Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ปลูกฝังตนเอง ? อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 ธ.ค.2004, 3:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน





เมื่อเราเกิดมามีพ่อแม่ ครู อาจารย์ ฯลฯ ช่วยปลูกฝังความดีงามอบรมสั่งสอนตามอัตภาพที่จะทำได้



สิ่งที่ได้อบรมสั่งสอนนั้นมีมากพอแล้วหรือ ? หรือว่าเราจำต้องปลูกฝังตนเองต่อไปหรือไม่เพียงใด?



 
นิทรา
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 02 ธ.ค. 2004
ตอบ: 26

ตอบตอบเมื่อ: 17 ธ.ค.2004, 5:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อเราได้รับการปลูกฝังสิ่งที่ดีงามจากบุคคลอื่น

แล้ว จำเป็นค่ะที่เราจะต้องปลูกฝังตัวเอง

ในเรื่องของคุณความดี เรียนรู้ที่จะสร้างสรรค์ใน

สิ่งที่ดี สิ่งที่จะช่วยเพิ่มคุณธรรมในตนเอง

ทำให้เกิดความเคยชิน สังคมคงน่าอยู่ขึ้นอีมาก
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 ธ.ค.2004, 9:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การปลูกฝังตนเองในทางดี มีความสำคัญแน่นอน



เป็นเรื่องควรทำอยู่เสมอๆ



และทำให้สูงขึ้นไปตามลำดับ



เพราะสิ่งที่ปลูกฝังนั้น ย่อมงอกงาม เติบโต



เหมือนพืชที่ปลูก ต้องรดน้ำ พรวนดิน และใส่ปุ๋ย



ความดีของคนไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่เกิดจากการถูกปลูกฝัง



ดังนั้นควรเอาใจใส่ในการปลูกฝังทั้งตนเองและผู้อื่นเสมอๆ



และควรเรียนรู้ศิลปะแห่งการปลูกฝัง



รวมทั้งศึกษาความรู้แห่งความดีที่จะเอามาปลูกฝังด้วย



จงทำสิ่งเหล่านี้ตลอดเวลาที่มีชีวิตอยู่ และเมื่ออยู่ในภพอื่นในโลกหน้า ก็ไม่ควรจะลืมเรื่องนี้ ต้องปลูกฝังให้ติดเป็นอุปนิสัย
 
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 ธ.ค.2004, 3:52 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน





พาหุสัจจัญจะ ความได้สดับมามากแล้วด้วย



สิปปัญจะ ศิลปศาสตร์ด้วย



วินะโย จะ สุสิกขิโต วินัยอันชนศึกษาดีแล้วด้วย



สุภาสิตา จะ ยา วาจา วาจาอันชนกล่าวดีแล้วด้วย



เอตัมมังคะละมุตตะมัง ข้อนี้เป็นมงคลอันสูงสุด



ศิลปะอย่างใดอย่างหนึ่งนั้นเป็นมงคลแก่ชีวิต



ศิลปะแห่งการปลูกฝังตนเอง ?



นั้นทำอย่างไร ?



ศิลปที่ง่ายที่สุดคือบอกตนเอง



บอกแก่ตนเองซ้ำๆซากๆ เสมอๆ



อย่าได้เบื่อความซ้ำๆซากๆนั้น



เพราะสิ่งที่ทำอย่างซ้ำๆซากๆนั้น



เป็นการปลูกฝังอุปนิสัย ความดีก็ต้องทำเช่นเดียวกันนี้



ปลูกฝังมันลงไป เปลี่ยนทัศนคติของชีวิตเสียด้วยวิธีการนี้



ด้วยวิธีการกระทำอย่างตั้งใจ



ด้วยวิธีการอันฉลาดยิ่ง



ด้วยตัวเราเอง



หมั่นเพียรและพยายาม



ที่จะทำความดีนี้ให้เกิดขึ้น



ให้งอกงามภายในใจ



เหมือนฝังเมล็ดพันธุ์ลงในดินดี



แล้วไม่ประมาท เฝ้ารดน้ำและพรวนดิน



ให้พืชนั้นเติบโต



กระทำอย่างตั้งใจ



ไม่รู้เหนื่อย ไม่รู้เบื่อ



ทำไปวันแล้ว วันเล่า



จนเป็นเรื่องธรรมดา



ในชีวิตของตนเอง
 
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 ธ.ค.2004, 3:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ค้นหาความดีที่มากขึ้นไปกว่าที่เรามีอยู่แล้ว



เช่นพ่อแม่สอนเราทำความดี



เราเห็นด้วยกับพ่อแม่ว่านั่นคือความดีจริง แล้วนึกว่าเราทำได้ และหาต่อไปว่าความดีที่มากกว่าพ่อแม่บอกเรายังมีอีกหรือไม่



เมื่อครูสอนเราทำความดี น้อมความดีนั้นมาใส่ตัว แล้วนึกว่าความดีมากกว่านั้นยังมีอยู่อีกหรือไม่



แต่เมื่อเราพบธรรมะของพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าสอนเรื่องการทำความดี เราน้อมความดีนั้นมาใส่ใจ



แล้วถามตนเองว่าเราจะทำความดีตามธรรมคำสอนนั้นได้อย่างไร



เพราะเมื่อเราได้คำสอนจากพระพุทธเจ้า เราพบว่าความดีนั้นสูงกว่าที่เราเคยประเมินจากบุคคลอื่น



เราน้อมความดีนั้นใส่ตัว



แล้วตอกย้ำ ซ้ำๆซากๆ ให้ตนเองปฏิบัติไปทีละน้อย



เหมือนคนออกกำลังกาย เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงแล้วจะออกกำลังได้มากขึ้น



จิตใจเราก็มีกล้ามเนื้อเหมือนกัน เราต้องหมั่นทำ หมั่นปฏิบัติ เช่นจะสวดมนต์ จะรักษาศีล จะใส่บาตรทำบุญ ก็กำหนดว่าจะทำให้บ่อย ให้เป็นกิจประจำๆยิ่งขึ้น



กำหนดอย่างนี้แล้วหาทางลงมือทำ จากสิ่งง่ายที่พอทำได้ จากเวลาที่พอหาได้



เพราะถ้าเราไม่ปลูกฝังตนเอง เราไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอกัลยาณมิตมาชักชวนเราทำความดีได้หรือไม่



เราจึงเข้าไปทำความดี คือบุญกุศลเสียเอง ทำให้มาก แต่อย่าให้เดือดร้อนแก่ตนเอง ทำให้มากแต่ต้องพอดี เมื่อใจมีความกล้าทำได้มากแล้ว ก็จะทำมากขึ้นไปได้เอง



เมื่อทำกุศลได้มากแล้ว อกุศลก็ลดลง การเจริญภาวนาที่ดูยากก็จะง่าย ถ้ายังยากในชาตินี้ ชาติหน้าก็จะง่ายขึ้น



ผลบุญที่เราทำไม่สูญไปไหนเลย กลับมาเป็นของเรา ให้กำลังแก่เราในภายภาคหน้าได้อีก
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 18 ธ.ค.2004, 6:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน





ขออนุโมทนาสาธุนะครับ



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 19 ธ.ค.2004, 9:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การปลูกฝังตนเองนั้นจะสิ้นสุดลงเมื่อใดเล่า



เพราะการปลูกฝังตนเองก็ต้องมีพัฒนาการไปเรื่อยๆ



ตอนแรกปลูกฝังความดีงาม สร้างสมอุปนิสัยเพื่อทำความดี



เพื่อเป็นประโยชน์แก่ตนเอง



และเพื่อเป็นประโยชน์แก่บุคคลอื่นด้วย



การปลูกฝังตนเองก็เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงแก่ตนเอง



อย่างน้อยๆ จนถึงอย่างขนานใหญ่



จึงต้องอาศัยความรู้(ในธรรม)



อาศัยความเพียร



อาศัยขันติคือความอดทน



และอาศัยสติคือความไม่ประมาทในธรรมทั้งหลาย



เพื่อฝึกฝนดัดจริต จริยา ของเราเอง



เราปลูกฝังสิ่งที่เป็นทางถูกให้แก่ตนเอง เพื่อจะเดินไปในทางนั้นโดยสะดวก



จงตั้งใจปลูกฝังตนเอง ให้ถึงที่สุดที่พระนิพพานนั้นเทอญ
 
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 ธ.ค.2004, 9:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มีท่านผู้หนึ่งถมทางอีเมล์ว่า การปลูกฝังตนเอง ใช้ธรรมข้อใดในการปลูกฝัง



ผมตอบท่านไม่ได้เลย ทั้งที่น่าจะคิดว่า อิทธิบาท ๔ เพราะธรรมทั้งหลายมีใจ



เป็นหัวหน้า ใจน่าจะมีความเห็นที่ถูกต้อง แล้วเป็นผู้นำในการปลูกฝังตน



เอง คล้ายๆสุภาษิตว่า "ใจเป็นนายกายเป็นบ่าว"



ผมเลยเล่าเรื่องหนึ่งให้ท่านผู้ที่ถามฟัง เลยเอามาเล่าไว้ตรงนี้ด้วย



เมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน ผมสูบบุหรี่วันละสองซอง



ต่อมาผมเริ่มเห็นโทษของบุหรี่ แต่ก็ยังไม่เลิกยังสูบอยู่ ผมไม่ห้ามตนเองว่า



อย่าสูบบุหรี่



แต่กลับเพ่งโทษบุหรี่ คิดว่าบุหรี่นี้เป็นโทษมาก ตอนแรกคิดเช้าคิดเย็น



ต่อมาคิดเช้า เที่ยง เย็น แล้วคิดมากขึ้นบ่อยๆ ไม่ว่าเวลาว่างหรือเวลาสูบก็



พิจารณาดูโทษบุหรี่เป็นเวลานาน บางทีนั่งพิจารณาเห็นโทษของบุหรี่จนจิต



นิ่งอยู่แต่เรื่องเดียว ไม่นาน ไม่ถึงเดือนด้วยซ้ำ ผมเห็นแต่โทษของบุหรี่



เห็นเป็นจริงเป็นจัง จนมองหาประโยชน์ไม่มีเลยแม้นิดเดียว จนรู้สึกแทบ



ตกใจว่าบุหรี่นี่ช่างหาประโยชน์ไม่ได้ถึงเพียงนี้ เห็นชัดปานนี้จริงๆ รู้สึก



รังเกียจและชิงชังบุหรี่มาก ในวันที่รู้สึกแบบนี้เต็มที่ ผมก็เอาบุหรี่ที่สูบไม่



หมดเกือบซองทิ้งลงถังขยะ ตั้งแต่นั้นผมไม่สูบบุหรี่อีกเลย แต่บางครั้งฝันว่า



สูบบุหรี่ และได้กลิ่นบุหรี่ในฝันเหมือนกลิ่นจริงๆ แม้จะเลิกบุหรี่ถึงสองปีแล้ว



ก็ตาม



การเลิกบุหรี่ด้วยวิธีของผมนั้น เป็นการปลูกฝังตนเองให้ติดแต่โทษของบุหรี่



ผมไม่ทราบว่าการปลูกฝังตนเองแบบนี้ใช้ธรรมข้อใด แต่ใช้ความพยายาม



บอกตนเองซ้ำๆ ซากๆว่าบุหรี่ไม่ได้ การทำซ้ำๆซากๆมีผลต่อจิตใจ ให้เราคุม



จิตใจอยู่ในอำนาจที่เราต้องการได้ ดังนั้นวิธีการปลูกฝังตนเองคือบอกตนเอง



แบบบ่อยๆซ้ำๆซากๆ ทำให้เราเปลี่ยนพฤติกรรมได้ แล้วเปลี่ยนอุปนิสัย



วิธีปลูกฝังเรื่องอื่นๆ ถ้าเรายังดื้อต่อคำสั่งของเราเองก็ต้องใช้วิธีนี้ดัดนิสัยตน



เอง
 
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 25 ธ.ค.2004, 9:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าเราคิดว่าเรามีความอ่อนแอ



ยากจะปลูกฝังนิสัยที่ต้งการได้



เพราะคนเราย่อมต้องการสิ่งที่ดีด้วยกันทั้งนั้น



แม้คนที่ทำอะไรดีแล้วก็ยังต้องการทำให้ดีมากกว่านั้น



เพราะสิ่งนั้นยังห่างไกลเกินไป จะปลูกฝังให้ไปถึงได้ยังไง?



บางทีการปลูกฝังก็ทำไม่สำเร็จในวันเดียว



ดังนั้นจงปลูกฝังไปเพื่ออนาคต



เมื่อเราทำดั ทำสิ่งเป็นกุศล จงปลูกฝังด้วยอธิษฐาน



ว่าขอให้เรามีนิสัยอย่างนั้น อย่างนี้ตามที่เราต้องการในกาลต่อไป



ด้วยผลบุญที่ทำนั้น และทำบุญแล้วอธิฐานไป



ผลบุญนั้นเองไปตกแต่งเราด้วยกรรมให้เป็นไปตามจุดประสงค์ได้



 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง