ในนิพพานจะมีความรู้สึกอย่างไรค่ะ

ตอบเมื่อ: 12 ม.ค. 2008, 8:45 am

อยากรู้ค่ะว่า เมื่อไปอยู่ในนิพพานแล้วจะมีความคิดความรู้สึกอะไร หรือไม่มี แล้วจะมีความรู้สึกเคารพรักในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่หรือไม่อย่างไรค่ะ

ตอบเมื่อ: 12 ม.ค. 2008, 1:21 pm

คำว่า "นิพพาน" ชาวพุทธกล่าวถึงกันมากๆ แต่ความเห็นความเข้าใจนิพพานในเบื้อง

ต้น ยังไม่ค่อยสามัคคีกัน ตื่นเต้น

กรัชกายก็ยังไม่เคยไปสักกะที อายหน้าแดง

แต่ก็สนใจศึกษานะครับ

เอาเป็นว่า เรามาแลกเปลี่ยนทัศนะประเด็นนี้กันดีฝ่า

ความเข้าใจคุณ WRP ว่านิพพาน เป็นสถานที่ เป็นภพภูมิ หรือ เป็นอะไรยังไงครับ

สบายๆ คุยกันไปทำความเข้าใจกันไป แลกเปลี่ยนกัน เข้าใจยังงัยก็ตอบยังงั้นครับ

ตอบเมื่อ: 12 ม.ค. 2008, 6:42 pm

อันเกี่ยวเนื่องด้วยเรื่องสภาวะแห่งนิพพาน สาธุ

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14582

นิพพานธาตุ ๒ อย่าง-พระอรหันต์ไม่ก้าวล่วงฐานะ ๙ ประการ สาธุ

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13819

ตอบเมื่อ: 12 ม.ค. 2008, 8:50 pm

ขอบคุณทุกคนที่อ่านและตอบค่ะ

สำหรับ คุณกรัชกาย ความจริงชั้นไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่ว่านิพพานจะมีลักษณะอย่างไร อาจจะมีอยู่เป็นลักษณะต่าง ๆ หรืออาจจะไม่มีอยู่เลย หรืออาจจะมีอยู่บ้างไม่มีอยู่บ้าง แต่ว่าฉันอยากรู้ว่าจิตหรือพวกความคิดของคนที่อยู่ในนิพพานนั้นเป็นอย่างไรมีอยู่หรือไม่ แบบไหน โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าน่าจะเหมือนกับตอนมีชีวิตอยู่ปกติ ซึ่งอาจจะแตกต่างกันไปตามบุคคล แต่ทำไมถึงไม่เบื่อ ไม่ทุกข์อันนี้ก็เลยข้องใจอยู่ค่ะ มันก็เกิดเป็นความสงสัยก็เลยถามขึ้นมาค่ะ

WRP

ตอบเมื่อ: 12 ม.ค. 2008, 8:53 pm

คำถาม..........
อยากรู้ค่ะว่า เมื่อไปอยู่ในนิพพานแล้วจะมีความคิดความรู้สึกอะไร หรือไม่มี แล้วจะมีความรู้สึกเคารพรักในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ อยู่หรือไม่อย่างไรค่ะ

คำตอบ........นิพพาน เป็นชื่อชั้นของการฝึกปฏิบัติธรรมทางศาสนาพุทธ ผู้บรรลุนิพพาน จะมีปรากฎการณ์ทางสรีระร่างกาย หลายรูปแบบ เช่น ร่างกายโปร่งแสง ร่างกาย คล้ายเป็นกระจกเงา ร่างกายมีฉัพพรรณรังสี ห่อหุ้มร่างกายเป็นวงกลมโดยรอบ
สภาพความคิดความรู้สึก ว่างเปล่า จะว่าวางเฉยก็ไม่ใช่ จะว่า ไม่วางเฉยก็ไม่ใช่ ไม่คิดอะไร ไม่มีความรู้สึกอะไร เพราะสรีระร่างกายโปร่งแสง ไม่มีความรัก ไม่มีอารมณ์ใดใดทั้งสิ้น มีแต่ความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติทั้งหลายที่บรรจุอยู่ในดวงจิตที่รวมตัวกันเป็นรูปหรือสรีระร่างกาย

สิ่งที่ได้กล่าวไปนี้ คือลักษณะของผู้บรรลุนิพพาน แต่ยังไม่สำเร็จนิพพานนะขอรับ เพียงบรรลุเฉยๆ ดังนั้น เมื่อสภาพสรีระร่างกาย และอื่นๆ จึงเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ไม่ตลอดเวลา คือ ร่างกายไม่โปร่งแสงตลอด โปร่งแสงสัก ประมาณ 10 ถึง 30 วินาที ก็กลับคืนร่างมนุษย์ดังเดิม เพราะเป็นเพียงบรรลุนิพพานเท่านั้น
ส่วนสำเร็จนิพพานยังไม่รู้ขอรับ

ตอบเมื่อ: 13 ม.ค. 2008, 9:24 am

อ้างอิงจาก:

คำตอบ........นิพพาน เป็นชื่อชั้นของการฝึกปฏิบัติธรรมทางศาสนาพุทธ ผู้บรรลุนิพพาน จะมีปรากฎการณ์ทางสรีระร่างกาย หลายรูปแบบ เช่น ร่างกายโปร่งแสง ร่างกาย คล้ายเป็นกระจกเงา ร่างกายมีฉัพพรรณรังสี ห่อหุ้มร่างกายเป็นวงกลมโดยรอบ
สภาพความคิดความรู้สึก ว่างเปล่า จะว่าวางเฉยก็ไม่ใช่ จะว่า ไม่วางเฉยก็ไม่ใช่ ไม่คิดอะไร ไม่มีความรู้สึกอะไร เพราะสรีระร่างกายโปร่งแสง ไม่มีความรัก ไม่มีอารมณ์ใดใดทั้งสิ้น มีแต่ความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติทั้งหลายที่บรรจุอยู่ในดวงจิตที่รวมตัวกันเป็นรูปหรือสรีระร่างกาย

สิ่งที่ได้กล่าวไปนี้ คือลักษณะของผู้บรรลุนิพพาน แต่ยังไม่สำเร็จนิพพานนะขอรับ เพียงบรรลุเฉยๆ ดังนั้น เมื่อสภาพสรีระร่างกาย และอื่นๆ จึงเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ไม่ตลอดเวลา คือ ร่างกายไม่โปร่งแสงตลอด โปร่งแสงสัก ประมาณ 10 ถึง 30 วินาที ก็กลับคืนร่างมนุษย์ดังเดิม เพราะเป็นเพียงบรรลุนิพพานเท่านั้น
ส่วนสำเร็จนิพพานยังไม่รู้ขอรับ

บรรลุ หมายถึงได้อรหันต์
ส่วน สำเร็จนิพพาน นั้นหมายถึงตายจากร่างกายแล้วใช่รึเปล่าค่ะ

ตอบเมื่อ: 13 ม.ค. 2008, 8:15 pm

WRP พิมพ์ว่า:

อ้างอิงจาก:

คำตอบ........นิพพาน เป็นชื่อชั้นของการฝึกปฏิบัติธรรมทางศาสนาพุทธ ผู้บรรลุนิพพาน จะมีปรากฎการณ์ทางสรีระร่างกาย หลายรูปแบบ เช่น ร่างกายโปร่งแสง ร่างกาย คล้ายเป็นกระจกเงา ร่างกายมีฉัพพรรณรังสี ห่อหุ้มร่างกายเป็นวงกลมโดยรอบ
สภาพความคิดความรู้สึก ว่างเปล่า จะว่าวางเฉยก็ไม่ใช่ จะว่า ไม่วางเฉยก็ไม่ใช่ ไม่คิดอะไร ไม่มีความรู้สึกอะไร เพราะสรีระร่างกายโปร่งแสง ไม่มีความรัก ไม่มีอารมณ์ใดใดทั้งสิ้น มีแต่ความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติทั้งหลายที่บรรจุอยู่ในดวงจิตที่รวมตัวกันเป็นรูปหรือสรีระร่างกาย

สิ่งที่ได้กล่าวไปนี้ คือลักษณะของผู้บรรลุนิพพาน แต่ยังไม่สำเร็จนิพพานนะขอรับ เพียงบรรลุเฉยๆ ดังนั้น เมื่อสภาพสรีระร่างกาย และอื่นๆ จึงเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว ไม่ตลอดเวลา คือ ร่างกายไม่โปร่งแสงตลอด โปร่งแสงสัก ประมาณ 10 ถึง 30 วินาที ก็กลับคืนร่างมนุษย์ดังเดิม เพราะเป็นเพียงบรรลุนิพพานเท่านั้น
ส่วนสำเร็จนิพพานยังไม่รู้ขอรับ

ถาม.......
บรรลุ หมายถึงได้อรหันต์
ส่วน สำเร็จนิพพาน นั้นหมายถึงตายจากร่างกายแล้วใช่รึเปล่าค่ะ

บรรลุ ไม่ได้หมายถึง อรหันต์ ขอรับ
บรรลุ ในที่นี้ ไม่ได้มีความหมายดัง พจนานุกรมให้ไว้ แต่บรรลุในที่นี้ หมายถึง
เพิ่งรู้ แต่ยังไม่สำเร็จ เพิ่งถึงเพียงต้นทาง ยังไม่สิ้นสุดหนทาง อย่างนี้เป็นต้น
เช่น บรรลุ โสดาบัน ก็หมายความมา เราได้มาถึง ขั้นโสดาบันแล้ว แต่ยังไม่สำเร็จ นี้เป็นการให้ความหมายตามแนวทางของข้าพเจ้านะขอรับ เพราะถ้าจะเอาตามพจนานุกรม เขาก็มีความหมายว่า สำเร็จ แต่สำหรับ ข้าพเจ้าแล้ว
บรรลุ คือ การมาถึง เพิ่งมาถึง ไม่ได้มีความหมายว่าสำเร็จ และไม่ได้มีความหมายว่า อรหันต์
สำเร็จนิพพานนั้นข้าพเจ้ายังไม่รู้อย่างแท้จริง คือรู้แต่ยังทำไม่ได้ (อ่านแล้วไม่ต้องคิดมากนะขอรับ ถือว่าข้าพเจ้าเขียนให้อ่านไม่ได้ให้คิด)
อนึ่ง นิพพาน ไม่ใช่ตายจากร่างกายนะขอรับ ร่างกายเราก็ยังอยู่ เพราะถ้าไม่มีร่างกาย ดวงจิตของเรา ก็ย่อมไม่สามารถฝึกจนสำเร็จนิพพานได้
สำเร็จนิพพาน ก็ไม่ได้หมายความถึงการตายจากร่างกาย คุณลองกลับไปอ่านความคิดเห็นข้างต้นให้ดีขอรับ
บรรลุนิพพาน มีลักษณะอย่างที่ข้าพเจ้าเขียนไปนั่นแหละ รับรองว่าเป็นเรื่องจริง ไม่หลอกลวง

ตอบเมื่อ: 14 ม.ค. 2008, 7:06 pm

ผมเคยได้ยินมาจาก พระอาจารย์สุจิน สุจินโณ (หลวงลุง) สำนักสงฆ์หนองน้ำเขียว ดังนี้ว่า

ว่าง สว่าง บริสุทธิ์

หยุด ปรุง แต่ง หยุดแสวงหา หยุดกริยาจิต ไม่ส่งจิตออกนอก

จิต รวมเข้ากับ จักรวาฬ เดิมเป็นหนึ่ง เรียกว่า นิพพาน

ผมได้ยินมาอย่างนี้ จำมาได้แค่นี้ ปัญญายังจำได้ไม่หมดครับ

ตอบเมื่อ: 22 ม.ค. 2008, 5:13 pm

ในนิพานจะมีความรู้สึกยังใงนะหรอ นอกเหนือความรู้สึก เคารพในพระธรรมนั้นมีอยู่แต่ไม่ยึดในพระธรรมหรือพุทธะเพราะรวมกันเป็นองค์คุณที่ไม่แบงแยกฝักฝ่ายทุกทสิ่งทุกอย่างบนโลกเป็นองค์คุณหมด ถ้าพูดถึงสภาวะนิพานนั้นมันไม่ใช้ตรงว่างหรือไม่ว่างตรงสงบหรือไม่สงบจะว่าเป็นอาการก็ไม่ไช่ เพราะนิพานมันไม่ไช่อะไร

ตอบเมื่อ: 22 ม.ค. 2008, 5:18 pm

ไม่ใช้สำเร็จนิพานปุบตายปับมันไม่ใช้ เข้าใจกันผิดไปหมดที่จริงแล้วนิพานอยู่แล้ว

ตอบเมื่อ: 22 ม.ค. 2008, 6:18 pm

อยากรู้เหมือนกัน มีแต่ท่านว่า คิดภาพไม่ออกเลย
ที่เข้ามา เพราะอยากรู้คงไม่ว่ากันนะที่ไม่ตอบ เพราะไม่รู้

สาธุ

ตอบเมื่อ: 25 ม.ค. 2008, 4:51 pm

RARM พิมพ์ว่า:

ผมเคยได้ยินมาจาก พระอาจารย์สุจิน สุจินโณ (หลวงลุง) สำนักสงฆ์หนองน้ำเขียว ดังนี้ว่า

ว่าง สว่าง บริสุทธิ์

หยุด ปรุง แต่ง หยุดแสวงหา หยุดกริยาจิต ไม่ส่งจิตออกนอก

จิต รวมเข้ากับ จักรวาฬ เดิมเป็นหนึ่ง เรียกว่า นิพพาน

ผมได้ยินมาอย่างนี้ จำมาได้แค่นี้ ปัญญายังจำได้ไม่หมดครับ

เหมือนหลวงปู่ดูลย์ อตุโล บอกไว้เลยค่ะ (บางทีก็อัศจรรย์ใจเหมือนกัน พระคนละรูป อยู่คนละที่ ต่างคนต่างปฏิบัติ แต่ได้รู้หรือพบเห็นสิ่งเดียวกัน...สุดยอดๆ)

เดิมตัวเองเคยจินตนาการไปว่า รูปกับนามดับลง จิตดับตามไม่เกิดขึ้นอีก แต่พอมาอ่านคำอธิบายของหลวงปู่ดูลย์ท่านแล้ว คงต้องคิดใหม่ ไม่ทราบสมาชิกคิดเห็นอย่างไรกันบ้าง แต่ตอนนี้คิดว่าเมื่อดับรูปกับนามแล้ว เหลือแต่จิตดวงเดียวมีลักษณะประภัสสร เจิดจ้ายิ่งกว่าดวงอาทิตย์ (อันนี้หลวงพ่อพุทธทาสท่านอธิบายไว้ในเรื่องจิตนั้นประภัสสร) ไม่ส่งออกนอก ไม่รับกระทบ คงที่อยู่อย่างนั้น และเพราะอย่างนี้หรือเปล่าไม่ทราบ ภาวะนิพพานจึงไม่มีเกิดดับ เป็นวิสังขาร หรือ อสังขตธรรม เพราะมันมีอยู่แล้ว(จักรวาล) แล้วก็อยู่อย่างนั้นตลอดไป (ยิ่งพูดยิ่งไปกันใหญ่)

ใครไปถึงช่วยกลับมาเล่าให้ฟังด้วย อยากรู้มากๆ แลบลิ้น

ตอบเมื่อ: 25 ม.ค. 2008, 5:35 pm

อยากมาจอยด้วย หากว่ายังไม่เคยไปนิพพาน
เลยม่ะรู้จะกล่าวอะไรดี อิอิ....

ตอบเมื่อ: 14 ส.ค. 2008, 2:52 am

ไม่ทราบเหมือนกัน เพราะยังไม่ถึงนิพพาน ทราบแต่ว่า
นิพพาน แปลว่า เย็น จ้า ขอทุกท่านเจริญในธรรม สาธุ พุทโธ

ตอบเมื่อ: 17 ส.ค. 2008, 10:28 pm

นิพพานัง ปรมัง สุขขัง

นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 9:43 am

ติดอยู่ในสัญญาน่ะครับ

นิพพานนั้นเป็นสภาวะที่จิตไม่มีนิมิต ไม่ทำนิมิตไว้ในใจ หมดการดำริ

ตอบเมื่อ: 18 ส.ค. 2008, 10:17 am

ผมว่าน่าจะเป้นอารมณ์แบบนี้
..... ตะวันลับฟ้า เมื่อตอนเย็นๆ
จะเป็นเวลาที่ใจหาย
ปลายท้องฟ้า กับแดดร่ำไร
ฉันเหมือใจจะขาด ....

เด๋วเจอจริงๆแล้วจะบอกคับ
555