Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 หนูฆ่าแมว (ธรรมสภา) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 20 ม.ค. 2005, 9:25 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



หนูฆ่าแมว 2.jpg


หนูฆ่าแมว
นิทานธรรมฉบับพิเศษ
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา



ที่นิคมแห่งหนึ่งในแคว้นกาสี มีเศรษฐีอยู่คนหนึ่งร่ำรวยมาก ฝังเงินไว้ในดินถึง ๔๐ โกฏิ ต่อมาครอบครัวนั้นล่มจม บ้านที่เคยอยู่กลายเป็นบ้านร้าง ภรรยาของเศรษฐีตายไปเกิดหนูตัวเมียเฝ้าทรัพย์สมบัติอยู่

ครั้งนั้น พระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นช่างหิน มีความสามารถในการนำหินมาทำเป็นสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ได้อย่างสวยงาม ต่อมาได้รู้จักกับนางหนูและต่างเกื้อหนุนกัน

วันที่จะได้รู้จักกับนางหนูนั้น ช่างหินได้ไปเที่ยวหาก้อนหินจากตึกเก่าๆ ที่ถูกทอดทิ้งในหมู่บ้านที่นางหนูอาศัยอยู่ ช่างหินเดินงัดก้อนหินไปตามที่ต่างๆ เมื่อเห็นหินก้อนใดยังใช้ประโยชน์ได้ ก็จะนำมาทุบตกแต่งให้สวยงามแล้วนำไปขายต่อ

นางหนูวิ่งหากินอยู่ในที่นั้น เห็นช่างหินมาเกือบทุกวันก็เริ่มรู้สึกคุ้นเคยไม่กลัว เนื่องจากช่างหินไม่ได้แสดงอาการน่ากลัวอะไรให้เห็น ตรงกันข้ามแววตาที่ช่างหินมองตนนั้น นางหนูยังสังเกตเห็นว่าอ่อนโยน

“คนคนนี้ท่าทางไม่ดุร้าย เขาคงเป็นคนใจดี เราคงอาศัยเขาได้” นางหนูบอกกับตัวเอง “เรามีทรัพย์สมบัติอยู่มากถึง ๔๐ โกฏิ แต่ไม่เป็นประโยชน์แก่เราเลย แล้วไม่ช้าทรัพย์สมบัติที่ฝังดินไว้ทั้งหมดนี้ก็จะพินาศไป”

นางหนูจะคิดหาทางจะใช้ทรัพย์สมบัติให้เป็นประโยชน์ต่อไป ครั้นแล้วก็ลงความเห็นว่า

“เราจะผูกสัมพันธ์กับคนคนนี้ แล้วเอาเงินมาให้เขาเพื่อให้เขาแบ่งเอาเงินไปซื้อเนื้อมาให้เรากิน”

เมื่อตกลงใจได้อย่างนี้ นางหนูก็ไปตีสนิทฝากตัวกับช่างหิน ช่างหินเป็นคนมีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเข้าใจถึงความประสงค์ของนางหนูได้ดี จึงกล่าวว่า

“หนูเอ๋ย เจ้าไม่ต้องกลัวหรอก ข้าจะทำตามที่เจ้าประสงค์ ข้าขอขอบใจที่เจ้าแบ่งเงินส่วนหนึ่งให้ข้าด้วย”

ครั้นได้รับคำยืนยันอย่างนั้น วันรุ่งขึ้น เมื่อช่างหินมาถึงนางหนูก็คาบเงินหนึ่งกหาปณะไปให้

“อ้าว.....มาแล้วหรือ” ช่างหินพูดหยอกล้อกับนางหนู

“ข้าพเจ้าไม่ได้พูดเล่น” นางหนูวางเงินแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“ถ้าอย่างนั้น ข้าจะไปซื้อที่ตลาด แต่ก็ไม่นานหรอก” ช่างหินหยิบเงินขึ้นมาดู

“เงินตั้งหนึ่งกหาปณะ แล้วเจ้าจะให้ข้าแบ่งส่วนอย่างไรเล่า” ช่างหินถาม

“ซื้อเนื้อมาให้ข้าพเจ้าเพียงหนึ่งมาสกก็พอ ที่เหลือท่านก็เก็บไว้ใช้เถอะ” นางหนูตอบ

หลังจากเสร็จกิจธุระแล้ว ช่างหินก็เดินทางเข้าไปในเมืองหาซื้อเนื้อมาให้นางหนูตามสัญญา นางหนูดีใจมากที่ได้เนื้อ

“ขอบคุณท่านมาก” นางหนูกล่าวพลางอ้าปากคาบเอาเนื้อแล้วไปรังของตนเอง กินเนื้ออย่างเอร็ดอร่อยจนอิ่ม

“วิธีการนี้แหละ จะทำให้เราได้ประโยชน์จากทรัพย์สมบัติของเรา” นางหนูคิดด้วยความเชื่อมั่นอย่างยิ่ง


(มีต่อ 1)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 20 ม.ค. 2005, 9:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

นับแต่วันนั้นมา คนกับสัตว์ได้อาศัยกันเป็นอยู่อย่างนี้ด้วยดีเสมอมา จนกระทั่งวันหนึ่งได้เกิดเหตุร้ายขึ้น

ขณะที่นางหนูอยู่อย่างมีความสุขนั้น ได้มีแมวตัวหนึ่งมาหากินอยู่บริเวณนั้น และได้พบนางหนูพอดี แมวรีบตะครุบนางหนู พร้อมทั้งแยกเขี้ยวจะขยุ้ม

“อย่า.....อย่าฆ่าข้าเลย เพื่อนแมว” นางหนูกลัวจนตัวสั่น

แมวหัวเราะลั่นพร้อมทั้งขู่สำทับ

“ไม่ฆ่าได้อย่างไรในเมื่อข้าจะกินเจ้า เจ้ารู้ไหมข้าหิวมาตั้งแต่เช้าแล้ว พอดีมาเจอเจ้าก็เลยเป็นลาภปาก”

“ถ้าท่านกินข้า ท่านก็จะได้กินเนื้อเพียงวันเดียว แต่ถ้าท่านปล่อยข้าให้เป็นอิสระ ท่านก็จะได้กินเนื้อตลอดไป”

“อย่า.....อย่าเจ้าหนู เจ้าอย่ามาทำลูกไม้กับข้า” แมวไม่เชื่อ

“ข้าไม่ได้ทำลูกไม้กับท่าน ข้าพูดเรื่องจริง” นางหนูยืนยัน

“เจ้าจะทำให้ข้ามีเนื้อกินตลอดไปด้วยวิธีไหน” แมวเริ่มสนใจ

ครั้นแล้ว นางหนูก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้แมวฟัง แมวฟังอย่างตั้งใจและเชื่อว่านางหนูจะไม่โกหกตนแน่จึงพูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ข้ายินดีปล่อยเจ้า แต่เจ้าอย่าโกหกข้านะไม่อย่างนั้นเจ้าไม่รอดมือข้าแน่ จำไว้ให้ดี”

นางหนูได้ปฏิบัติตามสัญญา ทุกวันครั้นได้เนื้อจากช่างหินแล้วก็จะแบ่งออกเป็นสองส่วน ตนเองกินส่วนหนึ่ง แล้วอีกส่วนหนึ่งนั้นนำไปให้แมว

“ดีมาก.....ดีมาก” แมวหัวเราะลั่น ขณะรับเนื้อไปจากนางหนู

และแกล้งถาม “เจ้ากินแล้วหรือ”

“กินแล้ว” นางหนูตอบ “ส่วนนี้เป็นส่วนของท่าน ข้าแบ่งให้ตามที่ตกลงกันไว้เมื่อวาน เชิญท่านกินให้สบายเถิด เพื่อนแมว”

แมวนั้น หลังจากได้เนื้อกินทุกวันโดยที่ตัวเองไม่ต้องเหนื่อย แล้วเที่ยวไปคุยโอ้อวดเพื่อนแมวด้วยกัน

“ข้าสบายแล้ว มีเนื้อกินทุกวัน นางหนูมันหามาให้”

“เอ็งไปทำวิธีไหนวะ” เพื่อนแมวรุมถาม

“ก็ไม่ยาก วันหนึ่งข้าจะจับมันกิน มันกลัวร้องขอชีวิตไว้แล้วบอกว่าจะแบ่งเนื้อให้ข้าเป็นของแลกเปลี่ยนทุกวัน ตอนนี้มันก็ทำตามสัญญาเอาเนื้อมาส่งข้าทุกวัน” แมวคุยเขื่อง

“แล้วนางหนูมันไปเอาเนื้อมาจากไหนวะทุกวัน” แมวตัวหนึ่งสงสัย

“มีคนเอามาให้” แมวตัวขี้คุยพูดเสียงดัง จากนั้นก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดตามที่ได้ยินมาจากนางหนูให้เพื่อนแมวได้ทราบ


(มีต่อ 2)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 20 ม.ค. 2005, 9:42 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เพื่อนแมวคิดหาวิธีจะได้กินเนื้ออย่างแมวตัวแรกบ้าง ดังนั้นในวันหนึ่ง แมวตัวที่สนใจมากก็ไปเที่ยวย่องหากินอยู่บริเวณที่อยู่ของนางหนู

นางหนูไม่รู้ถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นอีก จึงออกมาวิ่งเล่นอย่างไม่ระมัดระวัง แมวคอยจ้องตะครุบอยู่แล้ว จึงได้โอกาสนางหนูขอไถ่ชีวิตตัวเองเหมือนที่ทำแก่แมวตัวแรก คือ แบ่งเนื้อให้กิน แมวยอมตกลง

ดังนั้น วันรุ่งขึ้น เมื่อได้เนื้อมาแล้วนางหนูจึงแบ่งออกเป็นสามส่วน ตัวเองกินหนึ่งส่วน อีกสองส่วนที่เหลือได้มอบให้แมวไป

ต่อมา มีแมวอีกสองตัวมาจับหนูและข่มขู่จะเอาชีวิต นางหนูก็ขอไถ่ชีวิตด้วยการแบ่งเนื้อให้กินอีกเช่นเคย จึงเป็นอันว่าเนื้อชิ้นเดียวต้องถูกแบ่งออกเป็นห้าส่วน คือ ตัวเองกินหนึ่งส่วน อีกสี่ส่วนที่เหลือต้องแบ่งให้แมว แต่นางหนูกินไม่อิ่ม ก็ไม่รู้ว่าจะไปหากินที่ไหน ผลสุดท้ายก็ซูบผอม

ช่างหินเห็นนางหนูซูบผอมลงเช่นนั้น ก็ถามถึงสาเหตุ และเมื่อได้ทราบความจริงจึงปลอบนางหนูให้หายกลัวแล้วหาทางช่วยเหลือ เขาได้เอาหินแก้วผลึกใสไปสร้างเป็นถ้ำเล็กๆ ให้นางหนูอยู่แล้วซื้อเนื้อมาให้กินทุกวัน นางหนูเข้าไปอยู่แล้วปลอดภัย อีกทั้งได้กินเนื้อจนอิ่มจึงอ้วนท้วน

ฝ่ายพวกแมวสี่ตัวครั้นไม่ได้เนื้อกินเหมือนอย่างเก่า ก็ชักเริ่มสงสัย

“มันหายไปไหนวะ” พวกแมวถามกันเองและเที่ยวตามหาจนกระทั่งวันหนึ่งมาพบนางหนูนอนอย่างมีความสุขอยู่ในถ้ำแก้วผลึก

“นั่นไงมันหลบมานอนอยู่นั่น” แมวตัวหนึ่งอุทานพร้อมกับยกเท้าหน้าขึ้นชี้ให้เพื่อนแมวด้วยกันดู

ฝ่ายนางหนูเมื่อเห็นแมวก็รู้สึกเฉยๆ ไม่แสดงอาการตกใจหวาดกลัวเหมือนเมื่อก่อน มิหนำซ้ำยังนอนกระดิกหนวดอวดแมวเสียอีก

แมวตัวแรกโกรธมากจึงวิ่งเข้าใส่หมายจะตะครุบให้ตาย เพราะคิดว่านางหนูนอนอยู่อย่างไม่มีเครื่องคุ้มกัน ผลปรากฏว่า แมววิ่งเข้าใส่อย่างแรง หน้าอกไปปะทะกับหินแก้วผลึกเต็มที่ ถึงกับกระเด็นกลับและนอนขาดใจตาย

แมวอีกสามตัวที่เหลือก็เช่นกัน คือ วิ่งเข้าหานางหนู แต่แล้วตัวเองก็ต้องขาดใจตายทุกตัว เพราะไปปะทะกับถ้ำแก้วผลึกเต็มแรง

นับแต่วันที่แมวตายหมดทั้งสี่ตัว หนูจึงตอบแทนพระคุณด้วยการคาบเอาเงินมาให้วันละสอง หรือสามกหาปณะทุกวัน จนครบจำนวน ๔๐ โกฏิ

คนกับสัตว์ต่างเกื้อหนุนกันจนตลอดชีวิต



นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขมีได้ เพราะความเข้าใจกันและต่างถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน เหมือนช่างหินกับนางหนูฉะนั้น



>>>>>>>>> จบ >>>>>>>>>
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
ชราทัศน์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ม.ค. 2005, 2:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ได้อ่านได้คิดและพร้อมตั้งปรารถนาให้มนุษย์ สัตว์ ทั้งหลายทั้งปวงทุกรูปทุกนาม มีความสุขและพบสันติสุขด้วยเทอญ
 
Angelina
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.พ.2005, 1:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

It is very good story. Bravo Bravo....




 
wankun
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 เม.ย.2005, 3:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 
puntipa
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 25 พ.ค.2005, 12:54 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากให้จังหวัด 3 ชายแดนใต้พบสันติสุข สงสารเหลือเกิน รัฐบาลก็ปิดข่าวเก่งจัง (เก่งพอๆ กับที่ปิดเรื่องทุจริตเลย)
 
พ.
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 ส.ค. 2005, 9:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

 
กาย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2005, 2:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สนุกจริงๆ เลย
 
^^^
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 ก.ย. 2006, 4:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 
อำนวยยาลา
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 30 ต.ค. 2006
ตอบ: 15
ที่อยู่ (จังหวัด): 259หมู่6ตำบลนาเกลืออำเภอพระสมุทรเจดีย์จังหวัดสมุทรปราการ

ตอบตอบเมื่อ: 22 พ.ย.2006, 7:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุสนุกและได้สาระดี สาธุ
 

_________________
ศรัทธาพระพุทธศาสนาเป็นเลิส
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 05 มิ.ย.2008, 4:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทโธ คนเราต้องช่วยกัน คนเอาเปรียบนั้นอยู่ได้ไม่นานก็ต้องพินาศไป
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง