Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
...นั่งสมาธิ คือส่วนหนึ่งของชีวิต...
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นานาสาระ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089
ตอบเมื่อ: 27 พ.ค.2008, 11:19 am
นั่งสมาธิ คือส่วนหนึ่งของชีวิต
โดย บิสิเนสไทย
เมื่อถึงเวลาที่ร่างกายต้องการพักผ่อน บางคนอาจจะเลือกที่จะนอนหลับอย่างเพียงพอ
แต่น้อยคนนักรู้ว่า มีกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยให้ทั้งร่างกายและจิดใจได้พักผ่อน
ผ่อนคลายจากภาวะที่ตึงเครียดทั้งจากการทำงาน
และสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่นับวันจะยิ่งย่ำแย่เป็นทวีคูณ
สำหรับ ‘ชัยประนิน วิสุทธิผล’กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทีบีดับบลิวเอ ไทยแลนด์ จำกัด เอเยนซี่ที่ขึ้นแท่นแชมป์รางวัลโกลด์มากที่สุด
ในงานประกวดผลงานโฆษณาของเวทีแทคอวอร์ดล่าสุด ที่เพิ่งเสร็จสิ้นไปเมื่อเร็วๆ นี้
คือ “การ นั่งสมาธิ” อัน เป็นวิธีหลักที่เลือกนำมาใช้
ยามจิตใจต้องการพักผ่อนอย่างแท้จริง
ชัยประนิน เป็นนักโฆษณาที่มากประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศ
และคร่ำหวอดในวงการมานานนับ 10 ปี
มีดีกรีปริญญาโท สาขา Visual Communication Design
จากThe School of Art institute of Chicago ประเทศสหรัฐอเมริกา โดดเด่นด้วยฝีไม้ลายมืออันเฉียบคม ผสานความแข็งแกร่งของการวางแผนกลยุทธ์การโฆษณาสร้างสรรค์อย่างลงตัว ได้เล่าถึงที่มาของการนั่งสมาธิว่า
“ ผมเริ่มจากคุณแม่ชักชวน ตั้งแต่อายุ 20 ปี
ปัจจุบันได้ทำกิจกรรมนี้เกือบทุกวัน วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นเวลา 45 นาทีนั้น
สมัยนั้นยังเด็กๆ แน่นอนว่ามีสิ่งยั่วยุเร้าใจหลายต่อหลายอย่าง
แต่พอมาทำงาน รับผิดชอบมากขึ้น รู้สึกเครียด ก็คิดว่าสิ่งนี้แหละช่วยเราได้
พอมันชินแล้ว เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตจะขาดมันไม่ได้ สำหรับผมก็ไม่ได้เคร่งมากเหมือนที่ผมอยากให้เป็น
แต่ว่าถ้าเกิดเครียด หรือทำงานหนัก เราจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ เราก็จะหยั่งถึงและเข้าใจถึงประโยชน์ของมัน
หลายๆ คนมองการนั่งสมาธิไปในเรื่องของไสยศาสตร์ เห็น บารมี แต่สำหรับผมไม่ใช่” แต่สำหรับเขาแล้ว มันเป็นวิธีการทางวิทยาศาสตร์ ที่ง่ายต่อการ ปฎิบัติตาม........
.
“ผมใช้วิธี Transidential Meditation หรือ TM
ซึ่งจะสอนเทคนิคการนั่งสมาธิแบบภาวนา เป็นวิทยาศาสตร์ เริ่มจากทำใจให้สบายก่อนเป็นอันดับแรก
มีอุบายที่จะทำให้คนไม่เบื่อการนั่งสมาธิ อาทิ พิงหลังได้ คันก็เกาได้ ไม่ยึดติดกับการนั่งขัดสมาธิเพียงอย่างเดียว
จะนั่งท่าใดก็ได้ที่ทำให้รู้สึกสบาย
การเคลื่อนไหวช้าๆ แบบซ้ำๆ ทำใจให้นิ่ง
หายใจเข้า-ออก เรื่อยๆ อาจารย์จะให้นึกคำว่า “มันตรา” เหมือนเป็นคำศักดิ์สิทธิ์
.... พวกที่มาเรียนก็จะนั่งในห้องแอร์ มี หมอนอิง
แล้วก็จะอาจารย์พูดพาเราไปว่า หายใจเข้า หายใจออกนะ รู้สึกถึงลมหายใจนะ
พอทำไปเรื่อยๆ จนถึงจุดนั้นแล้ว เราก็จะไม่รู้สึกตัวทิ้งไอ้ปัญหาต่างๆ ไปมันทำให้เราเข้าถึงความเป็นตัวเองมากขึ้น จึงมาให้ความสำคัญแก่ตัวฉัน รู้สึกระลึกตัวได้ตลอดเวลา
เหมือนหากเราคุยโทรศัพท์ในรถได้ เราก็ทำสมาธิในรถได้เหมือนกัน”
ดังนั้น สิ่งที่เขาได้รับจากการนั่งสมาธิมานานถึง 24 ปี จึงไม่ใช่ธรรมดา และเป็นประโยชน์จากธรรมชาติของหลักพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง ที่ต้องมาจากใจที่นิ่งและสงบอย่างแท้จริง
“ผมว่าได้อยู่ 3 ประเด็น คือ หนึ่งด้านความสุข มันช่วยลดความทุกข์ได้
สามารถแยกแยะสิ่งที่เป็นอยู่ สามารถคอนโทรลตัวเองได้
ไม่หวือหวา ไม่กังวลใจ หัดมีความสุขกับตัวเอง
ส่วนที่สองคือ ด้านประสิทธิภาพ เราจะมีทัศนคติ และความสามารถในการรับงาน รวมทั้งแก้ปัญหาต่างๆได้ดีขึ้น มีศักยภาพ คิดอะไรก็โปร่งใส
จึงมาถึงข้อสาม ด้านปัญญา พอเรานั่งสมาธิมาถึงจุดหนึ่งแล้ว เราก็จะพิจารณาด้วยใจที่เป็นกลางมากขึ้น รู้จักฟัง รู้จักพูด มีปัญญากับเรื่องงาน จนถึงขั้นที่เราสามารถอธิบายและสื่อสารกับผู้อื่นได้อย่างดี”
“เหมือนศาสนา ศาสนาพุทธจะ passiveมากๆ ไม่บังคับเลย
ทำแล้วเป็นประโยชน์กับตัวเอง ไม่หนักหนา
สวดมนต์ก็เป็นรูปแบบหนึ่งของการนั่งสมาธิเช่นกัน”
บางครั้งการที่เราได้เข้าถึงสิ่งที่เป็นความสุขอย่างแท้จริง เราจะสามารถแยกแยะตัวตนของเราได้เลยทีเดียว
“ถึงขนาดที่ว่า เรากับชัยประนินคือคนละคนกัน เวลาทำงานนั้นคือชัยประนิน
แต่เวลาที่นั่งสมาธิ คือ ตัวเรา
ผมคิดว่า เมื่อตายไปตัวเรานั้นแหละที่ไปไม่ใช่ ชัยประนิน
ผมว่าถ้าไม่เข้ามาอยู่ตรงนี้ด้วยกัน คุณจะไม่มีทางรู้และเข้าใจเหมือนผม ตอนเด็กถ้าจำได้ที่ครูสอนตอนนั้น ผมเชื่อว่าน้อยคนนักที่จะเข้ามันจริงๆ
แต่พอผ่านมา ได้ลองทำเอง เราจะเข้าใจมันอย่างลึกซึ้ง”
ตามปกติแล้ววิถีชีวิตของคนศตวรรษที่ 20 ความเร่งรีบเริ่มเข้ามามีบทบาทและมีอิทธิพลกับมนุษย์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หากเราสามารถจะอยู่นิ่งและมองตนเองและผู้อื่นอย่างที่ควรจะเป็น
ย่อมเป็นสิ่งที่ควรกระทำมากกว่า
“ผมว่าสำคัญที่ต้องเริ่มง่าย เพราะมันก็เหมือนไก่กับไข่
พอไม่เริ่มนั่ง ใจก็วางยาก พอใจไม่นิ่ง ก็ไม่อยากนั่งแล้ว
อย่าบังคับตัวเอง ความคิดก็จะตามมา มันเหมาะกับสังคมเมืองมาก
ทางที่ดี หากมีคนช่วยแนะนำได้ก็จะดีมาก
อย่างผมมีเพื่อน คนหนึ่ง เขาพยายาม search ตลอดเวลาว่าอะไรคือความสุข ผมว่าความสุขทางโลก ไม่ใช่สิ่งผิดเคยได้ยินเหมือนกันที่เค้าว่า คนนั่งสมาธิเข้าวัดเข้าวาก็ไม่เห็นจะเป็นคนดีอะไรเลย
แต่ทุกคนก็กำลัง พยายาม ผมไม่ได้มองเป็นศาสนามากนัก
แต่ผมก็เข้าใจ ปัญญาเป็นหลักธรรมะมาก
ผมจะคอยพูดกับคนอื่นๆ ว่าปล่อยบ้างเถอะเสมอ และเชื่อว่าอายุเท่าไรก็สามารถทำได้ อยู่ที่การเอาใจใส่ในการปฏิบัติมากกว่า อย่ารอให้ถึงจุดสุดๆ ถึงจะทำ ความจริงเริ่มที่ความต้องการที่จะทำโดยไม่ฝืนดีที่สุด”
นอกจากบทบาทผู้บริหารที่มีความสามารถ‘ชัยประนิน วิสุทธิผล’
ยังมีหน้าที่สำคัญที่สุดในชีวิต คือการเป็นสามีและพ่อที่น่ารักของลูกๆ เขาไม่พลาดที่จะแนะนำกิจกรรมนี้ให้ครอบครัวอย่างแน่นอน
“ผมว่ามันยากเหมือนกันนะ (หัวเราะ) ภรรยาผมเขามีความสุขตามธรรมชาติของเขา มีทัศนคติระดับจิตใจที่ดี พื้นฐานจิตใจที่ดี ผิดที่ผมเองมากกว่า ที่ไม่ชอบบังคับคน แต่ผมได้อิทธิพลมาจากคุณแม่ เวลาแผ่เมตตาก็จะให้แผ่บุญคุณแม่ก่อน เพราะถือว่านี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่ได้รับ
ส่วนลูกๆ ก็จะขอเวลาสักพวกเขาสัก 2-3 นาที เอาเขานั่งตัก แล้วก็พูดให้ฟังว่า สูดหายใจนะ รู้ลมหายใจตัวเองหรือเปล่าแต่ก็ว่านะ เด็กไม่อยากจะไปกวนเค้ามาก
ไหนจะการบ้าน กิจกรรมอีก แต่ก็จะพยายามจะให้เขาฝึกมากขึ้น”
.... นี่คือ ตัวตนอีกด้านหนึ่ง ของแฟมิลี่แมน บิ๊กบอสใหญ่ค่ายทีบีดับบลิวเอ ที่สวมบทบาทตัวอย่างที่ดี ทั้งในฐานะลูก พ่อ และสามีที่ดีรวมไปถึง คนคุณภาพของวงการโฆษณาเมืองไทยได้อย่างน่าประทับใจ
คัดลอกจาก...
http://www.businessthai.co.th/content.php?data=406219_LifeStyle
บัวหิมะ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 26 มิ.ย. 2008
ตอบ: 1273
ตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2008, 11:29 pm
ประโยชน์ของการนั่งสมาธิ ดีจริง ๆ หน่วยงานต่าง ๆ ก็ให้การสนับสนุนกันมากแล้วในปัจจุบัน เจริญในธรรมท่านลูกโป่ง
_________________
ชีวิตที่เหลือเพื่อธรรมะ
ฌาณ
บัวเงิน
เข้าร่วม: 23 ก.ค. 2008
ตอบ: 1145
ที่อยู่ (จังหวัด): หิมพานต์
ตอบเมื่อ: 11 ก.ย. 2008, 8:10 pm
_________________
ผมจะพยายามให้ได้ดาวครบ 10 ดวงครับ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นานาสาระ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th