ขอผู้รู้ชี้แจงด้วย (อ่านยาวหน่อยนะ มันอัดอั้นตันใจ)

ตอบเมื่อ: 03 เม.ย.2008, 3:40 pm

ทำใจ and สมาธิได้แล้ว ขอ งด ข้อความนะคะ
มาทำอะไรสร้างสรรค์ดีฝ่า
ยิ้ม

กลัวเด๋วเจ้าตัวมาอ่านเจอเข้า เค้าจะไม่สบายใจเปล่าๆ ถ้าเค้าเป็นทุกข์ เราก็กลัวบาปน่ะ แบบนี้น่ะดีแล้ว ยิ้ม

ตอบเมื่อ: 03 เม.ย.2008, 7:40 pm

อ่านแล้วก็ปวดหัวตาม เวรกรรมๆ ตื่นเต้น

ตอบเมื่อ: 03 เม.ย.2008, 7:57 pm

ผิดข้อสาม

ง่ายนิดเดียว

ตอบเมื่อ: 03 เม.ย.2008, 8:39 pm

คุณสรวงสวรรค์ ซอมิ่งเมือง รักษากายวาจาใจให้พ้นจากความทุกข์ภัย ก่อนดีกว่านะคะ สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 04 เม.ย.2008, 9:16 am

ขอบคุณทุกคำตอบค่ะ

ตอบเมื่อ: 04 เม.ย.2008, 10:35 am

ตอบ คุณสรวงสวรรค์ ซอมิ่งเมือง
พี่ชายคุณผิดศีลข้อ 3 ครับ ผู้หญิงคนนั้นก็ผิดศีลข้อ 3 ด้วย
แต่คุณไม่ผิด เพราะคุณไม่ได้เป็นสื่อชักนำให้เค้าทั้ง 2 คน กระทำในสิ่งที่ผิดนั้น
เมื่อคุณพยายามที่จะชี้แนะแนวทางถูกต้องให้เค้าทราบแล้ว เค้าไม่ปฏิบัติ คุณก็จงวางเฉยอยู่ในอุเบกขาธรรม พยายามมองตนเองให้มาก อย่าไปกังวลกับเหตุการณ์นั้น อย่าพยายามส่งจิตออกนอกร่างกาย เมื่อจิตไม่ส่งออกนอกก็ไม่ต้องไปกระทบกับอารมณ์ต่างๆ ก็ไม่เกิดทุกข์
ขอให้คุณจงประสบความสุขกายสุขใจ พยายามอย่าเอาความรู้สึกของเราไม่กังวลกับเรื่องของคนอื่นให้มากนัก พยายามมองดูตนเองให้มากจะดีกว่า
ขออนุโมทนาบุญครับ

ตอบเมื่อ: 04 เม.ย.2008, 10:55 am

ตอบเมื่อ: 05 เม.ย.2008, 8:33 pm

ทำใจให้สบายเถอะครับ ถ้าคุณได้ตักเตือนแล้วแต่เขาไม่ฟังยังหาว่าคุณอิจฉาเขาอีก
ก็แสดงว่าจิตใจเขายังมืดบอดอยู่
สิ่งที่คุณพึงจะทำได้ก็คือ การวางอุเบกขา ครับ
เพราะสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม (การกระทำ)ครับ

ตอบเมื่อ: 15 เม.ย.2008, 2:01 pm

เป็นไปตามกรรม...

ถ้าคุณชี้แนะแล้ว เขาไม่ฟัง กามตัณหายังบังตา ก็ยากที่จะตักเตือน
ก็ต้องปล่อยเขาไปตามกรรม ...

อย่าเอาเรื่องที่ทำให้ตัวเองต้องเป็นทุกข์ มากำไว้

เจ๋ง

ตอบเมื่อ: 18 เม.ย.2008, 2:16 pm

สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ
สุข ทุกข์ ล้วนแล้วแต่เกิดจากความคิดเป็นส่วนใหญ่
บุญ บาป ย่อมมีเจตนาเป็นปัจจัย
อันการตัดสินดี ชั่วนั้น สัตว์ย่อมมีตนเป็นที่ตั้ง

เหล่านี้เป็นธรรมที่อยู่แต่โลก
สัตว์โลกล้วนเกิดแต่กรรม หมดกรรม หยุดเกิด สร้างกรรม เวียนเกิด
พุทธองค์ทรงตรัสว่า " การที่จะเข้าถึงความบริสุทธิ์นั้น ทุกคนจะต้องทำเอาเองทั้งสิ้น ไม่ใช่เรื่องที่ตถาคตจะหยิบยื่นโยนส่งให้ได้"

เมื่อพิจารณาก็จะเห็นว่า กรรม(หรือการกระทำ)ใดใครก่อ ย่อมได้รับผลของกรรมนั้น
เมื่อเชื่อได้อย่างนี้แล้ว ก็จะรู้ได้ว่ากรรมในปัจจุบัน ล้วนมีเหตุปัจจัยมาแต่อดีต ฉะนั้นกรรมในปัจจุบันย่อมเป็นเหตุปัจจัยในอนาคต เมื่อสิ้นเหตุ ก็สิ้นปัจจัย

ความทุกข์ของคุณเกิดขึ้นมาจากความคิดล้วนๆ หากพิจารณาก็จะเห็นว่ามันไม่ใช่เรื่องของคุณเลยแม้แต่น้อย เพียงแต่คุณพาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้องกับมันเอง

ตอบเมื่อ: 04 มิ.ย.2008, 3:21 pm

แต่ถ้าพูดถึงคุณก็ไม่น่าไปยุ่งเรื่องของเค้าหรอก เพราะว่าพี่ชายคุณกับผู้หญิงคนนั้นถ้าเค้ารักกันก็ปล่อยเค้าไป ก็ดีที่คุณเป็นห่วงเค้า สู่ถ้าเราไม่ยุ่งเรื่องของเค้าเราก็ไม่ต้องปวดหัว ไม่ต้องโดนด่า
ขอโทษนะคะ เค้าใช่พี่ชายคุณจริงๆ หรือเปล่า ถ้าใช่จริงเราเป็นน้อง เราเตือนแล้วบอกแล้ว ถ้าเค้าไม่ฟังก็ปล่อยเค้าไป ชีวิตคนเราไม่เหมือนกัน, แต่ถ้าไม่ใช่พี่ชายคุณจริงแล้วคุณเก็บมาคิดนี้ซิ มันไม่ใช่เรื่องของเราจะเอามาให้ปวดหัวทำไม จะไปวุ่นวายเรื่องของเขาทำไม นอกเสียจากว่าคุณกำลังคิดอะไรกับผู้ชายคนนี้อยู่หรือเปล่า คุณต้องถามใจคุณดูนะ
ปล.ดิฉันไม่เข้าข้างใครเพราะดิฉันเคยเจอเหตุการณ์นี้มาแล้วเมื่อ 5 ปีก่อน ถึงอยากให้คุณคิดถามใจคุณดูก่อนนะค่ะ ว่าคุณคิดอะไรกับผู้ชายคนนี้อยู่หรือเปล่า แต่เป็นพี่ชายคุณจริงก็ไม่ต้องเตือนเค้าแล้วคะในเมื่อเราบอกแล้วเค้าไม่ฟัง เพราะดิฉันก็มีพี่ชายบอกอะไรเค้าก็ไม่ฟัง ต้องให้เค้าเจอกับตัวเอง
หวังว่าคุณคงไม่ว่าฉันนะค่ะ ถ้าฉันพูดตรงไป สงสัย

ตอบเมื่อ: 04 มิ.ย.2008, 6:02 pm

อุเบกขาค่ะ
ด้วยความเมตตาไม่อยากให้เขาทั้งสองทำบาปและต้องรับผลแห่งบาปนั้น.......ด้วยกรุณาได้ตักเตือนห้ามปรามแล้วเขาทั้งสองไม่รับฟัง.......สิ่งที่ควรทำก็คือวางใจเฉยๆไว้หรือวางอุเบกขา.....สัตว์โลกมีกรรมเป็นของตัวและย่อมได้รับผลแห่งกรรมนั้น
หากเมื่อใดเขาทั้งสองได้รับผลแห่งกรรมนั้น....คุณก็ต้องวางใจอยู่ที่อุเบกขาเช่นกันเพราะไม่มีใครที่จะล่วงพ้นกรรมที่ตนก่อได้..

ตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2008, 10:03 am

ตอนนี้เราไม่ได้ใส่ใจแล้วล่ะ ทำได้เพียงสวดมนต์อ้อนวอนเทพทุกองค์และพระพุทธองค์ที่พอจะนึกได้ในแต่ละวันนั้นๆ ขออย่าให้เค้าทั้งสองคน ต้องตกนรก เพราะทำได้แค่แผ่เมตตาให้เค้าทั้งสอง ในการสวดมนต์นั่งสมาธิทุกคืน ไม่อยากให้กรรมตามมา ยังไงเราต้องร่วมรับด้วยแน่นอน ถ้าเค้าล้ม บริษัทเจ๊ง เราก็ต้องกระทบเป็นแน่ ที่ตอนนั้นเราดูแบบยุ่งวุ่นวาย เพราะเราเชื่อในกรรม งานที่เราทำก็เป็นการฆ่าสัตว์อยู่แล้ว ไม่อยากให้มีกรรมใดมาเพิ่มในบริษัทเราอีก เกือบทุกครั้งที่มีเวลาจะพยายามพาพนักงานไปทำบุญที่วัดกัน หรือจัดไหว้เจ้าที่เจ้าทางที่บริษัท ไม่อยากให้มีกรรมอื่นที่มากไปกว่านี้ จัดได้ว่าตอนนั้นบริษัทจัดได้ว่าอยู่สูงและเป็นที่รู้จักพอสมควร เรากลัวมากไปว่าจะตกต่ำลงมา แต่จริงๆ แล้วไม่เลย ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ระดับเดิม ก็เลยไม่ค่อยจะติดใจอะไรเท่าไหร่ ต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเองดีกว่า แต่เราก็ยังไม่ลืมที่จะทำบุญอุทิศให้กับสัตว์ที่เราได้ฆ่าเป็นสัมมาชีพ นั้นๆ
แต่..ยังไงก็ต้องขอบคุณทุกคนที่ให้ความเห็น ขอบคุณมากๆ..สรวงสวรรค์ ซอมิ่งเมือง

ตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2008, 10:46 pm

ประเด็น ต้องแยกออกดังนี้

1 คุณจขกท ไม่ได้ผิดอะไร ในแง่ที่เขาลักลอบเป็นชู้กัน เพราะเราไม่ได้ไปเจตนากับเขา ข้อนี้ให้เราวางใจได้

2 พี่ชาย คุณเจ้าของกระทู้ ผิดเต็มๆ นรกทั้งคู่ ไม่ใช่ตายไปแล้วตกนรก แต่ตกนรกเดี๋ยวนี้เลย คือ ทำอะไรไม่เป็นสุข แอบ ลับๆ ล่อๆ จะเป็นคนที่ไม่มั่นใจ อีกหน่อยก็พลอยเป็นคนที่ ตกต่ำลงเรื่อยๆ ข้อนี้วางใจได้เลยว่ามันต้องเป็นเช่นนั้น

3 คุณ จขกท ผิด ที่ว่า เอาใจไปผูก กับเขา ให้ถอนใจเราออกมาและให้คิดว่า กรรมของใครของมัน เราจะไปช่วยอะไรใครไม่ได้ เพราะว่ากำลังเรายังไม่มากพอ เป็นพระอริยะแล้วก็เปล่า นี่เป็นคนตาบอดอยู่ อธิษฐานอย่างไร คนเขาปิด มันก็ไปไม่ถึง ช่วยยังไงก็ไม่ได้ คนที่ทำผิดข้อกาเมนี้ติดเหนียวด้วยนะ แยกไม่ออกแหละ ปิดไปนานมากๆ

พอแยกกันออกก็กลายเป็นโทสะอีก เวรกรรมจริงๆ

วิธีคือ เราอยู่เฉยๆ ทำจิตใจให้ตั้งมั่น มีหน้าที่อะไรก็ไปทำ หน้าที่ของความเป็นน้องสาว ก็คือ คอยประคับประคองจิตใจเราเองนั้นแหละ รอวันที่พี่ชายเซมา จะได้ช่วยเหลือกันได้ ให้ทำหน้าที่ของเราตอนนั้น

ตอบเมื่อ: 03 ส.ค. 2008, 11:13 pm

เฮ๊อออ....คุณสรวงสวรรค์..นางฟ้าจะตกสวรรค์ก็เพราะเรื่องคนอื่นซะแล้ว.
กรณีนี้คุณอย่าไปยุ่งเขาเลย..เท่าที่เล่ามาคุณทำดีที่สุดแล้ว..
และถ้าขืนมากกว่านี้คุณนั่นแหละ..ซวย.เลย...

ซึ้ง

..อย่าไปขวางช้างตกมัน..ปล่อยแล้วหลีกเอาไว้..
อย่าไปยุ่งกับเขา กรรมของเขาถ้าเราไปขวางเราจะเจ็บ
ของๆเขา..ช่างเขาเถอะ...เขาชอบแบบนั้นทำไงได้หละ

ตอบเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 11:22 am

1เห็นกงจักรเป็นดอกบัว
2 ปีนต้นงิ้ว

ตอบเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 3:14 pm

ตอบ..คุณ พิมลวรรณ
โทดทีลืมตอบคุณพิมลวรรณน่ะค่ะ เป็นพี่ชายจิงๆ แท้ๆ แน่นอนค่ะ

ตอบเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 4:11 pm

ตอบเมื่อ: 04 ส.ค. 2008, 7:03 pm

พี่น้องห่วงกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ควรดูความเหมาะสม เราต่างคนต่างเกิด ไปนรก หรือสวรรค์ ก็ต่างคนต่างไป ถ้าห้ามถ้าเตื่อนแล้วไม่ฟังก็ปล่อยเขาไป ถือว่าเป็นกรรมของสัตว์

ตอบเมื่อ: 08 ส.ค. 2008, 2:20 pm

เมื่อเรารู้ว่าไฟกำลังร้อนอยู่ เราก็ควรที่จะหลีกเร้นไป ไม่เข้าใกล้...เราทำหน้าที่ ที่รับผิืดชอบของเราให้ดีที่สุด อย่าลืมสวดมนต์ นั่งสมาธิ ก่อนนอนนะครับ จะทำให้สุขภาพจิตแข็งแรง