Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อยากทราบการไหว้พระพรหมเอราวัณที่เวิลด์เทรดที่ถูกต้องค่ะ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
นิ_mkth
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 ม.ค. 2005, 11:00 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากทราบการไหว้ พระพรหมเอราวัณที่เวิลด์เทรดที่ถูกต้องค่ะ เพราะบ้างทีเห็นมีบางคนที่เค้าเอามือซ้ายจับข้อศอก แล้วใช้มือขวาจับรูปแล้ววาดเป็นวงกลม นั่นคือการไหว์แบบไหนค่ะ แล้วควรใช้รูปกี่ดอกค่ะ ใครทราบรบกวนช่วยตอบด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ
 
9
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 ม.ค. 2005, 11:30 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



ปัจจุบันพราหมณ์กับพุทธชักแยกกันไม่ออกแล้ว
 
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 21 ม.ค. 2005, 6:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สำหรับชาวพุทธแล้ว ไม่มีการไหว้พระพรหม หรอกครับ มีเพียงพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เท่านั้นที่เป็นที่พึ่งของพวกเราทั้งหลายครับ จึงไหว้แต่พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ครับ



เหตุผลที่ไหว้เฉพาะพระพุทธ ก็เพราะ พระพุทธเจ้าท่านหมดกิเลสแล้วครับ

เหตุผลที่ไหว้เฉพาะพระธรรม ก็เพราะ พระธรรมทำให้พระพุทธเจ้าท่านหมดกิเลสครับ และพระพุทธเจ้าท่านก็เคารพในพระธรรม

เหตุผลที่ไหว้เฉพาะพระสงฆ์ ก็เพราะพระสงฆ์ท่านกำลังดำเนินตามคำสอนของพระพุทธเจ้าน่ะครับ เพื่อให้ท่านหมดกิเลสเหมือนกัน



ส่วนพรหมนั้น ถึงจะระงับกิเลสสายราคะไว้ได้ แต่ก็ระงับได้ชั่วคราว อีกทั้งกิเลสสายอื่นเช่นความถือตัว ยังมีอยู่เต็มกระบุง เท่านั้น เราจึงไม่ไหว้ครับ แต่นับถือกันในฐานะเพื่อนร่วมโลก เพราะก่อนจะมาเป็นพรหม เขาก็เป็นมนุษย์อย่างเรามาก่อน แต่มีคุณธรรมของพรหม เมื่อละโลกแล้วก็ไปเป็นพรหมครับ
 
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 22 ม.ค. 2005, 12:38 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พฺรหฺมา กับ พฺรหฺม ในภาษาสันสกฤตมีความหมายต่างกัน คำแรกเป็นคำนามเพศชาย หมายถึง พระพรหมที่มีรูปร่างปรากฏ มีหน้าที่สร้างโลกแทนพระเป็นเจ้าสูงสุด (อีศฺวร)



ส่วนคำที่สองเป็นคำนามไม่มีเพศ หมายถึง ตัวความจริงอันสูงสุด ซึ่งไม่มีคำพูดใดๆจะอธิบายได้ เป็น ตัวความจริง เป็นตัวชญานความรู้ และเป็นสิ่งที่ไม่สิ้นสุด (สตยํ ชฺยานํ อนนฺตํ พฺรหฺม)



ทีนี้ก็ต้องกล่าวไปถึงพระศิวะมีรูป 8 รูป ที่เรารู้ได้ด้วยประสาทสัมผัส รูปหนึ่ง คือ ธาตุแรกที่พระพรหมา ผู้สร้างโลก (น้ำ) รูปหนึ่งคือสิ่งที่นำเครื่องสังเวย (เนยใส เป็นต้น) ที่ผู้ทำพิธีใส่เข้าไปในไฟพิธีไปให้เทพ (ไฟ) รูปหนึ่งคือพราหมณ์ผู้ประกอบยัญพิธี รูปสองรูปคือผู้กำหนดกาลเวลา (พระจันทร์และพระอาทิตย์)



รูปหนึ่งคือ สิ่งที่แทรกซืมอยู่ทั่วจักรวาล และเป็นสิ่งที่ทำให้การได้ยินเสียงเกิดขึ้นได้ (อากาศ) รูปหนึ่งคือสิ่งที่คนทั่วไปเรียกว่าเป็นเชื้อพื้นฐานสำหรับทุกสิ่ง (ดิน) และรูปหนึ่งคือ สิ่งที่สิ่งมีชีวิตทั้งหลายใช้ลมหายใจ (ลม)



เทพสูงสุดของศาสนาพราหมณ์ ได้แก่ พระพรหมา พระวิษณุ และพระศิวะ ซึ่งทำหน้าที่ สร้างโลก รักษาโลกและทำลายโลก ตามลำดับ แทนพระเป็นเจ้าสูงสุด (อีศฺวร) ซึ่งไม่มีรูปร่างปรากฏแต่คงอยู่ชั่วนิรันดร์ เมื่อสิ้นกัลป์ เทพทั้งสามก็จะไปรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพลังที่อยู่ทั่วจักรวาล



ที่กล่าวประวัติพอสังเขปในเบื้องต้นเพื่อให้คุณเข้าใจว่า แท้จริงแล้วสื่อความหมายที่ปรากฏออกมาทางองค์รูปเหมือนของมหาเทพแห่งศาสนาพราหมณ์ ฮินดู ล้วนแล้วแต่เป็นการสื่อความหมายของการฝึกเดินปราณผ่านจักร ประวัติต่างๆก็หมายถึง การปฏิบัติจนเข้าสู่สภาวะแยกธาตุภายในร่างกายจากหยาบไปจนละเอียด



ถามว่า...หากจะกราบไหว้ให้ถูกต้องควรทำอย่างไร...ซึ่งก็หมายถึง ตัวคุณเองต้องประกอบด้วยพรหมวิหาร 4 คือ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา เท่านั้นเอง ไม่ต้องใช้ธูป มือขวาทับมือซ้าย หัวนิ้วแม่โป้งชนกัน จะยืนหรือนั่งสมาธิก็ได้ ทำที่บ้านก็ได้ อยู่ที่จิตคุณเป็นสมาธิขนาดไหน คุณมีสัจจะหรือไม่...เท่านั้นเอง



ศานติ



สิริสัตยา นารัมดา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
เกียรติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 ม.ค. 2005, 10:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรื่องพรหมนี่ ในสมัยพุทธกาลก็มีพูดไว้หลายตอนด้วยกันครับ แต่ผมจะยกตัวอย่างมาสัก 2 ตอน

ตอนที่ 1

สมัยเมื่อกาลเทวินทร์ดาบส ทราบข่าวว่า เจ้าชายสิทธัตถะมาบังเกิดขึ้นแล้ว จึงมาเยี่ยม และเจ้าชายก็แสดงปาฏิหาริย์ลอยตัวไปอยู่เหนือหัวดาบส และดาบสได้พิจารณาลักษณะมหาบุรุษแล้ว จึงทราบได้ทันทีว่า เจ้าชายต้องได้เป็นพระพุทธเจ้าแน่นอน จากนั้นดาบสก็หัวเราะ แล้วก็ร้องไห้ เพราะดีใจพระพุทธเจ้า ทีเคยได้ยินได้ฟังจากบรรพบุรุษสืบทอดกันมา กำลังจะมาอุบัติขึ้นแล้ว แต่ร้องไห้ เพราะตนเองจะตายก่อน และจะต้องไปบังเกิดเป็นอรูปพรหม คือ พรหมอีกประเภทหนึ่ง เพราะอรูปพรหม จะไม่สามารถจะมาฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าได้ จึงจะไม่อาจบรรลุธรรมได้ครับ ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่จะรู้ว่า พระพุทธเจ้าจะมาบังเกิดขึ้น กาฬเทวินทร์ดาบสย่อมจะดีใจที่จะได้เป็นอรูปพรหม แต่พอรู้ว่า จะมีสิ่งสูงกว่านั้นมา และตนเองไม่มีโอกาส เจอจึงได้แต่เสียใจ เพราะต้องไปรอให้หมดบุญจากอรูปพรหม มาสร้างบุญใหม่ เผื่อจะได้เจอพระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ซึ่งก็ไม่รู้เมื่อไหร่

ตอนที่ 2

พรหมผู้หนึ่งหลงไหลได้ปลื้ม กับบุญฤทธิ์ของตนเอง ว่าตนเองมีอานุภาพมาก ไม่มีที่ไหนในภพสามที่ตนต้องการไป แล้วตนจะไปไม่ได้ ไม่มีใครที่ตนอยากพบตัว แล้วจะพบไม่ได้ มีครั้งหนึ่ง พระพุทธเจ้าจึงได้เสด็จมาปราบทิฐิของพรหมนั้น โดยบอกพรหมว่า ให้พรหม หายตัวไปที่ไหนก็ได้ แล้วพระองค์จะตามไปปรากฏที่นั่นทันที พรหมไม่มีทางจะไปพ้นจากพระพุทธองค์ได้

พรหมไม่เชื่อ จะหายตัวไปในที่ต่างๆ ของภพสาม แต่ปรากฎว่า ไม่ว่าจะหายไปปรากฏที่ไหน พระพุทธเจ้าท่านก็ไปปรากฏในที่นั้นทันทีเหมือนกันทุกๆ ที่เลย

คราวนี้พระพุทธเจ้าตรัสว่า เราจะหายตัวไปมั่ง ท่านตามหาให้พบนะ ว่าแล้วพระองค์ก็หายตัวไป ปรากฏว่าพรหมไม่สามารถหาตัวพบได้ครับ (ตำรากล่าวว่าพระองค์หายไปจากภพสาม สู่พระนิพพาน) แล้วพระพุทธองค์ก็กลับมา

พรหมจึงละทิฐินั้นลงได้ครับ
 
นิ_mkth
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 21 ม.ค. 2005
ตอบ: 1

ตอบตอบเมื่อ: 25 ม.ค. 2005, 5:33 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมตอบคำถามนะคะ ตอนนี้เข้าใจขึ้นมากเลยค่ะ ที่ถามก็เพราะสงสัยนะคะ วันนั้นผ่านไปเวิลด์เทรด เห็นมีคนเข้าไปไหว้เยอะ ก้อเลยแวะเข้าไปไหว้ เลยเห็นมีคนไหว้แปลกๆ ก็เลยเกิดความสงสัยค่ะ ขอบคุณทุกท่านนะคะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
mk
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 29 ม.ค. 2005, 2:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตั้งคำถามแก่ตัวท่านเองว่า

ทำไม พระพรหม มีอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง มีการบนบานสารกล่าวกันด้วยพระพรหม เป็นใคร ถึงได้มีคนไป ขอ และบนบานกันและ บางครั้งก็ ถวายหัวหมู ถวาย ไก่ เป็ด พระพุทธเจ้า ทรงเคารพพรหมทรง เคารพ สักการะพรหม พระพรหมที่แท้จริงและพระพุทธองค์ไม่เคยที่จะปฏิเสธพระพรหมที่แท้จริง แต่ตรงกันข้าม พระองค์ทรงบอกหนทางที่จะไม่สู่พรหมด้วยท่านอ่านพระไตรปิฏกซิครับ อ่านให้หมดทั้ง 45 เล่มอ่านอย่างวิเคราะห์ อ่านซิครับ อย่ามามัวคุยกันโดยยึดติดอยู่กับลัทธินิกายอย่างนี้ ถามตัวท่านเอง ว่าท่านอยู่ใน คำสั่งสอนที่แท้จริงของพระพุทธองค์ หรือตอนนี้ท่านอยู่ในคำสั่งสอนของลัทธินิกาย

ไม่ใช่พระพรหม สี่หน้าที่เป็นวัตถุธาตุอย่างที่เห็นกันอันนั้นต่างหากที่ พระพุทธองค์ มาเพื่อปฏิเสธแต่ทรงเคารพ สักการะพรหม พระพรหมที่แท้จริง และทรงชี้มางเราไปสู่ พระพรหมที่แท้จริง ไม่ใช่พระพรหม จอมปลอมสี่หน้าที่กราปไหว้กันอยู่นี้ใครท่านสงสัย และศึกษาดูว่าพระพรหม เป็นใคร ถึงมีผู้คนไปบนบาน และขอสิ่งต่างๆถ้าท่านต้องการรู้จริงๆก็เมลมาได้ผมจะบอกให้

ไม่ใช่พระพรหม สี่หน้าที่เป็นวัตถุธาตุอย่างที่เห็นกัน เพราะพระพรหมอย่างนี้ที่พระพุทธองค์ทรงปฏิเสธพระพรหมที่แท้จริงไม่ใช้พระพรหมสี่หน้าพระพรหมที่แท้จริง ไม่พึ่งพา ดอกไม้ ธูปเทียน หรือของเส้นว่ายใดๆทั้งสิ้น

ถ้าท่านเป็นผู้ที่แสวงหา แก่น ธรรมจริงๆ ท่าน จะต้อง สร้างความสงสัย และศึกษาให้เป็นที่ประจักชัด อย่า มัว มาสนทนากันแบบ ผิวเผินเช่นนี้

และพระศิวะไปเกี่ยวกับ พระนิพพาน อย่างไร และ พระพรหม กับพระนิพพาน คืออะไร สร้างความสงสัยตามที่พระพุทธองค์ได้บอกไว้ พร้อมทั้ง ศึกษาและแสวงหาความรู้อย่างจริงจังให้เป็นที่ประจักชัด

พระนิพพาน พระผู้เป็นเจ้าสูงสุด ปทานุกรม ปี2470 หอสมุดแห่งชาติ

ท่านไปอ่านดูเพิ่มเติมที่ เตวิชชสูตร ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค พระสุตตันตปิฏก เล่มที่ 1

ท่านอ่านและวิเคราะห์ดูให้ดี ว่า พระพุทธองค์ได้กล่าวกับ วาเสฏฐะ ว่าอย่างไร

และท่านถ้ารู้ภาษาอังกฤษ เทียบดูได้ในสูตรเดียวกัน เป็นภาษาอังกฤษ

ท่านจะเห็นชัดเจนยิ่งขึ้น ดูที่ http://www.buddhistinformation.com/ida_b_wells_memorial_sutra_library/tevijja_sutta.htm

และดูเพิ่มเติมที่ พระสุตตันตปิฏก เล่มที่ 17 ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท

-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต คาถาธรรมบท ชราวรรคที่ 11

 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง