้งนั้น มีตระกูลพ่อค้าสองตระกูล คือ ตระกูลเหนือ กับ ตระกูลใต้ สองตระกูลต่างเป็นสหายสนิทสนมสืบทอดกันมาในชาตินี้ พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นบุตรของตระกูลเหนือ พระเทวทัตเกิดเป็นบุตรของตระกูลใต้ สองคนเป็นสหายกันเจริญวัยแล้วต่างทำกิจการค้า

เมื่อหน้าฝนผ่านไป อากาศทั่วไปเริ่มแห้งแล้ง พ่อค้าหนุ่มของสองตระกูล เริ่มตระเตรียมสินค้า เพื่อค้าขายยังต่างเมืองเหมือนทุกๆ ปี สองสหายสนทนากันถึงเมืองและเส้นทางที่จักนำสินค้าไปขาย คิดตรงกันว่าควรจะไปยังเมืองนั้น แต่เส้นทางเป็นดงกันดาร น้ำดื่มน้ำใช้นั้นหายาก พ่อค้าหนุ่มของตระกูลใต้กล่าวว่า “เราน่าจะไปพร้อมกัน”

พ่อค้าหนุ่มตระกูลเหนือกล่าวว่า “เพื่อนรัก เราไม่รังเกียจหรอกที่ท่านจะไปด้วย แต่เกรงว่าจะเกิดปัญหามาก เพราะขบวนเกวียนของเราต่างมีคนละ 500 เล่มเกวียน หากไปพร้อมกันจักมีถึง 1,000 เล่ม ใหญ่มากไปผู้คนและวัวมีจำนวนมากไป น้ำกินน้ำใช้ย่อมไม่พอ สินค้าขายยากเพราะมีมากไป เราต้องไปคนละคราว อยู่แต่ว่าใครจะไปก่อนไปหลังล่ะ”

“ถ้าอย่างนั้นให้เราไปก่อนก็แล้วกัน” พ่อค้าหนุ่มแห่งบ้านใต้กล่าว เพราะเขาเห็นว่า การไปก่อนจะได้ประโยชน์หลายอย่างคือ ทางเดินยังราบเรียบอยู่ วัวจะได้กินหญ้าก่อน ตนและบริวารจะได้เก็บผักผลไม้กินก่อน จะได้ใช้น้ำกินน้ำใช้ก่อน และที่สำคัญจะได้ตั้งราคาสินค้าตามใจชอบก่อน

“ได้สิเพื่อน” พ่อค้าหนุ่มตระกูลเหนือกล่าว เพราะเขาเห็นว่า การไปทีหลังก็จะได้ประโยชน์หลายอย่าง คือ จะได้ไม่ต้องไปบนทางที่ขรุขระ เพราะขบวนเกวียนที่ล่วงหน้าไปก่อน จะช่วยปราบดินให้ วัวได้กินหญ้าอ่อนที่งอกใหม่ หลังจากวัวที่ล่วงหน้าไปกินหญ้าแก่หมดแล้ว ตนและบริวารก็จะได้กินผักอ่อนใช้น้ำที่พวกก่อนขุดไว้ และไม่ต้องตั้งราคาสินค้าเอง ขายตามที่พวกก่อนตั้งไว้

เมื่อตกลงกันอย่างนี้แล้ว พ่อค้าแห่งบ้านใต้ก็จัดขบวนเกวียน 500 เล่ม บรรทุกสินค้าและน้ำสำหรับกินและใช้ทุกอย่างพร้อมสรรพแล้ว เขาก็พาบริวารออกเดินทางมุ่งไปยังเมืองจุดหมายทันที

ทางไปเมืองนั้นจะต้องผ่านดงกันดารแห่งหนึ่ง อันเป็นถิ่นที่อยู่ของพวกยักษ์กินคน วันที่ขบวนเกวียน 500 เล่ม ของพ่อค้าตระกูลใต้ไปถึงดงนั้น พวกยักษ์ดีใจมาก จึงประชุมวางแผนจะจับพ่อค้าหนุ่มและบริวารกัน พวกยักษ์เห็นว่า “คนมีจำนวนมาก หากบุกจับซึ่งหน้าก็จะพากันแตกตื่นวุ่นวาย จะเหน็ดเหนื่อยโดยไม่จำเป็น ทางหนึ่งที่จะบั่นทอนคนพวกนี้ให้อ่อนกำลังลงได้คือ ต้องทำให้อดน้ำ”

ขณะนั้น พ่อค้าหนุ่มแห่งตระกูลใต้ได้ขับนำขบวนเกวียนเลยปากดงมามากแล้ว หัวหน้ายักษ์เริ่มต้นเนรมิตป่าให้เขียวขจีเกวียน 1 เล่ม เทียมวัวสีขาวปลอด 1 คู่ เนรมิตให้มีโคลนติดที่ล้อ แล้วแปลงร่างตัวเองและบริวารเป็นมนุษย์นั่งอยู่บนเกวียน มีดอกบัวทัดหูและถือพืชผักผลไม้กัดกิน ที่เนรมิตรเช่นนี้ก็เพื่อให้พ่อค้าหนุ่มและบริวารเห็นแล้วจักเกิดความเชื่อว่า สถานที่ข้างหน้าไม่กันดารแต่สมบูรณ์ด้วยน้ำและอาหารจะได้เทน้ำทิ้งทั้งหมด

เมื่อพวกเขาขับเกวียนสวนทางมา พ่อค้าหนุ่มแห่งตระกูลใต้พบเข้าจึงหยุดขบวนเกวียนสนทนาด้วย พวกยักษ์บอกถึงความสมบูรณ์แห่งน้ำและอาหาร พวกเขาหลงเชื่อ เมื่อพวกยักษ์เลยไปแล้ว เขาก็สั่งบริวารให้เทน้ำทิ้ง ฝ่ายบริวารดีใจทำตามนั้นเพราะเกวียนจักไม่หนัก ทำให้การเดินทางเร็วขึ้น

ขบวนเกวียนของพ่อค้าเดินทางต่อไปจนเย็น ก็ยังไม่พบบ่อน้ำ คนและวัวต่างกระหายน้ำจนอ่อนเพลีย เมื่อพระอาทิตย์ตกดิน ความมืดปกคลุม พ่อค้าหนุ่มและบริวารไม่สามารถเดินทางต่อไปได้ จึงหยุดพักแรม ณ ที่นั้นด้วยความเหนื่อยอ่อนหลับใหลโดยมิได้ดื่มน้ำหรือบริโภคอาหาร

ขณะที่ทุกชีวิตหลับสนิท ยักษ์และบริวารก็พากันออกจากที่อยู่ จับพ่อค้า บริวารและวัวกินจนหมดทิ้งไว้แต่กองกระดูกเกลื่อนกลาดกับกองเวียนที่มีสินค้าอยู่เต็ม


(มีต่อ)
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --

แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 25 ก.ค.2006, 1:51 pm, ทั้งหมด 3 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 03 เม.ย.2006, 8:54 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ฝ่ายพ่อค้าหนุ่มแห่งตระกูลเหนือ ปล่อยเวลาผ่านไปประมาณ 1 เดือน เห็นว่าเป็นเวลาเหมาะสม สมควรออกเดินทาง ทุกอย่างพร้อมก็พากันออกเดินทางไปตามเส้นทางที่กองเกวียนขบวนแรกไป จนมาถึงปากทางเข้าดงกันดาร อันเป็นถิ่นยักษ์

พวกยักษ์กินคน ทราบว่ามีขบวนคนและสัตว์ พร้อมด้วยเกวียน 500 เล่ม ก็ดีใจที่จักมีอาหารคือมนุษย์และวัว จึงกระทำอุบายเหมือนกับครั้งก่อน

พ่อค้าหนุ่มแห่งตระกูลเหนือเป็นคนฉลาด เขาเคยทราบว่า ยักษ์ที่แปลงเป็นมนุษย์มีพิรุธอยู่ 2 อย่างคือ ตาแดง กับไม่มีเงาตัวปรากฏ ขณะนั้นที่สนทนากัน เขาสังเกตเห็นพิรุธ 2 อย่างนี้ จึงรู้ว่าเป็นยักษ์แปลง เขาเอ่ยปากขอบคุณยักษ์แปลงที่ปรารถนาดีว่า “ขอบคุณที่ท่านหวังดี แต่พวกข้าพเจ้าเป็นพ่อค้าจะประมาทไม่ได้ เมื่อยังไม่เห็นแหล่งน้ำใหม่ จะไม่ยอมเทน้ำเก่าทิ้งอย่างเด็ดขาด”

เมื่อพวกยักษ์ขับเกวียนเลยไป บริวารของเขาเชื่อตามที่ยักษ์แปลงบอกเริ่มจะเทน้ำทิ้ง พ่อค้าหนุ่มเรียกประชุมแล้วกล่าวว่า “ท่านทั้งหลาย ทุกคนก็เห็นแล้วว่าในที่นี้ไม่มีแหล่งน้ำเลยมีแต่ความแห้งแล้ง ไม่มีฝนหรอก เพราะหากฝนตกจะต้องมีลมพัด ท้องฟ้าจะต้องมี ก้อนเมฆ ฟ้าจะต้องร้องและแลบให้พวกเราเห็น พวกคนที่ผ่านไปนั้น ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นยักษ์กินคนพวกมันต้องการหลอกให้เราเทน้ำทิ้ง จะได้ไม่มีน้ำดื่ม พวกเราจักอ่อนเพลีย แล้วมันจะมากินพวกเราได้ง่าย เพื่อนเราจากตระกูลใต้ที่ล่วงหน้ามา คงจะตายหมดแล้ว พวกยักษ์คงหลอกให้เทน้ำทิ้งและจับกิน ป่านนี้คงเหลือแต่กระดูกกับกองเกวียนเป็นแน่”

พวกบริวารฟังแล้วเกิดความกลัว เชื่อตามนั้น ไม่มีใครกล้าเทน้ำทิ้ง ไม่นานพวกเขาก็เดินทางไปพบกับเกวียน 500 เล่ม มีสินค้าเต็ม มีกระโหลกคนและกระโหลกวัวกระจายเกลื่อนกลาด พวกเขาเห็นแล้วต่างหวาดกลัวและหดหู่ใจ

พ่อค้าหนุ่มบอกให้บริวารทุกคนไม่ต้องกลัวและสั่งให้หยุดค้างคืนตรงบริเวณนั้นโดยให้เอาเกวียนล้อมรอบเป็นกำแพงให้ทุกคนกินอาหารและให้หญ้าให้น้ำวัวกินให้อิ่มก่อนพลบค่ำ จากนั้นก็จัดให้คนนอนล้อมวัวอยู่ในวงล้อมของกองเกวียน แล้วจัดตั้งกองกำลังถือดาบยืนอารักขาอยู่ไว้สู้กับพวกยักษ์ ที่เชื่อว่าจะต้องมาแน่

ฝ่ายพวกยักษ์ ตกดึกคืนนั้นก็พากันออกมาเหมือนเคย ทุกตนต่างดีใจที่จะได้กินเนื้อมนุษย์อีก แต่ครั้นมาถึงแล้วได้พบกับกองกำลังอารักขาอย่างเหนียวแน่นที่พ่อค้าหนุ่มจัดไว้รอรับ ก็ไม่กล้าเข้าไป หัวหน้ายักษ์เห็นไม่ได้โอกาสจึงสั่งให้ถอยหลับเข้าที่อยู่ตามเดิม ซึ่งทำให้พวกยักษ์บริวารต่างพากันเสียดาย เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรจะมีอาหารอันโอชะมาถึงปากอย่างนี้อีก

พ่อค้าหนุ่มนำกองกำลังอารักขาอยู่จนรุ่งเช้า เมื่อทั้งคนและวัวต่างอิ่มหมีพีมันกันแล้ว ก็สั่งให้ตรวจดูความพร้อม เกวียนเล่มใดที่ชำรุดก็ให้ทิ้งไป เกวียนที่ต้องซ่อมก็ให้ซ่อมใหม่ให้แข็งแรง สินค้าที่มีราคาน้อยก็ให้คัดทิ้งเสียบ้าง และเมื่อได้เวลาสมควรแล้วก็สั่งให้เดินทางกันต่อไปจนกระทั่งถึงเมืองอันเป็นจุดหมายปลายทางได้สำเร็จ

หลังจากขายสินค้าได้หมดและได้ราคาดีแล้ว พ่อค้าหนุ่มแห่งตระกูลเหนือก็พาบริวารกลับบ้านเกิดเมืองนอนได้อย่างปลอดภัยและเตรียมตัวเพื่อค้าขายในปีต่อไป


นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การยอมเสียเปรียบคนอื่นบ้างเป็นสิ่งที่พึงกระทำ ผู้ฉลาดย่อมทำความเสียเปรียบนั้นให้เป็นความได้เปรียบได้ในที่สุด



............................ เอวัง ............................



ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --

แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 25 ก.ค.2006, 1:50 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
นริศ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 23 พ.ค.2006, 5:07 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คล้ายกับเรื่องในอรรถถถาพระไตรปิฎก แต่อธิบายได้เรียบง่าย..เข้าใจได้โดยง่ายกว่า..เหมือนหนึ่งได้อยู่ในยุคเหตุการณ์นั้น..
 
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 06 มิ.ย.2008, 2:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทโธ ข้อคิดดีๆครับ
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง