Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 การแก้กรรม ทำได้ จริงหรือ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
mahapilot
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 24 ก.ย. 2007
ตอบ: 8
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ย. 2007, 1:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สวัสดี กานอีกซัก 1 รอบ

กระทู้ นี้ อาจ มีใครหลายคนให้ความสนใจ เจตนา ที่ตั้ง กระทู้นี้ขึ้น เพื่อ แสดง ข้อคิด ของ ผม เกี่ยวกับ การแก้ กรรมและ อยากทราบ ทัศนะ ของท่านต่างๆ ที่มีต่อ การแก้กรรม

เกี่ยวกับเรื่องกรรม นี้ หลังจากได้ ศึกษา และลงมือ ปฏิบัติ ได้มาพอสมควร ( ตามที่ ครูบา อาจารย์ ท่านได้แนะนำ) ทำให้ ผมได้ ข้อ คิด จากประสบการณ์ ของตนเอง และ คนรอบ ข้าง(ญาติ พี่น้องและเพื่อนฝูง)

เรื่องของ กรรม ง่ายสุด ก็ คือ การกระทำ ของ ตนเอง ใน อดีต และที่กำลังกระทำปัจจุบัน ซึ่งจะมีผล ต่ออนาคตของ บุคคลผู้นั้น

ที่นี้ จากที่สังเกตุ จาก ตัวผมเอง หรือ ผู้ที่อยู่รอบข้าง เวลาที่เรา รู้สึก ได้ ว่า การงานหรือ สิ่งที่เรากระทำ อยู่ เกิดอุปสรรค ขัดขวาง หรือ มีอาการ ป่วยไข้ นั้น ( อาจเรียกว่า ดวงตก) ซึ่งน่า จะเป็นผลจาก กรรมไม่ดี (อกุศลกรรม) ที่เราเคยทำเอาไว้ในอดีต ก็ ไม่รู้ ชาติไหนภพ ไหน (อันนี้ความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ)


มัก มีผู้เสนอ แนะ วิธีการ แก้ กรรม ( หรือที่เรียกกันว่า สะเดะห์เคราะห์) ต่อ คนที่กำลัง มีปัญหาอยู่
เช่นไป ทำบุญ ใส่ บาตร รักษาศีล สวดมนต์ ภาวนาปล่อย นก ปล่อยปลา ........................ เยอะแยะมากมาก

จาก เท่าที่สังเกตุ การกระทำ ที่เรียกว่า การสะเดาะห์ เคราะห์ นั้น ส่วนมาก เป็นไป เพื่อ การทำให้ จิตใจ ของคนผู้นั้น คลายลง จากการ วิตก ต่อ ปัญหา ที่กำลังเกิดขึ้น เสียก่อน ส่วน ผลบุญ ที่ได้ กระทำไปแล้ว นั้น ตามที่ครูบาอาจารย์ ท่านต่างๆ เคยแนะนำ บอกว่า บุญนี้ ก็ คือ กุศลกรรม ที่ไป ช่วย บรรเทา ( บรรเทานะครับ ไม่ใช่ล้าง จนหมด) อกุศลกรรม ที่เราได้เคยก่อไว้ ในอดีต
หรือ พูดง่ายๆ ว่า ช่วยลด ความรุนแรงของกรรม ที่เราจะได้รับลง
ส่วนใหญ่ เท่าที่ประสบการณ์ มากะตัวเอง และ สอบถาม จากคนรอบข้าง มักพูดตรงกัน ว่า
หาก รู้สึก อยู่ในช่วงดวงตก ( ผล ของอกุศลกรรม) มักจะมีความรู้สึก หงุดหงิด หรือ อารมณ์ หดหู่เซ็ง เครียด กับปัญหาที่กำลังเจอ
พอได้ไป ทำบุญ หรือรักษาศีล สวดมนต์ (ทำ กุศลกรรม) มักรู้สึก ว่า จิตใจ ผ่อนคลายลง มีสติ ค่อยๆ คิดหา ทางแก้ ไขปัญหา ที่เกิดนั้นได้ ซึ่ง ตรงจุดนี้เอง ที่ทำให้ ผมได้ ข้อ คิดว่า

