Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 การอยู่ร่วมกับคนพาล ต้องทำยังไงดีครับ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ชัยพร พอกพูล
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2006
ตอบ: 73
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 15 พ.ย.2007, 9:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมมีปัญหามารบกวนถามนักธรรมทุกท่านครับ
ผมมีปัญหากับเพื่อนบ้านครับ เขาไม่ชอบหน้าผม พยายามใส่ร้ายป้ายสีผมทุกอย่าง เขาเห็นว่าผมได้ยินที่เขาพูดแต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร เขาเลยได้ใจ คนในซอยแถวบ้านผมก็พลอยเชื่อเขาไปหมด เพราะเขาเป็นคนคุยเก่ง คุยสนุก ส่วนผมเป็นคนที่คุยไม่เก่งเลย มนุษย์สัมพันธ์ไม่ค่อยดี เพราะผมเป็นคนตรงไปตรงมามากจนเกินไป เพื่อนที่สนิทกันก็มีแค่ 4 - 5 คนเท่านั้น แต่ทุกคนรู้ดีว่าผมเป็นคนอย่างนี้เอง ชอบฟังมากกว่าพูด เป็นที่ปรึกษาได้ดี พอเพื่อนผมมีปัญหาอะไรคับข้องใจก็จะมาปรึกษาผม เรียกว่าออกไปทางจริงจังกับชีวิต หัวหน้าที่ที่ทำงานเก่าผมก็บอกว่าผมเป็นคนไม่มีจริต ซึ่งเป็นสิ่งที่คนในสังคมเขาต้องการ โดยเฉพาะงานที่ผมทำขณะนั้นเป็นงานบริการ ลูกค้าเขาแค่เห็นหน้าผมก็จ้องจะหาเรื่องผมแล้ว ยิ่งผมเป็นคนไม่ค่อยพูดค่อยจายิ่งทำให้คนเหล่านั้นยิ่งได้ใจใหญ่ ที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดในปัญหานี้คือแม่ผมก็ดันไปญาติดีกับเขาด้วย ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลยว่าผมมีปัญหากับเขา ตกเย็นมาพวกเขาก็จะตั้งวงกันนินทา ป้ายสีผมทุกวัน ผมพยายามอดทนไม่พูดแก้ตัวใด ๆ ทั้งสิ้น เชื่อว่าความจริงยังไงก็เป็นความจริง ไม่มีทางเปลี่ยนไปได้เพราะน้ำคำคน แต่ที่ไหนได้ นานวันก็มีแต่คนเข้าข้างเขา หนักเข้าก็ท้าตีท้าต่อยผม แต่ก็เป็นแค่การพูดเสียงดัง ๆ ให้ได้ยินเท่านั้น พอผมผ่านไปซื้อของหรือทำธุระ ก็รีบเปลี่ยนเรื่องคุยทันที และรูปประโยคที่พูดเป็นแบบไม่เจาะจงตัวมากนัก แต่ได้ยินทุกวันจนเดาได้ว่าเขาหมายถึงผม การจะเข้าไปอธิบายความจริงให้เขาเหล่านั้นเข้าใจจึงมีแต่จะทำให้เขาเข้าใจว่าเราร้อนตัวเปล่า ๆ แล้วผมจะต้องอดทนไปถึงเมื่อไหร่ ผมควรจะทำยังไงกับคนพาลเหล่านี้ครับ

รบกวนนักธรรมทุกท่านช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยครับ
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
เหม่งตุ๊ก
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 28 ก.ย. 2007
ตอบ: 26
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 16 พ.ย.2007, 8:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สู้ สู้ สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม สู้ สู้

