Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 รักนี้มีกรรม อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 12:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

“ฉัน อย่า อย่าไปทำอะไรเขานะ เขา…เขาเป็น…” เด็กสาวหวาดวิตกยิ่งขึ้น มองดูเชิดหรือกาโย่วด้วยความห่วงใย



คะจีราดะยังคงแสยะยิ้ม มองบุรุษแปลกหน้าและผู้มาเยือนอย่างคนตีท้ายครัวที่อุกอาจกล้าหาญ แล้วมองคนของตัวเองอย่างเกลียดชังและมีความรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างยิ่ง



“เฮ้ย พวกเรา จับไอ้หนุ่มแปลกหน้าที่บังอาจจะมาแต่งตัวเลียนแบอย่างพวกเราคนนี้ แล้วก็วอซาเมียะด้วย จับมันเอาไว้เดี๋ยวนี้”



“เฮ้ย …หยุดก่อน…ฉันไม่…” เชิด เกรียงไกร ผลุดลุกขึ้นยืนทันที แต่ทว่าช้าไปหน่อย



“อย่าแก้ตัวอะไรทั้งนั้น ไอ้หน้าโง่ ฮึ เสือกดันแต่งเนื้อแต่งตัวเลียนแบบพวกข้า เอ็งคิดหรือว่าเอ็งจะตบตาพวกข้าไปได้สำเร็จ…”



“นี่ ฉันเป็นคนไทยนะ คนไทยในเมืองที่เชียงรายนี่เอง…รู้เอาไว้ด้วย” เชิดรีบบอกกล่าวทันที



“แต่ข้าคือคะจีราดะ บุคคลสำคัญของแผ่นดินตรงนี้ ข้าเป็นผู้ที่ทุกคนเคารพนับถือ ไม่มีใครบังอาจมาลูบคมข้าได้เลย ข้าทำตามกฎของพวกเราที่กำหนด”



“เฮ่ยไม่สำคัญ ฉันเป็นคนไทย ตรงนี้ก็แผ่นดินไทย แกไม่มีสิทธิ์อะไรมากไปกว่าฉัน คะจีราดะ”



“ต้องมี”



“ไม่มี”



คราวนี้คะจีราดะดวงตาถxxxทึง กร้าวแกร่งขึ้นมาอีก

“เอ็งอย่ามาตีเสมอคนอย่างข้า ข้าตามเอ็งมาก็เพื่อบอกให้รู้ว่าข้ากำลังจะทำตามกฎของผีเรือน เอาละ…เฮ้ย พวกเรา ไอ้มือชอ ไอ้จิเดาะ มึดตะ บีทุ ลากตัวมันเอาไปที่กระท่อมหลังนั้น กระท่อมร้างที่ต้นไม้ข้างหน้ามัดมันเอาไว้เพื่อรับโทษวันต่อไปคืนพรุ่งนี้…”

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 12:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



“อย่านะ …”



“ไอ้จิเดาะ จัดการ เอาตัวมันไปตามคำสั่งของข้าคะจีราดะ”

ไม่ถึงนาที เชิด เกรียงไกร ก็ตกอยู่ในพันธนาการของไอ้สี่คนไปแล้วโดยดุษณี



“แล้ววอซาเมียะ” ไอ้มือซอร้องถามเจ้านายดังๆ



“เอาตัวไปด้วย เอาไปขังที่กระท่อมหลังเดียวกัน แต่แยกกันห่างๆ รอคอยข้าจะประกาศิตชีวิตมันที่นอกรีตเอาใจออกห่างไปเผื่อแผ่ไอ้หนุ่มแปลกหน้า เอามันไป”



“อย่านะ อย่า ฉันจะฟ้องพ่อเฒ่าแม่เฒ่า ฉันจะ…”



เสียงหัวเราะของคะจีราดะดังลั่นอีกครั้งหนึ่ง



“วอซาเมียะ เจ้าอย่าปกป้องมัน ตัวของเจ้าเองก็ไม่ไหวแล้ว รู้มั้ย เรื่องที่จะไปฟ้องน่ะมันยากเสียจริง พ่อเฒ่ากับแม่เฒ่านั้นก็กำลังเจ็บหนักย่ำแย่ จะรอดพ้นค่ำคืนนี้ไปได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ มันจะได้ผลอะไรกันเล่า”



อยากจะเอาชีวิตมันนัก ในใจของวอซาเมียะคิดอย่างนี้ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เลย เพียงแต่คิดอย่างเดียว



ไอ้มือซอจัดการกับวอซาเมียะอีกคนหนึ่งทันทีเป็นการทำตามคำสั่งของคะจีราดะผู้ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าพันธุ์



พอปฏิบัติตามคำสั่งเรียบร้อยแล้ว ทุกคนก็เข้ามารายงานว่า ทั้งไอ้หนุ่มแปลกหน้า กับวอซาเมียะอยู่ในที่จองจำแล้ว ไปไหนไม่รอด แต่ วอซาเมียะนั้นร่ำไห้ตลอดเวลา จะขอไปถูกมัดล่ามอยู่ใกล้ๆ กัน แต่เป็นไปไม่ได้



“ดีที่เอ็งทำตามคำสั่งของข้า เฝ้าเอาไว้ด้วย เอ็งสี่คนเฝ้ามันเอาไว้จนพรุ่งนี้ อย่าให้มันหนีทั้งไอ้และอีสองคน ถ้าเอ็งปล่อยให้มันหนีไปได้เอ็งจะมีความผิดตามกฎผีเรือนผีป่าและนางไม้ เอ็งจะฝืนกฎ มั้ย”



“โอ…ไม่ ไม่ดอกนาย”



“ดี ไปเฝ้ามันเอาไว้ แล้วดูว่าพรุ่งนี้ตอนเที่ยงคืนข้าจะลงโทษมันยังไง มันจะต้องเป็นไปตามนั้น”



คะจีราดะจากไปแล้ว แต่สมุนทั้งสี่คนจะต้องเฝ้าคุมผู้ต้องโทษตามคำสั่งของบุรุษผู้กุมอำนาจประจำเผ่าต่อไป

วอซาเมียะสะอื้นโดยตลอด



เชิด เกรียงไกร เองก็กำลังคิดในการที่จะเอาตัวรอดให้ได้เช่นเดียวกัน เขาทำผิดแต่ความผิดนั้นมันคืออะไรที่จะมาเล่นงานเขาได้



กฎระเบียบอะไรกัน ทำไมมากักบริเวณเขาเอาไว้เช่นนี้

โทษของเขาคืออะไร ขนาดไหน เอาอะไรมาตัดสินเอาอะไรมาวัดและเอาโทษเขาได้อย่างไร




คิดหาทางเอาตัวรอด แต่ก็คิดยังไม่ออก เพราะ ณ ที่ตรงนี้ห่างไกลจากชุมชนมาก สูงถึงยอดดอย ใครจะขึ้นมาถึง

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 12:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การติดต่อก็ทำอะไรไม่ได้ เขาจะติดต่อกับพรรคพวกก็ไม่ได้อีก โทรศัพท์ก็ไม่มี มือถืออะไรก็ไม่ได้เอามาเพราะทิ้งเอาไว้ที่โรงแรมแม่สาย



พรรคพวกของเขา ไม่รู้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับตนเอง



จิตใจไม่ปกติ อารมณ์เครียดเกิดขึ้น เชิด เกรียงไกร ใช้สมองอย่างหนัก ในเวลาเดียวกันสาวอีก้อก็สะอื้นไม่พูดจาอะไรออกมาด้วย



เสียใจ ผิดหวัง ความสุขกำลังจะเกิดขึ้น แต่ความหายนะก็เกิดขึ้นเสียก่อน จะหนีไปไหนก็ไม่รอดแน่ เพราะถูกมัดและล่ามเอาไว้กับต้นเสา แถมยังมีผู้ควบคุมอีก ถึงสี่คน



วอซาเมียะอ้อนวอนอีก้อชายทั้งสี่คนให้ปล่อยตัวนางไปพร้อมกับเชิด แต่ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า



“นางเอ๊ย ขืนปล่อยเจ้าไป พวกข้าทั้งสี่คนก็มีความผิด คะจีราดะเอาตายแน่ ทำไม่ได้ดอกเจ้า คะจีราดะถือเป็นเจ้านายเหนือพวกข้า จะเป็นบาป ถูกผีเหย้าผีเรือนลงโทษเอาถึงตายอีกด้วย รอเวลาพรุ่งนี้อาจจะปล่อยไปก็ได้”



รุ่งเช้าแล้ว เสียงไก่ป่าขันมาแต่ไกล ไก่ที่เลี้ยงอยู่ก็ประชันขันแข่งเสียงกันด้วย



เชิด เกรียงไกร ยังคงไปไหนไม่รอด ยังคงถูกมัดล่ามเอาไว้เช่นนั้น



ส่วนวอซาเมียะนั้น ญาติพี่น้องพ่อแม่มามองดูด้วยความประหลาด ที่นางมีพฤติกรรมแปลกไปจากเผ่าของตนเอง เพราะคะจีราดะย้ำว่า



“ใครบังอาจช่วยเหลือคนที่ทำอะไรผิดกฎ ผิดผีเหย้าผีเรือน มันผู้นั้นจะถูกผีเหย้าผีเรือนเอาตาย ขืนลองดีเดี๋ยวก็รู้สึก”



พอเขาประกาศเช่นนี้ทุกคนก็ล่าถอยกันหมดด้วยความเกรงกลัวอำนาจของภูตผีนั่นเอง



คะจีราดะยังขู่มาอีกว่า คนที่ทำอะไรผิดกฎของเผ่าผิดผีนั้นเป็นโทษที่ร้ายแรงยิ่งนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผิดผีในเรื่องของการมีคู่ครองคนรัก



ใครไปเผื่อแผ่เอาคู่ครองต่างเผ่ากันแล้ว นั่นหมายความว่าถึงความหายนะทีเดียว



อย่างเช่นวอซาเมียะผู้นี้



“พวกเจ้ารู้มั้ย เมื่อคืนข้าฝันไปอย่างกับมองเห็นเรื่องจริงๆ วิญญาณของบรรพบุรุษของพวกเรามาเข้าฝันบอกว่า วอซาเมียะทำผิดมหันต์ทีเดียว จะต้องได้รับโทษจากฟ้าดินและดวงวิญญาณของบรรพบุรุษประจำเผ่า”



ด้วยเหตุนี้เองจึงไม่มีใครยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ด้วย ต้องปล่อยไปตามดวง ตัวใครตัวมัน ความเชื่อจากปากคำของคะจีราดะนั้นช่างศักดิ์สิทธิ์จริงๆ



นอกจากเป็นผู้เสี้ยมสอนพฤติกรรมการทำหน้าที่เป็นภรรยาแล้ว ยังมีส่วนที่จะเสี้ยมสอนเรื่องอื่นๆ ให้ทุกคนเลื่อมใสอีกด้วย



มีผู้เอ่ยถามว่าจะลงโทษไอ้หนุ่มแปลกหน้าที่ถือดีแปลกปลอมมารวมเผ่านี้เมื่อไหร่ และอย่างไร คะจีราดะก็ตอบออกมาทันที



“เที่ยงคืนพรุ่งนี้ ท้องฟ้าไม่มีพระจันทร์ เป็นเวลาแห่งการรับโทษเป็นต้นไป ส่วนโทษนั้นจะเป็นยังไงพวกเอ็งก็คอยดูเอาเอง ข้าไม่ตอบล่วงหน้า”

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 12:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกคนรอคอยเวลาที่จะมาถึง



พวกเหล่านั้นมองดูคะจีราดะด้วยความคิดสับสนและไม่มีความเข้าใจอะไรนัก อะไรจะเกิดขึ้นมาในตอนเที่ยงคืนที่จะถึง



“เชิด คุณ เชิดจะต้องมาได้รับเคราะห์กรรมร่วมกับวอซาเมียะ วอซาเมียะบาปหนักที่เอาเชิดมารับทุกข์ยากลำบากด้วย วอซาเมียะ…”



เด็กสาวสะอื้นไม่สร่าง มองดูชายหนุ่มด้วยความสงสาร



เชิด เกรียงไกร ซึมไปมากในระหว่างนี้ เขามีความรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่สนุกเสียแล้ว ไม่น่ามาเสี่ยงถึงขนาดนี้ความสนุกสนานเกิดเป็นความหายนะขึ้นมาจริงๆ



ไม่อาจจะหาทางให้ผู้อื่นช่วยเหลือได้เลยแม้แต่คนเดียว



หมดหนทางจริงๆ



“เชิด…เชิดขา…วอซาเมียะสงสารคุณค่ะ”



ชายหนุ่มมองสาวชาวเขาด้วยความรู้สึกว่า หล่อนมอบกายถวายชีวิตแก่เขาจริงจังมาก ไม่ใช่มายาสาไถยหรือการเสแสร้งในลีลาเหมือนผู้หญิงบางคนที่เต็มไปด้วยความหลอกหลอน



วอซาเมียะมีความจริงจังและจริงใจยิ่งนัก

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 12:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ในเวลาเดียวกันนี้ อีกทางหนึ่ง ที่โรงแรมแม่สายซึ่งพรรคพวกของเชิด เกรียงไกร รอคอยอยู่นั่นเอง



“เอ มันยังไงกัน เจ้านาย ป่านนี้ลูกพี่ยังไม่มาเลย ไหนบอกว่าไปคืนเดียวไม่ใช่เหรอ นี่ผ่าเข้าไปเกือบคืนที่สองแล้ว”



เปี๊ยกเกลอเก่าของเชิด เกรียงไกร อมยิ้มเมื่อพูดถึงเพื่อนคนนี้ของตน



“เอาแน่อะไรวะ ป่านนี้คงคลอเคล้ามั่วอยู่กับเจ้าวอซาเมียะแล้ว น่าจะประทับใจแม่สาวอีก้อคนนี้มากกว่าหลงเสน่ห์สาวสวยไปแบบxxx่ไม่กลับแน่ๆ แล้ว”



“คืนหนึ่งแล้วนา คืนที่สองก็ย่างเข้ามาอีกแล้วเจ้านาย”



“เออ ใครจะรู้ มันเรื่องของเขาโว้ย เรื่องความอยากของคนเรามันพูดยาก เขาอยากอยู่กับผู้หญิงคนนี้กี่วันกี่คืนก็เรื่องของเขา ฉันรู้ใจเพื่อนคนนี้ของฉันดีมาก เขายังงี้เอง เงินก็หนา กามาก็มาก แถมยังไม่ฟังใครซะอีกด้วย ก็ดูซีวะ ดันมาเล่นเกมอะไรก็ไม่รู้ มายุ่งกับสาวชาวเขาถึงที่นี่ เสียเงินเท่าไหร่ก็ไม่ว่า ขอให้ได้ลองของแปลกทำตามใจตัวเองเป็นใช้ได้”



“ประหลาดนะครับ”



“เออ ฉันก็ว่ายังงั้น แปลกมาก แต่รู้มั้ยเพื่อนของฉันคนนี้ผ่านผู้หญิงมามากมาย ทั้งสาวไทยและสาวเทศ เขาอาจจะมาประทับใจสาวชาวดอยก็เป็นได้เหมือนกัน”



ลูกน้องของเปี๊ยกหัวเราะชอบใจ

“เห็นจะจริงนะครับ สาวดอยสอยดาวน่าจะมีอะไรแปลกๆ ผิดธรรมดา”



“ปล่อยเขาเถอะวะ กี่คืนก็รอคอยเชิดอยู่ที่นี่ กินนอนๆ ไปเรื่อยๆ อาหารการกินพร้อม คิดเงินกับเชิดเกรียงไกร บัญชีของเขาเปิดเอาไว้แล้ว เอ็งอยากกินอะไรก็สั่ง อย่าเกรงใจ”



“ครับผม นี่ผมก็สั่งเบียร์ดำมาดื่มอีกขวดแล้ว เจ้านาย”



“เออ อีกกี่ขวดก็เชิญ กับแกล้มไม่เอาเหรอ”



“สั่งแล้วครับ เรียบร้อย อ้าว แล้วเจ้านายจะไปไหนล่ะ”



“ว่าจะเข้าตัวจังหวัดเสียหน่อย บางทีอาจจะกลับมาพรุ่งนี้เช้า”



“พรุ่งนี้เจ้านายอาจจะลงมาจากดอย แข้งขาคงอ่อนยวบยาบไปหมดเพราะเดินเหินมากก็ได้”

ลูกน้องของเกลอ เชิด เกรียงไกร พูดแล้วส่งเสียงหัวเราะร่วน



“ เอาละๆ เขาจะมาเมื่อไหร่ก็ช่างเขา มีความสุขไปคนเดียวเถอะ พวกเราก็กินนอนรอคอยอยู่ตามคำสั่งของเพื่อนฉันก็แล้วกัน ไปก่อนละ”



“ ครับ โชคดีครับเจ้านาย ”



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 12:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ในเวลาเดียวกันนี้ อีกทางหนึ่ง ที่โรงแรมแม่สายซึ่งพรรคพวกของเชิด เกรียงไกร รอคอยอยู่นั่นเอง

“เอ มันยังไงกัน เจ้านาย ป่านนี้ลูกพี่ยังไม่มาเลย ไหนบอกว่าไปคืนเดียวไม่ใช่เหรอ นี่ผ่าเข้าไปเกือบคืนที่สองแล้ว”



เปี๊ยกเกลอเก่าของเชิด เกรียงไกร อมยิ้มเมื่อพูดถึงเพื่อนคนนี้ของตน

“เอาแน่อะไรวะ ป่านนี้คงคลอเคล้ามั่วอยู่กับเจ้าวอซาเมียะแล้ว น่าจะประทับใจแม่สาวอีก้อคนนี้มากกว่าหลงเสน่ห์สาวสวยไปแบบxxx่ไม่กลับแน่ๆ แล้ว”



“คืนหนึ่งแล้วนา คืนที่สองก็ย่างเข้ามาอีกแล้วเจ้านาย”



“เออ ใครจะรู้ มันเรื่องของเขาโว้ย เรื่องความอยากของคนเรามันพูดยาก เขาอยากอยู่กับผู้หญิงคนนี้กี่วันกี่คืนก็เรื่องของเขา ฉันรู้ใจเพื่อนคนนี้ของฉันดีมาก เขายังงี้เอง เงินก็หนา กามาก็มาก แถมยังไม่ฟังใครซะอีกด้วย ก็ดูซีวะ ดันมาเล่นเกมอะไรก็ไม่รู้ มายุ่งกับสาวชาวเขาถึงที่นี่ เสียเงินเท่าไหร่ก็ไม่ว่า ขอให้ได้ลองของแปลกทำตามใจตัวเองเป็นใช้ได้”



“ประหลาดนะครับ”



“เออ ฉันก็ว่ายังงั้น แปลกมาก แต่รู้มั้ยเพื่อนของฉันคนนี้ผ่านผู้หญิงมามากมาย ทั้งสาวไทยและสาวเทศ เขาอาจจะมาประทับใจสาวชาวดอยก็เป็นได้เหมือนกัน”



ลูกน้องของเปี๊ยกหัวเราะชอบใจ

“เห็นจะจริงนะครับ สาวดอยสอยดาวน่าจะมีอะไรแปลกๆ ผิดธรรมดา”



“ปล่อยเขาเถอะวะ กี่คืนก็รอคอยเชิดอยู่ที่นี่ กินนอนๆ ไปเรื่อยๆ อาหารการกินพร้อม คิดเงินกับเชิดเกรียงไกร บัญชีของเขาเปิดเอาไว้แล้ว เอ็งอยากกินอะไรก็สั่ง อย่าเกรงใจ”



“ครับผม นี่ผมก็สั่งเบียร์ดำมาดื่มอีกขวดแล้ว เจ้านาย”



“เออ อีกกี่ขวดก็เชิญ กับแกล้มไม่เอาเหรอ”



“สั่งแล้วครับ เรียบร้อย อ้าว แล้วเจ้านายจะไปไหนล่ะ”



“ว่าจะเข้าตัวจังหวัดเสียหน่อย บางทีอาจจะกลับมาพรุ่งนี้เช้า”



“พรุ่งนี้เจ้านายอาจจะลงมาจากดอย แข้งขาคงอ่อนยวบยาบไปหมดเพราะเดินเหินมากก็ได้”

ลูกน้องของเกลอ เชิด เกรียงไกร พูดแล้วส่งเสียงหัวเราะร่วน



“ เอาละๆ เขาจะมาเมื่อไหร่ก็ช่างเขา มีความสุขไปคนเดียวเถอะ พวกเราก็กินนอนรอคอยอยู่ตามคำสั่งของเพื่อนฉันก็แล้วกัน ไปก่อนละ”



“ ครับ โชคดีครับเจ้านาย ”



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 12:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



เวลาผ่านไปเรื่อยๆ



สองทุ่มผ่านไปแล้ว เข็มนาฬิกาเคลื่อนที่ไปตามปกติ



สามทุ่มผ่านไปอีก สี่ทุ่มผ่านไป และห้าทุ่มแล้ว…



อีกสิบนาทีก็เที่ยงคืน เวลาแห่งการรอคอยที่มีความหมายอย่างที่สุด



ความเงียบยังคงเป็นอยู่อย่างเดิมบนยอดดอย สี่อีก้อซึ่งเป็นชายอกสามศอกก็ยังคงเฝ้ามองดูนักโทษของตนอยู่อย่างนั้น



“เชิด คุณ…ดึกป่านนี้แล้ว มันคงจะใกล้เวลาเที่ยงคืน คุณคิดว่าเวลานั้นมาถึงแล้วหรือยัง”



ยังไม่ทันที่เชิด เกรียงไกร จะตอบคำ เสียงฝีเท้าของใครคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาอีกด้านหนึ่งช้าๆ ทุกคนพากันหันไปมองดูเป็นตาเดียว



“คะจีราดะ” วอซาเมียะพึมพำเบาๆ หันมาทางชายหนุ่มที่หล่อนหลงใหล



“มันมาแล้ว ไอ้ตัวร้าย มันคงจะมาทำอะไรเราสองคนแล้ว ระวังตัว”

เชิด เกรียงไกร บอกสาวอีก้อทันที



“นาย คะจีราดะ เที่ยงคืนแล้วรึ”



ไอ้จิเดาะเอ่ยถามก่อนคนอื่น ทุกคนชะเง้อชะแง้เข้ามาทันที

บุรุษร่างใหญ่นาม คะจีราดะ แสยะยิ้มxxxมๆ ที่มุมปาก มองดูคนของตนทั้งสี่ แล้วเดินทางที่วอซาเมียะ สาวอีก้อที่มีรูปโฉมโนมพรรณ จัดว่างดงามกว่าในบรรดาสาวๆ อีก้อทุกคนในหมู่บ้านแห่งนี้”



“วอซาเมียะ เวลามาถึงแล้ว จะว่ายังไงกับโทษที่มีอยู่”



“ ฉันไม่มีโทษอะไรถึงขนาด มาผูกมัดมือตีนกันแบบนี้ มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงคอขาดบาดตายเลย มาทรมานฉันกับคุณเชิดทำไมกัน ”



“ฮื่อม์…ยังเสียงแข็ง ยังปากดีอยู่อีก เรื่องร้ายแรงขนาดนี้เจ้ายังว่าไม่มีอะไร เอาละ พวกเรา…ไอ้มือซอ ไอ้จิเดาะ และทุกคน มาลากตัวไอ้หนุ่มแปลกหน้าไปกลางลานโน่น เอาตัวมันไป จัดการแก้ผ้ามันออกทั้งสองคนผูกหันหลังชนกันเข้า ให้มันอยู่กลางแสงดาว กลางสายลม กลางแสงแดด ให้มันค่อยๆ ขาดใจตายไปทีละน้อยทั้งคู่



มันจะต้องตากแดด ตากน้ำค้าง แล้วก็ตากแดดต่อไปอีก วนเวียนกันไปจนกว่าจะดับสูญ ข้าจะสังเวยเจ้ามิดซา เซ่นไหว้ด้วยชีวิต ไอ้คนผิดลวงโลกกับอีหญิงนอกรีต แก้ผ้ามันออกเดี๋ยวนี้…!”



“ แกเลวมาก คะจีราดะ แกกำลังทรมานคนได้ยินมั้ย แกกำลังจะฆ่าคน ”



เชิด เกรียงไกร ซึ่งบัดนี้ถูกเปลื้องเสื้อผ้าออกไปจากร่างของตัวเอง แล้วตะโกนลั่น วอซาเมียะเองก็อยู่ในสภาพเช่นเดียวกัน

ร่างของสาวอีก้อเปลือยเปล่าอยู่ที่หลักไม้ยืนหันหลังใกล้ชิดกับชายหนุ่ม



ไอ้หนุ่มอีก้อทั้งสี่คนหลบหนีหน้าหายไปแล้วเพราะมันเสร็จธุระ ไม่กล้าที่จะเผชิญอยู่กับบุคคลทั้งสาม



คะจีราดะ ขบกรามแน่น เดินเข้ามาหาเชิด เกรียงไกร ช้าๆ



“สะใจข้านัก เชิญเอ็งตากน้ำค้างไปเถอะ แล้วพรุ่งนี้เอ็งก็ตากแดดตากลมจนแห้งตายไปทั้งคู่”



“ไอ้xxx ไอ้บ้า แก้มัดเดี๋ยวนี้ แก้มัดออกทั้งข้าทั้งวอซาเมียะ เอ็งกำลังจะฆ่าคน ผิดกฎหมาย เอ็งเป็นผู้ร้ายเอ็ง…”



คะจีราดะ หัวเราะชอบอกชอบใจอีก



“ผิดกฎหมายเหรอ แล้วเอ็งเล่าไอ้หนุ่มแปลกหน้าเอ็งก็ผิดกฎของเผ่าข้าเหมือนกัน เอ็งจะต้องเข้าใจ”



“ ฮึ กฎ ระเบียบ กฎบ้าบอคอแตกอะไรวะ นี่เป็นกฎหมายบ้านเมืองของประเทศ ไม่ใช่กฎหมายบ้าบอของคนหยิบมือเดียว ไอ้บ้า ปล่อยเดี๋ยวนี้ ปล่อยข้า เอ็งจะถูกจับเข้าตะรางเข้าคุก เอ็งจะโดนยิงเป้า เอ็ง”



“ยังงั้นเหรอ ไอ้หนุ่มหน้าโง่ ฮ่า ฮ่า ใครเล่าจะมาจับข้าที่บนดอยนี้ ใครจะเอาข้าเข้าคุกเข้าตะราง ใครจะมายิงเป้าข้า หา ฮ่า ฮ่า”



“ตำรวจจะมาลากคอพวกเอ็งเข้าคุกจำเอาไว้ หากข้าหายตัวไปเมื่อไหร่ พวกเขาจะต้องรู้ด้วยว่าข้าไปไหนแล้วหายไปยังไง รู้รึเปล่าตำรวจจะแห่กันมาที่นี่ แล้วอะไรจะเกิดขึ้นมา”



“คงจะลำบาก ฮ่า ฮ่า ตำรวจที่ไหนจะมารู้เห็นเพราะจะไม่มีอะไรเหลือให้เห็นอีกเลย ไอ้หนุ่มแปลกหน้า”

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 12:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เสียงสะอื้นของวอซาเมียะยังแว่วมาอยู่ในโสตประสาท



“ เชิดขา เชิด ทำไมจึงเป็นอย่างนี้ได้ เชิด ”



“ตำรวจจะต้องลากคอมันเข้าคุกแน่ วอซาเมียะ”



“แต่เราสองคนจะต้องตาย ตายด้วยความน่าทุเรศน่าอนาถใจนัก น่าเวทนา น่าสงสารเหลือเกิน”



“วอซาเมียะ เจ้าผู้ขัดต่อกฎของเผ่า ผิดผีผิดฟ้าดิน เจ้าจงก้มหน้าก้มตารับกรรมไปดีกว่า อย่าว่าคนอย่างข้านักหนา ข้า คะจีราดะจำเป็นจะต้องทำหน้าที่อย่างเด็ดขาด อย่ามาอ้อนวอนหรือขอความเห็นใจเสียให้ยาก”



“ แก ไอ้โจร จิตใจแกผิดมนุษย์ แกทำยังงี้ได้ยังไง ”



“ไอ้หนุ่มแปลกหน้า แล้วเอ็งเล่า ทำยังงี้ได้ยังไง ปลอมตัวเข้ามาได้ยังไง แกถือดีอะไรมาทำย่ำยีคนของเราถึงบนดอย หา”



“ ฉันกับวอซาเมียะรักกัน ไม่เกี่ยวกับแก ไอ้ผู้ร้ายฆ่าคน ” เชิด เกรียงไกร ตะโกนก้อง



“แกจะต้องถูกตำรวจลากคอไปเข้าคุก แกจะต้องถูกยิงเป้า”



“แต่เอ็งจะต้องตายด้วยความทรมานที่สุด ไอ้จอมขโมย แกจะต้องตายก่อนใคร ส่วนเรื่องความรัก แกก็ไม่มีสิทธิมารักวอซาเมียะ แกเป็นใคร แกไม่ใช่เผ่าเดียวกับอีก้อ ได้ยินมั้ยวะ”



“ คะจีราดะ ปล่อยเราสองคนเถิด ฉันกราบ ฉันยอมทุกอย่าง ขออย่างเดียว ปล่อยเชิดไปจากที่นี่”



“ไอ้เชิดน่ะรึ มันจะต้องตายที่นี้มากกว่า”



“ปล่อยเขาไป”



คะจีราดะเดินเข้ามาเบื้องหน้าวอซาเมียะ ซึ่งร่างของหล่อนเปลือยเปล่าท่ามกลางแสงดาวระยับ เรือนร่างนั้นขาวโพลนราวกับหุ่นที่นายช่างปั้นอย่างงดงาม มองดูส่วนxxxของหญิงสาวในความมืดสลัว



พิจารณาดูเรือนร่างที่ตนเองเคยสัมผัสมาก่อนหน้านี้แล้วอย่างชื่นฉ่ำ เต็มอิ่มไปด้วยความรู้สึกที่แสนหวาน ความประทับใจนั้นยังคงบ่งบอกอยู่ในส่วนลึกของหัวใจ



คะจีราดะนี่แหละเป็นผู้แนะนำให้เด็กสาวรู้ว่าการมีพฤติกรรมทางเพศเพื่อการสมสู่กันในการก่อนกำเนิดนั้น เขาทำกันอย่างไร แบบไหน และจะต้องมีกลวิธีที่เอาอกเอาใจเพศตรงข้ามได้อย่างไรบ้างจึงจะดีที่สุด ถูกต้องดีมากที่สุด



บรรพบุรุษของพวกเขามีความเป็นมาอย่างนี้เอง ตกทอดกันมาโดยตลอด ยังคงอยู่จนกระทั่งปัจจุบันนี้ทีเดียว



“ปล่อยเขาไปน่ะไม่ได้แน่นอน วอซาเมียะ ข้าทำไม่ได้หรอก แต่ว่าเจ้านั้นไม่แน่นัก บางทีข้าอาจจะยกโทษให้หนักเป็นเบาก็ได้ เอาไว้ดูเล่นต่ออีกคงจะมีประโยชน์อยู่”



“ฉันยอมตายถ้าไม่ปล่อยเชิด เชิดตาย ฉันก็จะตายด้วย ฉันตายด้วย ได้ยินรึเปล่า”



“รักกันมากนักเหรอ วอซาเมียะ”



“ฉันยอมตายกับเชิดเท่านี้ยังไม่รู้อีกหรือว่ารักหรือไม่รักยังไง ฉันยอมตาย ดีกว่าอยู่อย่างทรมาน ฆ่าฉันเร็วๆ กว่านี้ได้มั้ย ฆ่าเราสองคนไปเดี๋ยวนี้ซี่ คะจีราดะ”

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 12:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

“ไม่ มันจะต้องตายไปเองทีละน้อย ตามอำนาจแห่งฟ้าและดินเท่านั้น”

