Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เรียนรู้วิถีพอเพียงที่พระราม 9 อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993

ตอบตอบเมื่อ: 10 ส.ค. 2007, 9:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก วัดประจำรัชกาลที่ ๙
พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ

เนื้อหาโดยละเอียด...อ่านที่กระทู้ข้างล่างนี้ค่ะ
สาธุ พระอาทิตย์
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=24&t=19317

Image
พระอุโบสถสีขาวสะอาดตาของวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก
และโรงเรียนพระราม 9 กาญจนาภิเษก ก็ตั้งอยู่ด้านหลังของพระอุโบสถ



เรียนรู้วิถีพอเพียงที่พระราม 9

หากพูดถึงพระราม 9 หลายคนคงนึกถึงคาเฟ่ และแหล่งบันเทิงยามค่ำคืน น้อยคนนักที่จะรู้ว่าที่ย่านพระราม 9 จะมีชุมชนพอเพียงแทรกตัวอยู่ในย่านแห่งสีสันยามราตรีแห่งนี้ด้วย เมื่อได้รู้มาว่าที่พระราม 9 มีชุมชนแบบ “บวร” ซึ่งคำนี้มาจาก บ้าน-วัด-โรงเรียน มารวมกันหรือเรียกว่า 3 ประสานที่อยู่กันอย่างพอเพียงตามแนวพระราชดำริ และเนื่องในวโรกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือวันพ่อแห่งชาติ จึงถือว่าเป็นโอกาสเหมาะที่จะได้ไปเยี่ยมเยือนและศึกษาถึงแนวพระราชดำริของพ่อหลวงอีกด้วย

สำหรับชุมชนแบบ “บวร” ที่มาจากแนวพระราชดำรินั้น เริ่มมาจากที่แต่ก่อนนี้ชุมชนริมคลองลาดพร้าวย่านพระราม 9 นี้ ต้องประสบกับปัญหาน้ำเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น ซึ่งน้ำในคลองนั้นเป็นน้ำที่ไหลมาจากคลองรังสิต ผ่านสะพานใหม่ดอนเมือง บางซื่อ สามเสน และมารวมที่คลองลาดพร้าว ก่อนที่จะไหลลงคลองแสนแสบต่อไป

Image
บรรยากาศความคึกคักของเด็กๆ ในโรงเรียนพระราม 9 กาญจนาภิเษก


จนกระทั่งในปี พ.ศ.2530 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงมีพระราชดำริให้แก้ปัญหาน้ำเน่าเสียด้วยวิธีการเติมอากาศที่บึงพระราม 9 ซึ่งเป็นที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ โดยมีวัตถุประสงค์คือ ทำการทดสอบการบำบัดน้ำเน่าเสียที่ไหลมาตามคลองลาดพร้าวส่วนหนึ่งให้มีคุณภาพดีขึ้น โดยวิธีการเติมอากาศลงไปในน้ำ แล้วปล่อยให้น้ำตกตะกอน และปรับสภาพน้ำก่อนระบายลงสู่คลองตามเดิม จากแนวพระราชดำรินี้เองทำให้ชาวชุมชนริมคลองลาดพร้าวย่านพระราม 9 มีสภาพชีวิตที่ดีขึ้น

หลังจากการพัฒนา “บ้าน” ต่อมาพระองค์ท่านได้มีพระราชดำริเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขยายโครงการในพื้นที่ของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และบริเวณข้างเคียง โดยให้ทำการปรับปรุงพื้นที่และพัฒนาชุมชนบริเวณบึงพระราม 9 และดำเนินการจัดตั้ง “วัด” เพื่อเป็นพุทธสถานในการประกอบกิจของสงฆ์ และเป็นศูนย์รวมจิตใจของราษฎรในการประกอบกิจกรรมต่างๆ นั่นก็คือ “วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก”

Image
เด็กๆ กำลังเดินแถวไปเรียนกับพระอาจารย์ภายในวัด


ชื่อวัดแห่งนี้เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 8 ไร่ 2 งาน 54 ตารางวา วัดนี้มีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างจากวัดอื่นหลายประการ ที่สังเกตเห็นได้ชัดก็คือ วัดนี้มีขนาดเล็กมาก เพราะถูกออกแบบมาให้เป็นวัดขนาดเล็กในชุมชนเมือง ที่ใช้งบประมาณที่ประหยัด แต่คำนึงถึงความเรียบง่ายและประโยชน์ใช้สอยสูงสุด ภายในวัดมีเพียงพระอุโบสถ ศาลาอเนกประสงค์ กุฏิเจ้าอาวาส กุฏิพระจำนวน 5 หลัง โรงครัว สระน้ำ กังหันน้ำชัยพัฒนา บ่อบำบัด และห้องสมุดเท่านั้น และที่เป็นเอกลักษณ์คืออาคารทุกหลังจะใช้สีขาว ซึ่งแสดงถึงความบริสุทธิ์ สะอาด สวยงาม

ขณะที่จะเดินไปยังพระอุโบสถ ก็ได้เห็นสระน้ำซึ่งเป็นน้ำเสียที่ถูกดูดขึ้นมาจากคลองลาดพร้าว และได้รับการบำบัดด้วย “กังหันชัยพัฒนา” เครื่องบำบัดน้ำเสียที่เรียบง่ายและประหยัด สร้างขึ้นจากพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อการอนุรักษ์น้ำ โดยดูดน้ำขึ้นมาพักไว้ที่แนวต้นพุทธรักษาที่มีอยู่โดยรอบสระ เพื่อให้รากไม้ที่เป็นรากฝอยกรองน้ำให้ตกตะกอนก่อนที่จะนำไปพักไว้ในบ่อบำบัด แล้วไปปล่อยลงสระเก็บน้ำ เติมอากาศโดยใช้กังหันน้ำชัยพัฒนานั้นเอง นี่ก็เป็นหนึ่งในการพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อชุมชนตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

Image
“พระพุทธกาญจนธรรมสถิต” พระประธานในพระอุโบสถ


เมื่อเดินผ่านสระน้ำมายังพระอุโบสถเพื่อไปไหว้พระ พระประธาน ด้านในเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย (ปางชนะมาร) ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชวินิจฉัยเลือกแบบ และได้ทรงแก้ไขแบบอีกเล็กน้อยด้วยพระองค์เอง พร้อมทั้งได้พระราชทานนามว่า “พระพุทธกาญจนธรรมสถิต”

ภายในพระอุโบสถ เราได้พบกับ พระศรีญาณโสภณ (ปิยโสภณ) ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระราม 9 ซึ่งเล่าถึงความเป็นมาของวัดให้ฟังว่า การสร้างวัดที่มีขนาดเล็กเช่นนี้เพื่อเป็นแบบอย่างของการสร้างพุทธาวาสขนาดเล็กที่ยึดถือความสงบ สมถะ เรียบง่ายในชุมชนเมือง เพื่อให้เป็นที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจของชุมชนเมืองให้มีความผูกพันกับพุทธศาสนา เป็นศูนย์รวมแห่งจิตใจของราษฎรได้เข้ามาประกอบกิจกรรมต่างๆ ร่วมกัน พร้อมทั้งเป็นการสั่งสอนเผยแผ่พระพุทธศาสนา และยังเป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาอีกด้วย

Image
พระศรีญาณโสภณ (ปิยโสภณ)


ท่านยังบอกอีกว่า ทั้งในอดีตและปัจจุบันเกือบทุกหมู่บ้าน หรือ “บ้าน” ในประเทศไทย ต้องมีที่ทำบุญประกอบกิจกรรมทางศาสนา จึงได้เกิด “วัด” และเด็กๆ ในหมู่บ้านต้องมีความรู้มีการศึกษา จึงได้เกิด “โรงเรียน” ในหลวงทรงเห็นว่าถ้ากรุงเทพฯ ขาด 3 ประสานนี้ไป วัดก็จะถูกโดดเดี่ยว พ่อแม่ก็จะถูกโดดเดี่ยว โรงเรียนก็จะถูกโดดเดี่ยวเช่นกัน เพราะต่างคนต่างอยู่ไม่มาเกี่ยวข้องกัน วัดพระราม 9 จึงไม่ใช่วัดที่สร้างขึ้นมาโดยใช้รูปแบบใหม่ๆ แต่หากเป็นการดึงเอารูปแบบการใช้ชีวิตจากอดีตมาใช้ โดยอาศัยหลักพึ่งพากันระหว่างบ้าน วัด และโรงเรียน หรือที่เรียกว่า “บวร”

ดังนั้นสถานที่ต่อไปที่จะต้องไปเยี่ยมเยือนก็ต้องเป็น “โรงเรียนพระราม 9 กาญจนาภิเษก” ซึ่งอยู่ติดกับวัดพระราม 9 โดยมีรั้วกำแพงเชื่อมต่อกัน เด็กนักเรียนที่มาเรียนส่วนหนึ่งเป็นลูกหลานจากชุมชนบริเวณบึงพระราม 9 ระหว่างที่นั่งดูเด็กๆ เล่นกีฬากันอยู่ภายในสนามหญ้านั้น ก็เห็นพระอาจารย์เดินผ่านประตูเข้ามาในโรงเรียน พระอาจารย์บอกว่ากำลังจะไปสอนเด็กในวิชาจริยะ ซึ่งก็เป็นความสัมพันธ์อันหนึ่งระหว่างวัดและโรงเรียน ไม่นานนักก็เห็นเด็กนักเรียนตัวเล็กน่ารักทั้งชายและหญิงเดินเรียงแถวอย่างเป็นระเบียบตามพระอาจารย์มุ่งหน้าไปทางวัด จึงถือโอกาสเข้าไปถามน้องๆ ว่าเรียนกับพระอาจารย์ไม่เบื่อหรือ เด็กๆ ส่ายหน้าแล้วบอกว่าชอบ สนุกดี ทำให้อดอมยิ้มไม่ได้ที่ได้มาเห็นภาพอันน่ารักเช่นนี้

Image
ชุมชนที่ยึดแนว 3 ประสานในย่านพระราม 9


ครั้นมองน้องๆ ที่เดินกันเป็นแถวจากไป พร้อมกับนึกถึงคำพูดของพระศรีญาณโสภณที่บอกถึงบทบาทหน้าที่ 3 ประสานนี้ว่า นอกจากวัดจะเป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาแล้ว ก็ยังเป็นเหมือนศูนย์รวมทางจิตใจของชุมชน โดยมีการช่วยเหลือเกื้อกูลกับทางโรงเรียนและชุมชนมาโดยตลอด เช่น ตอนเช้าพระจะออกบิณฑบาต เมื่อได้อาหารบิณฑบาตมาเยอะๆ ก็จะแบ่งส่วนไว้เป็นส่วนอาหารกลางวันของเด็กนักเรียนในโรงเรียนพระราม 9 ซึ่งก็เป็นเด็กลูกหลานของชาวชุมชนในละแวกใกล้เคียงกับวัดและโรงเรียน เป็นกิจกรรม “โครงการข้าวก้นบาตร” ที่ทางวัดและทางโรงเรียนร่วมมือกัน เพื่อให้เด็กได้เรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมของชาวไทยที่มีมาแต่อดีต และยังเป็นการส่งเสริมให้เด็กใกล้ชิดกับพระพุทธศาสนาอีกประการด้วย

และทั้งหมดนี้ก็ทำให้นึกถึงบ้านเกิดที่บ้านนอก ที่ทั้งหมู่บ้าน วัด และโรงเรียน ได้ประสานความร่วมมือร่วมใจกัน พึ่งพาอาศัยช่วยเหลือซึ่งกันและกันเสมือนคนในครอบครัวเดียวกันมาโดยตลอด เพียงแต่ที่นี่คือกรุงเทพฯ ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีชุมชนเล็กๆ แต่มีความร่วมมือเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ที่อาจจะไม่ได้เห็นบ่อยนักในสมัยนี้

Image
บรรยากาศร่มรื่นในวัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก ตั้งอยู่เลขที่ 999 ซอยพระราม 9 กาญจนาภิเษก 19 ถนนพระราม 9 แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โทรศัพท์ 0-2318-5926-7 โทรสาร 0-2319-1123 สำหรับกิจกรรมทางพระพุทธศาสนานั้น มีทั้งการเผยแผ่หลักธรรมคำสั่งสอนทางพระพุทธศาสนา การวิปัสสนาธุระ การเจริญจิตตภาวนา การประกอบพิธีบูชาในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา-วันสำคัญของชาติ กิจกรรมสังคมสงเคราะห์ กิจกรรมพุทธบูชาและเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมอนุรักษ์วัฒนธรรมพุทธและประเพณีไทย กิจกรรมปลูกรากแก้วศาสนทายาทของแผ่นดิน และกิจกรรมปลูกมโนธรรมสำนึกแทนคุณ เป็นต้น


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

โดย ผู้จัดการออนไลน์ 5 ธันวาคม 2549 16:28 น.

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

วัดพระราม ๙ กาญจนาภิเษก
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13499

แผนที่วัดพระราม 9 กาญจนาภิเษก
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1980

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง