จะรู้ได้ยังไงว่าเราควรจะแต่งงานกับคนนี้ไหม

ตอบเมื่อ: 21 ก.พ.2008, 1:27 pm

การที่คุณจะแต่งงานกับใครซักคน

จะมีเหตุผลอะไร???

ตอบเมื่อ: 21 ก.พ.2008, 3:05 pm

ลักษณะของ “คู่สร้างคู่สม” (เสฐียรพงษ์ วรรณปก)
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14647

อันเนื่องในวันแห่งความรัก : “ที่ใดมีรัก....ที่นั่นมีทุกข์” ?
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14844

เหตุแห่งความรัก
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14832

ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10597

ตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2008, 12:26 pm

ส่วนใหญ่ที่ แต่งเพราะ"หน้ามืดไปด้วยความรัก"ทั้งนั้น
ไม่ได้มองหน้า-มองหลัง กันสักเท่าไหร่ แม้มองก็นิดน้อย
เขาไม่ดี ก็เอาความดีไปโปะไว้หมด..หักกลบลบกัน สุดท้ายเขาก็เป็นบวก
อย่าให้ความรักมามีอำนาจเหนือเราค่ะ
ทุกอย่างลองปล่อยมันไป"อย่าวิ่งตาม"หรือ "ค้นหา"

ไม่คุ้มค่าเลยที่"ชีวิตเราจะมัวคิดฝันหรือฝักไฝ่กับเรื่องนี้"
ได้เกิดมาเป็นคนแล้ว ทำชาตินี้ให้ดีจะดีกว่า สาธุ

ตอบเมื่อ: 22 ก.พ.2008, 12:29 pm

สาธุกะคุณมดด้วยคับ ปรบมือให้

ตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2008, 4:17 pm

ตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2008, 9:46 pm

จะแต่งกับใคร ต้องรักด้วยใจ ดูความเหมาะสม รักด้วยใจคือเราเข้าใจกัน มีความเมตตา ห่วงใยกัน แม้คนๆนี้อีกห้าปี สิบปี เขาจะพิกลพิการไป เราก็ยังรัก อยากรักและดูแลเขา ส่วนความเหมาะสม คือ ลักษณะทางสังคม ที่อยู่ อาชีพ อื่นๆ ถ้าหากปัจจัยด้านนี้แตกต่างกันเกินไป มันจะนำมาซึ่งความทุกข์ แม้จะรักกันขนาดไหน ถ้ามีทุกข์ รักนั้นจะไม่สุขเท่าที่หวัง

ตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2008, 11:34 pm

ลองพิจารณาดูนะคะ..ว่ามีสิ่งเหล่านี้เสมอกันหรือไม่ อืมม์

ศรัทธา : ความเชื่อที่เป็นไปในทางเดียวกันหรือไม่

เช่น เชื่อเรื่องวิบากกรรม เชื่อในองค์ศาสดาเดียวกัน รึเปล่า?

ศีล : ความคิดงดเว้นข้อปฏิบัติ เป็นเหตุให้ไม่รังเกียจกัน

เช่นคนหนึ่งไม่ดื่มสุรา แต่อีกคนหนึ่งเช้าค่ำหัวราน้ำ
หรืออีกคนเมตตากรุณาชอบเลี้ยงสัตว์
อีกคนเห็นยุงทีไรอดไม่ได้ต้องตบ เห็นหมาต้องเตะ

หรือ อีกคนรักเดียวใจเดียว ชีวิตนี้มีแต่เธอ ไม่มีวันเปลี่ยน
ในขณะที่อีกฝ่าย เจ้าชู้ประตูดิน แม้สาวแก่แม่หม้ายก็ไม่เลือก

อย่างนี้...ก็เห็นทีจะไปกันไม่รอด

จาคะ : ความนิยมเป็นผู้ให้
มีน้ำใจในทางใดทางหนึ่งใกล้เคียงกัน

ยิ่งถ้ามีอุปนิสัยนิยมทำบุญทำทานเหมือนกัน ยินดีต่อกันสละเหมือนกัน
ย่อมจะสร้างความรู้สึกซาบซึ้งใจ และประคับประคองชีวิตร่วมกันไปได้

ปัญญา (ทางธรรม) ใกล้เคียงกัน

คือมองเห็นความเป็นจริงของสรรพสิ่งในโลกได้ใกล้เคียงกัน
คุยกันได้รู้เรื่อง เข้าใจ และยอมรับในเหตุผลของกันและกันได้

รวมความแล้วเขาเรียกว่ามี "ภูมิธรรม" เสมอกันน่ะค่ะ

อย่างไรก็ตาม มีผู้รู้กล่าวไว้ว่า
หากเราเคยมีกรรมสัมพันธ์เคยครองเรือนกับผู้มีบุญเสมอกันทั้ง ๔ ข้อ
และได้มาเจอะเจอกันอีกในชาติภพนี้
ก็จะมีแรงดึงดูดให้เกิดความรู้สึกคุ้นเคย และรู้สึกดีดีอย่างน่าฉงน

แต่นั่นหมายความว่า
หากปรารถนาจะครองคู่ร่วมกันอย่างเป็นสุข
และลดความเสี่ยงต่อการผจญวิบากในอดีต (หากมี)
ที่อาจทำให้ต้องพลัดพรากจากเป็นกัน (ก่อนเวลาอันควร)
(ส่วนจากตาย...ยังไงก็เลี่ยงไม่ได้)
ก็ต้องมีการสร้างเหตุปัจจัยที่จะสานต่อกรรมดีร่วมกันใหม่
เกื้อกูลกันต่อไปอีกด้วยค่ะ

ไม่ง่ายนักนะคะที่จะพบเจอคนที่มีคุณสมบัติเช่นนี้

บางทีทั้งชีวิตไม่เคยมีแฟน
ตั้งใจจะครองตัวเป็นโสด ปฏิบัติธรรมไปจนสุดสายปลายทาง
แต่กรรมก็จัดสรรให้ต้องมาเจอะเจอ
เอาตอนกำลังปฏิบัติธรรม...หรือกำลังซึ้งในธรรมก็มีออกถมไป
และนี่...มักเป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ของนักปฏิบัติทั้งหญิงชายที่ต้องเจอ
เพราะเป็นกรรมสัมพันธ์
ที่แม้นไม่ต้องแสวงหา...มันก็มาเอง ตกใจ

แต่ทั้งนี้ก็อยู่ที่ตัวเราว่าจะเลือกเส้นทางใด
หรือผสานทั้งสองทางให้เป็นหนึ่ง ...ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

แต่ก็ไม่ยากจนเกินไปหากยังปรารถนาการครองคู่
และอยู่เป็นกัลยาณมิตรของกันและกัน
โดยช่วยเหลือเกื้อกูลและส่งเสริมในการปฏิบัติธรรมร่วมกันตลอดไป
เพื่อสร้างบารมีกับคนที่มีกรรมสัมพันธ์และมีภูมิธรรมเสมอกัน

แต่....สำหรับขณะนี้
หากยังไม่พบใครที่เข้าข่ายที่ว่า
จะเป็นการดีกว่าหรือไม่
ที่จะปฏิบัติธรรม ทำทาน ถือศีล เจริญภาวนา ของเราไปอย่างมีจิตอิสระ
ไม่ต้องไปผูกพันกับใครให้เกิดนิวรณ์
ไร้ข้อผูกมัด หรือพันธะสัญญาใดใด
ดีกว่ากันเป็นไหนๆ...

จะแสวงหาไปใยกันคะกับ "เงา"
ที่ยิ่งคว้า...ก็ยิ่งหนี
เพราะในความเป็นจริง....ตัวตนจริงๆ ที่เราค้นหา...
อาจหาไม่เจอ...ในชาติภพนี้ก็เป็นได้

ดอกไม้

ตอบเมื่อ: 06 มี.ค.2008, 2:03 pm

ต้องตอบคำถามให้ได้ก่อนว่า
1. ต้องการใช้ชีวิตร่วมกันเพื่ออะไร
2. ต้องการแต่งงานเพื่ออะไร
3. ยอมรับในนิสัยที่ยังไม่รู้ของฝ่ายตรงข้ามได้หรือไม่
4. ยอมรับความเปลี่ยนไปของนิสัยฝ่ายตรงข้ามได้หรือไม่
5. ฐานะทางการเงินของครอบครัวจะเป็นอย่างไร

ตอบเมื่อ: 21 มี.ค.2008, 2:02 pm

การที่คุณจะแต่งงานกับใครซักคน จะมีเหตุผลอะไร???

......................................
คงมีหลายเหตุผลที่จะหยิบยกมาอ้างกัน ว่าแต่งงานเพราะอะไร?
แต่ความคิดเห็นส่วนตัวของ Story Note มีเหตุผลกับคำนี้
เพราะ "รัก" คำนี้ เหมือนดูยิ่งใหญ่ และเป็นทุกสิ่งให้เกิดสิ่งดี ๆ

ตัณหา กามราคะมีอำนาจใฝ่ต่ำ ฉุดรั้งให้ใจไหลหลงได้ง่าย
แม้นได้รักแล้ว ขอให้รักกันด้วย พรหมวิหาร 4 นะค่ะ

สู้ สู้

โลกจะน่าอยู่ถ้ารู้จัก "รัก"

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 11:07 pm

บางทีทั้งชีวิตไม่เคยมีแฟน
ตั้งใจจะครองตัวเป็นโสด ปฏิบัติธรรมไปจนสุดสายปลายทาง
แต่กรรมก็จัดสรรให้ต้องมาเจอะเจอ
เอาตอนกำลังปฏิบัติธรรม...หรือกำลังซึ้งในธรรมก็มีออกถมไป
และนี่...มักเป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ของนักปฏิบัติทั้งหญิงชายที่ต้องเจอ
เพราะเป็นกรรมสัมพันธ์
ที่แม้นไม่ต้องแสวงหา...มันก็มาเอง

เฮ้อ อย่างนี้เรียกกรรม อมิตพุทธ สาธุ

ตอบเมื่อ: 20 ส.ค. 2008, 3:17 pm

เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ครับ ให้ดูกันอย่างน้อยสัก 2-3 ปี อย่าพึ่งตัดสินใจแต่งตอนรักกันใหม่ๆ เพราะอยู่ในช่วงกำลังหลง ข้อเสียของซึ่งกันและกันยังมองไม่เห็น ที่นี้การมองด้วยตัวเองบางทีก็อาจผิดพลาด ก็ควรพาคู่รัก ไปทำความรู้จัก พ่อแม่ ญาติ พีน้อง เพื่อนๆ เพราะคนเหล่านี้เมื่อพบเห็นคู่รักของคุณ เขาสามารถแนะนำได้ว่า คู่รัก เขาดีจริง หรือแค่เปลือก เขาเข้ามาหลอกคุณหรือปล่าว เพราะเขามีประสบการณ์มาก่อน หรือ เขาอยู่วงนอก ซึ่งไม่ได้รู้สึกว่าชอบไม่ชอบ เขาจึงน่าจะมองอะไรได้ดีกว่าคุณ