ใครมีอะไรช่วยแนะนำให้ผมหลุดพ้นกรรมครั้งนี้ด้วยครับ

ตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2008, 12:07 am

เรื่องมีอยู่ว่า ผมเกิดความเครียดจากการทำงานจนต้องลาออก เพื่อหวังที่จะได้ไม่ต้องเครียดกับมัน แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นครับ เพราะปัจจุบันไม่ว่าผมจะทำอะไรผมไม่สามารถรับเรื่องหนักๆ และซับซ้อนได้เลย จะทำให้เกิดอาการของความเครียดขึ้นมาทันที และไม่สามารถออกไปไหนมาไหนคนเดียวเองได้ ไม่สามารถขับรถคนเดียวได้ เมื่อไหร่ที่ต้องออกจากบ้านไปติดต่องานต้องพาคนในบ้านไปด้วยถึงจะอุ่นใจ บางครั้งมีแฟนผมนั่งไปด้วยยังเกิดความวิตกกังวลต่างๆ นาๆ ยิ่งเจอรถติดด้วยแล้วยิ่งหนักเลยครับ ทั้งๆ ที่ผมมีอายุแค่ 34 และมีลูกเล็กอีก 2 คน รู้สึกตัวเองเป็นภาระกับคนอื่นมาก ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตรประจำวันเหมือนดังเดิมได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เจอเรื่องหนักๆ มาแยะมากและเป็นปัญหากับการทำงานอย่างมาก อยากหายครับจึงคิดว่าการนั่งสมาธิน่าจะช่วยได้ แต่ยังไม่ได้เริ่มนั่งเลยนะครับ เพราะอยากจะได้คำแนะนำที่ถูกต้อง ถ้ามีท่านใหนให้คำแนะนำหรือมีอย่างอื่นที่แนะนำดีกว่า นอกเหนือจากการนั่งสมาธิก็ช่วยแนะนำให้ผมได้ปฏิบัตด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

ตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2008, 7:46 am

คงต้องใช้ยาช่วยแล้วล่ะครับ ปรึกษาแพทย์ดีกว่า ส่วนตัวเราเองก็ต้องช่วยยาด้วย ช่วยเท่าที่ช่วย

ได้ ตัวอย่าง เช่น ไม่จมอยู่กับความคิดนั้น อาการนั้น เปลี่ยนความคิดให้คิดแต่สิ่งที่ทำให้รู้สึกดี

โล่งโปร่งเบา คิดในทางบวกแก่ตนเอง ความคิดเปลี่ยนได้ครับ ขอแต่ให้เรามีพลังเปลี่ยนให้มัน

ไม่ตามมัน มีแนวทางที่จะเปลี่ยน

ลองศึกษาแนวคิดลิงค์ดูครับ

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=15732

ตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2008, 8:20 am

kob1223 พิมพ์ว่า:

เรื่องมีอยู่ว่า ผมเกิดความเครียดจากการทำงานจนต้องลาออก เพื่อหวังที่จะได้ไม่ต้องเครียดกับมัน แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นครับ เพราะปัจจุบันไม่ว่าผมจะทำอะไรผมไม่สามารถรับเรื่องหนักๆ และซับซ้อนได้เลย จะทำให้เกิดอาการของความเครียดขึ้นมาทันที และไม่สามารถออกไปไหนมาไหนคนเดียวเองได้ ไม่สามารถขับรถคนเดียวได้ เมื่อไหร่ที่ต้องออกจากบ้านไปติดต่องานต้องพาคนในบ้านไปด้วยถึงจะอุ่นใจ บางครั้งมีแฟนผมนั่งไปด้วยยังเกิดความวิตกกังวลต่างๆ นาๆ ยิ่งเจอรถติดด้วยแล้วยิ่งหนักเลยครับ ทั้งๆ ที่ผมมีอายุแค่ 34 และมีลูกเล็กอีก 2 คน รู้สึกตัวเองเป็นภาระกับคนอื่นมาก ไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตรประจำวันเหมือนดังเดิมได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เจอเรื่องหนักๆ มาแยะมากและเป็นปัญหากับการทำงานอย่างมาก อยากหายครับจึงคิดว่าการนั่งสมาธิน่าจะช่วยได้ แต่ยังไม่ได้เริ่มนั่งเลยนะครับ เพราะอยากจะได้คำแนะนำที่ถูกต้อง ถ้ามีท่านใหนให้คำแนะนำหรือมีอย่างอื่นที่แนะนำดีกว่า นอกเหนือจากการนั่งสมาธิก็ช่วยแนะนำให้ผมได้ปฏิบัตด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

