Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 นกยูงแสดงธรรม (ธรรมสภา) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 05 ม.ค. 2005, 7:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



นกยูงแสดงธรรม.jpg


นกยูงแสดงธรรม
นิทานธรรม ฉบับพิเศษ
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา



พระนางเขมา พระอัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสี ทรงฝันเห็นนกยูงแสดงธรรมให้พระนางฟัง นกยูงตัวนั้นมีขนสีทองสวยงาม ครั้นตื่นบรรทม พระนางขอให้พระสวามีส่งคนออกไปตามหานกยูง ครั้งนั้นพระพุทธเจ้าของเราเกิดเป็นยูงทองที่พระนางทรงฝันเห็นนั้น อาศัยอยู่ในบริเวณแนวป่าของภูเขาลูกที่ ๔ เชิงเขาหิมพานต์

ยูงทองนั้นสง่างามมาก ตามซอกปีกมีลวดลายสวยงาม และเป็นนกที่ฉลาด ภูเขาลูกที่ยูงทองอาศัยอยู่นั้นเป็นภูเขาเงิน ยามที่พระอาทิตย์อุทัยทอแสงกระทบสาดแสงจับขอบฟ้า มองดูสวยงาม จึงร่ายมนต์สรรเสริญพระอาทิตย์

“พระอาทิตย์นี้เป็นดวงตาของโลก
เป็นเจ้าแห่งแสงสว่างอย่างเอก
กำลังอุทัยขึ้นมาทอแสงอร่ามสว่างไปทั่วปฐพี
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์นั้น
ขอให้ช่วยคุ้มครองข้าพเจ้าให้อยู่เป็นสุขตลอดวัน”

หลังจากกล่าวสรรเสริญพระอาทิตย์แล้ว ยูงทองก็น้อมระลึกถึงพระพุทธเจ้า และพระคุณของพระพุทธเจ้าพร้อม ทั้งกล่าวสรรเสริญว่า

“พราหมณ์เหล่าใดรู้แจ้งธรรมทั้งปวง
ขอพราหมณ์เหล่านั้นจงรับความนอบน้อมของข้าพเจ้า
และขอจงคุ้มครองข้าพเจ้าด้วย
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
และขอนอบน้อมแด่พระโพธิญาณ
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่ท่านผู้หลุดพ้นแล้ว
และนอบน้อมธรรมที่ทำให้ท่านหลุดพ้นด้วย”


ครั้นกล่าวสรรเสริญพระอาทิตย์และพระพุทธเจ้าแล้ว ยูงทองก็หากินในป่าตลอดทั้งวันอย่างมีความสุข ตกเย็นกลับมาเห็นพระอาทิตย์อัสดงคต จึงกล่าวสรรเสริญพระอาทิตย์อีกว่า

“พระอาทิตย์นี้เป็นดวงตาของโลก
เป็นเจ้าแห่งแสงสว่างอย่างเอก
กำลังจะอัสดงคตลับขอบฟ้าไปแล้ว
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมพระอาทิตย์นั้น
ขอให้ช่วยคุ้มครองข้าพเจ้าให้อยู่เป็นสุขตลอดคืน”

หลังจากกล่าวสรรเสริญพระอาทิตย์แล้ว ยูงทองก็น้อมระลึกถึงพระพุทธเจ้าและพระคุณของพระพุทธเจ้าพร้อมทั้งกล่าวสรรเสริญอีกว่า

“พราหมณ์เหล่าใดรู้แจ้งธรรมทั้งปวง
ขอพราหมณ์เหล่านั้นจงรับความนอบน้อมของข้าพเจ้า
และขอจงคุ้มครองข้าพเจ้าด้วย
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย
และขอนอบน้อมแด่พระโพธิญาณ
ข้าพเจ้าขอนอบน้อมแด่ท่านผู้หลุดพ้นแล้ว
และนอบน้อมธรรมที่ทำให้ท่านหลุดพ้นด้วย”

ยูงทองกล่าวสรรเสริญพระอาทิตย์ และพระพุทธเจ้าเป็นประจำทั้งเช้าและเย็น และอยู่เป็นสุขเสมอในป่าหิมพานต์


(มีต่อ 1)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 05 ม.ค. 2005, 7:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยู่มาวันหนึ่ง พระนางเขมาพระอัครมเหสีของพระเจ้าพาราณสี ทรงฝันเห็นยูงทองมาแสดงธรรมให้พระนางฟัง ครั้นตื่นบรรทมแล้วจึงกราบทูลพระเจ้าพาราณสีให้ทรงทราบ “เสด็จพี่เพคะ น้องอยากฟังยูงทองแสดงธรรม”

“ความฝันกับความจริงจะไปด้วยกันได้หรือ พี่ไม่เคยเห็นนกแสดงธรรมให้คนฟังเลย” พระเจ้าพาราณสีตรัสแย้ง

“แต่น้องเชื่อว่าเป็นจริงได้” พระนางเขมาตรัสยืนยันเพราะภาพที่เห็นนั้นชัดเจนมาก

พระเจ้าพาราณสีตรัสเรียกพวกพราหมณ์มาปรึกษา ครั้นได้คำแนะนำจากพวกพราหมณ์ปุโรหิตแล้ว พระเจ้าพาราณสีก็ตรัสเรียกพรานป่ามาประชุมในพระราชวัง

“ขอเดชะ ในป่าหิมพานต์ชั้นใน มีภูเขาเงินอยู่ลูกหนึ่งบนยอดภูเขานั้น ข้าพเจ้าเห็นนกยูงทองตัวหนึ่งอาศัยอยู่บริเวณนั้นเมื่อไม่นานมานี้เอง”

“ได้เรื่องแล้ว” พระเจ้าพาราณสีทรงพระสรวลเบาๆ

“ถ้าอย่างนั้น ข้าขอมอบให้เจ้าไปจับยูงทองตัวนั้นมาให้ข้าให้ได้ ขอให้จับเป็นนะ อย่าจับตาย”

“ได้ พระเจ้าข้า”

พรานป่าทูลรับคำแล้วก็ออกไปป่าหิมพานต์เอง เพื่อจับยูงทองมาถวายพระเจ้าพาราณสีให้ได้ เขาพยายามดักบ่วงและหาวิธีการจับอยู่นานถึง ๗ ปี จนกระทั่งตายอยู่กลางป่านั้นเอง ส่วนพระนางเขมาพอได้ทราบว่าพรานป่าตายก็ท้อพระทัย และสวรรคตในเวลาต่อมา

พระเจ้าพาราณสีทรงกริ้วมาก จึงทรงหาหนทางแก้แค้นด้วยการรับสั่งให้จารึกข้อความลงในแผ่นทองว่า “ในป่าหิมพานต์มีภูเขาเงินอยู่ลูกหนึ่ง ที่ภูเขาลูกนั้นมีนกยูงทองตัวหนึ่งอาศัยอยู่ นกยูงทองตัวนั้นศักดิ์สิทธิ์ ผู้ใดได้กินเนื้อของมันแล้ว ผู้นั้นจะไม่แก่ไม่ตายมีอายุยืนตลอดไป”

ครั้นแล้ว ทรงรับสั่งให้ใส่แผ่นทองไว้ในหีบทอง แล้วให้เก็บไว้ให้คนรุ่นต่อๆ มาได้อ่าน

ครั้นพระเจ้าพาราณสีพระองค์นั้นสวรรคตแล้ว พระเจ้าพาราณสีพระองค์ใหม่พอได้อ่านข้อความในแผ่นทอง ก็ทรงมีพระประสงค์จะได้กินเนื้อยูงทอง จึงส่งพรานป่ารุ่นใหม่ไปเที่ยวหาจับยูงทองอย่างที่บอกไว้ในแผ่นทอง พรานป่านั้นหาอยู่ตลอดชีวิตก็ไม่พบยูงทองตัวดังกล่าว

พระเจ้าพาราณสี รัชกาลต่อๆ มาก็ทรงทำเช่นเดียวกันนั้น ซึ่งก็จับยูงทองไม่ได้เช่นเดียว เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างนี้ถึง ๖ รัชกาล


(มีต่อ 2)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 05 ม.ค. 2005, 7:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ครั้นตกถึงพระเจ้าพาราณสีรัชกาลที่ ๗ จึงประสบผลสำเร็จ คือ พรานป่าที่ทรงส่งไปสามารถจับยูงทองตัวดังกล่าวได้ พรานป่านั้นเป็นคนฉลาด ก่อนออกเดินทางไปจับยูงทองในป่าหิมพานต์ได้ศึกษาความผิดพลาดต่างๆ ที่เกิดขึ้นของพรานป่าคนก่อนๆ รวมทั้งศึกษาถึงอุปนิสัยของยูงทองด้วย ก็เห็นว่าควรจะเอานกยูงตัวเมียล่อ

ดังนั้น เขาจึงไปจับนกยูงตัวเมียมา ๑ ตัว แล้วสอนให้เริงระบำตามจังหวะการปรบมือ จนกระทั่งนกยูงตัวเมียนั้นเกิดความชำนาญ จึงเริ่มแผนการจะจับยูงทอง “ยูงทองตัวนี้ร่ายมนตร์ตอนพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกทุกวัน มนตร์ที่ร่ายนั้นคุ้มครองมันให้ปลอดภัยตลอดมา จึงไม่มีใครจับมันได้ เอาเถอะเราจะไปจับมันตอนก่อนพระอาทิตย์ขึ้น”

ครั้นคิดได้อย่างนั้นแล้ว พรานป่าก็อุ้มนกยูงตัวเมียนั้นไปตรงที่ที่ยูงทองจะได้ยินเสียงร้องไพเราะของนางได้ ขณะนั้นใกล้จะรุ่งสาง พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น พอไปถึงที่ตรงนั้น พรานป่าก็ดักบ่วงแล้วตบมือให้จังหวะ

ทันใดนั้นเองนกยูงตัวเมียก็ส่งเสียงร้องไพเราะ พร้อมทั้งกรีดปีกกรีดหางเริงระบำอย่างสวยงาม ยูงทองตื่นขึ้นมาได้ยินเสียงนกยูงตัวเมียส่งเสียงไพเราะ ก็เกิดกระสันลืมร่ายมนตร์ เผลอตัววิ่งไปหานกยูงตัวเมียที่กำลังเริงระบำ และส่งเสียงร้องเจื้อยแจ้วอยู่นั้น และยังมิทันจะถึงตัวนาง ขาก็พลันติดบ่วงเสียก่อน พรานป่าจึงเข้ามาจับตัวไปถวายพระเจ้าพาราณสี

ขณะเฝ้าอยู่เบื้องหน้าพระเจ้าพาราณสีนั้น ยูงทองได้ทูลถามถึงสาเหตุที่พระองค์รับสั่งให้จับตนมา เมื่อได้ทราบว่าถูกให้จับมาเพราะความเชื่อว่า ถ้าใครได้กินเนื้อยูงทองแล้วจะไม่แก่ไม่ตายและมีอายุยืนตลอดไป ยูงทองจึงกราบทูลว่า

“ขอเดชะ ตามที่พระองค์เชื่อกันมานั้นเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะในโลกนี้ไม่มีนกยูงตัวใดที่ศักดิ์สิทธิ์ถึงขั้นใครกินเนื้อแล้วไม่แก่ไม่ตายหรอก ที่เห็นชัดๆ คือ หม่อมฉันก็กำลังจะตายอยู่นี่ยังไง แล้วเนื้อของหม่อมฉันจะช่วยใครไม่ให้ตายได้เล่า”

พระเจ้าพาราณสีทรงฟังแล้วได้สติ จึงทรงบูชายูงทองด้วยเครื่องสักการะล้ำค่า แล้วแบ่งราชสมบัติให้ยูงทองครอบครอง ยูงทองอยู่ในพระราชวังได้ ๓ วันก็ถวายราชสมบัติคืน แล้วทูลลากลับไปอยู่ที่ภูเขาเงินในป่าหิมพานต์ตามเดิม แต่ก่อนจะจากไปได้ถวายโอวาทว่า

“ขอเดชะ ขอพระองค์จงอย่าประมาท”

นิทานธรรมเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า การสวดมนต์ด้วยจิตที่เป็นสมาธิและเชื่อมั่น มนต์ที่สวดนั้นย่อมคุ้มครองผู้สวดได้แท้จริง เหมือนยูงทองสวดมนต์สรรเสริญพระอาทิตย์และสรรเสริญพระพุทธเจ้าแล้วช่วยให้ปลอดภัยฉะนั้น



........................ เอวัง ........................



ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 05 ม.ค. 2005, 9:45 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ สาธุ สาธุครับอมัย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
อ.ส.ม.ฝึกหัด
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 20 มี.ค. 2005
ตอบ: 14

ตอบตอบเมื่อ: 20 มี.ค.2005, 8:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความประมาทเป็นหนทารงเเห่งความตาย
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
กระต่าย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 ก.ค.2005, 6:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



3258.gif


เป็นสิ่งที่ดี ฉันขอชื่นชมคุณสายลมนะว่า สามารถนำนิทานในตำราต่าง ๆ มาให้ประชาชนได้อ่านกัน ยินดีด้วยความเต็มใจ
 
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2006, 1:39 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สา..............ธุ สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
เด็กน้อย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 ส.ค. 2006, 11:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 
pump
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 07 พ.ย. 2006
ตอบ: 12
ที่อยู่ (จังหวัด): pathumthani

ตอบตอบเมื่อ: 09 พ.ย.2006, 11:09 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง