นิสัยเรากับแฟนเริ่มเข้ากันไม่ได้แล้ว จะมีทางแก้ไหม

ตอบเมื่อ: 19 พ.ย.2007, 9:58 am

คือว่าเรากับแฟน แรกๆ ก็หวานชื่นกันดี แต่เรารู้สึกว่าเขาเริ่มเปลี่ยนไป เราถามเขาว่าไปไหนจะกลับบ้านไหม เขาก็หงุดหงิดใส่เรา เพราะเราใส่ใจหรอก จึงถามอ่ะ และเราว่าคู่อื่นๆ ก็เป็นเหมือนกัน เราขอดูโทรศัพท์ เขาก็ไม่ชอบบอกว่าอย่าเช็ค รู้สึกเหมือนถูกตรวจสอบ เราก็ไม่ทำ แต่เรื่องที่เขาไม่ให้เราถามว่าอยู่ไหน ไปไหน วันนี้กลับบ้านไหม เราว่ามันแปลกอ่ะ เราควรจะแก้ไขยังไงดี กลุ้มจัง

ตอบเมื่อ: 19 พ.ย.2007, 10:32 am

สงบนิ่ง ชนะทุกสรรพสิ่ง

ตอบเมื่อ: 19 พ.ย.2007, 2:08 pm

ชอบตอบแบบเป็นกลางๆ ที่ไม่ได้อิงธรรมะมากมายนะ
การใช้ชีวิตคู่ เรื่องความรักที่มันจืดจางลงไปตามกาลเวลา ธรรมชาติมันก็เป็นเช่นนี้แหละ
ควรที่จะหาอะไรทำด้วยกัน เพื่อให้รู้สึกว่าผูกพันกัน
แต่ถ้าเป็นในกรณีที่ถามมาเนี่ย มันก็แปลกๆ นะ ถ้าเมื่อก่อนเขาไม่เคยเป็นอย่างนี้เลย
ก็รักเค้าให้เหมือนเดิม ตามดูและถ้าเป็นไปได้ก็ถามจากเพื่อนที่พอจะคุยกันได้ว่าเค้าเกิดอาการนอกใจรึป่าว สุดท้ายก็ต้องทำใจเผื่อไว้ ถ้าจะเกิดอะไรที่เราไม่ต้องการขึ้นมา

หาความสุขให้ตัวเอง และลองละเลยแฟนบ้าง บางทีเค้าอาจจะสงสัยเหมือนกันว่าทำไมถึงไม่ใส่ใจเค้าเหมือนเมื่อก่อน ลองพิจารณาดู

ตอบเมื่อ: 19 พ.ย.2007, 6:31 pm

อยากตอบบ้างอ่ะค่ะ

คือว่า คนเราเนี่ยนะ ถ้าไม่ไปฝืนธรรมชาติ อะไรๆก็จะดูลงตัวไปเสียหมดว่าป่ะ
คนเราทุกวันนี้ชอบฝืน ในเมื่อธรรมชาติเขาเป็นแบบนั้น เราก็อยากไปเปลี่ยนแปลงเขา เพื่อให้ถูกใจเรา
เราชอบแบบนี้ ก็อยากให้เขาชอบแบบเรา
เราชอบคำพูดแบบนี้ ก็อยากให้เขาพูดกับเรา
เรารักเขา ก็อยากให้เขารักตอบ
ฯลฯ
เมื่อไรก็ตาม ที่เรามีความหวัง เราก็เริ่มเดินทางเข้าหาความทุกข์แล้วเช่นกัน
เมื่อเราไม่ได้อย่างที่เราตั้งความหวังไว้ เราก็ทุกข์

ยิ้มเห็นฟัน

ชวนกันไปทำบุญซีค่ะ ทำบุญกันเยอะๆ
เคยมีคนบอกว่า ถ้าคนเรา ภูมิธรรม ไม่เท่ากัน ก็จะอยู่กันลำบากค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆๆ สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 19 พ.ย.2007, 7:05 pm

ขอเล่าเรื่องที่เคยพบเกือบจะสี่สิบปีมานี่แล้วกันนะ หญิงที่จุกจิกชอบติดตามสามีตรวจสอบทุกก้าวย่างส่วนใหญ่สามีจะนอกใจ หญิงชายที่อยู่กันแบบเพื่อนโดยที่ไม่เก็กใส่กันว่าฉันคือภรรยาผมคือสามีมีปัญหาอะไรมักจะคุยกันตรงๆไม่โกหกมักจะอยู่กันยืดยาว....สามีและภรรยาคู่ใดไม่มีเรื่องขัดเคืองใจกันเลยต้องเช็คประสาทว่าปกติหรือไม่(ความคิดของข้าพเจ้า)...และสิ่งหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมให้ครอบครัวเรามีความสุขคือการทำความดี นอบน้อมต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นประจำจ้า...

ตอบเมื่อ: 19 พ.ย.2007, 9:25 pm

ผู้มีทุกข์นั่นแหละ จึงมีความเพลิดเพลิน ผู้มีความเพลิดเพลินนั่นแหละ จึงมีทุกข์

คนตายในหนังสือพิมพ์ตั้งเยอะ ทุกข์ไหม ไม่ทุกข์ เพราะเราไม่ได้ติดข้องในบุคคล

นั้น ส่วนสิ่งใดที่เราติดข้อง สิ่งนั้น เที่ยงหรือแปรปรวน ก็แปรปรวน เมื่อสิ่งที่เรารัก ติด

ข้อง แปรปรวนเป็นอื่นไป ก็ต้องทุกข์เพราะสิ่งนั้น

พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สคาถวรรค เล่ม ๑ ภาค ๑ - หน้าที่ 358

๘. กกุธสูตร

[๒๖๘] กกุธเทวบุตร กราบทูลว่า

ข้าแต่ภิกษุ พระองค์ไม่มีทุกข์บ้าง

หรือ ความเพลิดเพลินไม่มีบ้างหรือ ความ

เบื่อหน่าย ไม่ครอบงำพระองค์ผู้ประทับนั่ง

แต่พระองค์เดียวบ้างหรือ.

[๒๖๙] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

ดูก่อนท่านผู้อันคนบูชา เราไม่ทุกข์

เลย และความเพลิดเพลินก็ไม่มี อนึ่ง

ความเบื่อหน่าย ก็ไม่ครอบงำเราผู้นั่งแต่

ผู้เดียว.

[๒๗๐] กกุธเทวบุตรทูลถามว่า

ข้าแต่ภิกษุ ทำไมพระองค์จึงไม่มี

ทุกข์ ทำไมความเพลิดเพลินจึงไม่มี ทำไม

ความเบื่อหน่าย จึงไม่ครอบงำพระองค์ผู้

นั่งแต่ผู้เดียว.

[๒๗๑] พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า..........
...................

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าอะไร อ่านต่อ คลิกข้างล่างนี้นะ

http://www.dhammahome.com/front/webboard/show.php?id=4094

ตอบเมื่อ: 19 พ.ย.2007, 10:56 pm

กราบสวัสดีคุณบัว และกัลยาณมิตรผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน

อ้างอิงจาก:

คือว่าเรากับแฟน แรกๆ ก็หวานชื่นกันดี แต่เรารู้สึกว่าเขาเริ่มเปลี่ยนไป เราถามเขาว่าไปไหนจะกลับบ้านไหม เขาก็หงุดหงิดใส่เรา เพราะเราใส่ใจหรอก จึงถามอ่ะ และเราว่าคู่อื่นๆ ก็เป็นเหมือนกัน เราขอดูโทรศัพท์ เขาก็ไม่ชอบบอกว่าอย่าเช็ค รู้สึกเหมือนถูกตรวจสอบ เราก็ไม่ทำ แต่เรื่องที่เขาไม่ให้เราถามว่าอยู่ไหน ไปไหน วันนี้กลับบ้านไหม เราว่ามันแปลกอ่ะ เราควรจะแก้ไขยังไงดี กลุ้มจัง

อืม....ปกติของคนรักกัน ปกติของคนเป็นแฟนกันนานๆ ปกติของคนที่ตกลงใช้ชีวิตร่วมกัน ไปถามดูซิ รายไหนรายนั้นเลย5555 ไม่มีคู่ไหนหรอกที่เสมอต้นเสมอปลายรักกันปานจะกลืนจนจวบดินฟ้าสลายสูญสิ้นไปกับแม่น้ำคงคา5555 คบกันใหม่ๆก็เดินคุยกันได้เป็นกิโลๆ พอมาอยู่ด้วยกันแล้ว นอนเตียงเดียวกันยังไม่คุยกันเลย ถามอะไรก็ไม่ได้อย่างที่คุณบัวเล่านั่นแหละ คบกันใหม่ก็โทรถามอยู่นั่นแหละ กินข้าวหรือยัง ไปเที่ยวกันมั้ย นั่งคุยกันได้ทั้งวัน เหมือนโลกนี้มีเราอยู่เพียงสองคน5555

แล้วพอมาอยู่หลังคาเดียวกันทำไมมันกลับตาลปัตร นี่แหละความรักที่คนเราเข้าใจว่าคือความสุขสมหวังที่ปรารถนาที่จะพบ พบแล้วมันก็กลับทุกข์ไปถนัดซะ เค้าไม่อยากให้ถามก็ไม่ต้องไปถาม คนเราถ้ามันบริสุทธิ์ใจมันไม่มีปัญหาหรอกไม่ว่าเรื่องอะไร จะมองเป็นเรื่องดีไปหมดที่เราห่วงใย ก็ไม่ต้องไปแก้ไขอะไร ต่างคนต่างอยู่ เราก็ทำหน้าที่ของเราไป เอาเวลาที่คอยโทรไปถาม หรือนั่งคิดไปต่างๆนาๆนี่ ไปสวดมนต์ไหว้พระปฏิบัติสมาธิทำจิตใจให้สงบดีกว่า จิตสงบมีสติ แผ่เมตตาให้เค้าบ่อยๆ เผลอๆอยากกินก๋วยเตี๋ยว เค้าก็จะซื้อมาฝากเราตอนกลับบ้านสมความปรารถนาที่เราอยากจะกิน จิตสงบมีสตินี่คิดสิ่งใดสมปรารถนานะ ยิ่งคนรักคนใกล้ชิดกันนี่ ความรู้สึกจะเหมือนคนคนเดียวกัน ลองฝึกปฏิบัติดูซิ จากร้ายจะกลายเป็นดีเอง

เจริญในธรรม

มณี ปัทมะ ตารา

หัวเราะ

ตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2007, 6:35 am

คุณบัวคับ ขอตอบด้วยคนนะคับ คือว่าที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์ โดยเฉพาะความรักแบบหนุ่มสาว จะทำให้มีทุกข์มาก ถ้าไม่ได้ตามใจของคนใดคนหนึ่ง ความรักเป็นสิ่งที่ดีคับ ถ้ารู้จักรักให้เป็นก็จะเกิดทุกข์น้อย ถ้ารักไม่เป็นก็จะเกิดทุกข์มาก ทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมมีความเปลี่ยนแปลงไปเป็นธรรมดา
ผู้ที่เป็นทุกข์คือผู้ที่ไม่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงนั้น เหมือนกับไม่ยอมรับความจริง ไม่อยู่ในโลกของความจริง พระพุทธศาสนาสอนให้เรายอมรับความจริง เมื่อใดที่เรายอมรับความจริงเราจะมีแต่ความสุข เพราะทุกอย่างในจักรวาลแห่งนี้เป็นไปตามกฎพระไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
มีเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไปเป็นธรรมดา อยากบอกความจริงกับคุณบัวไว้อย่างหนึ่งว่า
การพบกันคิอจุดเริ่มต้นของการพลัดพราก นี้คือสัจธรรม เมื่อคุณบัวยอมรับความจริงข้อนี้เมื่อไหร่ ก็จะเป็นการลดตัวเรา ของเรา ตัวเขา ของเขา ลงเมื่อนั้น และคุณบัวจะรู้สึกดีขึ้นอย่างแน่นอน คับ

ตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2007, 7:21 pm

เป็นข้อสอบเราดีนะคะคุณบัว...
อุบาสิกาเองขอเล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังค่ะ...
แต่งงานแล้วมีลูกสาว1คนตอนนี้ 8ขวบ
เราไม่ได้อยู่ด้วยกันค่ะ..
สามีทำงานอยู่ที่ จ.ระยอง
ส่วนอุบาสิกา มาอุปฐากวัดและดูแลคุณแม่อยู่ที่เมืองเลย
เราแยกกันอย่างนี้ตั้งแต่ลูกสาว 1 ขวบ 3เดือน
.....รักกันด้วยธรรม...
อิสระ...ไม่วุ่นวาย...ให้เกียรติและใว้ใจ...
ที่สำคัญใจ...ของเราต้อง...ไม่หวาดระแวง
ทุกเดือนสามีจะขึ้นรถประจำทางมาที่เมืองเลย
และอยู่ด้วยกัน เพียง2วันก็กลับไปทำงานตามปรกติ
ลูกสาว...ก็ถูกฝึก...จนเป็นปรกติ...
เราจะไม่ค่อยโทร.หากัน...ถ้าไม่มีเรื่องสำคัญอะไร
จนเป็นเรื่องปรกติ....(ไม่เปลืองค่าโทร.)
**ส่วนตัวอุบาสิกาเอง...
ความสวยไม่รู้ว่าหายไปไหน
ผ่านไป9ปีที่แต่งงานกัน...
สามีเหมือนได้ภรรยาใหม่..
น้ำหนักขึ้น เกือบ 30โล..ลดไม่ได้ซักที...
มองกระจกสงสารตัวเอง...โอ้อนิจจังแท้ๆ
*****แต่สายตาที่สามีมองเรา...มีแต่ความรัก..ที่มากขึ้น***
ไม่เคยซักครั้งที่บอกว่าอ้วนแล้วลดน้ำหนักเถอะ...
เราอดมื้อเย็น....บอกว่ากินหน่อยเถอะเดี๋ยวไม่สบาย...
***ถึงเราจะไม่มีความสวยภายนอกมอบให้สามี....แต่เรามีจิตใจที่งดงามมอบให้*
***มันมั่นคง....ยืนยาว...หาที่ใดไม่ได้อีกแล้ว...

**********ใครเคยบอกว่าการแต่งงานเหมือนซื้อล็อตเตอรี่****
**********อยากบอกว่า...อุบาสิกานี่แหละถูกลอ็อตเตอรี่รางวัลที่1***
แต่...อนิจจัง...ทุกอย่างไม่แน่......เตรียมใจเสมอ....สำหรับการเปลี่ยนแปลง....
เอาใจช่วยนะคะ....ดูแลใจตัวเอง....และเมตตาคนข้างๆ...ทุกอย่างจะดีเองค่ะ

ขอให้เจริญในธรรม
ธรรมสวัสดี
อุบาสิกา/แม่พิม

สาธุ

ตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2007, 10:49 pm

เรื่องของคู่ครองที่ต้องมาอยู่ร่วมกัน ในกรณีของเจ้าของทู้ อยากแนะนำว่า ให้ทำตัวดั่งเพื่อน ดั่งพี่น้อง ให้ความห่วงใยต่อกัน หากมีปัญหาก็ต้องเคลียร์อย่าให้ข้ามเกินสองวันจะดีที่สุด เรื่องการเช็คเรื่องส่วนตัว เราเองก็ไม่ชอบนะที่ใครจะมาวุ่นวาย ดังนั้น หากถามแล้วถ้าเขาไม่บอก ไม่กล้าแสดงให้ดู ก็คิดเถอะว่า เป็นสัญณานของความขาดความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกันแล้วล่ะ จงทำใจให้สบาย ทำวันนี้ต่อคนที่คุณรักให้ดีที่สุด ทำทุกอย่างให้คุณเองรู้รู้ว่าดี แค่นี้ชีวิตคุณก็จะสุขแล้วล่ะ หากบุญเขามีต่อคุณ ชีวิตคงได้อยู่ร่วมกันอีกนาน

ขอคุณแห่งองค์พระพุทธเจ้าจงคุ้มครองเทอญ สาธุ