คุณสามารถ นั่งพิมพ์ คำถามได้ อีกทั้งยังสามารถสังเกตุอาการของตัวคุณเองได้ นั่นแสดงว่า คุณมีสมาธิที่ดีในระดับหนึ่ง อันสามารถวินิจฉัยได้ว่า คุณมีสติสัมปชัญญะตลอดเวลา แต่คุณไม่สามารถควบคุม ความกังวลใจ หรือจะเรียกว่า วิตก วิจาร ปีติ สุข ได้ ขณะอยู่ในสิ่งแวดล้อมรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง
คุณต้องหาสาเหตุว่าตัวคุณเอง เกิดความเครียดเพราะเหตุใด ไม่ใช่สรุปแบบสั้นๆว่า เครียดเพราะงาน เหตุเพราะคำว่า เครียดเพราะงานมันกว้างไป ต้องจำกัดความให้สั้นหรือแคบเข้า เพื่อได้รู้สาเหตุที่แท้จริงเช่น คุณจริงจัง และมีความหวัง หรือมีความต้องการผลสำเร็จในงานที่คุณกระทำนั้นมากเกินไป โดยไม่ได้คิดแบบธรรมชาติ นั่นก็คือ คิดแต่จะรับอย่างเดียว โดยไม่ได้คิดถึงรายจ่าย (มาถึงตอนนี้พอจะเข้าใจไหม) ถ้าจะกล่าวให้เข้าใจง่ายขึ้น การทำงาน ย่อมต้องมีเป้าหมาย แต่เป้าหมายนั้น เข้าก็จะมีเกณฑ์ของเป้าหมายเช่น จะดำเนินการให้ได้ตามเป้าหมาย 50 ถึง 100 เปอเซ็นต์ แต่ก็ย่อมขึ้นอยู่กับ ลักษณะงานว่า คำว่าทำงานได้ตามเป้าหมาย 50 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์นั้น หมายถึงการสำเร็จแบบไหน เช่น การทำบัญชี ก็ต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายในแต่ละวัน แต่ละงวดว่า ภายใน 15 วัน ต้องทำบัญชีได้ 50 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 20 ถึง 25 วัน ต้องให้ได้ครบ 100 เปอร์เซ็นต์ นี้เป็นวิธีผ่อนคลายความเครียด ในการทำงานได้ในระดับหนึ่ง
ข้าพเจ้าไม่แนะนำให้คุณไปพบจิตแพทย์ หรือพึ่งยา เพราะคนอื่นเขาแนะนำแล้ว การรับประทานยา เป็นหนทางสุดท้ายที่จะกระทำ แม้แต่จิตแพทย์เอง ก็ไม่ต้องการให้คนป่วยรักษาอาการทางจิตด้วยยา มันเป็นหนทางสุดท้าย เหลือกำลังแล้วจึงจะให้ทานยา
ไปพิจารณาเอาเอง เพราะคุณคิดมากอยู่แล้ว เพียงแต่คุณคิดไปในทางที่ทำร้ายตัวเอง ไม่ได้คิดไปในทางทำให้ตัวเองมีสุข ฉะนี้

ตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2008, 10:49 am

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ สาธุ

ผมจึงมีคำถามต่อจากนี้ไงครับว่า ถ้าผมจะนั่งสมาธิเพื่อทำให้จิตใจสงบมากขึ้นไม่คิดไปในทางที่ทำร้ายตัวเอง มองสิ่งรอบข้างอย่างมีสติมากขึ้น จะช่วยได้มั๊ยครับ แล้วจะมีวิธีในการกำหนดจิตอย่างไรช่วยแนะนำด้วยครับ

ตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2008, 11:17 am

เมื่อนั่งสมาธิกำหนดจิต หรือความคิด คุณจะเห็นความคิดชัดขึ้น เมื่อเห็นความคิดชัดเจนแบบนั้น ดีสำหรับผู้พร้อมที่จะฝึกมัน
แต่หากบุคคลนั้นยึดมั่นในความคิด เห็นความคิดเป็นศัตรู ซึ่งก็มักจะคิดในทางไม่ค่อยดี คือ เป็นอกุศลสารพัดรูปแบบ ก็อาจทุรนทุรายร้อนรนมากยิ่งขึ้น ให้ข้อสังเกตไว้
แต่จะลองก็ได้ไม่เป็นปัญหา

แต่อยากแนะนำว่า ควรฝึกคิด คิดแนวหยาบๆไปก่อน ยังไม่ต้องลงลึกถึงกับนั่งดูความคิดโดยตรง
คิดในแง่บวกดังกล่าว หาเรื่องคิดในทางกุศลให้มากขึ้น หรือหาหนังสือที่อ่านแล้วชวนให้สบายใจได้แง่คิดก็ได้
ไม่ควรคิดหมกมุ่นรื้อฟื้นความหลังที่ทำให้เครียดมาคิด

ถามจริงเถอะครับ คุณเคยปรึกษาแพทย์บ้างไหม เรื่องธรรมดาครับอย่าคิดมาก

ตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2008, 1:53 pm

kob1223 พิมพ์ว่า:

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ สาธุ

ผมจึงมีคำถามต่อจากนี้ไงครับว่า ถ้าผมจะนั่งสมาธิเพื่อทำให้จิตใจสงบมากขึ้นไม่คิดไปในทางที่ทำร้ายตัวเอง มองสิ่งรอบข้างอย่างมีสติมากขึ้น จะช่วยได้มั๊ยครับ แล้วจะมีวิธีในการกำหนดจิตอย่างไรช่วยแนะนำด้วยครับ

คุณต้องทำความเข้าใจไว้เป็นพื้นฐานว่า การที่คุณคิดเพ้อเจ้อ ฟุ้งซ่าน แล้วเกิดอาการเครียดทางสมอง เพราะสมองเป็นอวัยวะในการคิด สมองทำงานหนัก ร่างกายก็จะหลั่งสาร (จำชื่อไม่ได้) ชนิดหนึ่ง ออกมาทำให้นอนไม่หลับบ้าง เครียดคือความคิดไม่เคลื่อนตัวออกจากสมอง เพราะตามธรรมชาติของมนุษย์นั้น เมื่อเกิดการคิด ความคิดเป็นคลื่น ก็จะเคลื่อนตัวจากสมองเหลือแต่ส่วนที่ประทับใจหรือเป็นความทรงจำเก็บไว้ในสมองไว้บ้าง ความคิดที่เคลื่อนตัวไป บางส่วนก็จะไหลออกจากร่างกาย ทางลมหายใจบ้าง ตาบ้าง หูบ้าง ผิวหนังบ้าง ขนบาง ผมบ้าง เล็บบ้าง อย่างนี้เป็นต้น
เมื่อคุณคิดแล้ว แต่คลื่นความคิดของคุณไม่เคลื่อนไปไหน เนื่องจากมีสารที่ร่างกายหลั่งออกมายับยั้งการเคลื่อนตัวของคลื่นความคิดเอาไว้ คุณก็เกิดอาการเครียดซ้ำไปซ้ำมา หรือมีหลายๆเรื่องซ้ำไปซ้ำมา อยู่เป็นนิจ

การปฏิบัติสมาธิ คือการ ฝึกการควบคุมความคิด โดยการเอาใจจดจ่อ หรือโดยการเอาใจฝักใฝ่ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เพื่อมิให้เกิดการฟุ้งซ่าน หรือจะอธิบายอีกรูปแบบหนึ่ง ก็คือ การฝึกสมาธิ คือ การไม่คิด อะไร เลย ไม่เห็นอะไรเลย ไม่ได้ยินอะไรเลย ถึงแม้ธรรมชาติของมนุษย์ จะได้ยินเสียงนั้น แต่เขาก็จะมีวิธีการมิให้จิตใจไปจดจ่ออยู่กับเสียงหรืออื่นใดที่เกิดขึ้นขณะฝึกสมาธิ อย่างนี้เป็นต้น
การปฏิบัติสมาธิ จะสามารถควบคุมความคิด หรือควบคุมตัวเอง ให้มีสติ สัมปชัญญะ อยู่ตลอดเวลา คือพอรู้ว่าคิด ก็จะควบคุมไม่ให้คิด แต่มีปัจจัยอยู่อย่างหนึ่ง คือ ความอยาก หรือความต้องการของตัวคุณ ถึงแม้ว่าคุณฝึกสมาธิได้ดีสักเพียงใด แต่ขณะที่คุณคิด คุณเกิดมีความอยาก เหนือจิตใจของคุณขึ้นมา คุณก็จะคิดต่อไปเรื่อยๆ เพราะคุณอยากจะคิดเรื่องนี้นให้จบ นี้เป็นปัจจัยในตัวคุณ ที่ยากจะใช้ยา หรือใช้สิ่งใดรักษา ยกเว้น ตัวคุณเอง
ข้าพเจ้า แนะนำคุณอีกอย่างหนึ่ง ออกกำลังกาย ทุกวัน วันละ 15 ถึง 20 นาที เป็นอย่างน้อย เวลาว่าง ดูหนัง ดูละคร ฝึกศึกษาหาความรู้ ผ่อนคลายตัวเองไปตามเรื่อง
ท่องจำไว้อยู่เสมอว่า อย่าคิด อย่าคิด อย่าคิด ถ้ารู้ตัวว่า เริ่มคิด (อันนี้ขึ้นอยู่กับการฝึกสมาธิของคุณละนะ) เพราะถ้าคุณเริ่มคิดแต่ไม่รู้ตัวมีความอยาก ก็แสดงว่า ไม่มีสมาธิ จบขอรับ
อ่านแล้วพยายามพิจารณาอย่างช้าๆ เขียนกับพุด มันอธิบายได้ยากกว่ากันเยอะเลยขอรับ

ตอบเมื่อ: 12 พ.ค.2008, 7:50 pm

เห็นใจมากๆเลยค่ะ เพราะรู้แล้วว่าเวลาใจมันทุกข์และกังวลเป็นอย่างไร

ถ้าจะให้สวดมนต์และนั่งสมาธิมากๆ ก็กลัวจะเครียดและฟุ้งไปอีก

ลองทำแบบพอสบายๆ เบาๆ คุณลองไปซื้อหนังสือเข็มทิศชีวิต ที่เซ่เว่นมาอ่านซิค่ะ

ราคา180 ลดเหลือ 59 บาท ถึง 31 พ.ค.นี้)

เพราะมีคนที่ทุกข์กว่าคุณอีกแล้วเค้ารอดได้อย่างไร คุณจะรู้ทุกข์ของคุณคืออะไร

จะแก้ไขอย่างไร ด้วยตัวคุณเองถ้าคุณสบายใจมีความสุข ดิฉันก็ดีใจด้วยค่ะ ยิ้มแก้มปริ

ตอบเมื่อ: 12 พ.ค.2008, 9:23 pm

ลองสวดมนต์ดูนะคะ
สวดมนต์ออกเสียง ให้ได้ยินเสียงตัวเองด้วย หาหนังสือสวดมนต์แบบทำวัตรเช้าเย็น
ต่อด้วยบทสวดพาหุงมหากาฯ แล้วแผ่เมตตา
หลังจากนั้น ถ้าเป็นไปได้ ให้ท่องพุทโธในใจ ให้มีพุทโธอยู่ในใจ ระลึกถึงภาพพระพุทธรูปสวยๆ
หรือบรรยากาศที่สงบๆในวัด (ตรงนี้คงต้องหมั่นไปวัดทำบุญ หาวัดที่มีบรรยากาศร่มรื่น สงบๆ ไปถวายภัตตาหารเช้าในวันว่าง หรือทำสังฆทานด้วยก็ได้
บางวัดจะนำสวดมนต์นั่งสมาธิหลังถวายอาหารพระ เช่น ที่วัดป่าเชิงเลน

หรือถ้าเกิดเครียด กังวลขึ้นมาก็อาจจะสวดพุทธังสรณังคัจฉามิ ธัมมังสรณังคัจฉามิ สังฆังสรณังคัจฉามิ ทุติยัมปิพุทธังสรณังคัจฉามิฯ (สามรอบถึง ตติยัมปิฯ) เพื่อยึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง
แล้วต่อด้วยพุทโธ พุทโธ พุทโธ....ไปเรื่อยๆ
บทสวดมนต์มีหลายบทเลยค่ะที่น่าสวด ลองศึกษาดูนะคะ

ตอบเมื่อ: 13 พ.ค.2008, 1:38 am

เข้าใจนะ รู้สึกอย่างนี้ เหมือนกัน ต่างกันที่ มองว่า เข้าสู่กลียุคแล้ว อยู่ในยุคนี้แล้ว
ควรจะต้องปรับตัว อย่างไร ?

สร้างและอยู่ใน สิ่งแวดล้อมที่ดี อันนี้ ก็ เป็นทางหนึ่ง
อีกหลายๆทาง ก็แนะนำไม่ได้ แต่ทุกๆทาง ก็คงต้องเลือกเดินเอง

ปล.สิ่งที่ควรพิจารณาอย่างแรกคือยอมที่จะเข้าใจความจริง ทุกข์ อยู่ทุกที่ แม้นพยายามแค่ไหนจะหนีไปอย่างไร ก็ หนีทุกข์ไม่ได้ ฉลาดเพียงใด ก็ ยังคงหาที่ๆ สุข เกาะ บน ล่าง สูง ต่ำ ก็ทุกข์
ไม่ยอมหยุด ไม่ยอมปล่อย
** ทำไม จะทุกข์ไม่ได้ละ ก็ยังมีเหตุแห่งทุกข์อยู่ ไม่ใช่หรือไง

ตอบเมื่อ: 13 พ.ค.2008, 3:38 pm

ถ้าเครียดมากอย่านั่งสมาธิเลยนะคะ คุณควรจะหาซีดีธรรมะ ถ้าจะให้แนะนำก็เป็นเพลงธรรมะ หรือเสียงเทศน์ของหลวงพ่อปราโมชก็ดีนะคะ เพราะว่าท่านจะสอนให้เรามีสติกับชีวิตประจำวันแล้วก็นำมาปรับใช้ แต่อย่าคาดหวังว่าทุกอย่างจะดีในเร็ววันนะคะ ทำได้แค่ไหนก็แค่นั้น ทุกอย่างต้องใช้เวลา แล้วก็ควรผ่อนปรนทางโลกบ้าง ผ่อนคลายด้วยธรรมชาติบำบัดอย่างเสถียรธรรมสถาน หรือจะไปเที่ยวตามธรรมชาติต่าง ๆ แล้วค่อยเริ่มต้นใหม่

คุณยังโชคดีมีครอบครัวที่อบอุ่นนะคะ นี่คือสิ่งที่มีค่ามาก ขอให้โชคดีนะคะ

ตอบเมื่อ: 14 พ.ค.2008, 12:19 am

3 คำ กรรม-ตรง-ไหน
ตอบ: จิตแพทย์เถอะครับคุณ

ขอให้มีความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปครับ

ตอบเมื่อ: 18 พ.ค.2008, 2:37 pm

ตอบเมื่อ: 19 พ.ค.2008, 11:14 am

ตอบเมื่อ: 20 พ.ค.2008, 2:27 pm

อย่าไปเอาปัญหาคนอื่นมาเป็นปัญหาของตัวครับ คุณเครียดอาจเป็นเพราะใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมมากเกินไปครับ ปล่อยวางซะบ้างครับ เอาแค่ที่สำคัญกับการมีชีวิตอยู่ก็พอครับ หรือคิดง่ายๆนะครับแบบที่ผมมักใช้อยู่เป็นประจำครับคือ ยังมีข้าวกินอยู่รึเปล่า 1 มีเสื้อผ้าใส่อยู่รึเปล่า 1 มี่ที่อยู่อาศัยอยู่รึเปล่า 1 ยารักษาโรคที่จำเป็นต้องใช้อยู่มีอยู่หรือเปล่า 1 สรุปคือ ปัจจัย 4 ยังบริบูรณ์อยู่หรือเปล่า หากยังไม่ถึงกับขัดสนก็ไม่จำเป็นต้องเครียดอะไรครับ เรื่องนอกเหนือจากนี้เป็นเรื่องของคนอื่นทั้งสิ้นครับ เราควบคุมไม่ได้หรอกครับ มันจะต้องเป็นไปเช่นนั้นเป็นธรรมดา

ตอบเมื่อ: 21 พ.ค.2008, 10:12 pm

คุณ kob1223 บอกว่าอยากนั่งสมาธิ แต่ยังไม่รู้วิธี
ถ้าอยากรู้ว่าวิธีนั่งสมาธิมีแบบไหนบ้าง ลองไปหาอ่าน เรื่องสมาธิ ในเว็บธรรมจักรนี้ล่ะครับ
มีหลักการทำที่หลวงพ่อหลาย ๆ ท่านสอนไว้ หรือไม่ก็ลองอ่านหนังสือธรรมะอื่น ๆ ในเว็บนี้ด้วยเหมือนกันก็ได้ครับ รับรองเดี๋ยวคุณ kob1223 คงพบทางแก้ได้เองล่ะครับ แต่ต้องค่อย ๆ ศึกษา ค่อย ๆ ปฏิบัติไปนะครับ
ใจเย็น ๆ เรื่องสมาธินี้ต้องใจเย็น ๆ ครับ ใจร้อนไม่ได้ ค่อย ๆ อ่าน ค่อย ๆ ฟัง ค่อย ๆ ศึกษาไปนะครับ จนกว่าพบแนวทางการปฏิบัติ ที่คุณ kob1223 คิดว่า นี้แหละ วิธีนี้ล่ะ ที่เหมาะกับตัวเราเองที่สุดแล้ว เลือกวิธีไหนได้แล้ว ก็ทำไปเลยครับ

แต่ทั้งนี้ ทั้งนั้น คุณ kob1223 ต้องเริ่มจากการเป็นคน มีศีล 5 ก่อน นั้นคือ ต้องรักษา ศีล 5 ก่อนนะครับ
เพราะหลักสมาธิตามพระพุทธศาสนา ต้องมีศีล 5 ก่อน ถึงจะเป็นสัมมาสมาธิครับ

อนุโมทนาในการอยากจะเริ่มทำสมาธิของคุณนะครับ ผมแนะนำให้ฝึกสมาธิ โดยใช้ อานาปานสติ นะครับ
วิธีนี้ง่าย สะดวก สบาย และแทบจะทำได้ทั้งวันเลย ถ้าขยันจริง ๆ ลองไปหาอ่านเรื่องอานาปานสตินะครับ ผมก็ยังฝึก ๆ อยู่ แนะอะไรมากไม่ได้ครับ อย่าลืม รักษา ศีล 5 ก่อนด้วยนะครับ อิ อิ

อีกอย่าง ถ้าคุณต้องการ ฟังเทศน์ คำสอนดี ๆ ลองไป download มาฟังได้จากที่นี้นะครับ
http://www.cddhamma.net/Monk/Main.htm

ผมแนะนำหลวงพ่อพุธครับ

ตอบเมื่อ: 23 พ.ค.2008, 9:25 pm

ขอบคุณทุกๆท่านที่ให้คำแนะนำครับ สาธุ