บุรุษร่างสูงใหญ่ก้าวเข้ามาที่ร่างล่อนจ้อนของเชิด เกรียงไกร บ้าง

เขามองดูเรือนร่างของชายหนุ่มด้วยความคิดอะไรบางอย่าง ความหล่อเหลาของเขามีมากมายเช่นนี้เอง วอซาเมียะจึงหลงเสน่ห์ ยอมทำอะไรที่ฝ่าฝืนกฎระเบียบไปได้อย่างเอกอุ



ความพิศวาสทำให้ความคิดความอ่านของมนุษย์เราแปรปรวน ไปได้เช่นนี้เอง



“ฮึ ไอ้หนุ่มแปลกหน้าที่ชื่อเชิดรึ เอ็งจำเอาไว้เถิด เอ็งจะต้องตากน้ำค้าง ตากสายลมเย็นแบบนี้ไปอีกจนรุ่งเช้า ต่อจากนั้นเอ็งก็จะเจอกับแสงแดดที่ค่อยๆ แรงกล้าขึ้นมาทีละน้อยๆ จนร้อนจัด ผิวหนังของเอ็งจะเกรียมไหม้ทีเดียว แล้วเอ็งคิดว่าเอ็งจะอยู่ได้หรือ ฮ่า ฮ่า”



“ฆ่าxxxซะดีกว่า ไอ้คนใจสัตว์ ใจโหด ข้าไม่เคยทำอะไรให้เอ็ง เอ็งมาทำยังงี้ได้ยังไง”



คะจีราดะยิ้มกวนๆ มองดูชายหนุ่มที่ถูกมัดมือไพล่หลังกับต้นเสา มัดที่ข้อเท้ากับหลัก มัดเอวเอาไว้กับหลักไม้อีกด้วย ร่างชีเปลือยของเชิดน่าสงสาร ไม่น่ามองเท่าไรนัก เพราะไม่มีเสื้อผ้าอะไรแม้แต่ชิ้นเดียว



“แกเลวที่สุด เลวชาติมาก แก…ไอ้โจรร้าย”



“ด่าไปเลย เจ้าเชิด ข้าจำเป็นจะต้องเอาชีวิตเอ็งแน่ เอ็งไปไหนไม่รอดหรอก ไม่มีทาง เอ็งเป็นคนในเมืองใช่มั้ย คนที่เชียงรายรึ เอ็งรู้เอาไว้ด้วย ข้าก็คือคนในเมืองคนหนึ่งเหมือนกันอย่างเอ็งนี่แหละ ฮ่า ฮ่า ข้ามาอยู่ที่นี้นานมาแล้ว ผู้ที่เป็นคะจีราดะตายไป ข้าก็พยายามทุกสิ่งทุกอย่าง ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ชาวเขาพวกนี้เชื่อถือ จนกระทั่งได้เป็นคะจีราดะแทน แล้วเอ็งเสือกทะลึ่งขึ้นดอยมาทำไมอีกวะ สหาย มันขัดผลประโยชน์กันมากนักหนาเสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้หรอก จำเอาไว้ เพราะฉะนั้น เอ็งก็อย่าอยู่ต่อไปอีกเลย จงตายไปตามกฎของผีเรือนดีกว่า เจ้าเชิด”



คะจีราดะส่งเสียงหัวเราะลึกๆ เดินจากไปอย่างลำพอง



ปล่อยให้สองร่างสองวิญญาณของชายหญิงคู่หนึ่งที่เปลือยเปล่ายืนอ่อนระโหยอยู่อย่างโดดเดี่ยวท่ามกลางแสงดาว…



“ผิดสังเกตมากไปแล้ว ฉันว่าจะต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่นอน”



“ทำไม เจ้านาย” ลูกสมุนของเปี๊ยกเกลอเก่าดั้งเดิมของเชิด เกรียงไกร ถาม



เปี๊ยกเดินไปมาในห้องพักของโรงแรมแม่สาย



“เวลาผ่านไปสามคืนแล้ว มันผิดสังเกตโว้ย มากเกินไป ฉันว่าเชิดเพื่อนรักของฉันน่าจะมีอะไรไม่ชอบมาพากลมากกว่า”



“ทำไมครับ”



“มันจะไปลุ่มหลงเสน่ห์แม่วอซาเมียะขนาดไหนก็ตาม ก็ไม่น่าจะใช้เวลามากเกินเหตุ แกไม่คิดเหรอขนาดผู้หญิงในเมืองสวยเลิศล้นเพื่อนของฉันก็ไม่มีการใช้เวลามากมายขนาดนี้ ประเดี๋ยวประด๋าวก็เอือมแล้ว”



“เจ้านายคิดว่าจะเกิดอะไรขึ้น”



เปี๊ยกนิ่งคิดอะไรเล็กน้อย

“เอายังงี้นะ บอกพวกเราขึ้นดอยไปกันสักสี่ห้าคนเอาปืนไปด้วย”



“อะไรกันต้องปืนผาหน้าไม้ด้วยหรือครับเจ้านาย”



เปี๊ยกสุขุม นิ่งคิดไปชั่วขณะ



“ความจริงฉันอยากเอาตำรวจไปด้วยซ้ำ แต่เกรงว่าเรื่องราวอาจจะอื้อฉาว อาจจะเกิดการลงหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ทุกฉบับไปก็ได้ เชิดจะเสียคน เพราะพวกหนังสือพิมพ์คงจะไม่ปล่อยโอกาส ข่าวจะต้องถูกขุดคุ้ยกันอีกหลายวันทีเดียว ขายข่าวกันมโหฬาร ทางที่ดีเอาคนของเราขึ้นดอยไปเองดีกว่า”



จากนั้นเอง คณะของเปี๊ยกจึงรุดหน้าขึ้นดอยตรงไปยังหมู่บ้านอีก้อที่วอซาเมียะพำนักอยู่โดยรีบด่วน

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 12:46 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

“เจ้านาย เพื่อนของเจ้านายก็ไม่น่าเลยนะ”



เปี๊ยกหันหาทางลูกน้องของตัวเอง



“ฉันเคยพูดแล้วว่า เขาชอบทำอะไรพิสดารพิเรนแบบนี้เสมอ อย่าไปถือสาเขา แต่คราวนี้เกิดเรื่องใหญ่แน่ ทุกครั้งเขาไม่มีอะไรเลย ผ่านตลอดจึงย่ามใจ”



“ถ้าเกิดไปอยู่กับแม่สาววอซาเมียะจะว่ายังไง เจ้านาย”

ลูกน้องคนเดิมถามเปี๊ยกอีก



“ฉันว่ายากว่ะ ไม่มีใครเขาให้อยู่หรอก ไม่มีชาวเขาที่ไหนเขาให้คนเผ่าอื่นมาเป็นผัวเป็นเมียกันหรอก แกรู้รึเปล่า”



เปี๊ยกกับพวกรวมห้าคนเดินทางมาจนถึงหมู่บ้านของอีก้อที่วอซาเมียะอยู่ในที่สุด



สิ่งแรกที่เขาเห็นก็คือ ร่างของเชิด เกรียงไกรเปลือยเปล่า ถูกพันธนาการอยู่ที่หลักไม้กลางลานเต่ข้อหรือลานสาวกอดแห่งนั้น



เขาอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายเพียงผู้เดียว!