สติ( ความระลึกได้ ความนึกขึ้นได้ ) มีความสำคัญ ซึ่งก็ น่าจะตรงกับ คำสอน ของพุทธศาสนา ที่เน้นเรื่องของสติ ไม่ว่า กิจการงานใด หรือ ผู้ที่ต้องการมรรคผล สติ ย่อม ต้องมาก่อน

สรุป ใจความของกระทู้นี้ที่ ผลกรรม นั้น เราต้องได้รับแน่นอน การสร้าง กุศลกรรมและ การมีสติ ต่อ กรรมที่เราจะได้รับนั้น ย่อมสำคัญกว่า เพื่อลดแรงปะทะ ของกรรม เก่า ที่เราจะได้รับ

คิดเห็นกับเรื่องนี้ประการใด สามารถแสดงความคิดเห็นได้ ขอรับ
สู้ สู้
 

_________________
ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
Buddha
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415

ตอบตอบเมื่อ: 29 ก.ย. 2007, 2:10 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อทำกรรมที่ไม่ดีไว้ ย่อมเกิดความไม่สบายใจ จะใช้วิธีใดแก้กรรมก็ย่อมได้ทั้งนั้น
ไม่ว่าจะเป็นการ สะเดาะห์เคราะห์ บูชาพระราหู หรือสืบชตา เพราะ "อาจารย์ของข้าพเจ้าเคยสอนไว้ว่า "เราเป็นพระสงฆ์มีหน้าที่จรรโลงพุทธศาสนา ศาสนาจะอยู่ได้ก็เพราะมีศรัทธาประชาชน ประชาชนหนีร้อนมาพึ่งเย็น ต้องทำให้เขาเย็น ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ได้ ให้เขาเย็นใจสบายใจ " (ข้าพเจ้าไม่ใช่พระสงฆ์นะ ท่านสอนตอนข้าพเจ้าเป็นสามเณรรับใช้ท่านอยู่ ทั้งเขียนยันต์ลงกระดาษสา ทั้งสีฝั้นขี้ผึ้งเพื่อทำเทียนสะเดาะห์เคราะห์ ฯลฯ )
หรือจะไปทำบุญตักบาตร อุทิสส่วนกุศล หรืออื่นๆหลายหลายวิธีการ ที่จะทำให้เกิดความสบายใจมั่นใจ ในอันที่จะมีแรงจูงใจให้เกิดพลังในการทำงานมีพลังในการประกอบกิจวัตรประจำวัน ฉะนี้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
chanin
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 27 เม.ย. 2006
ตอบ: 36
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพมหานคร

ตอบตอบเมื่อ: 01 ต.ค.2007, 4:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

รวมเคล็ดลับการแก้กรรมแบบต่างๆ


เราทุกคนมีกรรมนำพามาแต่กำเนิด แต่ต้องพบวาระกรรมที่หนักหนาสาหัสมากมายในอนาคต ชีวิตในบางครั้งดูราบเรียบ แต่บางครั้งกลับพบมรสุมชีวิต หากท่านกำลังประสบภาวะลำบากต้องทนรับกรรม คงมีความทุกข์ไม่น้อย บางท่านใช้วิธีไปหาหมอดู ช่วยในการแก้กรรมรูปแบบต่างๆ ในบทความฉบับนี้ จะขอนำเสนอเคล็ดลับการแก้กรรมหนักที่ค่อนข้างยาวนาน หรือร้ายแรงถึงชีวิต เป็นต้น เพื่อให้ท่านทั้งหลาย สามารถดำเนินชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างมีความสงบสุข แม้ต้องรับกรรมหนักนั้นก็ตาม ก็ยังสามารถอดทนได้ อย่างไรก็ดี หลักการแก้กรรมนี้ ไม่ได้สามารถทำให้กรรมหมดไปได้ แต่สามารถทำให้มีความสุขแม้มีกรรมต้องรับได้ เช่น หากมีกรรมต้องเป็นโสเภณีก็ยังต้องเป็น แต่จะพบลูกค้าที่ไม่โหดร้ายจนเกินไป ให้เกียรติ์ ไม่ซ้อมหรือบังคับมากเกินไป เป็นต้น อนึ่ง บทความฉบับนี้เขียนขึ้นโดยความรู้สึกส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน หากพบว่ามีแนวทางปฏิบัติที่เป็น “สัมมาทิฐิ” พอที่จะนำไปปรับใช้ได้ ก็ขอให้ลองพิจารณาดู


กรรมต้องฆ่าตัวตาย
ให้ทำบุญใหญ่เพื่อยื้อชีวิต เช่น สร้างโบสถ์, สร้างโรงเจโรงทาน, ไถ่ชีวิตโคกระบือ ฯลฯ แล้วอธิษฐานส่งผลบุญนี้ เพื่อขอให้เจ้ากรรมนายเวรลดทอนผลกรรม จากนั้น ให้สละเพศฆราวาสออกบวช เพื่อให้คนเก่าตายลงไป ถือกำเนิดเป็นคนใหม่ในเพศบรรพชิตแทน บวชจนกว่าจะพ้นระยะเวลากรรมยังผล เช่น รับกรรมนี้สามปี ก็ให้บวชสามปี ตั้งจิตบวชเพื่อบำเพ็ญบุญบารมีสร้างคุณงามความดีให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จนหมดเคราะห์กรรม เมื่อหมดเคราะห์กรรม ก็กลับมาเป็นฆราวาสได้

กรรมสามีมีเมียน้อย
ให้เจรจากับสามีและภรรยาน้อยให้ชัดเจนว่า ต่อจากนี้ไป ตนจะห่มผ้าขาวอยู่อย่างสงบสุข ฝ่ายสามีจะต้องอุดหนุนทรัพย์ เพื่อดูแลตนและลูกให้สามารถห่มขาวต่อไปได้ สามารถทำบุญบารมีในเพศฆราวาสได้ ไม่ต้องมากมาย ขอเพียงพอยังชีพเท่านั้น โดย ตนจะไม่ขัดขวางทั้งสามีและภรรยาน้อยแต่อย่างใดเลย ตนจะอยู่ในฐานะภรรยาในนามเท่านั้น ขอสละสามีนี้ให้แก่ภรรยาน้อยโดยดี และขอให้อโหสิกรรมต่อกัน

กรรมต้องเป็นภรรยาน้อย
ให้เจรจากับสามีและภรรยาหลวงให้ชัดเจนว่า ต่อจากนี้ไป ตนจะอยู่ในฐานะภรรยาอย่างเต็มตัวผู้หนึ่ง ที่จะระลึกถึง “ภรรยาหลวงและลูก” ก่อนตนเสมอ ในการกระทำการใดๆ อันเกี่ยวข้องกับครอบครัว จะถือว่าภรรยาหลวงและลูกๆ ของภรรยาหลวงนั้น เป็นญาติสนิทของสามีรองจากพ่อและแม่ ตนจะให้เกียรติ์และถอยหลังอยู่ในที่สงบอันควร ไม่ก่อความเดือดร้อนวุ่นวาย ให้แก่ภรรยาหลวงและลูกๆ ของภรรยาหลวง

กรรมต้องมีภรรยามาก
ให้เจรจากับภรรยาหลวงและภรรยาน้อยให้ชัดเจนว่า ต่อจากนี้ไป ตนจะรับผิดชอบดูแลชีวิตทุกคนให้ไม่ขาดตกบกพร่อง ให้เงินและเวลาแต่ทุกคนทุกฝ่ายอย่างเท่าเทียม เท่าที่จะสามารถทำได้ ตนได้กระทำประเวณีกับผู้ใดแล้ว จะรับผิดชอบทั้งหมด แม้ว่าจะกลายเป็นภาระหนักในอนาคตก็ตาม จะเป็นกำลังหลักในการทำมาหากินของครอบครัว ไม่ให้ผู้ใดต้องเดือดร้อนเลย ตนจะรับผิดชอบทั้งหมดที่กระทำและยินดีรับฟังคำติเตียนที่ตนเองอาจบกพร่องในอนาคตจากภรรยาที่มีมาก และจะยอมรับว่าหากเกิดความวุ่นวายขึ้นมาในบ้าน ก็จะยอมรับว่าเป็นเพราะความบกพร่องของตน ไม่ใช่ความผิดของทั้งภรรยาน้อย และภรรยาหลวงแต่อย่างใด ตนผิดเพียงผู้เดียว

กรรมมีโรคประจำตัว
กรรมนี้ส่งผลให้การใช้ชีวิตประจำวันต้องระวัดระวังมากขึ้น ต้องเข้าโรงพยาบาลต่อเนื่องบ่อยมากขึ้น บ้างก็ห้ามกินหวาน กินเค็ม ฯลฯ กระทบกับการดำรงชีวิตมากทีเดียว กรรมมีโรคประจำตัวนี้ บางโรครักษาไม่หาย เป็นแล้วต้องตายบ้าง บ้างก็ไม่ถึงขั้นตาย แต่ก็รบกวนการใช้ชีวิตปกติมากทีเดียว กรรมนี้เกิดจากการผิดศีลฆ่าสัตว์โดยเฉพาะมนุษย์ เช่น เคยรบในสงคราม เป็นต้น ผู้ได้รับกรรมนี้ ขอให้รับ “ศีลห้า” ไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด หากสามารถ “กินเจตลอดชีวิต” เพื่อส่งผลบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวรได้จะดีมาก พยายามละเว้นจากการฆ่าสัตว์ ปล่อยสัตว์ให้พ้นจากความตายอย่างสม่ำเสมอ เช่น ปล่อยนก, ปล่อยปลา, ปล่อยเต่า, ไถ่ชีวิตโคกระบือ ฯลฯ เพื่อขอลดทอนกรรมที่ตนได้รับในปัจจุบัน เจ้ากรรมนายเวรก็จะลดหย่อนโทษให้

กรรมทำให้ต้องฆ่าคน
อาจด้วยรอยกรรมรอยเกวียนเก่า เคยเกิดมาฆ่าคนมากมาย เช่น เป็นทหารไปรบ, เป็นโจรมาก่อน เมื่อมาชาตินี้ รอยกรรมรอยเกวียนนั้นย้อนกลับมาอีกรอบหนึ่ง ทำให้ต้องอยู่ในฐานะที่ต้องฆ่าคน เช่น มีคนมาชักชวนให้ไปก่อการร้าย เป็นต้น วิธีแก้กรรม คือ ไปสมัครเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติ, ไปสมัครเป็นเพชฌฆาตที่ประหารนักโทษ, ไปสมัครเป็นพนักงานกำจัดปลวกหรือแมลงช่วยเหลือผู้อื่น เพื่อให้แรงกรรมเบี่ยงเบนไปในทางที่เกิดประโยชน์แก่คนจำนวนมาก กรรมจะลดทอนลง กลายเป็นผลดีแทน

กรรมที่ต้องเป็นโสเภณี
คือ กรรมที่เคยพรากภรรยาผู้อื่น เจ้าชู้มากรัก และหักอกให้ผู้อื่นต้องช้ำใจ ทำให้ต้องมาเกิดเป็นโสเภณี เมื่อรู้ตัวว่าถึงคราวแล้วที่ตนต้องรับกรรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เช่น แม่ขอให้ตนไปทำงานกับหนุ่มที่หลอกลวงไปขายตัวในเมืองกรุง และจิตใจตนเองก็รู้ดี แต่รู้สึกว่าเป็นสิ่งดีไปหมด (กรรมบังตา) ให้ตั้งจิตอุทิศร่างกายของตนนี้ พลีเพื่อความสุขและชีวิตครอบครัวผู้อื่น อย่าได้ทำให้ผู้อื่นต้องเลิกร้างกัน และตนขอครองโสดตลอดไป ไม่ขอมีความรักแบบหนุ่มสาวอีกจนกว่าจะพ้นบ่วงกรรม แล้วให้ส่งเงินจากการขายบริการทางเพศให้พ่อแม่ส่วนหนึ่ง ให้เด็กกำพร้าส่วนหนึ่งทุกเดือนอย่า ได้ขาดตกบกพร่องจนกว่าจะพ้นกรรม และอย่าใช้เงินฟุ่มเฟือยสนองความสวยงาม

กรรมที่ต้องเป็นทาส
ในอดีตได้เบียดเบียนชีวิตผู้อื่นเป็นเนืองนิตย์ด้วยการบังคับขู่เข็ญ หรือเข็ญใจผู้อื่น ทำให้ต้องเกิดมาเป็นทาส การเกิดมาเป็นทาสนี้มีทุกชาติไป เพราะดวงวิญญาณที่ก่อกรรมเช่นนี้ยังไม่หมด ก็จะกลับมาเกิดอีกครั้ง แม้นกระทั่งในปัจจุบัน “ทาสในระบบ” ก็ยังมีอยู่ คือ “มนุษย์เงินเดือน” ที่ต้องตอกบัตรทุกเช้าและกลับบ้านจนค่ำมืดหมดไปหนึ่งสัปดาห์ เหลือเวลาทำกิจส่วนตัวเพียงสองวัน จึงไม่เหลือเวลาทำบุญให้ตนเอง เช่นนี้จำต้องแก้กรรมด้วยการ ตั้งจิตทำงานทุกวัน พลีชีพนี้เพื่อ “ทำการกุศล” ให้แก่องค์กรและมูลนิธิต่างๆ ที่เป็นไปเพื่อสาธารณะประโยชน์ อาจทำได้โดยแบ่งเงินบาง ส่วนไปบริจาคเพราะไม่มีเวลาไปช่วยงาน ทำให้ได้ทุกเดือนจนกว่าจะหมดกรรม ก็จะได้เป็นอิสระ เช่น มีกิจการเล็กๆ เป็นของตนเองพอเลี้ยงชีพให้รอดได้ เป็นต้น

กรรมต้องพลัดพรากจากบ้าน
ในอดีตชาติอาจได้ทำการพรากลูกพรากเมียผู้อื่น หรือได้วางแผนยุยงให้บ้านเมืองเขาแตกแยกกัน ตนเองจึงต้องรับกรรมบ้านแตกสาแหรกขาด หรือตนเองต้องพรากจากบ้านเกิดเมืองนอนของตนไปอย่างที่ไม่พึงประสงค์ จำต้องทำการแก้กรรม ด้วยการประสานรอยร้าวเพื่อให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ เช่น “ทำบุญด้วยทรัพย์สนับสนุนโครงการสามัคคีของคนในชาติ” ด้วยวิธีการต่างๆ เพื่อชดใช้กรรมที่มีในอดีตชาติที่ตนเคยยุยงบ้านเมืองเขาให้แตกแยกกันมา หรือหันไปช่วยบ้านเมืองที่มีผู้ปกครองดีงาม ต่อต้านอริราชศัตรูที่มารุกราน ด้วยการวางแผนยุยงให้ฝ่ายตรงข้ามแตกแยก ซึ่งอาจทำให้ตนเองต้องเสี่ยงชีวิต แต่หากยอมได้ กรรมหนักนี้ก็จะหมดไป


กรรมที่ต้องเป็นขอทาน/ยากจนข้นแค้น
ในอดีตชาติอาจทำบุญน้อย เป็นคนตระหนี่ถี่เหนียว หรือขัดขวางการได้เสวยผลบุญของผู้อื่น ทำให้ชาตินี้ต้องตกระกำลำบากยากจนข้นแค้น บ้างต้องเป็นขอทานเป็นต้น ให้แก้กรรมด้วยการ “ทำทานวันละเล็กละน้อยจนเป็นนิสัย” กล่าวคือ มีอะไรติดไม้ติดมือได้ก็ทำบุญทำทานโดยไม่ได้น้อยใจว่าราคาสิ่งของนั้นจะต่ำต้อยแต่อย่างใด จนติดเป็นนิสัยในชาตินี้ เช่น ทำบุญด้วยผักที่เก็บมาได้ในป่า แบ่งออกไว้กินส่วนหนึ่ง ก็แบ่งมาทำบุญส่วนหนึ่ง เพื่อเป็นรอยกรรมรอยเกวียนในชาตินี้ให้ต้องทำบุญทำทานในชาติหน้าต่อๆ ไป เพราะด้วยความยากจนข้นแค้นจึงไม่สามารถทำบุญด้วยสิ่งของมากได้ ชาตินี้จำต้องฝืนแรงกรรม ทำให้ได้อย่างสม่ำเสมอแม้นไม่ใช่ของมีราคาก็ทำ

กรรมที่ถูกกักขัง/จำคุกหรือถูกกักตัว
ในอดีตชาติอาจกักขังหน่วงเหนี่ยวสัตว์จำนวนมาก หรือยาวนาน หรือกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้ทรงศีลธรรม หรือกักขังบุพการีผู้มีคุณ ฯลฯ ทำให้ชาตินี้ต้องมารับวิบากกรรมถูกกักขังหรือจำคุก การแก้กรรมต้องให้ปล่อยสัตว์ที่มีบุญจำนวนมาก คือ ไถ่ชีวิตโคกระบือ หรือช่วยคนปลดปล่อยทาสให้เป็นอิสระ ช่วยกรณียากๆ ยิ่งดี กรรมจะหมดเร็ว

กรรมที่ถูกกลั่นแกล้งทำร้ายร่างกายจิตใจเป็นนิตย์
ในอดีตชาติอาจเคยมีเรื่องบาดหมางกับผู้คนมากมาย หรือเคยทรมานทาส ทำร้ายร่างกายผู้อื่นไว้ ทำให้ชาตินี้ต้องมารับวิบากกรรม วิธีแก้กรรมให้ตั้งจิตอุเบกขาอดทนรับกรรม ระลึกว่า “ข้าพเจ้ารับผิดแล้ว ยินดีให้ลงโทษ ขอขมากรรม ขออโหสิกรรม” อย่างนี้อยู่เสมอ แล้วให้ช่วยเหลือการแพทย์ต่างๆ ไม่ว่าจะด้วยทรัพย์หรือแรงกาย หรือการบริจาคเลือดหรืออวัยวะ เพื่อตั้งจิตอธิษฐานผลบุญไปให้เจ้ากรรมนายเวรเพื่อให้ยอมลดปลดหนี้ตน เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกายผู้ป่วย กรรมเก่าก็จะหมดเร็ววัน

กรรมที่ต้องพิการทางร่างกายหรือสมอง
ในอดีตชาติอาจทำร้ายผู้มีคุณหรือเปี่ยมคุณงามความดี ทำให้เกิดความพิการขึ้น หรือทำลายพระพุทธรูปที่เคารพบูชา เช่น เป็นขโมยตัดเศียรพระ อาจทำให้ต้องเป็นคนสติไม่ดี ตัดพระหัตถ์พระพุทธรูป อาจทำให้ต้องเกิดมามือพิการ ในกรณีที่ชาติก่อนถูกคนฆ่าตายโดยร่างกายขาดไม่ครบส่วน เช่น คอขาดตาย ชาตินี้จะไม่ต้องรับกรรมนั้น เพราะตนไม่ได้กระทำ แต่จะมีรอยกรรมปรากฏให้เห็นได้ เช่น มีรอยแผลรอบคอสักระยะแล้วหายไป เป็นต้น แต่หากเป็นกรรมที่ตนเป็นผู้กระทำเอง จะได้รับกรมสนองเป็นรูป “พิการ” จริงๆ วิธีการแก้กรรม ให้อุทิศอวัยวะให้ผู้ป่วยหลังตนตายลง ช่วยซ่อมแซมพระพุทธรูปเก่าที่ชำรุด ออกเงินช่วยเหลือผู้พิการในด้านต่างๆ

กรรมที่ต้องเกิดมาผิดเพศหรือชอบเพศเดียวกัน
ในอดีตชาติอาจผิดลูกเมียผู้อื่น หรือ เพราะมีบุญมากได้เกิดมาไม่ต้องอยู่ในฐานะฆราวาส ไม่ต้องมีลูก ไม่ต้องท้อง แต่ยังเหลือเศษกรรมให้ต้องชดใช้กับเจ้ากรรมนายเวรที่เป็นเพศเดียวกัน บางรายเกิดจากพรหม ไม่มีเพศมาก่อน เป็นร่างชาย ดูไม่เป็นหญิง แต่ไม่ชอบผู้หญิง มีบางช่วงชอบผู้ชายด้วยกัน เพราะเป็นเศษกรรมในอดีตชาติ แต่บางคนทำกรรมแย่งภรรยาผู้อื่น จนต้องมาเป็นกระเทย บ้างเป็นคู่รักเก่าแต่เกิดมาเป็นเพศเดียวกัน วิธีการแก้กรรม คือ ให้ตั้งอธิษฐานจิตชดใช้กรรม โดยขอให้เจ้ากรรมนายเวรลดทอนโทษด้วยการทำบุญไปให้ เป็นการช่วยเด็กกำพร้า, ผู้ถูกทอดทิ้ง, ผู้ครอบครัวแตกแยก ฯลฯ จนหมดวาระกรรม ให้สละชีวิตโสดของตน เพื่อทำงานการกุศลแบบนี้ และไม่ควรแต่งงานเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้เกิดกรรมพ่วงผูกพันกันต่อไปในชาติหน้า จึงควรเป็นโสดและใช้เวลาว่างเพื่อประโยชน์แก่สาธารณชน

ข้อสังเกตในการแก้กรรม
ขอให้เข้าใจด้วยว่า “กรรมนั้นหนีไม่ได้” แต่ “ลดทอนหรือเบี่ยงเบนได้” ทำให้ผลที่เกิดขึ้นจากการรับวิบากกรรมเป็นไปในด้านดีทั้งต่อตนเองและผู้อื่น อดีตนั้นอาจทำกรรมไม่ดีไว้ แต่กรรมปัจจุบัน คือ โอกาสในการแก้ตัวใหม่ได้เสมอ ไม่มีคำว่า “สายเกินไป” ขอให้ตั้งใจที่จะเปลี่ยนวิถีหรือรูปแบบกรรม ก็จะทำให้กรรมที่ได้รับกลายเป็นผลดีในที่สุดทั้งต่อตนเองและผู้อื่น บทความนี้ได้เสนอตัวอย่างเป็นเบื้องต้นเท่านั้น
 

_________________
ตนแล เป็นที่พึ่งแห่งตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
mahapilot
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 24 ก.ย. 2007
ตอบ: 8
ที่อยู่ (จังหวัด): ชลบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 01 ต.ค.2007, 10:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ ขอบคุณหลายๆ สำหรับ ข้อแนะนำ เพิ่มเติม ที่ได้ รับ ท่านอื่น มีความคิดเห็นใดเพิ่มเติม เชิญได้ ขอรับ เพื่อ เป็นการวิจารณ์ สิ่งที่เรา ได้รับรู้และ แบ่งปัน ความรู้ ต่างๆ ตามความเห็นหรือความเข้าใจ ของ แต่ละบุคคลโดยมี เหตุผล ประกอบ สาธุ
 

_________________
ไม่มีใครใหญ่เกินกรรม
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
Buddha
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 29 พ.ค. 2007
ตอบ: 415

ตอบตอบเมื่อ: 02 ต.ค.2007, 10:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กรรมคือ การกระทำ
นั่นคือความหมายของคำว่า กรรม
แต่ในทางค่านิยมแล้ว กรรมในทางที่เข้าใจกันคือสิ่งที่ตัวบุคคลกำลังประกอบกิจกรรมอยู่ หากเป็นไปในทางที่ค่านิยมทางสังคมไม่ค่อยเห็นด้วย หรือในทางที่ค่านิยมคิดว่าไม่ดี ก็มักจะกล่าวว่าเป็นกรรมของบุคคลนั้นๆ แท้ที่จริงแล้ว เป็นความคิดที่ไม่ถูกต้อง
เพราะการที่บุคคล จะยากดีมีจน หรือทุพพลภาพ หรือมีอาชีพที่สังคมไม่ค่อยยอมรับ หาใช่กรรมดังที่เขาเหล่านั้นเข้าใจไม่ แต่สิ่งที่บุคคลเหล่าตกอยู่ในสภาพต่างๆเหล่านั้น เป็นเพราะ ความบกพร่อง ของผู้บริหารในระดับต่างๆ ที่ไม่สามารถแบ่งปันหรือสรรหาทรัพยากรให้แก่ประชาชนได้อย่างเท่าเทียมกันและอย่างทั่วถึง ทรัพยากรเหล่านั้นได้แก่ การศึกษา การรักษาพยาบาล การว่างงาน และการให้ความรู้ ความเข้าใจในการประกอบอาชีพ และ การศาสนา จบ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
KINNAREE
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 13 ก.ย. 2007
ตอบ: 22
ที่อยู่ (จังหวัด): สุราษฎร์ธานี

ตอบตอบเมื่อ: 21 ต.ค.2007, 8:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ยิ้ม แก้กรรมคงทำให้บาปกรรมที่เราเคยทำกันมาหายไปไม่ได้หรอกนะคะ เราจะใช้วิธีทำบุญเพิ่มเพื่อหนีบาปให้ตามเรามาไม่ทันหรือถ้าทันก็คงจะเบาบางลงได้บ้างนะคะ แล้วก็เตรียมทำใจยอมรับกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นได้นะคะ
 

_________________
จริงตัวเดียวเท่านั้นสำเร็จได้
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
z
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 23 ต.ค. 2007
ตอบ: 46
ที่อยู่ (จังหวัด): กทม.

ตอบตอบเมื่อ: 01 พ.ย.2007, 12:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

...ไม่สนใจอกุศลกรรมเก่า....จะส่งผลอย่างไรยอมรับ แต่ไม่สนใจ...(อดีต ผ่านมาแล้ว กลับไปแก้ไม่ได้)

....พึงปฏิบัติกุศลกรรมใหม่...เร็วๆ ไวๆ.....

....อกุศลกรรมเก่า วิ่งไล่สนอง.....กุศลกรรมใหม่ช่วยผลักดัน ฉุดดึง ให้พ้นผ่าน...อุปมา ดั่งวิ่งหนีสุนัข แล้วสามารถกระโดดขึ้นรถได้ทัน ฉะนั้น......
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง