มีชีวิตที่มีแต่ความผิดหวังในความรัก ควรใช้ธรรมะใดดีคะ

ตอบเมื่อ: 14 พ.ย.2007, 3:42 pm

ดิฉันไม่เคยสมหวังในความรักเลย มีแฟนกี่คนก็ผิดหวังตลอด มักจะต้องเจอคนที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา จริงใจกับเราได้ไม่นานแล้วก็จากไปมีหญิงอื่น ทั้งที่ดิฉันเองก็หมั่นทำความดีมาตลอด ปฏิบัติต่อคนที่ดิฉันรักอย่างดีและซื่อสัตย์ แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมคนที่ดิฉันรักถึงได้ต้องจากไปทุกครั้ง

ล่าสุดดิฉันคบอยู่คนหนึ่ง เขาเป็นคนดีมีลักษณะนิสัยและวิถีชีวิตคล้ายกันกับดิฉันมาก และดิฉันก็คิดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่ใช่ แต่พอคบไปไม่นาน เขาก็มาบอกดิฉันว่าเขาไม่ได้มีดิฉันเพียงคนเดียว ยังคงมีคนที่คบหาอยู่อีกหลายคน เพียงแต่ยังไม่ได้แต่งงานเป็นทางการเท่านั้น เรารู้จักกันหลายปี เขาเป็นที่ปรึกษาที่ดี คอยห่วงใยเอาใจใส่เสมอ ไม่เคยปิดบัง แม้แต่เรื่องส่วนตัวเขาก็เล่าให้ดิฉันฟัง แต่ความรู้สึกบางอย่างกลับทำให้ดิฉันทุกข์ใจ โดยเฉพาะการที่เขาไม่กล้าตัดสินใจเลือกใครสักคน ยิ่งกลับทำให้ดิฉันไม่แน่ใจว่าเขารักฉันจริงหรือไม่ ดิฉันสับสนมากค่ะ เครียดและทุกข์ใจเป็นที่สุด ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพบกับเรื่องแบบนี้ตลอด ดิฉันเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มา 3 ครั้งแล้ว ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ

ดิฉันควรจะเลิกกับเขาดีหรือไม่คะ เขาคงไม่ได้รักดิฉัน แต่ดิฉันรักเขามากค่ะและยังอยากมีเขาอยู่ แต่อีกใจก็ไม่อยากเข้าไปพัวพันกับปัญหาเรื่องรักสามเส้า สี่เส้า ดิฉันไม่อยากแย่งใคร ถ้าดิฉันคบเขาต่อไปจะผิดหรือไม่คะ ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ พยายามสวดมนต์ก็จิตใจฟุ้งซ่านไม่สงบ มีธรรมะใดที่จะสามารถช่วยให้ดิฉันสมหวังในความรักบางไหมคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ

ตอบเมื่อ: 14 พ.ย.2007, 4:16 pm

ที่ใดมีรัก ที่นั่นมีทุกข์
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10597

ความสุขของผู้หญิงติดกับรูปแบบ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=11051

ทุกข์เพราะคนรักหนีจากไป
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=556

กรรมที่เราก่อไว้ในอดีต
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=6243

ขอให้อย่าไปคาดหวังอะไรมากนักเลยนะค่ะ กับ จิตปุถุชน ไม่ว่าเพศไหน ฆราวาส (หญิง-ชาย) หรือนักบวช จิตปุถุชนย่อมเปลี่ยนแปลง ไม่มั่นคง ไม่แน่นอน กาลเปลี่ยน ใจคนเปลี่ยน ดังนั้น ไม่ว่าเราจะเจอเหตุการณ์ใด (ดี-ร้าย) หรือเจอความเปลี่ยนแปลงอะไรเกิดขึ้นในชีวิต เราก็จะต้องยอมรับได้ อดได้ ทนได้ แล้วท้ายสุด ต้องปล่อยวางด้วยจิตที่เป็นปกติสุขได้อ่ะค่ะสาธุ

ตอบเมื่อ: 15 พ.ย.2007, 9:24 am

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ เรื่องปล่อยวางดิฉันยอมรับค่ะว่าทำได้ยากจริงๆ เท่าที่จำความได้ ชีวิตดิฉันมีแต่ความผิดหวังมาตลอด เกิดมามีแต่ความทุกข์ใจ ยิ่งช่วง 2-3 ปีมานี้ ดิฉันเจอแต่เรื่องร้ายๆ ทำให้ใจท้อแท้สิ้นหวัง คงเป็นกรรมในอดีตที่เคยทำไว้ แต่ดิฉันก็ได้แต่หวังว่าความดีและบุญทานที่ดิฉันทำมาจะพอมีอานิสงส์ที่จะให้ชีวิตของดิฉันมีความสุขบ้าง

ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

ตอบเมื่อ: 15 พ.ย.2007, 9:50 am

sa_za พิมพ์ว่า:

ดิฉันไม่เคยสมหวังในความรักเลย มีแฟนกี่คนก็ผิดหวังตลอด มักจะต้องเจอคนที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อเรา จริงใจกับเราได้ไม่นานแล้วก็จากไปมีหญิงอื่น ทั้งที่ดิฉันเองก็หมั่นทำความดีมาตลอด ปฏิบัติต่อคนที่ดิฉันรักอย่างดีและซื่อสัตย์ แต่ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าทำไมคนที่ดิฉันรักถึงได้ต้องจากไปทุกครั้ง

ล่าสุดดิฉันคบอยู่คนหนึ่ง เขาเป็นคนดีมีลักษณะนิสัยและวิถีชีวิตคล้ายกันกับดิฉันมาก และดิฉันก็คิดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่ใช่ แต่พอคบไปไม่นาน เขาก็มาบอกดิฉันว่าเขาไม่ได้มีดิฉันเพียงคนเดียว ยังคงมีคนที่คบหาอยู่อีกหลายคน เพียงแต่ยังไม่ได้แต่งงานเป็นทางการเท่านั้น เรารู้จักกันหลายปี เขาเป็นที่ปรึกษาที่ดี คอยห่วงใยเอาใจใส่เสมอ ไม่เคยปิดบัง แม้แต่เรื่องส่วนตัวเขาก็เล่าให้ดิฉันฟัง แต่ความรู้สึกบางอย่างกลับทำให้ดิฉันทุกข์ใจ โดยเฉพาะการที่เขาไม่กล้าตัดสินใจเลือกใครสักคน ยิ่งกลับทำให้ดิฉันไม่แน่ใจว่าเขารักฉันจริงหรือไม่ ดิฉันสับสนมากค่ะ เครียดและทุกข์ใจเป็นที่สุด ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพบกับเรื่องแบบนี้ตลอด ดิฉันเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้มา 3 ครั้งแล้ว ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ

ดิฉันควรจะเลิกกับเขาดีหรือไม่คะ เขาคงไม่ได้รักดิฉัน แต่ดิฉันรักเขามากค่ะและยังอยากมีเขาอยู่ แต่อีกใจก็ไม่อยากเข้าไปพัวพันกับปัญหาเรื่องรักสามเส้า สี่เส้า ดิฉันไม่อยากแย่งใคร ถ้าดิฉันคบเขาต่อไปจะผิดหรือไม่คะ ดิฉันควรทำอย่างไรดีคะ พยายามสวดมนต์ก็จิตใจฟุ้งซ่านไม่สงบ มีธรรมะใดที่จะสามารถช่วยให้ดิฉันสมหวังในความรักบางไหมคะ

ขอบพระคุณมากค่ะ

คุณ ต้องทำความเข้าใจไว้อย่างหนึ่งว่า คำว่าหลักธรรมนั้น คืออะไร หลักธรรม ก็คือ ความเป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์ ในทุกแง่มุม นั่นคือหลักธรรมที่แท้จริง

เมื่อคุณคิดพิจารณาและทำความเข้าใจแล้วว่า หลักธรรม แท้ที่จริง ก็คือ ความเป็นไปตามธรรมชาติแห่งสรรพสิ่ง ในที่นี้หมายเอาเฉพาะมนุษย์ คุณก็ค่อยหา ข้อบกพร่อง ของตัวคุณเอง ซึ่งจริงแล้ว ก็คือ การคิดพิจารณาหาเหตุว่า คุณมีพฤติกรรมทาง กาย วาจา และใจ เป็นอย่างไรบ้าง
พฤติกรรมทาง กาย วาจา และใจ จะเป็นตัวต้นเหตุที่ทำให้เกิดความผิดหวังไม่สมหวังในกิจกรรมต่างๆ ไม่ใช่เฉพาะเพียงแค่ความรักเท่านั้น แต่จะเป็นตัวต้นเหตุแห่งความทุกข์ พฤติกรรม ในที่นี้ ก็คือ การประพฤติ อันสืบเนื่องมาจาก ความคิดของตัวคุณเอง ความคิดของคุณ ก็จะสืบเนื่องมาจาก ความรู้ ความเข้าใจ การได้ประสบพบเห็น รวมไปถึง เกิดจากการนำเอา ความรู้ ความเข้าใจ การได้ประสบพบเห็น หรือสัมผัส มาปรุงแต่งเป็นความคิด มาปรุงแต่งเป็นพฤติกรรม
สิ่งที่จะทำให้คุณหายฟุ้งซ่าน ได้คือ ความรู้ ความเข้าใจ
สิ่งที่จะทำให้คุณหายฟุ้งซ่าน ได้ คือ ความคิด ของตัวคุณเอง
ถึงตอนนี้อย่าสงสัยว่า ความคิด ของตัวคุณเองจะทำให้คุณหายฟุ้งซ่านได้อย่างไร คุณต้องถาม(ซึ่งก็คือคิดอีกนั่นแหละ)ตัวคุณเองว่า คุณคิดฟุ้งซ่านเพราะเหตุใด
เพื่อคุณรู้แล้วว่า คุณฟุ้งซ่านเพราะเหตุใด คุณก็ต้องหา(ซึ่งก็คือความคิดอีกนั่นแหละ)ความคิด อันประกอบด้วยความรู้ ความเข้าใจ มาลบล้างความคิดฟุ้งซ่านของคุณให้สิ้นไป ความคิด อันประกอบด้วยความรู้ ความเข้าใจ และประกอบด้วย สมาธิ หรือการเอาใจจดจ่อหรือฝักใฝ่ในสิ่งนั้น จะทำให้คุณหายฟุ้งซ่านได้อย่างเด็ดขาด
เพียงแต่คุณ ต้องมีความรู้สึกตัวและระลึกได้อยู่เสมอ หรือจะเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า สติ สัมปชัญญะ อันสืบเนื่องต่อจาก ความมีสมาธิ
ส่วนเรื่องที่คุณต้องการสมหวังในเรื่องของความรัก มันก็ย่อมขึ้นอยู่กับ ความคิด พฤติกรรม ของตัวคุณเอง อย่าใส่ใจสนใจให้มากนัก อย่าเลือกมากนัก รักคนที่เขารักเรา ถ้าหากอยากมีคู่เช่นมนุษย์ทั่วๆไป
ขอให้คุณเจริญในความคิด
รับรองไม่นาน คุณได้สมหวังดังตั้งใจ

ตอบเมื่อ: 15 พ.ย.2007, 9:54 am

ไม่ใช่จะมีแต่ คุณ sa_za เท่านั้นที่ผิดหวังมาตลอด ยังมีคนอีกมากมาย มากมายจริงๆ ที่มีความผิดหวังมาตลอด และมีความทุกข์กาย ทุกข์ใจ เหมือนกับคุณอ่ะค่ะ เผลอๆ บางคนอาจเจอเรื่องเลวร้ายมากกว่าคุณเสียอีก ก็เป็นได้ค่ะ สู้ สู้

ไม่ยอมแพ้แก่โชคชะตา
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1462

ตอบเมื่อ: 15 พ.ย.2007, 12:40 pm

ทำให้เป็นปรกติอย่างที่เคยเป็นมาก่อนหน้านี้ และพยายามทำความเข้าใจกับความจริงที่มีอยู่
โดยธรรมชาติที่ว่า มีสุข มีทุกข์ มีได้ มีเสีย มีพบ มีจาก มีเจริญ มีเสื่อม
เป็นสัจจธรรมคู่โลกมานานแล้ว ค่อยทำความเข้าใจไปเรื่อยๆ แล้วก็จะพบกับคำตอบด้วยตัวคุณเอง
เจริญในธรรมครับ

ตอบเมื่อ: 17 พ.ย.2007, 12:17 am

มีเรื่องเล่าให้ ฟัง

กาลครั้งหนึ่ง มี หมู่บ้าน อยู่ 3 หมู่ บ้าน

ย้าย มา ใน เขตโซน นี้ พร้อมๆ กัน
หมู่บ้าน แรก ไม่ สนใจ หมู่บ้าน ทั้งสอง ก็ ลอง ขุด เพื่อ หา ตาน้ำ
แต่ อีก 2 หมู่บ้าน ยังไม่ทำ อะไร
เริ่ม ต้น มา ทั้ง 3 หมู่ บ้าน ยังไม่มี ใคร เจอ ตาน้ำ
แต่ หมู่ บ้านแรก ก็ ทำพลั่ว แต่ ขุด จน ชำนาญ

คนหมู่ บ้าน ที่ สอง เห็น หมู่ บ้าน แรก มีพลั่ว ก็ ได้ หัดการทำพลั่ว
แต่ หมู่ บ้านที่ สาม ก็ ยังไม่ทำอะไร

แล้วผ่านไป 1 เดือน หมู่บ้านแรก เจอตาน้ำ แต่ หมู่บ้านที่ สอง ยังไม่เจอ ตาน้ำ
หมู่ บ้านที่ 2 ก็ ฝึกหัด ขุดจน ชำนาญ
แต่ หมู่ บ้านที่ สาม ก็ ยังไม่ทำอะไร

แล้วผ่านไป อีก 3 เดือน หมู่บ้าน ที่ 2 ก็ เจอตาน้ำ
แต่ หมู่บ้าน ที่ 3 ก็ เพียง เริ่ม บ่น ว่า ผ่านมา เกือบครึ่งปี ก็ ยังไม่เจอ อะไร
จึง เพียง รอ ผล แต่ไม่ สร้างเหตุ แล้ว ก็ ยังไม่ทำอะไร

อายหน้าแดง

ฉันเอง ก็ อยู่ ใน หมู่บ้านที่ 3 ^ ^

ตอบเมื่อ: 17 พ.ย.2007, 11:04 am

กราบสวัสดีคุณsa_za และกัลยาณมิตรผู้มีอุปการะคุณทุกท่าน

คนเรานี่มันทุกข์ทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องของความรักที่คนมักคิดว่าพบแล้วดีเลิศประเสริฐศรี คนนี้แหละใช่แล้วเลย ไม่เคยโกหก ไม่เคยหลอกลวง เป็นห่วงทุกอย่าง ดูแล้วคงจะห่วงมากกว่าแม่บังเกิดเกล้าด้วยซ้ำ(เอ๊ะ....ยังไง5555) อ่านดูแล้วคงเป็นผู้ชายประเภทไม่สับสนอะไรหรอกค่ะ ไม่สับสนที่จะไม่เลือกใคร แล้วทำไมคุณต้องไปสับสนกับเค้าด้วยหละ5555 รักจริงหวังแต่งมันก็คงไม่สามเส้า สี่เส้า ก็ปลีกตัวออกมาเป็นเพื่อนกัน

คุณคิดหรือว่าในขณะที่ผู้ชายคนนี้มาเล่าเรื่องการคบผู้หญิงคนอื่นให้คุณฟังว่าเขามีใครบ้าง แล้วเขาจะไม่เล่าเรื่องคบคุณให้ผู้หญิงอีกสามเส้า สี่เส้าเหล่านั้นฟังเลยหรือ เขาคงขาดความอบอุ่นมาตั้งแต่เด็กหนะ เลยโหยหาความรักเยอะไปหน่อย ก็ปล่อยเค้า เอาเป็นว่าเข้าใจเขาแล้วกัน ไม่อยากแย่งใคร ก็ไม่ต้องไปแย่งกับเขาก็หมดเรื่อง ก็ไม่ต้องทำอะไร ก็อยู่ของเราไป เขาจะไปตรงไหนก็เรื่องของเขา ตรงเราก็มีแต่ความเป็นเพื่อนก็บอกเขาไป เขาจะได้สบายใจที่ไม่ต้องนับเป็นหนึ่งในจำนวนของผู้ที่ถูกเลือก

สวดมนต์ ไหว้พระ ศึกษาฝึกปฏิบัติธรรมของเราไป ขัดเกลาอบรมจิตใจเราดีกว่า มานั่งทุกข์ไม่เป็นเรื่อง รักมากก็ทุกข์ รักน้อยก็ทุกข์ ไม่มีใครรักก็ทุกข์ คนรักเยอะก็ทุกข์ รักตัวเองดีกว่า รักตัวเองให้มากๆ ดูแลใจตัวเองดีกว่า ไม่มีธรรมะข้อไหนที่ให้สมหวังในความรักหรอก นอกจากฝึกให้ใจตนเองเปี่ยมไปด้วยความรัก ความเมตตา จึงจะเป็นที่รักของทุกคนที่พบเห็น เป็นที่รักของทุกภพทุกภูมิ แบบเห็นปั๊บ.....ช่ายยยเลยยยย..... ทำไมไม่อยู่ในจุดที่เป็นผู้เลือกและกำหนดทางเดินชีวิตให้ตัวเองหละ ทำไมไปอยู่ในกลุ่มของผู้ถูกเลือกหละ

หยุดคิดได้แล้ว ผ่านแล้วผ่านไป เริ่มต้นชีวิตใหม่ พรุ่งนี้ไม่สายที่จะรักกัน...เพลงของทาทาหนะ หัวเราะ

ตอบเมื่อ: 18 พ.ย.2007, 9:06 am

ท่านทั้งหลาย พึงได้ทำความเข้าใจในเรื่องของศาสนาให้ดีว่า
"ศาสนา ไม่ได้สอนให้ทุกคนหนีโลก หนี ทุกข์ หนีความโศกเศร้า"
แต่ ศาสนาสอนให้ทุกคนทุกท่านรู้ว่า บนโลกนี้ มีความทั้งความสุข ความทุกข์ ความสมหวัง และความผิดหวัง ในชีวิต มีหัวเราะ มีร้องไห้
อันเนื่องมาจาก การกระทำของตนเองและผู้อื่น
ซึ่งส่วนมากแล้ว ตนเองจะเป็นผู้สร้างความทุกข์ และความสุขให้กับตัวเองมากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ
ดังนั้นท่านทั้งหลายควรได้รู้ และทำความเข้าใจว่า อะไรคือธรรมชาติที่ทำให้มนุษย์เกิด ความทุกข์ เกิดความสุข เกิดความคิดเศร้าโศก เกิดความคิดดีใจปิติ
เมื่อรู้แล้วเข้าใจแล้ว ก็จะเกิดความเบิกบาน ในจิตใจ ฉะนี้

ตอบเมื่อ: 18 พ.ย.2007, 10:56 am

ดูก่อน Sa_Za
เมื่อเธอหมดความรักใคร่
เท่ากับ เธอหมดกิเลส ด้าน กามราคะ แล้ว
ทำให้เธอสะดวกต่อการศึกษา กิเลสด้านอื่น ไม่ต้องกังวล ต่อกิเลส กามราคะ

ตอบเมื่อ: 19 พ.ย.2007, 3:16 pm

sa_za ฉันได้อ่านข้อความของคุณแล้ว
หมั่นทำความดีไว้ดีกว่า ถ้าคู่กันจริงก็คงได้คู่กัน อย่าคิดอะไรมากเลยนะคะ ฉันเป็นกำลังใจให้ มันเป็นธรรมดาของมนุษย์ มีความสุข ก็ต้องมีทุกข์คู่กันเสมอ เราเลี่ยงไม่ได้หรอกค่ะ แต่เราทำใจให้มีความสุขได้ แค่เราเลิกคิดเรื่องที่ทำให้ไม่สบายใจ และรักตัวเองให้มากที่สุดนะคะ

เป็นกำลังให้นะคะ สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 19 พ.ย.2007, 7:36 pm

จริงๆ แล้วกัลยาณมิตรหลายท่านก็ได้ให้ข้อคิดข้อแนะนำ
ที่เป็นประโยชน์แก่คุณ sa_za มามากมายแล้ว

แต่อยากขอเพิ่มเติมอีกนิดนึงค่ะว่า

แม้ทุกข์ หรือสุข ก็ไม่จีรังยั่งยืน

คุณ sa_za ทุกข์วันนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป

แม้คนที่คิดว่าตัวเองได้พบคนที่ใช่แล้ว
คนที่เรารักเขา และเขาก็แสนรักเรา
ก็ใช่ว่าจะไม่ทุกข์

ใช่วันนี้ แต่พรุ่งนี้อาจไม่
ไม่ใช่วันนี้ แต่พรุ่งนี้ก็อาจใช่

ไม่มีอะไรมาการันตีความแน่นอนได้
เพราะความแน่นอน...คือความไม่แน่นอน

อยากให้ดูแลตัวเองและรักตัวเองให้มากๆ
อยู่กับปัจจุบัน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด

อย่ายึด เพราะยิ่งยึด... ยิ่งทุกข์

ลองเป็นผู้ให้โดยไม่คาดหวังกับสิ่งตอบแทน
แล้วคุณจะพบกับความสุขที่ไม่ต้องแสวงหา

ลองสวดมนต์ไหว้พระ
แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ที่เป็นเพื่อนทุกข์ เกิด แก่ เจ็บ ตายบ่อยๆ
และเมื่อจิตสงบระงับฟุ้งซ่านได้บ้างแล้ว
ลองนั่งสมาธิเจริญภาวนาดูบ้างนะคะ
อานิสงส์เหล่านี้จะทำให้เราเกิดปัญญา
ทำให้เรารู้ว่าควรจัดการกับชีวิตตัวเองอย่างไร
ไม่ให้ทุกข์หรือทุกข์น้อยลง

ผีเสื้อ

ใครจะไปรู้ว่า
เมื่อเวลาผ่านไป
เมื่อมองย้อนกลับมา

คุณ sa_za อาจจะต้องรู้สึกขอบคุณกับชายหนุ่มคนนี้ก็ได้ที่ไม่ได้ลงเอยกับเขา
เพราะเมื่อคุณสั่งสมบุญกุศลมากเพียงพอทั้งทาน ศีล เจริญภาวนา
ธรรม และกรรมเก่าจะจัดสรรให้คุณได้พบ
กับคนที่อย่างน้อยต้องเสมอกันทั้งศรัทธา ศีล จาคะ และปัญญากับคุณเองค่ะ
(ถ้ายังปรารถนาจะครองเรือนอยู่นะคะ)

แต่จริงๆ แล้วจะเป็นการดีกว่า
ถ้าคุณเปลี่ยนตัวเองให้มาอยู่ในจุดที่เป็นผู้เลือก
(อย่างที่คุณปุ๋ยว่า...เห็นด้วยมากๆ) สู้ สู้

และเลือก...ที่จะไม่เลือกใครเลย
(ถ้ามันไม่ดีพอควรค่าแก่การเลือก)

และตั้งใจศึกษาปฏิบัติธรรมจนสุดสายปลายทาง...ตามลำพัง

เพราะถึงที่สุดแล้ว....
มนุษย์ทุกคนเวลาเกิดก็ล้วนเกิดมาอย่างโดดเดี่ยว
และเวลาตายก็ตายไปอย่างโดดเดี่ยว....ไม่เว้นสักคน

และ เพราะถึงที่สุดแล้ว...
เราจะพบว่า
ไม่มีใคร หรืออะไร เป็นของเราเลยสักอย่าง
แม้แต่....ตัวเราเอง

ขอให้พบแสงธรรมนำชีวิตด้วยตัวเองในเร็ววัน....นะคะ สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 19 พ.ย.2007, 10:11 pm

พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสเรื่องบุพเพสันนิวาสไว้ว่า....

ความรักที่แท้จริงนั้น
ต้องเหมือนกับดอกอุบลกับน้ำ
ดอกบัวกับน้ำนั้นมีส่วนสัมพันธ์กัน
น้ำลึกเท่าใด สายบัวก็มีส่วนสูงขึ้นเท่านั้น
ควบคู่กันไป

จึงมีภาษิตว่า

สามีเป็นที่ปรากฏแห่งภรรยา
ควันเป็นที่ปรากฏแห่งไฟ
พระราชาเป็นที่ปรากฏแห่งแว่นแคว้น

สามีเป็นที่ปรากฏแห่งภรรยา
หมายความว่า
ต้องได้สัดส่วน
ต้องมี ศีลสามัญญตา ทิฏฐิสมัญญตา
ต้องมีปัจจัยที่เอื้อให้เกิดความรู้สึกเข้าอกเข้าใจกัน

ผีเสื้อ

ลองอ่านบทความนี้เพิ่มเติม...นะคะ ยิ้ม

http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=14175

ตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2007, 7:23 am

รู้สึกเห็นใจนะคะ
ยิ้มเห็นฟัน

- - - - - -> ดุสิตธานี ยามแอบปิ๊งๆใคร แล้วเมื่อใดเขาไม่สนใจ
ดุสิตฯ ก็คิดว่า เขาไม่ใช่ของเรา ช่างเหอะ มันก็จบอ่ะค่ะ
ไม่ไปดิ้นรนหรือแสวงหา ว่าทำไมเขาไม่รัก ไม่ชอบเรา อ่ะค่ะ
และในที่สุดก็รู้จักความเป็นจริงที่ว่า "ของบนโลกนี้ไม่ใช่ของๆเรา"
เราจะไปยึด ไปอยากได้ มาเป็นของเรา ไปบังคับใครที่ไหน หรืออะไรต่างๆ ไม่ได้เลย

สู้ สู้

มีชีวิตต่อไปอย่างเข้มแข็ง แต่ต้องมีธรรมควบคู่ไปด้วยจ้า เจ๋งๆ

ตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2007, 8:13 am

ไม่มีรัก ก็ ไม่มีทุกข์

ไม่คาดหวัง ก็ ไม่ต้องผิดหวัง

เมื่อบุญกุศลถึงพร้อม ไม่แสวงหา มันก็มาหาเอง ยิ้ม

ตอบเมื่อ: 20 พ.ย.2007, 12:13 pm

คุณ sa_za
ยามเราเกิดมาเพียงตัวเรา...ยามเราตายเราไปเพียงเรา...เขามิได้มากับเราและเขาคงไม่ไปกับเราแน่ๆ...เราอาจเลือกที่ต้องการไม่ได้ดังใจทุกครั้งเสมอไป...แต่ตัวเรา เราเลือกที่จะมีความสุขในหนทางที่นำความสุขที่แท้จริงยั่งยืนมาได้..คุณมีสิทธิ์เต็มกำลังในการเลือกที่จะสุขหรือทุกข์โดยไม่ต้องรอใคร... ยิ้ม

ตอบเมื่อ: 21 พ.ย.2007, 9:21 am

ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำดีๆ นะคะ
ดิฉันเองตอนนี้ก็พยายามหมั่นสวดมนต์ภาวนา แผ่เมตตา และอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวร รวมไปถึงเขาและผู้หญิงเหล่านั้นของเขาด้วยค่ะ...
จริงๆ แล้ว ดิฉันต่างหากที่ไม่ปล่อยวาง และตัดใจ จึงทำให้ต้องทุกข์เช่นทุกวันนี้...
หวังว่าบุญกุศล และแรงภาวนาที่ดิฉันได้ปฏิบัติ จะช่วยให้จิตใจดิฉันเข้มแข็งขึ้น และสามารถปล่อยวาง ตัดใจกับสิ่งที่ทำให้เป็นทุกข์ได้โดยเร็ว...

ตอบเมื่อ: 18 มิ.ย.2008, 10:21 pm

ถือว่าคุณโชคดีนะครับที่ไม่ได้ผู้ชายแบบนั้นมาเป็นคู่ชีวิต การเลือกคู่ครองนี้สำคัญมาก ถ้าเรารักด้วยกิเลสเราก็จะได้กิเลสมาเป็นคู่ชีวิตเรา ชีวิตคู่ก็มีแต่ปัญหา ความทุกข์ ถ้ารักแบบมีเมตตาต่อกัน มีสัจจะต่อกัน มีความซื่อสัตย์ต่อกัน คือต้องรักด้วยปัญญา เราก็จะได้ปัญญามาเป็นคู่ครองของเรา สำหรับที่ผ่านมาก็ควรแผ่เมตตาให้คนที่เคยหลอกเรา ขอให้หมดเวรหมดกรรมกันต่อกัน ขอเป็นกำลังใจให้นะครับผม สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 22 ก.ค.2008, 12:57 am

จงตามหารักแท้ต่อไป สู้ๆๆ

ตอบเมื่อ: 30 ก.ค.2008, 4:26 pm

สู้ๆๆๆนะคะ เราก็เป็นอีกคนที่เจอเรื่องแบบนี้ เหมือนกันมากๆๆๆ เค้าไม่ยอมเลือกใครเลย ต้องเป็นเราใช่มั๊ยคะที่ต้องถอย ตอนนี้ก็ทำใจอยู่ค่ะ แล้วก็บอกตัวเองมาตลอดว่าต้องทำให้ได้จริงๆๆๆ เค้ามีความสุขกับอีกคน ทั้งๆที่เรารู้เราทนได้หรอคะ ลึกๆๆต้องทนไม่ได้แน่ จริงมั๊ยคะ แล้วเราจะมานั่งทุกข์ทำไมล่ะ อย่างที่เพื่อนๆๆๆบอกนั่นแหละค่ะ รักตัวเองให้มากๆๆๆๆ ดีกว่านะคะ