ขออนุญาตคัดลอกคติประจำใจของคุณมา และขอแนะนำให้นั่งสมาธิทำบุญกุศลมากๆบ่อยๆไม่ว่าจะทำแบบใดให้อุทิศบุญุศลให้กับคนที่เขาใส่ร้ายคุณทุกครั้งยิ่งรู้ชื่อนามสกุลก็ยิ่งดี จะทำให้ดีขึ้นหลายท่านอาจคิดว่าการทำเช่นนี้ผลจะนานและช้าไม่ทันใจ แต่ป้าเองคิดว่ามันอยู่ที่เราศรัทธาและตั้งใจในสิ่งที่ทำแค่ไหนมากกว่า และอย่าลืมการให้อภัยซึ่งเป็นทานอันยิ่งใหญ่ด้วยนะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ใบโพธิ์
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2007
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 16 พ.ย.2007, 10:11 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สู้ สู้ สู้ สู้

มงคลชีวิต ๓๘ ประการ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13008
 

_________________
ทำความดีทุกๆ วัน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
bad&good
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 06 ส.ค. 2007
ตอบ: 115

ตอบตอบเมื่อ: 16 พ.ย.2007, 10:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ท่านคิดว่า การอยู่ร่วมกับไฟ
อยู่ใกล้ หรือ อยู่ไกล
จึงจะรู้สึกเย็น
จงพิจารณา โดยตนเอง แล้วพยายามทำตน ให้เย็น
.......................................................
ท่านเคยเห็นหรือไม่ว่า หมูกับเสือ ก็อยู่ร่วมกันได้ (ไปดูที่สวนเสือ จ.ชลบุรี)
ท่านจะทำอย่างไรดี ถ้าท่านต้องอยู่กับญาติ
.......................................................
ท่านเคยเห็นหรือไม่ว่า คนที่มีกิเลสอยู่มากน้อย ยังคิดว่า ตนเป็นคนดี
ดังนั้น จึงพึงฟังผู้อื่นบ้าง เพื่อเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นตนเอง เพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้น
กระจกบางบาน ก็อย่าได้เชื่อนัก พิจารณาว่าอยู่ในขอบเขต พอจะเป็นสันติ หรือไม่
สัมมาวาจา(คำพูดของท่าน ชวนให้โมโหหรือไม่) สัมมากัมมัตตะ(สีหน้าท่าทางของท่าน ชวนให้โมโหหรือไม่) สัมมาทิฎฐิ(ความคิด ความเข้าใจของกิเลส ของธรรมดาของโลก ชองธรรมดาของคนมีกิเลสมาก น้อย เข้าใจผู้อื่นได้กี่มากน้อย จำเป็นหรือไม่ ที่ต้องขอคุย เพี่อปรับความเข้าใจ ท่านเป็นผู้ตัดสินใจ การไม่พูดเลย นิ่ง ทำตัวตามปกติ สบาย ๆ บางครั้งเป็นคำตอบให้ผู้อื่นได้เห็นว่า ตนเองมีอารมณ์ ปกติ ดี ไม่ได้เกียดใครมาก ไม่ได้หวั่นไหวต่อใครมาก)
สัมมาสติ(เตือนสติ ตนเองเสมอว่า อย่าได้มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร เรื่องเล็กจะเป็นเรื่องใหญ่ เรื่อง 10 บาท จะเสียค่ารักษาพยายามมากกว่า 500 บาท)
สัมมาสมาธิ (ทำให้ได้แบบนี้ทุกวัน)
สัมมาสังกัปโป(มีเป้าหมาย ที่จะดำรงชีวิต ที่ดี พูดดี ทำดี
ไม่มองเห็นผู้อื่นเป็นคนพาล คนพาลตามแบบอย่างข้าพเจ้า คือ นักเลงหัวไม้ ถือปืน ถือมีด ถือไม้ มีอะไรหน่อย ก็จะชกต่อยกัน เช่นนี้ ขอแนะนำว่า ให้ย้ายที่อยู่ เลี่ยงคนพาลที่จะตีแต่ท่านทุกเช้าเย็น อย่าได้อวด สอนธรรมต่อผู้นั้น )
..................................................
ท่านเคยเห็นหรือไม่ว่า บางครั้ง คนเห็นกงจักร เป็นดอกบัว
คือ คนที่เห็นว่าตนเองทำดี แท้ที่จริงแล้ว ทำเลว คือ ทำแต่กิเลส ทำด้วยโลภะ ทำด้วยโมหะ
ดังนั้น บางครั้ง ท่านเองก็ไม่ได้เป็นคนที่มีกิเลสน้อย ผู้ที่เสียผลประโยชน์ก็มักจะไม่ชอบท่าน เป็นเรื่องธรรมดา
.........................................................
 

_________________
อริยมรรคมีองค์ 8 คือ สูตรสำเร็จแห่งการดับทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 16 พ.ย.2007, 11:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การอยู่ร่วมกับคนพาล ต้องทำยังไงดีครับ.....ก็ไม่ต้องทำยังไง ก็ช่างเค้า สังคมหลากหลาย คนก็หลากหลาย ความคิดคนหนะ มันคิดได้ทุกเรื่องหละ คิดดีก็สุข คิดไม่ดีก็ทุกข์ มีอยู่แค่นั้น ประเดี๋ยวสุขประเดี๋ยวทุกข์อยู่อย่างนั้น สุขทุกข์มันก็ไม่จีรัง ดีเลวมันก็ไม่จีรัง คนชอบก็ว่าดี คนไม่ชอบก็ว่าไม่ดี ก็มีแค่นั้น ยังอยู่กับความเป็นคู่หนะ มันก็คัดง้างกันอยู่อย่างนั้นแหละ ชอบไม่ชอบก็ช่างเค้า สบายกว่ากันเยอะเลย จะให้คนทั้งโลกมาชอบเรา มาว่าดีหมด เราก็คงไม่ใช่คนแล้วหละ คงเป็นอะไรสักอย่างที่อยู่ตรงความคิดของคนที่ติดว่าดี ว่าไม่ดี อยู่นั่นแหละ มีแค่นั้นแหละค่ะ จะว่าไปว่าเป็นเพราะความคิดเรานั่นแหละที่ปรุงแต่งไปทำให้ทุกข์ ก็มีแย้งอีกแหละ ก็ได้ยินนี่หว่าว่าด่าเราเนี่ย 55555 แล้วจะให้ทำไงหละ ก็ช่างเค้า....แค่นั้นแหละ ปากคนหนะ จะเอาอะไรหละ
55555
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
jojam
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 27 พ.ค. 2004
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 16 พ.ย.2007, 11:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมควรจะทำยังไงกับคนพาลเหล่านี้ครับ

/ ดีกับเขาให้มากๆ

ต้องอดทนไปถึงเมื่อไหร่

/ เมื่อไรก็ เมื่อนั้น

ปล. เรื่องราวทั้งหมด ยังไงก็ ต้องลืม ไม ไม่ ให้อภัย ก่อน ที่จะลืม ไม่ดีกว่าหรือ .. ? อืมม์
(คนว่างๆ แวะแจม ^ ^ ขำๆๆ)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
ดุสิตธานี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 21 ก.ย. 2007
ตอบ: 352
ที่อยู่ (จังหวัด): สุโขทัยธานี

ตอบตอบเมื่อ: 17 พ.ย.2007, 8:48 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อายหน้าแดง ทำที่ตัวเราเน๊อะ มองตัวเราดีฝ่า เขาจะทำอะไรก็ทำไป ทำเราให้ดีที่สุด เมื่อทำดีแล้ว ใจก็สบาย ใจก็เย็น ใจก็เป็นบุญ การกระทำของคนอื่นที่เคยมาทำร้ายให้เราหม่นหมอง ก็จะไม่มีผล สิ่งเหล่านั้นทำร้ายอะไรเราไม่ได้ เว้นแต่เราจะเก็บมาทำร้ายตัวเราเอง อ่ะค่ะ



ธรรมสวัสดี สาธุ
 

_________________
“จงทำจิตให้บริสุทธิ์” ด้วยความดี ไม่เบียดเบียนผู้อื่น หรือแม้กระทั่ง “ตัวของเราเอง”
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ชัยพร พอกพูล
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2006
ตอบ: 73
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ

ตอบตอบเมื่อ: 17 พ.ย.2007, 9:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาเข้ามาตอบครับ จะพยายามทำตามคำแนะนำของทุกท่านครับ สาธุ
 

_________________
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
บัว
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 28 ต.ค. 2007
ตอบ: 33

ตอบตอบเมื่อ: 28 พ.ย.2007, 9:06 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พูดน้อยๆ เท่าจำเป็น และถอยห่างออกมาค่ะ
 

_________________
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว ทางแห่งความสำเร็จ ขยัน อดทน ไม่ประมาท มีน้ำใจ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
วิชชา
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 05 พ.ย. 2007
ตอบ: 31
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 03 ธ.ค.2007, 3:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลักษณะคนถ่อย??


พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย สุตตนิบาต เล่ม ๑ ภาค ๕ -

[๓๐๖] ๑. คนมักโกรธ ผูกโกรธ

ลบหลู่อย่างเลว มีทิฏฐิวิบัติ และมีมายา

พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๒. คนผู้เบียดเบียนสัตว์ที่เกิดหน-

เดียว แม้หรือเกิดสองหน ไม่มีความเอ็นดู

ในสัตว์ พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๓. คนเบียดเบียน เที่ยวปล้น มี

ชื่อเสียงว่า ฆ่าชาวบ้านและชาวนิคม พึงรู้

ว่าเป็นคนถ่อย.

๔. คนลักทรัพย์ที่ผู้อื่นหวงแหน

ไม่ได้อนุญาตให้ ในบ้านหรือในป่า พึงรู้

ว่าเป็นคนถ่อย.

๕. คนที่กู้หนี้มาใช้แล้วกล่าวว่า หา

ได้เป็นหนี้ท่านไม่ หนีไปเสีย พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๖. คนฆ่าคนเดินทาง ชิงเอาสิ่งของ

เพราะอยากได้สิ่งของ พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๗. คนถูกเขาถามเป็นพยาน แล้ว

กล่าวคำเท็จ เพราะเหตุแห่งตนก็ดี เพราะ

เหตุแห่งผู้อื่นก็ดี เพราะเหตุแห่งทรัพย์ก็ดี

พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๘. คนผู้ประพฤติล่วงเกิด ในภริยา

ของญาติก็ตาม ของเพื่อนก็ตาม ด้วยข่มขืน

หรือด้วยการร่วมรักกัน พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๙. คนผู้สามารถ แต่ไม่เลี้ยงมารดา

หรือบิดาผู้แก่เฒ่าผ่านวัยหนุ่มสาวไปแล้ว

พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๐. คนผู้ทุบตีด่าว่ามารดาบิดาพี่-

ชายพี่สาว พ่อตาแม่ยาย แม่ผัวหรือพ่อผัว

พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๑. คนผู้ถามถึงประโยชน์ บอก

สิ่งที่ไม่เป็นประโยชน์ พูดกลบเกลื่อนเสีย

พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๒. คนทำกรรมชั่วแล้ว ปรารถนา

ว่าใครอย่าพึงรู้เรา ปกปิดไว้ พึงรู้ว่าเป็น

คนถ่อย.

๑๓. คนผู้ไปสู่สกุลอื่นแล้ว และ

บริโภคโภชนะที่สะอาด ย่อมไม่ตอบแทน

เขาผู้มาสู่สกุลของตน พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๔. คนผู้ลวงสมณะ พราหมณ์

หรือแม้วณิพกอื่น ด้วยมุสาวาท พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๕. เมื่อเวลาบริโภคอาหาร คนผู้ด่า

สมณะหรือพราหมณ์และไม่ให้โภชนะ พึงรู้

ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๖. คนในโลกนี้ ผู้อันโมหะครอบ-

งำแล้ว ปรารถนาของเล็กน้อย พูดอวดสิ่ง

ที่ไม่มี พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๗. คนเลวทราม ยกตนและดูหมิ่น

ผู้อื่น ด้วยมานะของตน พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๘. คนฉุนเฉียว กระด้าง มีความ

ปรารถนาลามก มีความตระหนี่ โอ้อวด

ไม่ละอาย ไม่สะดุ้งกลัว พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๑๙. คนติเตียนพระพุทธเจ้า หรือ

ติเตียนบรรพชิต หรือ คฤหัสถ์ สาวกพระ-

พุทธเจ้า พึงรู้ว่าเป็นคนถ่อย.

๒๐. ผู้ใดแลไม่เป็นพระอรหันต์ แต่

ปฏิญาณว่าเป็นพระอรหันต์ ผู้นั้นแลเป็นคน

ต่ำช้า เป็นโจรในโลกพร้อมทั้งพรหมโลก

คนเหล่าใด เราประกาศแก่ท่านแล้ว คน

เหล่านั้นนั่นแล เรากล่าวว่าเป็นคนถ่อย.




บุคคลไม่เป็นคนถ่อยเพราะชาติ ไม่

เป็นพราหมณ์เพราะชาติ แต่เป็นคนถ่อย

เพราะกรรม
เป็นพราหมณ์เพราะกรรม ท่าน

จงรู้ข้อนั้น ตามที่เราแสดงนี้ บุตรของคน

จัณฑาลเลี้ยงตัวเองได้ ปรากฏชื่อว่ามาตังคะ

เป็นคนกินของที่ตนให้สุกเอง เขาได้ยศ

อย่างสูงที่ได้แสนยาก กษัตริย์และพราหมณ์

เป็นอันมากได้มาสู่ที่บำรุงของเขา เขาขึ้น

ยานอันประเสริฐ ไปสู่หนทางใหญ่อันไม่มี

ฝุ่น เขาสำรอกกามราคะเสียได้แล้ว เป็นผู้

เข้าถึงพรหมโลก ชาติไม่ได้ห้ามเขาให้เข้า

ถึงพรหมโลก พราหมณ์เกิดในสกุลผู้สาธ-

ยายมนต์ เป็นพวกร่ายมนต์ แต่พวกเขา

ปรากฏในบาปกรรมอยู่เนือง ๆ พึงถูก

ติเตียนในปัจจุบันทีเดียว และภพหน้าก็เป็น

ทุคติ ชาติห้ามกันพวกเขาจากทุคติหรือจาก

ครหาไม่ได้ บุคคลไม่เป็นคนถ่อยเพราะชาติ

ไม่เป็นพราหมณ์เพราะชาติ แต่เป็นคนถ่อย

เพราะกรรม เป็นพราหมณ์เพราะกรรม.




การสั่งสมของจิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน ควรเมตตากัน เพราะก็เพียงชาติเดียวที่เกิดมาเจอกัน

ต่อให้หนีเขาได้ ก็ต้องไปเจอคน หรือ สิ่งที่ไม่น่าปรารถนาอื่นอีก เพราะว่ายังไม่ได้ดับกิเลส

ที่นอนเนื่องอยู่ในจิต ยังเป็นปุถุชนผู้มากด้วยกิเลสอยู่ทุกคนนั่นเอง ถ้าไม่เมตตาเขาวันนี้ แล้ว

จะทนทุกข์ใจต่อไปทุกครั้งที่เจอเขา โดยไม่ให้เกิดความขุ่นเคืองใจได้ไหม ก็ไม่ได้ เพราะจิต

ของท่านก็ต้องสั่งสมทั้งกุศล และ อกุศล ถ้าท่านยังไม่สบายเพราะเขาอยู่ จิตของท่านสั่งสม

อะไร ขอโปรดตรองดู www.dhammahome.com
 

_________________
ไม่มี
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMYahoo MessengerMSN Messenger
พิทรายา
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 12 ส.ค. 2007
ตอบ: 103
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 07 ธ.ค.2007, 2:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

จะถือสาอะไรกับลมปากคน พูดมากเมื่อยเดี๋ยวก็หยุดเอง อย่าไปสนใจเลยค่ะ คนพวกนี้มีทุกที่แหละ
 

_________________
ความยึดมั่นถือมั่นทำให้เป็นทุกข์
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง