Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เข้าถึงนิพพานจำเป็นต้องบวชไหม อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
superhappy
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 05 เม.ย. 2008
ตอบ: 3

ตอบตอบเมื่อ: 08 เม.ย.2008, 1:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากทราบว่า บุคคลธรรมดา ฆราวาสอย่างเราๆ สามารถเข้าถึงพระนิพพานได้ไหมครับ
และจำเป็นต้องฝึกสมาธิ เข้าณานได้ด้วยหรือเปล่า ถ้าจะบรรลุนิพพานจริงๆ อืมม์ และเราจะรู้ตัวเองได้อย่างไรว่าเราถึงนิพพานได้แล้วครับ วานผู้รู้ช่วยตอบให้กระจ่างหน่อยจ้า
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 08 เม.ย.2008, 7:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ได้แน่นอนครับ ผมเห็นมากะตาตัวเอง แถมเค้ายังมาเล่าอารมณ์ตอนที่เข้าถึงให้ฟังด้วยครับ

หายากที่จะได้รับฟังอารมณ์แบบนี้ ไม่มีใครเปิดเผยหรอกครับ

จำเป็นต้องฝึกสมาธิอย่างยิ่งยวดครับ แต่ไม่จำเป็นต้องได้ฌานเสมอไปครับ เอาแค่ อุปจารสมาธิก็เพียงพอครับ เพราะ อุปจารสมาธิ นั้น สามารถ พิจารณาธรรมได้คือ พิจารณาพระไตรลักษณะญานนั้นเองครับ

ผมเอง ก็กำลังฝึกอยู่ครับ พระอาจารย์ที่ผมฝึกด้วยบอกว่า ให้ทรง ขณิกกะสมาธิทั้งวันก็เก่งแล้ว

ผมยังทรงไม่ได้เลยครับ

ถ้าเราจะบรรลุนิพพานจริง ๆ นั้น ต้องมีครูบาอาจารย์รับรองครับ เพราะครูบาอาจารย์ท่านรู้ครับว่าเราปฏิบัติไปถึงไหนแล้ว ติดขัดอย่างไร ต้องแก้อย่างไร

อันนี้ ก็แล้วแต่วาสนาเหมือนกันครับ ว่าจะพบครูบาอาจารย์ ท่านนั้นๆหรือเปล่า

อย่างผมค่อนข้างโชคดีครับ

ได้พบกับท่านพระอาจารย์ชัยรัตน์ สุธมฺโม วัดท่าแก้ว ชัยนาท ท่านช่วยอนุเคราะห์ผมและครอบครัวผมเป็นอย่างมากเลยเลยครับ

สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
มรรคคา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
ตอบ: 77
ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต

ตอบตอบเมื่อ: 08 เม.ย.2008, 11:58 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตามพระพุทธพจน์ที่ได้อ่านมามีบอกว่าฆราวาสสามารถบรรลุธรรมได้ถึงระดับ พระอรหันต์ครับ แต่ว่าต้องบวชภายในเจ็ดวัน ถ้าไม่บวชก็ต้องนิพพานภายในเจ็ดวันเช่นกัน เพราะว่าอัตภาพ ฆราวาสรองรับสภาพพระอรหันต์ไม่ได้ครับ

ส่วนการบรรลุธรรมนั้นเป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตนครับ แต่ว่าผู้ที่สูงกว่าท่านจะรู้ครับ อันนี้น่าจะยกไว้ก่อนนะครับ อย่าพึ่งสนใจเลยครับ เพราะยังอีกไกล

เคยอ่านหนังสือที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง ท่านว่าผู้ที่เป็นพระโสดาบันต้องทรงฌาน ๑ เป็นอารมณ์

นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกเยอะครับ ถ้าสนใจก็ค้นหาได้นะครับ
โดยหาจากหัวข้อ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ครับ มีเยอะมากๆ

ส่วน ฌาน นั้น ถ้าได้ก็ดีนะครับ แต่ว่าระวังจะติดในฌานนะครับ

ผมว่า ถ้าเราใช้ฌาน หรือ อุปจารสมาธิ หรือขนิกสมาธิ เป็นบาทฐานแห่งวิปัสสนาได้ก็จะดีนะครับ เพราะเป็นการเพิ่มกำลังให้ตัวเอง

ที่ผมใช้อยู่เป็นแบบ พองหนอ ยุบหนอครับ แต่ว่า ๒๐-๓๐ นาทีแรกจะใช้
พุท โธ เพื่อเข้าฌาน ๑ แล้วก็ออกมาดูพอง ยุบ ตามเดิม ครับ
ที่เข้าฌานเพื่อระงับกามฉันทะ และความฟุ้งซ่านครับ

หลักๆก็ดูยุบ พอง เพื่อฝึกสติครับ เพราะว่าธรรมทั้งหมด รวมลงที่
สติ สัมปชัญญะ เท่านั่นเองครับ
 

_________________
มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
มรรคคา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
ตอบ: 77
ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต

ตอบตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2008, 12:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การเจริญสติ สัมปชัญญะ นั้นไม่ใช่ทำแค่ช่วงที่เดินจงกรม นั่งสมาธินะครับ
ส่วนที่สำคัญคือ การมีสติ สัมปชัญญะ ในช่วงระหว่างวัน
เพราะเปรียบเสมือนการที่เรามีทุนสำรองให้ตัวเอง
แล้วพอเวลาที่เราเดินจงกรม นั่งสมาธิจะช่วยได้เยอะครับ
เพราะเรามีทุนแล้ว ในระหว่างวัน ช่วงที่ทำจริงๆก็เป็นกำไรครับ
 

_________________
มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
sittidet
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 26 ธ.ค. 2007
ตอบ: 53
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2008, 7:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เข้าได้ทุกคนแน่นอนครับ แต่ต้องไม่ทำผิดประมาณ5อย่างครับ เช่นฆ่าบิดามารดร ทำให้สงฆ์แตกคอกัน ฯ ขอยกพระพุทธพจน์มาตอบนะครับ ตอนต้นของสติปัฏฐานสี่มากล่าวนะครับ
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ผู้ใดก็ตามเจริญสติปัฐานสี่ตลอด 7 ปี เขาพึงหวังผล 2 ประการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือพระอรหันตผลในปัจจุบัน หรือเมื่อยังมีอุปาทิเหลืออยู่ ก็จะเป็นพระอนาคามี ยกเอาผู้เป็นต้นตำรับบรมครูผู้ยิ่งใหญ่มาตอบแล้วแล้วคงเข้าใจแล้วนะครับ ว่าควรทำอย่างไร
 

_________________
ผู้ใดมีตนเป็นที่พึ่งนับว่าหาที่พึ่งอันหาได้ยาก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
มรรคคา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
ตอบ: 77
ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต

ตอบตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2008, 11:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กรรมหนัก ๕ อย่างที่ปิดกั้นมรรคผล

๑.ฆ่าบิดา
๒.ฆ่ามารดา
๓.ฆ่าพระอรหันต์
๔.ทำร้ายพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต
๕.การทำสงฆ์ให้แตกแยก


กรรมหนัก ๕ ประการนี้ถ้าใครได้ทำแล้วมีทางเดียวคือ อเวจีมหานรก ครับ

ดังเช่น พระเทวทัต หรือ พระเจ้าอชาติศัตรู
 

_________________
มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
manio
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 10 เม.ย. 2008
ตอบ: 16

ตอบตอบเมื่อ: 10 เม.ย.2008, 11:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เเต่การบวชจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า? น่าจะใช่นะ อืมม์
 

_________________
วันนี้ วันไหน ก็เหมือนเดิม...^_^
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2008, 9:47 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

manio พิมพ์ว่า:
เเต่การบวชจะเข้าถึงได้ง่ายกว่า? น่าจะใช่นะ อืมม์


ก็ไม่เสมอไป ถ้าไม่ปฏิบัติ ก็ไม่ถึงหรอกครับ

แต่โใอกาสจะดีกว่า เวลาว่างมากกว่า มีเวลาทำเยอะกว่า ศีล ก็ตั้ง 227 แต่ละตัว กำจัดกิเลสที่ละเอียดได้ ถ้าปฏิบัติอย่างถูกวิธีครับ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
superhappy
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 05 เม.ย. 2008
ตอบ: 3

ตอบตอบเมื่อ: 17 เม.ย.2008, 5:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

และเราต้องฝึกอย่างไรบ้างครับในทุกๆวัน ผมก็นั่งสมาธิได้ไม่กี่นาทีเองต่อวันน่ะคับ บางทีนั่งมากๆแล้วเมื่อยขา หรือกลัวว่าจิตจะหลุดออกไปนอกกายเหมือนกันน่ะคับ วิตกไปไกลเลย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ตามรอย
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 16 เม.ย. 2008
ตอบ: 109
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 17 เม.ย.2008, 6:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

RARM พิมพ์ว่า:
ได้แน่นอนครับ ผมเห็นมากะตาตัวเอง แถมเค้ายังมาเล่าอารมณ์ตอนที่เข้าถึงให้ฟังด้วยครับ
สาธุ


เจริญธรรมครับ ข้าพเจ้ามิได้มีเจตน่ไม่ดี เพียงแต่ว่าเคยอ่านหนังสือ
มิลินทปัญหา(แจกในงานพระราชทานเพลิงพระบรมศพ สมเด็จฯย่า
..ตอนที่พระเจ้ามิลินท์ถามพระนาคเสนว่า จะมาเกิดอีกหรือไม่
ท่านก็ตอบว่าถ้าท่านไร้ซึ่งอุปทานแล้วก็จะไม่เกิดอีก(นิพพาน)
ทั้งที่ท่านได้พระนิพพานแล้ว มิได้กล่าวอ้างว่าท่านได้นิพพานแล้วแต่อย่างใด เพราะเป็นสิ่งที่
ไม่ควรพูดเป็นสิ่งที่ชวนให้มาเห็นเองอย่างนี้ๆ..

ครับก็เลยสงสัยว่า เป็นเพียงการกล่าวอ้างหรือไม่

เจริญๆครับ
 

_________________
อย่าประมาทลืมตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
sittidet
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 26 ธ.ค. 2007
ตอบ: 53
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 17 เม.ย.2008, 10:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตอบคุณ superhappy ครับ ลองอ่านหนังสือที่เวปนี้ครับ http://www.dungtrin.com/เรื่องเจ็ดเดือนบรรลุธรรม หรือไม่ก็สติปัฏฐานสี่ครับ ลองทำความเข้าใจดูนะครับ เพราะเป็นทางที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าเป็นทางเอก ครอบคลุมทุกจริตครับ อย่างไรก็เมล์มาคุยกันได้ครับ ple_gto_id17@hotmail.com สาธุ สาธุ สาธุ ทุกคนมีสิทธิ์บรรลุธรรมครับ
 

_________________
ผู้ใดมีตนเป็นที่พึ่งนับว่าหาที่พึ่งอันหาได้ยาก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
มรรคคา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
ตอบ: 77
ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต

ตอบตอบเมื่อ: 17 เม.ย.2008, 11:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จะลองเอาไปทำบ้างก็ได้นะครับ

๑ การยืน

วิธีการปฏิบัติ ให้ยีนตรง ยกมือไขว้หลัง มือขวาจับมือซ้ายไว้ตรงกระเบนเหน็บ หน้าตรง หลับตา สติจับอยู่ที่ศีรษะ กำหนดว่า "ยืนหนอ" ๕ ครั้ง แต่ละครั้งแบ่งเป็นสองช่วง ช่วงแรกคำว่า "ยืน" จิตวาดมโนภาพร่างกายจากศีรษะลงมาหยุดที่สะดือ คำว่า" หนอ" จากสะดือลงไปปลายเท้า แล้วกำหนดขึ้นเมื่อว่า" ยืน" จิตวาดมโนร่างกายจากปลายเท้าขั้นมาที่สะดือ เมื่อกำหนดว่า "หนอ" จากสะดือขึ้นไปบนศีรษะ กลับไปกลับมาจนครบ ๕ ครั้ง ขณะนั้นให้สติอยู่ในกาย อย่าให้ออกไปนอกกาย เสร็จแล้วลืมตา ทอดสายตาไปข้างหน้าประมาณ ๑ วา สติจับอยู่ที่เท้าเตรียมพร้อมที่จะเดิน
 

_________________
มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
มรรคคา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
ตอบ: 77
ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต

ตอบตอบเมื่อ: 17 เม.ย.2008, 11:54 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การเดินจงกรม

เมื่อกำหนด "ยืนหนอ" ๕ ครั้งแล้วจึงตั้งต้นเดินจงกรม

๑)ระยะที่๑

กำหนดว่า "ขวา-ย่าง-หนอ" "ซ้าง-ย่าง-หนอ" โดยปฏิบัติดังนี้ ยกส้นเท้าขวาขึ้นพร้อมกับกำหนดว่า "ขวา" เลื่อนเท้าไปข้างหน้าประมาณ ๑ คืบเป็นอย่างมากพร้อมกับกำหนดว่า "ย่าง" แล้วเหยียบพื้นโดยใช้ปลายเท้าลงก่อน แล้วค่อย ๆ วางส้นเท้าลง กำหนดว่า "หนอ" เท้าซ้ายทำแบบเดียวกันกับเท้าขวา กำหนดว่า "ซ้าย-ย่าง-หนอ"
เมื่อเดินสุดทางแล้วกำหนด "ยืนหนอ" ๕ ครั้ง ดังที่ได้อธิบายมาแล้ว จากนั้นกำหนดกลับโดยกำหนด "กลับ-หนอ" ๔ ครั้ง เมื่อกำหนดครั้งที่ ๑ ให้ยกปลายเท้าขวา ส้นเท้าติดพื้น หมุนส้นเท้าไปทางขวา ๙๐ องศา พร้อมกำหนดว่า "กลับ" แล้ววางปลายเท้าลงกับพื้นพร้อมกำหนดว่า" หนอ" ครั้งที่ ๒ ลากเท้าซ้ายมาชิดเท้าขวา ครั้งที่๓ ทำเหมือนครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๔ ทำเหมือนครั้งที่ ๒ แล้วหลับตากำหนด "ยืน-หนอ" ๕ ครั้ง แล้วจึงเดินต่อไปจนหมดเวลาที่กำหนด
 

_________________
มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
มรรคคา
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 30 มี.ค. 2008
ตอบ: 77
ที่อยู่ (จังหวัด): ภูเก็ต

ตอบตอบเมื่อ: 18 เม.ย.2008, 12:03 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ส่วนการนั่งสมาธิ

ก็ง่ายๆโดยกำหนด พองหนอ ยุบหนอ
หลังจากนั้นก็ตามดูพองยุบไปเรื่อยๆ ถ้ามีเวทนาก็ให้หยุดจากการกำหนด พองยุบ แล้วไปกำหนดเวทนาแทน ไม่ว่าจะเป็น ปวดหนอ เจ็บหนอ หรืออื่น ๆ
เมื่อกำหนดเวทนาหายแล้ว ค่อยกลับไปกำหนด พองยุบต่อ
ถ้ากำลังจะเผลอ ก็ให้กำหนด เผลอหนอ
ถ้าเพลิน ก็กำหนด เพลินหนอ
รู้หนอ ตามดูไปเรื่อยๆไม่ต้องปรุงแต่งใดๆทั้งนั้น
แค่ตามดู ตามรู้ เท่านั้น
น่าจะเริ่มที่ ครึ่งชั่วโมงก่อน

อย่าลืมให้พิจารณาธรรมเฉพาะหน้าเท่านั้น

ลองทำดูก่อนนะครับ ได้ผลอย่างไรก็ค่อยว่ากัน
 

_________________
มีสติสัมปชัญญะกับทุกลมหายใจเข้าออก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 18 เม.ย.2008, 12:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตามรอย พิมพ์ว่า:
RARM พิมพ์ว่า:
ได้แน่นอนครับ ผมเห็นมากะตาตัวเอง แถมเค้ายังมาเล่าอารมณ์ตอนที่เข้าถึงให้ฟังด้วยครับ
สาธุ


เจริญธรรมครับ ข้าพเจ้ามิได้มีเจตน่ไม่ดี เพียงแต่ว่าเคยอ่านหนังสือ
มิลินทปัญหา(แจกในงานพระราชทานเพลิงพระบรมศพ สมเด็จฯย่า
..ตอนที่พระเจ้ามิลินท์ถามพระนาคเสนว่า จะมาเกิดอีกหรือไม่
ท่านก็ตอบว่าถ้าท่านไร้ซึ่งอุปทานแล้วก็จะไม่เกิดอีก(นิพพาน)
ทั้งที่ท่านได้พระนิพพานแล้ว มิได้กล่าวอ้างว่าท่านได้นิพพานแล้วแต่อย่างใด เพราะเป็นสิ่งที่
ไม่ควรพูดเป็นสิ่งที่ชวนให้มาเห็นเองอย่างนี้ๆ..

ครับก็เลยสงสัยว่า เป็นเพียงการกล่าวอ้างหรือไม่

เจริญๆครับ


เรื่องนี้ จะมีใครกล้าเปิดเผยละครับ

แล้วแต่ความเชื่อนะครับ พละ 5 ใครเต็มเมื่อไหร่ ตนเองก็รู้เอง

แค่ผมมาเล่าผมก้ผิดข้อวัตรของผมแล้ว

เพียงแต่ ต้องการให้รู้ว่า การบรรลุธรรมนั้นยังมีอยู่จริง แต่ใครจะถึง หรือทำปฏิบัติอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับความเพียร และ สร้างสมบารมีมาเต็มหรือยัง คุณพ่อผมท่านเต็มแล้วท่านก็เล่าอนุเคราะห์ให้ฟัง

เรื่องอย่างนี้ เค้าจะเล่ากันในวงหรือเฉพาะคนใกล้ชิด

อันนี้ก็พิจารณากันเอาเอง ตามกำลังปัญญา ปกติ พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงสอนให้เชื่อ เลยนี่ครับ

ต้องพิสูจน์ปฏิบัติด้วยตัวเองเสียก่อน แล้วจึงบอกเล่า สิ่งต่างๆ ที่ประสบมาได้

อย่างถูกต้อง

สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
natdanai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 18 เม.ย. 2008
ตอบ: 387
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok

ตอบตอบเมื่อ: 18 เม.ย.2008, 1:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อาจารย์ท่านว่า ถ้าถึงเวลาก็จะอยู่เป็นฆารวาสไม่ได้หรอก มันทนได้ยาก
 

_________________
ตั้งสติไว้ มองความจริงตามความเป็นจริง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2008, 7:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บรรลุได้ หากแต่ต้องบวชครับ เหตุเพราะภาวะที่บริสุทธิ์เกินกว่าเพศฆราวาส จะว่าไปก็ตอบซ้ำกับคุณมรรคาน่ะครับ ท่านพุทธทาสกล่าวว่า นิพพานเป็นภาวะที่มนุษย์สัมผัสได้เป็นเนือง ๆ หากแต่รักษาไว้ไม่ได้ พระอรหันต์ท่านรักษาไว้ได้ตลอดเวลา นั่นจึงบริสุทธิ์กว่าครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
ทศพล
บัวเริ่มพ้นน้ำ
บัวเริ่มพ้นน้ำ


เข้าร่วม: 10 ก.พ. 2008
ตอบ: 153
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ค.2008, 10:41 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ฆราวาสก้อเป็นพระอรหันต์ได้ครับ

แต่ยากกว่าผู้ที่บวช

ดูอย่างพระเจ้าสุทโธทนะไง

สุดท้ายท่านก้อเป็นพระอรหันต์โดยไม่ได้บวช

ขอให้เจริญในธรรมยิ่งขึ้นครับ สาธุ
 

_________________
"ธรรมทาน คือ ทานอันสูงสุด"
"ผู้ที่ฝึกจิต ย่อมนำความสุขมาให้"

http://www.wimutti.net
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
เรือนไม้งาม
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 02 พ.ค. 2008
ตอบ: 6
ที่อยู่ (จังหวัด): สุขุมวิท กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 02 พ.ค.2008, 5:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมลองอ่าน หนังสือเล่มดังกล่าว (หนังสือ นิพพานสำหรับทุกคน) โดย ท่านพุทธทาส สวนโมกขพลาราม จ.สุราษฎร์ธานี ท่านธรรมบรรยายได้ดี มาก ๆ เข้าใจง่าย และเป็นรูปธรรมเห็นผลเดี๋ยวนั้น แถมยังเป็นปิติเลย ครับ ลองดู (เป็นอีกทางเลือกในการมองต่างมุม) สุดท้ายแล้วนั้น อยู่ที่ตัวเราต่างหาก จริง ๆ ครับ สาธุ

ดังนั้น ธรรมะ ก็คือ ธรรมชาติ นั้นเองครับ ลองอ่านข้อความข้างล่างดู นะครับ คัดลอกเพื่อบางส่วนเท่านั้น

....นิพพาน เป็นสิ่งที่มีสำหรับทุกคน ไม่ใช่มีสำหรับสองสามคนหรือไม่กี่คน ถ้ามีได้เฉพาะแก่พระอรหันต์แล้ว พุทธศาสนาก็ไม่มีประโยชน์แก่คนทั่วไป อย่างนี้มันไม่คุ้มค่า เหมือนกับว่าสระน้ำใหญ่ มันก็มีประโยชน์แก่สัตว์ทุกชนิดและทุกขนาด ดังนี้ มันก็คุ้มค่า พระนิพพานก็เหมือนกัน เหมือนกับเป็นสระที่พระพุทธเจ้าท่านขุดไว้ ก็เป็นประโยชน์ได้แก่ทุกคน ตามมากตามน้อย โดยสมบูรณ์เต็มที่หรือโดยบางส่วน ก็ตาม ....

ก็เพราะว่า พระนิพพานเป็นธรรมชาติที่มีอยู่ในที่ทั่วไป เมื่อบุคคลไม่มีความร้อนใด ๆ ก็หมายความว่ากำลังดื่มกิน...พระนิพพาน

ท่านพุทธทาส (ธรรมบรรยาย วันเสาร์ที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2531 ณ ลานหินโค้ง สวนโมกขพลาราม จ.สุราษฏร์ธานี)

และผมสะดุดตาอยู่ประโยคหนึ่งของท่าน แลบลิ้น คือ คือ "สติปัญญา จะพาไปสู่จุดหมายปลายทาง คือ ความสิ้นสุดแห่งกิเลส ไปรับปริญญาของพระพุทธเจ้า คือ หมดราคะ หมดโทสะ หมดโมหะ ลุถึงนิพพาน สิ้นสุดแห่งการว่ายเวียน"

ถ้าเป็นประโยชน์ก็ลองศึกษาดูนะครับ ดีมากๆ เลย สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
การเริ่มต้น....เป็นสิ่งที่ยากที่สุด
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง