ห้ามดื่มเหล้าในวัด

ตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2008, 10:22 am

ห้ามดื่มเหล้าในวัด

พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2551 เป็นต้นมา

ด้วยเหตุผลที่ว่าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ ครอบครัว อุบัติเหตุ และอาชญากรรม ซึ่งมีผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ สมควรกำหนดมาตรการต่างๆ ในการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งการบำบัดรักษาหรือฟื้นฟูสภาพผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยลดปัญหาและผลกระทบทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจ

ช่วยสร้างเสริมสุขภาพของประชาชนโดยให้ตระหนักถึงพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตลอดจนช่วยป้องกันเด็กและเยาวชนมิให้เข้าถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้โดยง่าย

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หมายถึง สุรา (ที่แปลว่าเหล้า) ตามกฎหมายว่าด้วยสุรา ส่วนผู้ติดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ คือ บุคคลที่ดื่มเหล้าจนก่อให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพร่างกายหรือจิตใจ โดยการดื่มนั้นมีลักษณะที่ต้องเพิ่มปริมาณมากขึ้น และเมื่อหยุดดื่มจะมีอาการแสดงของการขาดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร่างกาย เช่น มือไม้สั่นต้องไปถอนสักหน่อย

สาระสำคัญของพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ฉบับนี้ ก็คือต้องการที่จะควบคุมทั้งการซื้อการขายสุรา ทั้งนี้เพราะถึงแม้ว่าประเทศไทยประกาศเป็นเมืองพุทธ แต่ชาวบ้านยังสามารถหาซื้อเหล้ามาดื่มกันอย่างง่ายดายและมีจำหน่ายทั่วไป ทำให้ต้องมีทั้งคณะกรรมการและพระราชบัญญัติมากำหนดมาตรการต่างๆ เช่น ห้ามขายเหล้าให้กับคนที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ (มีการขอดูบัตรประชาชนคนซื้อเหล้ากันแค่ไหน) ห้ามขายเหล้าให้กับบุคคลซึ่งมีอาการมึนเมาจนครองสติไม่ได้ ถ้าผู้ขายฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากสถานที่ราชการ ปั๊มน้ำมัน สวนสาธารณะ โรงเรียน และหอพัก ที่ประกาศห้ามจำหน่ายและดื่มสุราแล้ว ที่น่าสนใจ คือ ต่อไปนี้ถ้ามีการจำหน่ายและดื่มสุรากันในวัด จะถูกจับ มีโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ต่อไปนี้ถ้าจะจัดงานในวัด ก็ควรจะเป็นบรรยากาศที่เรียบง่ายและสงบ ส่วนที่จะให้มีการรื่นเริงและเลี้ยงสุรากันควรห่างจากกำแพงวัดให้มากเข้าไว้ จะเป็นการดีแก่ทุกฝ่าย

หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายวัน หน้า 30
คอลัมน์ หน้าต่างศาสนา โดย สมชาย สุรชาตรี
ผู้อำนวยการกองพุทธสารนิเทศ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2551 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6372

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551
http://www.sohnglp.net/db/allkorhor.pdf

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

ตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2008, 1:56 pm

ดีแล้วขอรับ ในงานบุญ งานศพ โดยเฉพาะตามชานเมือง หรือชนบท เขาไม่ค่อยสนใจเรื่องการดื่มเหล้าในวัด ซัดกัน ซดกันได้ทุกที่ แถมกรรมการวัดซื้อให้ซดให้ดื่มก็ยังมี เป็นการเอาใจหาเสียง เรื่องจริงนะขอรับ กฎหมายห้ามดื่มเหล้าในวัดเหมาะสมที่สุด เกิดเป็นคนต้องเคารพสถานที่ สถานที่ทางศาสนา ดันดื่มเหล้า เอาให้หนัก คงจะดี แต่ถ้าดื่มเหล้านอกวัด แล้วเข้าไปเที่ยวในวัด ไม่มีกฎหมายห้าม ขอรับ

ตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2008, 8:47 pm

ทำไมเราถึงต้องเคารพครับ ที่เราเคารพเรากลับกลัวหรือเปล่าครับ

ตอบเมื่อ: 11 พ.ค.2008, 8:29 am

ชีวิตคืออะไร พิมพ์ว่า:

ทำไมเราถึงต้องเคารพครับ ที่เราเคารพเรากลับกลัวหรือเปล่าครับ

ตอบ...

ถ้าคำถามของคุณหมายถึง การเคารพสถานที่
คุณก็ควรจะได้เรียนรู้ถึง ค่านิยมทางสังคม วัฒนธรรมประเพณี การศึกษา ความนอบน้อมต่อสิ่งที่เราเคารพนับถือ ไม่ว่าจะเป็น คน สัตว์ สิ่งของ ที่มี่มีชีวิตและไม่มีชีวิต

ส่วนคำถามที่ว่า เราเคารพ กลับกลัวนั้น มีความหมายว่าอย่างไร ไม่เข้าใจคำถาม แต่ถ้าคุณหมายถึงว่า เรากลัวสิ่งที่เราเคารพ หรือเคารพเพราะความกลัวนั้น คงไม่ถูกต้องนัก
ศาสนาพุทธ มีข้อศีล ศึลสำหรับบุคคลทั่วไป คือ ศีล 5 ในศีลห้า ให้ละเว้น การดื่มสุรา หรือเครื่องดองของเมา
แล้วคุณเป็นพุทธศาสนิกชน ดันไปดื่มเหล้าในวัดอันเป็นสถานที่ที่เขาใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา เป็นที่อยู่ของพระสงฆ์ เป็นที่ฝึกปฏิบัติธรรมทุกรูปแบบ แถมยังเป็นศูนย์รวมของชุมชน เพื่อประกอบกิจกรรมต่างๆมาช้านาน
คุณคิดว่า บุคคลที่เข้าไปดื่มเหล้าในวัดนั้น มีความคิด สมองสติปัญญา รวมไปถึงความรู้ ความเข้าใจ ในศาสนาที่เขานับถืออยู่ มากน้อยเพียงใด
ถ้าข้าพเจ้าจะกล่าวว่า พวกเขา มีจิตใจต่ำ ความคิดอ่านต่ำ นับถือเพียงทะเบียนบ้าน แต่กลับทำลายศาสนา ที่เขาอ้างว่าเขานับถืออยู่ อย่างสิ้นเชิง ใช่ไหม

ตอบเมื่อ: 11 พ.ค.2008, 9:12 pm

ผมหมายถึงความกลัวที่คุณไปเคารพไหว้พุทธรูปครับ แล้วคุณหรือผมและพวกเราต้องมานั่งฟังกฏถือศีล 5 หรือครับ
ผมว่าการฝึกในปฏิบัติธรรมดูเหมือนพวกคุณอยู่ห้องสี่เหลี่ยมพร้อมจะควมคุมจิตให้เป็น1เพื่อหลีกเลี่ยงเสียงทุกสิ่งใช่หรือเปล่าครับเพราะผมว่าไม่มีคำว่า “การฝึก” เพราะดูเหมือนว่าการฝึกเหมือนถูกเป็นขีดจำกัดเวลาครับ เพราะในธรรมชาติมนุษย์ต้องมีสัญตชาติมากกว่า ดูเหมือนนักบวรจะหนีมากกว่าครับ ตัวอย่างเช่นเมื่อคุณเจองูพิษคุณจะไม่คิดในแง่หลักการศาสนานั้นอีกแล้ว

ตอบเมื่อ: 12 พ.ค.2008, 9:25 am

ความเข้าใจของคุณ เป็นความเข้าใจที่ผิด
อีกทั้งข้อความที่คุณเขียนมานั้น ดูเหมือนว่า คุณมีความคิดที่เบี่ยงเบนจากความเป็นจริง
การฝึก ไม่ใช่การกำหนดขอบเขต แต่ต้องปฏิบัติ ไปตามหลักการและวิธีการ
ถ้าคุณมีความคิดว่า การฝึกเป็นการกำหนดขอบเขต คุณมีความคิดเบี่ยงเบน
เพราะในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ สัตว์ พืช หรืออื่นใด ล้วนต้องมีขอบเขต หรือข้อจำกัด หรือ หลักการ หรือวิธีการ
ดังเช่น การรับประทานอาหาร ก็มีขอบเขตการใช้อวัยวะที่จำกัด แต่การรับประทานอาหาร ไม่มีขอบเขตจำกัด ในการเลือกสรรอาหาร เพราะอาหารมีหลากหลายรูปแบบ เลือกประกอบรับประทานได้ตามแต่จะมีความรุ้ ความเข้าใจ
เช่นเดียวกับ การการ "ฝึก" ทุกชนิด ในทุกอาชีพ เขาก็ต้องมีหลักการ วิธีการ ระเบียบ การ กฎเกณฑ์ เป็นเครื่องกำหนด ไม่อย่างนั้น งาน หรือกิจการ หรืออื่นใด ก็เสียหาย ไม่ได้ตามเป้าหมายซิคุณ
เอาแค่นี้ก่อน เวลาหมดขอรับ