ไม่มีร่างของวอซาเมียะอยู่ด้วยเหมือนแต่ก่อน!!





“เฮ้ย นั่น เชิด…เร็ว รีบช่วยเขา”



เปี๊ยกสั่งลูกน้องของเขาทันที มีอีก้อสองคนเฝ้าอยู่ห่างๆ เห็นดังนั้นก็เอะอะขึ้น แต่เปี๊ยกตะโกนลั่น



“ ไอ้ริยำ ถือดียังไงวะ มาทำเพื่อนของข้ายังงี้ เอ็งทำผิดกฎหมาย เอ็งกำลังจะเอาชีวิตคนรู้รึเปล่า โทษของเอ็งจะต้องถูกประหารชีวิต ยิงเป้า ”



ไอ้หนุ่มหน้าเซ่อสองคนหน้าซีดเหลือสองนิ้วตกใจเป็นกำลัง ยิ่งเมื่อเห็นปืนผาหน้าไม้ของพวกเปี๊ยกเข้าอีกก็ตกใจหนัก



“เอ้อ เอ้อ พวกฉันไม่รู้เรื่อง ไม่…”



“ใครเป็นคนทำแบบนี้ บอกมา”



“ ใครวะ ” อีกคนตะโกนขึ้น



ไอ้หนุ่มอีก้อตะกุกตะกัก หน้าเหรอหรา

“เอ้อ อือม์…”



“xxxถามว่ามันเป็นใครที่บังอาจทำเพื่อนxxx หา”

เปี๊ยกตะโกนกรอกแก้วหูมันสองคน



“คะจีราดะ”



“ว่าไงนะ ใคร”



“คะจีราดะ นายพวกข้าที่นี่ยังไง เขา คะจีราดะ”



สภาพของเชิด เกรียงไกร เข้าระดับโคม่าแล้ว ผิวหนังเกรียมไหม้ ปากแห้งผาก ดวงตาอิดโรย เสียงเกือบไม่มี ร่างเปลือยของเขาแสนทุเรศนัยน์ตายิ่งนักหมดสภาพความเป็นหนุ่มหล่อไปแล้ว คงเหลือเพียงความเวทนาน่าสงสาร เปี๊ยกเอาเสื้อที่พอจะมีอยู่ถอดออกให้เชิดนุ่งห่มไปตามเรื่องรีบนำพาเพื่อนรักผู้มากไปด้วยกามราคะลงไปจากดอยทันที



ส่วนเขากับพวกอีกคนหนึ่งรีบเสาะหาบุรุษผู้มีชื่อคะจีราดะก่อน

แต่ว่าผิดหวัง คะจีราดะหายตัวไปแล้ว



มีผู้บอกว่าเขาออกจากหมู่บ้านไปเมื่อสักครู่นี้เองพร้อมกับวอซาเมียะ

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 12:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

“ ริยำหมา มันคงจะรู้ตัวว่ามีคนมาเล่นงานมัน ไอ้นกรู้ตัวนี้ร้ายมาก อะไรนะ พาวอซาเมียะอีนางอีก้อคนงามไปด้วยรึ”



เปี๊ยกได้รับการยืนยันว่าเป็นความจริง

เขากะว่าหากเจอคงจะต้องเล่นงานกันให้สาสมกับความผิด และนั่นจะต้องถึงมือกฎหมายอีกด้วย หลังจากกระทืบให้งอมพระรามไปแล้ว



“ดวงมันยังดีที่หลบหน้าไปก่อน” เสียงเขายังคงพึมพำ





“แล้วจะทำยังไงกันต่อไปล่ะครับ เจ้านาย”



“ รีบตามพวกเราลงดอยไปโรงพยาบาลด่วน เชิดมันกำลังจะแย่อยู่แล้ว ไม่เห็นสภาพของมันเหรอ โธ่เอ๊ย คราวนี้คงเข็ดไปตลอดชาติ เสือกซ่า จะเล่นสาวชาวเขา!”





ที่โรงพยาบาล



เชิด เกรียงไกร ยังอยู่ในห้องไอซียู แพทย์ห้ามเยี่ยมโดยทุกกรณี

“คนไข้อ่อนเพลียมาก ขาดน้ำขาดอาหาร ผิวหนังถูกแสงแดดไหม้เกรียมไปหมดทั้งตัว
ทำไมจึงเป็นอย่างนี้เขาเป็นอะไรไป”



“เอาเถอะครับ คุณหมด แล้วผมจะอธิบายให้ฟังทีหลังก็แล้วกัน”

สามวันผ่านไป คราวนี้แพทย์อนุญาตให้เยี่ยมได้

เปี๊ยกรีบเข้าไปหาเพื่อนรักของตนทันที

เชิด เกรียงไกร ยังคงนอนหลับตานิ่งเฉย เขายังหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน ใบหน้าเกรียมกร้านหยาบผิวสีของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างคนละคน จำเกือบไม่ได้



เปี๊ยกนั่งมองดูเพื่อนของตนเองด้วยความเวทนาสงสาร เพราะเรื่องโลกีย์แท้ๆ เกือบทำให้เขาต้องจากโลกนี้ไปอย่างผิดวิสัย



เป็นการเอาชีวิตอย่างแปลกประหลาด



เปี๊ยกนั่งเฝ้ารอคอยการตื่นจากภวังค์ของเพื่อนรักเป็นชั่วโมงทีเดียว เขามองดูสภาพของเชิด เกรียงไกรแล้วความคิดก็ล่องลอยไปต่างๆ นานา ถึงเรื่องราวของเชิดคนนี้




ม่านตาของเชิด เกรียงไกร ค่อยๆ เปิดออก มองดูเพดานห้องนิ่งเฉย ช้าเนิ่นนาน หันมามองดูอีกทางหนึ่งสายตาของเขาจับอยู่ที่เปี๊ยก



“เปี๊ยกเหรอ”



“เชิด เป็นยังไงมั่งตอนนี้” เพื่อนรักของเขาเอ่ยถามเบาๆ เช่นเดียวกัน

เชิด เกรียงไกร หลับตาลงอีกชั่วขณะ พูดทั้งๆ ยังหลับตาอยู่



“มันไปไหน มันคนนั้น”



“ใคร”



“ ไอ้…ไอ้คนนั้น ที่มันทำกับฉันอย่างทรมานคนนั้นมัน…เจอมันรึเปล่า ”



“คะจีราดะรึ”



เขาไม่ตอบ เปี๊ยกจึงพูดออกมาให้รู้เรื่อง



“ มันหนีไปแล้ว หนีไปจริงๆ ฉันเจอมันละก็มันจะต้องเจ็บแล้วมันจะต้องเข้าคุกอีกด้วย เสียดายที่มันรู้แกวรีบหนีไปก่อน”



“วอซาเมียะล่ะ เธอเป็นยังไงบ้าง อยู่ที่นี่ด้วยใช่มั้ย”



“เปล่า ไม่อยู่”

เชิด เกรียงไกร หายใจโรยๆ เอ่ยออกมาด้วยความอ่อนล้าในส่วนลึก



“วอซาเมียะก็ถูกทรมานเหมือนกับฉัน แล้วทำไม”



“มันพาวอซาเมียะไปด้วย หนีไปด้วยกัน คนบนดอยบอก”



“สง…สงสารเธอ ไม่ตายก็ดีแล้ว แต่ว่า…”

น้ำเสียงนั้นสั่นเครือ



เปี๊ยกเอื้อมมือมาจับแขนเพื่อนรักผู้ที่เกือบเอาชีวิตไปทิ้งที่ลานสาวกอด

“ นายรอดมาได้ก็ดีแล้ว เพื่อน ฉันไปพบเพื่อนกำลังย่ำแย่มาก พบคนเดียว ไม่มีวอซาเมียะอยู่ด้วย ทำไมมันจึงxxxมโหดยังงั้นก็ไม่รู้”



“มันเป็นคนไม่ซื่อ มันเป็นคนไม่ดี มันไปหลอกชาวเขา มันคบไม่ได้เลยเปี๊ยก เจอมันก็เอามันเข้าคุกไปได้ ฉันอยากพบมัน…”



“คงยาก มันรู้ตัวเสียก่อน”



“เปี๊ยก นายอย่าว่าฉันนะเพื่อน อย่าตำหนิฉันเลย”

เสียงของเชิด เกรียงไกร อ้อนวอนมาแผ่วโผยน่าสงสาร



“ฉันเป็นคนเลวทรามต่ำช้า ฉันก็เป็นคนที่ไม่ดี ทำความเดือนร้อนให้นายมาก แล้วก็ยังสร้างความหายนะแก่วอซาเมียะผู้หญิงคนนั้นอีก เธอไร้เดียงสา…เธอเป็นคนซื่อนัก ส่วนฉันทำบาป…”



“นายอย่าพูดยังงั้น เชิด หมดเคราะห์หมดโศกเสียที”



“ฉัน…ฉัน ไม่น่าจะสร้างความยุ่งยาก ไม่น่าเสเพลมองเห็นผู้หญิงเป็นเครื่องเล่น บำเรอความสุขที่ไม่จีรังยั่งยืน ฉันเลวมาก เปี๊ยก อย่าเอาเยี่ยงอย่าง”



“นายพักผ่อนดีกว่า เชิด ร่างกายจิตใจของนายกำลังปั่นป่วน อ่อนล้า”

เชิด เกรียงไกร หายใจอ่อนๆ เหมือนกับคนที่ปราศจากเรี่ยวแรงจริงๆ เขาหลับตาลงอีก



เปี๊ยกมองดูสายน้ำเกลือที่โยงมายังท่อนแขนของเพื่อน น้ำเกลือในท่อพลาสติกหยดติ๋งๆ นานๆ ครั้งหนึ่ง มันเหมือนหยาดรินของน้ำตาผู้ที่ได้รับความผิดหวังระทมทุกขเวทนา เหมือนหยาดน้ำตาของผู้เศร้าหมอง ชีวิตไร้ความสุขสดชื่น



เปี๊ยกมองดูผิวหนังทั่วไป รวมทั้งใบหน้าของเพื่อนรักที่เกรียมไหม้น่ากลัว แสงแดดอันแรงกล้านั้นไม่เอาชีวิตเชิด เกรียงไกร ไปได้ก็บุญแล้ว



“เปี๊ยกเพื่อนรัก…”



“หือม์ พักผ่อนเถิดเพื่อน นายพักผ่อนให้มากจะได้หายไวๆ ”





“ ชีวิตของฉันจะไม่สร้างรอยด่างให้แก่ใครอีก ฉันจะไม่เห็นผู้หญิงเป็นเครื่องเล่นอีกต่อไปแล้ว หาเมียดีๆ สักคน ชีวิตคงจะมีความสุข มีลูกชายลูกหญิง นายว่าฉันคิดถูกมั้ย ”



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 9:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน







ขอขอบพระคุณ... คุณสมเกียรติ สกุลมนูชัย

creative_station@yahoo.com

สมาชิกลำดับที่ : 90 เป็นพิเศษ



สำหรับการเป็นผู้พิมพ์เนื้อหาทั้งหมดของเรื่อง "รักนี้มีกรรม"

โดย พ. พันธวัฒน์..... ลงในเว็บธรรมจักร นะค่ะ



ขอให้การเสียสละตนเองเพื่อส่วนรวมและพระพุทธศาสนา นำมาซึ่งความ

เจริญรุ่งเรืองร่มเย็นในพระธรรมของพระพุทธองค์นะค่ะ คุณสมเกียรติ









 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 10:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน





ขออนุโมทนาสาธุด้วยครับ



เนื้อหาทั้งเล่มเลย

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
จากใจ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 ม.ค. 2005, 10:02 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณ สำหรับการแบงปัน ธรรมะที่จริงใจ เช่นนี้



ขออนุโมทนา ค่ะ



ท่าน ได้ พบ พระพุทธเจ้า แล้ว



สาธุ ค่ะ
 
Angelina
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.พ.2005, 7:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



83948394.jpg


ขอบคุณมากๆค่ะ Khun Amai

ได้ข้อคิดมากๆเลยค่ะ

 
nipa
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 ก.ค.2005, 10:45 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง