Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เป็นเหน็บชาระหว่างนั่งสมาธิ/กรรมฐาน อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
น้อม
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ก.พ. 2008
ตอบ: 58
ที่อยู่ (จังหวัด): England

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.พ.2008, 2:49 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มีข้อสงสัยค่ะ ผู้รู้ช่วยตอบด้วย
ว่า ในระหว่างนั่งสมาธิ/กรรมฐาน แล้วเกิดเหน็บชาที่ขา ควรนั่งต่อไปเรื่อยๆ หรือเปลี่ยนเป็นเดินจงกลม คะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.พ.2008, 8:12 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน


อ้างอิงจาก:
มีข้อสงสัยค่ะ
ว่า ในระหว่างนั่งสมาธิ/กรรมฐาน แล้วเกิดเหน็บชาที่ขา ควรนั่งต่อไปเรื่อยๆ หรือเปลี่ยนเป็นเดิน
จงกลม คะ

น้อม
06 ก.พ.2008, 2:49 am


การฝึกอบรมจิตหรือการปฏิบัติกรรมฐานนั้น เป็นเรื่องละเอียดอ่อน

เป็นสภาวะเฉพาะตัวผู้ปฏิบัติเอง

ครั้นจะให้คำตอบโดยไม่ซักถามเพื่อให้แน่ใจก่อน ขืนตอบไปส่งๆโดยไม่มีข้อมูล

ที่เขาผู้นั้นปฏิบัติอยู่ คงไม่เป็นผลดีและไม่เป็นประโยชน์ต่อผู้ปฏิบัติเองนัก

ก่อนตอบคำถามเรื่องเช่นนี้ กรัชกายมักถามก่อนเสมอเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจน

เช่นตัวอย่างนี้ก็คงถามอีกแหละว่า ใช้กรรมฐานอะไร นั่งซักกี่นาทีได้ขาจึงเป็นเหน็บ

เดินจงกรมยังงัย ทำกรรมฐานมานานเท่าไหร่แล้ว
เป็นต้น

จึงดูประหนึ่งว่า กรัชกายจู้จี้จุกจิก ถามอะไรนักไม่รู้อีตาบ้าน่ารำคาญ อายหน้าแดง

ขอบอกเป็นครั้งที่เท่าไหร่จำไม่ได้แล้วว่า การตอบปัญหาเรื่องกรรมฐาน

ต่างจากถามๆตอบๆ เรื่องจริยธรรมอื่น เช่น เรื่องศีล ทอดกฐิน ทอดผ้าป่า ปล่อยปลา ปล่อยนก
ฯลฯ คนละเรื่องคนละแนวกันทีเดียว ดังขาวกับดำ ฉะนั้น

กรัชกายจึงต้องรับผิดชอบในการให้คำตอบ หากไม่แน่ใจอยู่เฉยๆได้กุศลจิตมากกว่า

..........

ครั้งต่อไป มีอะไรสงสัยเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก คุณน้อมเข้าตามลิงค์นี้ ตั้งคำถามไว้ได้ครับ

http://www.free-webboard.com/index.php?user=vipassanatipani

 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.พ.2008, 10:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

นั่งไปเรื่อยๆ จนกว่าจะหายชา ใหม่ๆ ก็อย่างนี้แหละครับ ยังไม่ชินกับของใหม่ คือการทำสมาธิ

เพียงแต่ทำความรู้จัก และสังเกตอาการต่างๆ ให้ดี อาการเหล่านั้นจะหายไปเองครับ

สบาย สบาย เบริดๆๆ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
น้อม
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ก.พ. 2008
ตอบ: 58
ที่อยู่ (จังหวัด): England

ตอบตอบเมื่อ: 07 ก.พ.2008, 12:35 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
muntana
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 10 ม.ค. 2008
ตอบ: 108
ที่อยู่ (จังหวัด): bangkok , Thailand

ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.พ.2008, 4:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เคยได้ทราบจากผู้รู้ และ อาจารย์บางท่าน กล่าวว่า การเกิดอาการปวด เมื่อย เจ็บ หรือ คันโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นเพราะมีวิบาก หรือ มารมารบกวนการปฎิบัติ ให้อดทนการทำสมาธิต่อไป ภายหลังสวดมนต์ และ ควรต้องอุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาให้เจ้ากรรม นายเวร อาการดังกล่าวจะค่อย ๆ หายไปเอง ภายหลังจากสมาธิ ควรอุทิศ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ถึงบุญกุศลที่ได้บำเพ็ญมา แลบลิ้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
น้อม
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ก.พ. 2008
ตอบ: 58
ที่อยู่ (จังหวัด): England

ตอบตอบเมื่อ: 09 ก.พ.2008, 6:37 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณค่ะ สาธุ คุณ muntana ดิฉันก็ทำอยู่ค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กาลัญญุตา
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 19 ก.พ. 2008
ตอบ: 3

ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2008, 12:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาเดียวกับท่านเจ้าของกระทู้ พอได้เข้ามาอ่านก็ทำให้ได้ประโยชน์มากค่ะ ขออนุโมทนาแด่ท่านที่ตอบและเจ้าของกระทู้ที่ตั้งกระทู้ที่มีประโยชน์ต่อดิฉันนะคะ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
1เอง
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 29 ต.ค. 2007
ตอบ: 43
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2008, 12:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คือไงหละครับ เอางี้ก็แล้วกัน ถ้าจะให้เป็นแบบเข้มข้นก็ให้ทำสมาธิต่อไปเลยโดยไม่ต้องไปสนใจกะอะไรทั้งสิ้น แม้แต่เหน็บชานั้น
แต่ถ้าทนไม่ไหวจริงๆก็ขยับเปลี่ยนท่านั่งได้โดยครองสติในปัจจุบันไว้ด้วยก็ได้นะคับ แต่ผมจะแนะนำแบบเข้มข้นนะครับ เพราะถ้าไม่เข้มข้นแล้วกิเลสมันจะคอยหลอกใจเราว่ามันทนไม่ไหวแล้วให้เปลี่ยนท่านั่งเสียเถอะ
และถ้าเรานั่งสมาธิต่อไปเรื่อยโดยไม่สนใจอะไรแล้วเหน็บชานั้นมันก็จะหายไปเองแหละคับ
ลองดูนะครับ
เจริญในธรรมครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
สุรเชฏฐ์ ไลตระกูล
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 24 ก.พ. 2008
ตอบ: 24
ที่อยู่ (จังหวัด): นครปฐม

ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2008, 1:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เวลานั่งสมาธิ เป็นเหน็บชาบ่อย เคยอ่านเจอจากหนังสือ ว่าการนั่งสมาธิแล้วเกิดเหน็บชา สิ่งนี้เรียกว่า เวทนา ให้เราใช้จิต พิจารณา เวทนาที่เกิดขึ้น แต่อย่าเอาจิตเราไปติดกับเวทนานั้น ทำไปเรื่อยๆเราจะไม่รู้สึกลำบากเวลาเกิดเหน็บ แต่ไม่ใช่ว่าเหน็บมันไม่เกิด ตอนนี้ฝึกปฏิบัติอยู่
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
Candy
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 21 ก.พ. 2008
ตอบ: 28

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.พ.2008, 9:48 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

muntana พิมพ์ว่า:
เคยได้ทราบจากผู้รู้ และ อาจารย์บางท่าน กล่าวว่า การเกิดอาการปวด เมื่อย เจ็บ หรือ คันโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นเพราะมีวิบาก หรือ มารมารบกวนการปฎิบัติ ให้อดทนการทำสมาธิต่อไป ภายหลังสวดมนต์ และ ควรต้องอุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาให้เจ้ากรรม นายเวร อาการดังกล่าวจะค่อย ๆ หายไปเอง ภายหลังจากสมาธิ ควรอุทิศ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ถึงบุญกุศลที่ได้บำเพ็ญมา แลบลิ้น


จริงด้วยค่ะ เคยนั่งแล้วรู้สึกว่าคันที่หูข้างซ้าย ใจก็นึกถึงคำพูดที่เคยได้ยินมาว่า มารมาผจญ เลยอธิษฐานจิต สักพัก หาย และไปคันด้านขวาแทน ก็อธิษฐานจิตเหมือนเดิม ทีนี้ มันก็หาย ไม่ทราบว่าเกิดจากที่เราอดทนหรือเปล่านะ
 

_________________
หนทางสว่างด้วยแสงไฟ จิตใจสว่างด้วยแสงธรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.พ.2008, 9:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Candy พิมพ์ว่า:
muntana พิมพ์ว่า:
เคยได้ทราบจากผู้รู้ และ อาจารย์บางท่าน กล่าวว่า การเกิดอาการปวด เมื่อย เจ็บ หรือ คันโดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นเพราะมีวิบาก หรือ มารมารบกวนการปฎิบัติ ให้อดทนการทำสมาธิต่อไป ภายหลังสวดมนต์ และ ควรต้องอุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาให้เจ้ากรรม นายเวร อาการดังกล่าวจะค่อย ๆ หายไปเอง ภายหลังจากสมาธิ ควรอุทิศ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ทั้งหลาย ถึงบุญกุศลที่ได้บำเพ็ญมา แลบลิ้น


จริงด้วยค่ะ เคยนั่งแล้วรู้สึกว่าคันที่หูข้างซ้าย ใจก็นึกถึงคำพูดที่เคยได้ยินมาว่า มารมาผจญ เลยอธิษฐานจิต สักพัก หาย และไปคันด้านขวาแทน ก็อธิษฐานจิตเหมือนเดิม ทีนี้ มันก็หาย ไม่ทราบว่าเกิดจากที่เราอดทนหรือเปล่านะ


ที่จริงแล้ว จิตมันเปลี่ยนที่ หรือความรู้สึกแล้ว เพราะมีความคิดมาแทรกแทนอาการคัน

จิตมันก็เลยไม่ได้ใส่ใจกับ อาการคัน แต่มาอยู่ที่ความคิดแทน ก็เท่านี้เอง

อ้อ แต่ถ้าจิต มีสติ หรือ สมาธิ(กำลังเพียงพอ) จิตจะเห็นอาการคือ ไตรลักษณ์ ของ อาการคันหรืออาการต่าง ๆ นั้นนั่นเอง ตรงนี้ จะเริ่มเข้าวิปัสสนา แต่ ยังไม่ใช่วิปัสสนาญาน เป็นเพียง วิปัสสนา เฉย ๆ คือ เห็น ไตรลักษณ์นั่นเอง

ถ้าทำบ่อย ๆ เห็นบ่อย ๆ จะเห็นการเกิดดับ หรือ อุทยัพยานุปัสสนาญาน นั่นเอง

แฮะๆๆ ยาวเลย ก็ผม ปฏิบัติมาอย่างนี้ครับ ท่านอาจารย์สอนมาอย่างนี้ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
น้อม
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ก.พ. 2008
ตอบ: 58
ที่อยู่ (จังหวัด): England

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.พ.2008, 2:19 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เล่าความคืบหน้าค่ะ
ตั้งแต่ตั้งกระทู้ถามไว้ แล้วก็ทำตามที่เพื่อนเวป แนะนำ ตอนนี้นั่งได้นานขึ้นแล้วค่ะ แต่ก็ไม่เคยได้เกิน 1 ชม. ซักที

เพื่อนๆ นั่งกันได้นานสุดกี่นาทีคะ แล้วนั่งปุ๊บจิตใจแน่วแน่เลยหรือปล่าวคะ กว่าดิฉันจะตั้งสติให้สงบได้ นั่งไปนานแล้วเหมือนกัน จิตเหมือนลิง ขำ

ขอบคุณคุณ RARM ด้วยค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ธรรมวุธ เปรมจิตร
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 06 ธ.ค. 2007
ตอบ: 7

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.พ.2008, 10:10 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



มือ.jpg


สาธุ..โมทนาบุญครับคุณน้อม.. สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.พ.2008, 3:10 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

น้อม พิมพ์ว่า:
เล่าความคืบหน้าค่ะ
ตั้งแต่ตั้งกระทู้ถามไว้ แล้วก็ทำตามที่เพื่อนเวป แนะนำ ตอนนี้นั่งได้นานขึ้นแล้วค่ะ แต่ก็ไม่เคยได้เกิน 1 ชม. ซักที

เพื่อนๆ นั่งกันได้นานสุดกี่นาทีคะ แล้วนั่งปุ๊บจิตใจแน่วแน่เลยหรือปล่าวคะ กว่าดิฉันจะตั้งสติให้สงบได้ นั่งไปนานแล้วเหมือนกัน จิตเหมือนลิง ขำ

ขอบคุณคุณ RARM ด้วยค่ะ


อย่า ไปคิดว่า จะนั่งนาน เท่าโน้น นานเท่านี้ ทำไปเรื่อย ครับ ของให้จิตอยู่ที่คำบริกรรม หรือกัมมัฏฐานที่เราฝึก รักษาสติไปเรื่อย ๆ ครับ แล้วจะเกิดความสงบขึ้นมาเอง ถ้ามีความคิดก็อย่าบังคับไม่ให้คิด ให้ตามดูเฉย ๆ ตอนแรกก็ไม่ได้ (จิตก็เหมือนกับ ลิงที่ยังไม่ได้ถูกฝึกและครับ )เมื่อสุดเรื่องที่คิดแล้วก็กลับมาที่กัมมัฏฐานของเราต่อ คือบริกรรมนั้นเอง

อันนี้เป็นการฝึกสมาธิเบื้องต้นครับ ผมก็ยังฝึกเบื้องต้นอยู่เลย 8 ปีแล้วครับ ใช้อานาปานสติครับ เป็นส่วนใหญ่ รองลงมาก็ ท่อง อาการ 32 เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง แล้วก็นั่งแยกเป็นส่วนๆ

ก็ดีบ้าง ไม่ดีบ้าง

ค่อยๆ ฝึกไปนะครับ ใจเย็น ๆ แต่ที่สำคัญที่สุด คือ ทำทุกวัน อย่าได้เว้นเป็นอันขาด

สร้างปฏิปทาให้แน่นแฟ้นครับ สาธุ

ขออนุโมทนาด้วยครับ

ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้นด้วยเศียรเกล้า

..
สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
น้อม
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ก.พ. 2008
ตอบ: 58
ที่อยู่ (จังหวัด): England

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.พ.2008, 11:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณค่ะ คุณ RARM ๆ (หรือใครก็ได้ค่ะ) ศึกษามาเยอะกว่าดิฉัน ช่วยสงเคราะห์อธิบายหน่อยเถอะค่ะ ว่า

1. อานาปานสติ เนี่ยแปลว่าอะไรคะ แล้วเกี่ยวข้องอย่างไรกับการนั่งสมาธิ

2. ท่อง อาการ 32 เช่น ผม ขน เล็บ ฟัน หนัง แล้วก็นั่งแยกเป็นส่วนๆ ช่วยอธิบายหน่อยค่ะ

ขอคำตอบแบบสอนเด็ก 7 ขวบ นะคะ ยิ้มเห็นฟัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
RARM
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2007
ตอบ: 417

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.พ.2008, 11:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

1. อานา คือการ ฝึกสมาธิแบบใช้ การดูลมหายใจเข้าและออกครับ ให้มีสติอยู่กับลมที่เข้าออกตลอกเวลาไม่ให้เผลอ

2. ท่องอาการ 32.จนชำนาญทั้งไปและกลับ แล้วพิจารณาแยกออกเป็นส่วน ว่านี่ ธาตุดิน นี่น้ำ นี่ไฟ นี่ลม ไปๆมาอยู่อย่างนี้จนกว่า ิจิตจะเห็นตามเป็นจริงครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 01 มี.ค.2008, 8:09 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ้างอิงจาก:
ตั้งแต่ตั้งกระทู้ถามไว้ แล้วก็ทำตามที่เพื่อนเวป แนะนำ ตอนนี้นั่งได้นานขึ้นแล้วค่ะ แต่ก็ไม่เคยได้เกิน 1 ชม. ซักที
เพื่อนๆ นั่งกันได้นานสุดกี่นาทีคะ แล้วนั่งปุ๊บจิตใจแน่วแน่เลยหรือปล่าวคะ กว่าดิฉันจะตั้งสติให้สงบได้ นั่งไปนานแล้วเหมือนกัน จิตเหมือนลิง

น้อม
29 ก.พ.2008, 2:19 am



เพราะความที่จิตเหมือนลิงนี่แหละเราจึงต้องฝึกงัยครับ จิตที่ฝึกดีแล้วนำสุขมาให้

อย่างน้อยก็ฝึกให้อยู่กับกรรมฐานที่ใช้ และจะให้ดีขึ้นไปอีก พึงตามดูรู้ทันความคิดด้วย

กำหนดทันความคิดแต่ละขณะๆ

นั่งเต็มที่ 1 ชม. ก็พอแล้วครับ แต่ทำหลายๆ รอบ เดินจงกรมแล้วนั่ง นั่งแล้วเดินจงกรม

สลับไปมาอย่างนี้ หากมีเวลามากพอ

จะให้นั่งปุ๊บจิตเกาะกรรมฐานเลย คงต้องฝึกบ่อยๆ จนจิตเชื่องและมีความชำนาญ

เมื่อเชื่องแล้ว เพียงนึกถึงกรรมฐานก็เกาะกรรมฐานได้แล้วล่ะครับ ซึ้ง
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
น้อม
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ก.พ. 2008
ตอบ: 58
ที่อยู่ (จังหวัด): England

ตอบตอบเมื่อ: 02 มี.ค.2008, 4:05 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณค่ะ คุณ RARM และ คุณ กรัชกาย ค่ะ

งั้นดิฉันมาถูกทางแล้วเพราะกำลังใช้วิธีอานาปานสติ และพยายามฝึกทุกวันค่ะ ยิ้ม
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
กรัชกาย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 24 ต.ค. 2006
ตอบ: 2348

ตอบตอบเมื่อ: 02 มี.ค.2008, 8:24 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน


ให้ข้อสังเกตคุณน้อมไว้ว่า เมื่อเราปฏิบัติกรรมฐาน หมั่นสำรวจจิตใจตนเอง

ว่าเดี๋ยวนี้กับเมื่อก่อนจิตใจเราสงบขึ้นกว่าเดิมไหม

มีความสุขหลังจากการปฏิบัติไหม

ตามดูรู้ทันความคิดได้เร็วขึ้นหรือไม่ ฯลฯ

หากว่า เป็นไปในทางบวก คือ ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน จิตใจสงบเย็นขึ้น

มีความสุขกายสุขใจเนื้อตัวโล่งเบาสบาย จากกระทำแบบนี้ ก็ได้ผลระดับหนึ่งแล้วล่ะครับ

ทำต่อไป ฝึกต่อไป เพราะอย่างน้อยเราก็อยู่เป็นสุขในปัจจุบันชาตินี้แล้ว

ได้ที่พึ่งภายในตนเองแล้ว สาธุ




ถ้างั้นกรัชกายขอทดสอบอารมณ์กรรมฐานคุณน้อมดูหน่อย

ด้วยการให้เข้าไปอ่านที่บอร์ดเวปไซต์นี้

http://larndham.net/index.php?showforum=14

เพราะมีหลากหลายวิธีปฏิบัติ หลายความเห็น

หรือจะตั้งกระทู้ถามวิธีที่เราปฏิบัติที่บอร์ดนั้นด้วยก็ดี

ดูสิว่ายังมั่นใจมั่นคงต่อวิธีปฏิบัติที่ตนทำอยู่ไหม

สังเกตจิตใจตนด้วยว่ารู้สึกอย่างไร

ลองดูครับ
ปรบมือ
 

_________________
สติ-การนึกไว้,การคุมจิตไว้กับอารมร์,การคุมจิตไว้กับกิจที่กำลังกระทำ-สัมปชัญญะ-การรู้ชัดสิ่งที่นึกไว้,การรู้ชัดสิ่งที่กำลังกระทำนั้น-ท่านเรียกว่าผู้มีสติสัมปชัญญะหรือมีสติปัญญา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
น้อม
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 02 ก.พ. 2008
ตอบ: 58
ที่อยู่ (จังหวัด): England

ตอบตอบเมื่อ: 03 มี.ค.2008, 11:43 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณค่ะคุณกรัชกาย
ขอตอบคำถามนะคะ จากการอ่านคร่าวๆ (สแกน) ในเวปบอร์ด รู้สึกว่าไม่ใช่แค่ดิฉันคนเดียวที่สงสัยเยอะไปหมด ยิ้มเห็นฟัน และรู้สึกว่ามีเพื่อนร่วมทางกะเค้าแล้วค่ะ (ขั้นอนุบาล) ที่สำคัญ ถ้าอ่านๆ จากกระทู้เก่าๆ ก็ได้คำตอบที่สงสัย ไม่ต้องมาตั้งคำถามให้ผู้รู้ต้องตอบซ้ำๆ ด้วย
ขอบคุณอีกครั้งค่ะที่พาไปเที่ยวอีกเวป ดีมากๆ ค่ะ ยิ้ม

ค่ะโดยส่วนตัวแล้วรู้สึกว่ามีสมาธิในการสิ่งใดๆ และรู้จักให้อภัยคนอื่นมากขึ้นค่ะ ทั้งนี้ดิฉันทำเกือบทุกวันนะคะ ดังที่พระมานะโพ สอนไว้ว่า การนั่งสมาธิควรทำทุกวัน เหมือนกับการออกกำลังกาย ที่ต้องทำทุกวัน
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง