Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
เรื่องราวของผู้นำที่หมู่คณะพึ่งได้
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ผู้ตั้ง
ข้อความ
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 02 ก.พ.2005, 4:14 pm
เป็นความจริงที่ได้รับการพิสูจน์มาแล้วทุกยุคทุกสมัยว่า ผู้นำที่ชาญฉลาด และกล้าหาญ มีการตัดสินใจที่เด็ดเดี่ยวฉับไว ย่อมพาหมู่คณะให้รอดพ้นวิกฤตได้ ดังเช่นเรื่องราวของหมูป่าฝูงหนึ่งในอดีตกาล
ย้อนหลังไป เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา ยังบำเพ็ญบารมีเป็นพระโพธิสัตว์อยู่ บางครั้งก็มีการพลาดพลั้งทำบาปทำกรรม ต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานก็มีอยู่หลายๆ ชาติ มีครั้งหนึ่งได้มาเกิดเป็นหมูป่า แต่ถึงจะเกิดเป็นหมูป่า ด้วยบุญบารมีที่สร้างมาเพื่อเป็นผู้นำของพระโพธิสัตว์ จึงทำให้เป็นหมูป่าที่มีบุคลิกสง่างาม มีสติปัญญาสามารถ ช่วยเหล่าฝูงหมูป่าให้พ้นภัยได้
เรื่องก็มีอยู่ว่า ในช่วงที่พระโพธิสัตว์ลงมาเกิดเป็นหมูป่านั้น มีช่างไม้คนหนึ่ง อาศัยทำมาหากินอยู่ในป่า (เนื่องจากสมัยก่อนป่าไม้อุดมสมบูรณ์ จึงยังไม่ถือว่าช่างไม้นี้ตัดไม้ทำลายป่านะครับ ขอบอก) อยู่มาวันหนึ่ง ช่างไม้ได้ไปพบกับลูกหมูป่าตัวหนึ่งโดยบังเอิญ ช่างไม้จึงเก็บมาเลี้ยง เมื่อลูกหมูป่าเจริญวัยขึ้น ก็ได้ช่วยงานช่างไม้ไสไม้ ถากไม้อยู่เนืองๆ ด้วยความเฉลียวฉลาดและแสนรู้
เมื่อหมูป่าโพธิสัตว์ กลายเป็นหมูหนุ่มโตเต็มที่ ช่างไม้เกรงว่า อยู่กับตนต่อไปอาจไม่ปลอดภัย เนื่องจากมีชาวบ้านคนอื่นๆ มาเมียงๆ มองๆ ก็เกรงกลัวจะว่านำหมูป่าของตนไปแปรรูปเป็นหมูป่าทอดกระเทียมพริกไทย หรือ แพนงหมูป่า เป็นต้น คิดดังนั้นแล้ว จึงนำหมูโพธิสัตว์นี้ไปปล่อยในป่าลึกจะได้ปลอดภัย ฝ่ายหมูป่าโพธิสัตว์ ก็เข้าใจเจตนาของช่างไม้ดี จึงยอมแยกตัวจากช่างไม้ไปแสวงหาพรรคพวกในป่าด้วยกัน
เดินทางรอนแรมไม่นาน ก็ได้ไปพบฝูงหมูป่าฝูงหนึ่ง ฝูงหมูป่าได้เห็นหมูป่าโพธิสัตว์ พิจารณโหงวเฮ้งหมูแล้วก็โอ้โห ใช่เลย ประมาณนี้เลย นี่แหละผู้ที่จะมาช่วยเราได้ แล้วก็เล่าเหตุการณ์ที่ฝูงของพวกตนกำลังเผชิญวิกฤตถูกภัยคุกคาม เนื่องด้วยมีเสือตัวหนึ่ง มาหากินไล่ล่าหมูป่าทั้งหลายไปทีละตัว สองตัว จนไม่เป็นอันกินอันนอนไปตามๆกัน แล้วมีมติเอกฉันท์ เลือกตั้งกันทั้งฝูงให้หมูโพธิสัตว์เป็นพญาหมูป่าผู้นำของพวกตนในทันที โดยไม่ต้องเข้าประชุมสภาแต่อย่างใด
แต่พญาหมูจึงบอกกับบริวารทั้งหลายว่า ไม่ต้องกลัว เรามีวิธีรับมือเสือตัวนี้ ให้ทุกท่านทำตามคำสั่งเราทุกประการ ว่าแล้วพญาหมู ก็ให้บริวารทุกตัวจัดขบวนทัพต่อสู้ ให้วงกลมซ้อนกันหลายๆ ชั้น โดยให้หมูชรา หมูเด็ก เข้าไปอยู่ตรงกลางวงกลม จากนั้นก็จัดหมูผู้หญิงล้อมเป็นวงไว้ เป็นวงกลมถัดมา และวงนอกสุดก็รายล้อมอีกชั้นด้วยบรรดาหมูหนุ่มฉกรรจ์ทั้งหลาย เมื่อจัดขบวนทัพได้แล้ว พญาหมูป่าก็ให้บริวาร เว้นที่ไว้ให้ตนที่หนึ่ง ซึ่งอยู่บริเวณวงกลมของหมูหนุ่มฉกรรจ์นั้นเอง แล้วให้บริวารได้ขุดหลุมพรางไว้ ณ ที่นั้น แล้วเอาเศษหญ้ามาอำพราง โดยพญาหมูก็ยืนประจำตำแหน่งอยู่หน้าหลุมพรางนั้นเอง
วันรุ่งขึ้น เมื่อเสือมาถึง เห็นฝูงหมูป่าทั้งหลายเปลี่ยนไป ไม่วิ่งหนีเอาตัวรอดดังแต่ก่อน แต่พากันตั้งขบวนทัพเป็นวงกลมซ้อนๆ กัน โดยแต่ละตัวล้วนหาหน้าเข้าหาพญาเสือทั้งสิ้น เรียกว่าพร้อมจะต่อสู้กันล่ะ เสือเห็นดังนี้ก็ไม่กล้าผลีผลาม ถอยไปตั้งหลัก ไปปรึกษา Advisor ฤษีตนหนึ่งที่เสือนับถือเป็นอาจารย์ ฤษีก็ใช่ย่อย แนะนำเสือว่า จับโจร ต้องจับหัวหน้า จะจับหมูก็เช่นเดียวกัน ต้องจับหัวหน้าเหมือนกัน
เมื่อเสือเข้าใจแล้ว ก็ย้อนกลับมาอีกรอบ แล้วค่อยๆ เดินวนไปเวียนมารอบๆ วงกลมเพื่อหาหัวหน้าแล้วก็เห็นพญาหมูเด่นเป็นสง่า บุคลิกไม่เหมือนหมูตัวใดอยู่ ก็กระหยิ่มใจว่า เสร็จเราแน่ จากนั้นก็ตั้งท่าเตรียมกระโจนเข้าไปในทัพหมูป่าทันที โดยมีเป้าหมายคือพญาหมูนั่นเอง เพียงแต่เหตุการณ์ทุกอย่างอยู่ในการคาดคิดคำนวณของพญาหมูตั้งแต่แรกอยู่แล้ว พญาหมูรอจังหวะก่อนที่เสือจะถึงตัวก็กระโดดหลบ ระหว่างที่เสือรู้ตัวว่าพลาดก็คิดว่า ครั้งที่ 2 เจ้าเสร็จแน่ แต่ไม่มีครั้งที่ 2 สำหรับเจ้าเสืออีกแล้ว เพราะตำแหน่งที่เสือกระโจนลงไปนั้น คือ หลุมพรางพอดี เมื่อเสือเสียหลักตกลงไปในหลุมพรางเหล่าหมูทั้งหลาย ก็พากันพุ่งเข้าไปขวิดเสือถึงแก่ความตาย เมื่อจัดการเสือแล้วหมูป่าก็ยกขบวนไปจัดการกับฤษี Advisor เป็นลำดับต่อไป จากนั้นฝูงหมูป่า ก็อยู่กันอย่างมีความสุข
ข้อคิดจากเรื่องนี้
1. ผู้นำที่จะเป็นที่พึ่งได้จะต้องมีความกล้าหาญไม่หวั่นไหวต่ออุปสรรคใดๆ เช่น พญาหมูป่า ไม่กลัวเสือเลย ในขณะที่หมูบริวารต่างพากันกลัวเสือด้วยกันทั้งสิ้น ไม่มีใครคิดกล้าหือเลย
2. ผู้นำจะต้องมีความชาญฉลาด ฉับไว ทันต่อสถานการณ์ ความกล้าบ้าบิ่น ไร้สติปัญญาย่อมไม่อาจพาหมู่คณะพ้นวิกฤตได้ ดังเช่น พญาหมูคิดตั้งขบวนทัพขึ้นมา ซึ่งถือได้ว่าเป็นความชาญฉลาดที่บริวารทั่วๆ ไปไม่อาจเทียบได้ เช่นเดียวกับผู้นำที่จะต้องคิดในสิ่งที่คนธรรมดาคาดไม่ถึง
3. ผู้นำจะต้องวิเคราะห์สถานการณ์ เช่น พญาหมูมองข้าม Shot ไปว่า เมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น แล้วตนแก้ไขปัญหาไปแบบนี้ ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น และตนจะต้องทำอย่างไรต่อไป สามารถวิเคราะห์สถานการณ์รับมือกับปัญหาได้อย่างเด็ดขาด เหมือนกับผู้นำที่ทราบว่าจะมีวิกฤติเกิดขึ้น ก็สามารถวางแผนการรับมือกับปัญหาได้ทันท่วงที หรือบางทีไม่ทราบล่วงหน้าว่าจะมีวิกฤตเกิดขึ้น เพราะเหตุการณ์บางอย่างก็ยากที่จะทราบล่วงหน้าได้ แต่เมื่อทราบแล้ว ก็สามารถดำเนินแก้ไขปัญหา รับมือกับวิกฤตต่างๆ นั้นให้ลุล่วงไปได้ด้วยดีได้
ดังนั้น ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ เราก็ต้องมาลองพิจารณาดูว่า จะเลือกใครที่มีคุณสมบัติเป็นผู้นำประเทศได้ เพราะถือเป็นหน้าที่ของพุทธบริษัท 4 ทุกคน ที่จะต้องทำตามหลักธรรมที่จะทำให้หมู่คณะเจริญ ได้แก่ ของหายไปหา ของเสียให้ซ่อม ใช้ชีวิตตามสมควร และสุดท้ายคือ เลือกคนดีมาเป็นผู้นำ แต่จะให้ดีพร้อมอย่างพระโพธิสัตว์ สงสัยจะหายาก คงต้องหาคนที่มีคุณสมบัติรองๆลงไปครับ
อืม
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 02 ก.พ.2005, 10:36 pm
ถ้าจะหมายถึง นายกทักษิณละสิ
แต่ไม่เลือกหรอก เพราะเขตนี้ ทรท ที่ลงประวัติเสีย
เราจะเลือกคนที่โกงกินน้อยที่สุดเข้าไป
จริงอยู่ยุคนี้ยังหาคนเทียบนายกทักษิณไม่ได้
แต่เราก็จะเลือกคนที่เราเห็นว่าขี้โกงน้อยที่สุด
ไม่ว่าใครเป็นก็ยังโกงกินกันอยู่เหมือนเดิมแค่มากหรือน้อยเท่านั้น
,,,
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 03 ก.พ.2005, 8:47 am
ผมไม่เลือกพวก ด่าว่าหยาบ ๆ คาย ๆ พูดส่อเสียด พูดเท็จ
ทำอกุศลกรรมบท ๑๐ มาตลอด ๕ๆ กว่าปีของการก่อตั้งพรรค
นิรทุกข์
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 30 พ.ย. 2004
ตอบ: 54
ตอบเมื่อ: 08 ก.พ.2005, 10:09 pm
บางสิ่งบางอย่างเลือกไม่ได้ และบางสิ่งบางอย่างไม่ได้เลือก โดยรวมในสังสารวัฏล้วนมายา
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
สนทนาธรรมทั่วไป
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
ไม่สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
ไม่สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th