Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อภัย อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
นิทรา
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 02 ธ.ค. 2004
ตอบ: 26

ตอบตอบเมื่อ: 13 ธ.ค.2004, 4:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การให้อภัยเป็นสิ่งที่ดีงาม

ช่วยให้โลกนี้น่าอยู่มากขึ้น

เมื่อมีใครสักคนทำผิด

เราควรให้อภัย

เพราะเป็นคนย่อมมีทำผิดเป็นธรรมดา

แต่ ถ้าคนนั้นยังทำผิดต่อไป

ไม่เห็นคุณค่าคำว่า " อภัย " จากเรา

แล้วเราสมควรที่จะให้"อภัย"ต่อไปอีกยังงั้นเหรอ

 

_________________
คุณครูบ้านนอกที่ชอบชีวิตเรียบง่าย ภูเขา แม่น้ำ ชอบการสัมผัสกับธรรมชาติ เวลาว่างจะศึกษาธรรมะโดยการอ่านและฟัง ที่ศึกษาประจำคือธรรมะของหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี วัดหินหมากเป้ง และ อื่นๆ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 13 ธ.ค.2004, 5:10 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



"การให้อภัยกับคนที่ไม่ควรให้อภัยเป็นเรื่องที่ดีมาก"
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
ขันธ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ธ.ค.2004, 5:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การให้อภัยผู้อื่น..แท้จริงแล้ว..คือการให้อภัยแก่ใจท่านเอง..ให้หลุดออกจากพยาปาทะครับ
 
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 13 ธ.ค.2004, 11:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้ามีความยุ่งยากแล้วให้หลีกเลี่ยงการเสวนา ถือว่าเป็นคนพาล แต่ก็ต้องให้อภัยในสิ่งที่เขาทำไปแล้วอยู่ดี ต้องหลีกจากพวกคนพาล
 
สายธารา
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 10 ธ.ค. 2004
ตอบ: 15

ตอบตอบเมื่อ: 14 ธ.ค.2004, 3:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การให้อภัยคือการให้...ที่ดีที่สุด

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
นิทรา
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 02 ธ.ค. 2004
ตอบ: 26

ตอบตอบเมื่อ: 14 ธ.ค.2004, 4:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบขอบพระคุณผู้ทรงคุณธรรมทุกท่าน

ที่ได้ช่วยเสนอข้อคิดเตือนใจ ซึ่งเป็นประโยชน์

อย่างสูงสำหรับการนำไปสู่การฝึกจิตใจของตนเองต่อไป



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 ธ.ค.2004, 6:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การฝึกที่จะให้อภัยคือการแผ่เมตตา

การแผ่เมตตานั้นสมมุติว่าเราไปยืนที่อนุสาวรีย์ชัยฯ (ที่ยกตัวอย่างเพราะมีคนมาก)



เรายืนบนที่สูง แล้วมองไปยังหมู่ชนจำนวนมาก แล้วส่งความรู้สึกไปยังคนทั้งหมดที่มองเห็น ณ ที่นั่น ว่าขอให้คนทั้งหมดนี่นั่น จงมีแต่ความสุข ระลุกถึงความสุข สัมผัสความสุขด้วยจิตใจเราเอง แล้วแผ่ความรู้สึกไปยังคนทั้งหมดนั้นนานแสนนาน ไม่นึกคิดเรื่องอื่นในวลานั้น แน่วแน่ในการแผ่ความสุขไปยังคนเหล่านั้น ด้วยความรัก ด้วยความอยากจะให้แต่ความสุขนั้นออกไปจากใจตนเอง อย่าให้ว่างเว้นเลยแม่แต่ใครๆ



ทำให้นิ่งนานด้วยความรู้สึกในใจ ท่านอาจคอยรถและเสียเวลาอยู่ตรงนั้นเอาใจนั้นเป็นประโยชน์ด้วยการแผ่เมตตา



ในที่อื่นๆก็ทำเช่นเดียวกันในหมู่คนจำนวนมาก



เมื่อทำบ่อยแล้ว ก็แผ่เมตตาไปในทุกที่ในท้องฟ้า ในอากาศ ในหมู่มนุษย์ ในน้ำ ทุกแห่งทุกที่มีสิ่งมีชีวิต มีสรรพสัตว์นับจำนวนอันหาประมาณไม่ได้ แผ่ไปทุกทิศทุกทาง ส่งจิตไกลออกไป ในเบื้องต่ำในนรก ใยภูมิสัตว์ชั้นต่ำ ในเบื้องบน เทวดชั้นกาม เทวดาชั้นพรหม นึกไปให้ถึงพวกเขาเหล่านั้นว่าทั้งหมดมีความสุขเถิด อย่าได้เบียดเบียน อาฆาต พยาบาท ทำให้มาก อย่าทำน้อยๆ ทำให้นานเป็นชั่วโมงติดต่อกัน ทำบ่อยๆในทุกที่ที่มีเวลาว่าง โดยเอามาแผ่เมตตา ให้จิตนั้นมีเมตตาไว้เสมอๆ



ความให้อภัยไม่อาฆาตนั้นถึงสอนจิตใจตนเองสักเท่าไร แต่คนเรามีเวรอยู่ ย่อมโกรธ ย่อมขุ่นเคืองต่อสิ่งที่กระทบ ดังนั้นภูมิคุ้มกันก็คือการแผ่เมตตาด้วยวิธีการดังนี้แล



อีกประการหนึ่งพึงเจริญสติอยู่เสมอ ให้อารมณ์แห่งสติสัมปชัญญะเกิดขึ้นบ่อยๆด้วย เมื่อความโกระเกิดขึ้น ผลกระทบเกิดขึ้นกระทบใจ พึงทำความรู้ตัวว่าความโกรธเกิดแก่ใจ ความคิดปรุงแต่งความโกรธนั้นเกิดขึ้นแล้ว พึงทำความรู้สึกระลึกว่าความคิดปรุงแต่งแห่งความโกรธนั้นได้เกิดแก่ใจแล้ว พึงรู้ตัวต่อไปเพื่อสติจะระลึกได้ การถอนความโกรธนั้นจะค่อยจางจากใจ และการแผ่เมตตาจะได้เกิดขึ้นได้ในภายหลัง



ความโกรธนั้นมิได้จางได้ง่าย การให้อภัยก็มีหลายระดับ การกระทบที่รุนแรงแม้จะพิสูจน์ตัวเรา แต่การพิสูจน์ไม่ดีเท่าไร วิธีป้องกันตนเองไว้ดีกว่าการฝึกทำใจให้อภัย ที่มีวิธีการทำใจน้อยอยู่ไม่กี่วิธี เพราะการทำใจนั้นปราการการป้องกันความโกรธเป็นกำแพงอันบอบบางป้องกันข้าศึกที่มีกำลังมากถาโถมเข้ามาไม่ได้ ต้องฝึกตนไว้ทุกด้านจึงจะป้องกันความโกรธได้



และการให้อภัยจะกลายเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ยาก
 
สายธารา
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 10 ธ.ค. 2004
ตอบ: 15

ตอบตอบเมื่อ: 14 ธ.ค.2004, 6:37 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนที่ทำผิดต่อไป


ไม่เห็นคุณค่าคำว่า " อภัย "
[/color

ก้อ...ปล่อยเค้าไปเถอะ ฟ้าดิน...จะลงโทษเค้าเอง

เชื่อมั่น..ในคุณความดี...ตั้งจิต..ตั้งใจ..ให้เข้มแข็ง...

แม้ว่า...ไม่มีใคร.....ขอใจจงแข็งแกร่ง

ไม่มีใครเข้มแข็ง หรือว่า อ่อนแอตลอดไป



คนอื่น..ที่เจ็บปวดกว่าเรา...ยังมี

ตั้งมั่น...ในสิ่งดีดี...คุณความดีจะคอยปกป้อง และคุ้มครองเรา

คุ้มครองคนที่เรารักและรักเรา

..........สายธารา........
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 ธ.ค.2004, 9:10 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าได้รับทุกข์ที่ผู้อื่นกระทำ



และเรารู้สึกว่าทุกข์นั้นมีแก่เรา



ย่อมต้องใช้เวลาให้ทุกข์นั้นจางไป



ปล่อยให้มันอยู่กับใจเราเท่าที่ทุกข์นั้นอยากจะอยู่ เพราะเอาออกไม่ได้ง่ายๆ



ถ้าไม่นำมาครุ่นคิดได้ ย่อมดีกว่า



สิ่งที่เกิดกับเราไม่ว่าทุกข์ เจ็บช้ำ ย่อมเกิดกับทุกคนได้ ไม่เลือกว่าใคร สูงต่ำอย่างไร เพราะเป็นกรรมที่เราเคยทำมาแต่อดีตแน่แท้



แต่ทุกข์นั้นมีวันที่จะหายไป มันทำเราให้ทุกข์เท่ากับกรรมที่เราสร้าง ไม่มากไม่น้อยไปกว่านั้น



จริงๆแล้วมันเกิดกับทุกคน แม้เราเปราะบาง ทุกข์หนักเกินกว่าจะรับก็ต้องรับ มันเป็นสิ่งที่ดูแล้วไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับชีวิตของใครๆ



แต่เป็นสิ่งที่เราไม่อาจหนีพ้นได้



หากทุกข์นั้นก็พ้นไปตามกาลเวลา เมื่อทุกข์ผ่านไปแล้ว ความสดชื่นก็กลับคืนมาอีก ชีวิตดำเนินไปได้อีก นี่คือวัฏฏสงสารในช่วงสั้นๆที่เราพบเห็นได้ และเกิดกับตนเองได้



ท่ามกลางความสุขของชีวิต ความทุกข์ก็เกิดขึ้นใหม่ได้อีก โศกเศร้าสะเทือนใจเกิดได้อีก ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่มีที่สิ้นสุด



เอาความดีใจปัจจุบัน ไปคุ้มครองตนในอนาคต และใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท เท่านั้นแหละ



จะเห็นว่าสิ่งสมมุตินั้น เวลาเราต้องเผชิญในชีวิตจริง ใช่ว่าเราจะผละมันได้ง่ายๆ ด้วยคำเข้าใจว่ามันเป็นตัณหาอุปทานได้เสียเมื่อไหร่
 
นิทรา
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 02 ธ.ค. 2004
ตอบ: 26

ตอบตอบเมื่อ: 15 ธ.ค.2004, 3:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบขอบพระคุณอย่างยิ่งอีกครั้งสำหรับช้อคิดเห็นที่นับว่ามีคุณค่ามาก

ค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 15 ธ.ค.2004, 10:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกข์ที่เกิดขึ้นกับเรานั้น



ขอให้พิเคราะห์พิจารณามันสักนิด



อย่างน้อยพอประเมินผลไปสู่เหตุ ผลคือทุกข์ที่เราได้รับนั้น มาจากเหตุที่เราทำในอดีต



พยายามคิดด้วยความเป็นธรรมไม่เข้าข้างตนเอง เพื่อดูว่าเราได้ทำกรรมอย่างไรไว้ในกาลก่อน



มองผลกระทบทั้งหมดที่เกิดกับเราให้รอบด้าน การสูญเสียบางสิ่งไป การเงิน การงาน คนรอบข้าง



แยกแยะคนที่เป็นมิตร ไม่เป็นมิตร ทำไปเรื่อยๆเล่นๆ บางทีเราอาจมองเห็นอดีตจากปัจจุบัน



เรามีกรรมอะไร? เราทำอะไรมาในกาลก่อน เราทำมันอย่างไร ผลนั้นจึงตกมาสู่เรา และเราหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย



เวรนั้นมักซ้ำรอยไปชั่วเวลายาวนาน พวกยิวกับปาเลสไตน์อย่างนี้ ความเป็นศัตรูนั้นยาวนานไปหลายกัปป์



เวรก็เหมือนกัน บางทีเรายังรู้สึกไม่ให้อภัย แม้จะสอนใจว่าให้อภัย ก็ทำไม่ได้หมดสิ้นเหมือนกัน ต้องฝึกแล้วทำไปให้ได้ เมื่อเวลานานผ่านไป เราลืมมัน แต่กรรมยังเกาะอยู่ที่ดวงจิตตามไปสู่ภพหน้า การจองเวรอาจมีขึ้นได้อีก



โลกนี่เป็นความทุกข์นั้นเป็นความจริง บางทีเราต้องการมีคนที่เข้าใจ แต่หาไม่ได้ ในขณะเดียวกันเราก็ไปเข้าใจคนอื่นไม่ได้ ทั้งที่คนอื่นอยากให้เราเข้าใจ ถ้ามีคนไปเข้าใจกันได้ในยามทุกข์หมด ไหนเลยเจ้ากรรมนายเวรจะสามารถตามรังควานใครได้



ถ้ามีคนช่วยเหลือกันในยามยากหมด ทุกข์แห่งความขัดสนก็ไม่มีในมนุษย์



ว่าจริงๆแล้วถ้าโลกเอื้อเฟื้อกันได้หมด โลกนี้อบอุ่นไปด้วยความเกื้อxxxล เหมือนคนล้มลงบนถนน แต่มีมือยื่นไปเหนี่ยวรั้งขึ้นมาจากการล้มลุก



โลกในจินตนาการ และความฝันแบบนี้ มีอยู่จริง แต่ไม่ใช่ในกาลนี้



เพราะเราต้องเกิดมาในกาลนี้ ด้านหนึ่งต้องชดใช้บาปกรรม ด้านหนึ่งเสวยสุขที่เรามีอยู่ไม่ว่าจะน้อยหรือมาก แต่โลกในยามทุกข์นั้นไม่สวยงาม ไม่ร่าเริง และเศร้าหมองไปเลย



แต่ดูเอาเถอะชีวิตของเราช่างตั้งความปรารถนาไว้ผิดๆเสมอ



เราต้องการความสุข ต้องการความร่าเริงแจ่มใสเสมอ แต่ชีวิตนี้แม้เป็นของเราเอง เราก็ยังไม่สามารถจัดการได้ดังใจที่เราต้องการได้เลย



เราแก้สภาพแวดล้อมภายนอกชีวิตเราให้ถูกใจเรานั้นไม่ได้เลย



แต่สิ่งภายในใจของเรานั้นเราต้องแก้ได้



ต้องแก้ที่ตัวเองก่อน และอย่าให้สิ่งภายนอกที่เราบังคับบัญชาไม่ได้ มีอิทธิพลต่อเรามาก ไม่งั้นเราจะตกเป็นทาสของมัน มันเป็นอย่างนั้นจริงๆ



เราอาจพูดว่า ถ้าเรารักใครนานถึง 12 ปี และเขาไม่รักเราเลย จำเป็นอะไรที่เราจะต้องจับตัวเขาบังคับเขาให้มีเรื่องราวใหญ่โต และเราตกเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญา เพราะว่าเราสามารถละจากผู้หญิงคนนั้น ไปรักและแต่งงานกับคนอื่นได้



แต่เมื่อความจริงเป็นอย่างนี้ และเราลองเป็นชายหนุ่มคนนั้น เราก็ไม่อาจผละจากความรักนั้นได้ เพราะกรรมมันผูกมัดให้เป็นอย่างนั้น



แม้เป็นเรื่องของผลกรรม



แต่เราไม่อยากเจ็บ



มันช่างไม่ยุติธรรมกับเราเลย นี่เป็นสิ่งที่เราพูดกับใจเราเอง



ปลาที่ติดเบ็ดก็ครวญครางเจ็บปวด และพูดอย่างนี้ แต่มนุษย์ผู้ที่ฆ่าเขาไม่ได้ยินเสียงนี้



ในโลกนี้มีเสียงพร่ำร้องของสัตว์เต็มไปหมด ไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์เดรัจฉาน



เพราะทุกข์แน่แท้ ทำให้ต้องบังเกิดพระพุทธเจ้าขึ้นในโลกมาปราบความทุกข์



ถ้ามีคนหยิบความทุกข์จากใจคนอื่นได้ คงมีคนทำ แต่โลกไม่มองความทุกข์ของคนอื่น



ถ้ารัฐบาลสามารถสร้างนโยบายแก้ไขความทุกข์ของคนด้วยการสร้างสังคมที่ช่วยเหลือกันอย่างอบอุ่น รัฐบาลนั้นคงได้คะแนนเสียงมากกว่าการทำให้เศรษฐกิจเติบโต แต่ด้านหนึ่งกลับสร้างสังคมมีความแล้งน้ำใจไปทุกแห่ง แทรกอยู่ในคำคุยถึงความร่ำรวย



ความเอื้อเฟื้อเกื้อxxxล ไม่ใช่สิ่งหายากหรอก แต่สังคมไม่มีโครงสร้างให้โอกาสที่จะเกิดสิ่งเหล่านี้ นี่ก็เป็นกรรมที่เป็นอย่างนี้



ถ้าเรามุ่งแก้ปัญหาภายนอกคัวเรา หรือไปมุ่งแก้สิ่งแวดล้อมรอบตัว เพื่อสนองสิ่งที่คนต่างต้องการแล้ว เราก็หลงผิดแก้แต่ปัญหาภายนอก และไม่แก้ปัญหาภายใน



ไว้เวลาผ่านไประยะหนึ่ง ทนไปอักหน่อย เราจะรู้ว่า เพราะทุกข์นั้นได้เกิดแกเรา เราจึงได้ประสบการณ์ในการแก้ปัญหาในตัวเรา และเรานี่แหละเยี่ยมยอดที่สุดภายหลังได้ผ่านวิกฤติกาลไปแล้ว



ตรงนี้ต้องอดทน เหมือนใครเอามีดมาเชือด แผลมีขึ้นแล้ว ความเจ็บย่อมต้องมี และสิ่งที่ทำได้คืออดทนอยู่ในความเจ็บนั้น แต่อย่าปรุงแต่ง



เพราะวันแต่ละวัน เราคิดถึงความเจ็บนั้นบ่อย แม้เตือนตนว่าจะลืม ก็ยังไปคิด ใจเราวกเข้าไปหามัน และเจ็บกลับมา นี่เป็นธรรมชาติของจิต เมื่อทำท่าจะลืมได้ ก็กลับหวนคิดไปหาความเจ็บปวดนั้นอีก ถามว่าทำไม ก็ตอบไม่ได้



ใจที่ฝึกให้หักได้ก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง ไม่มีเรื่องที่จะต้องแยแสมาก ในแต่ละชาติ ผลกรรมที่ได้รับนั้นคือบทเรียนชีวิตของการฝึกตนในวัฏฏะโดยแท้



การทำความดีจำเป็นอย่างยิ่งยวด ไม่ใช่เพื่อผลจะได้ในวันนี้ แต่เมื่อหย่อนเมล็ดพันธุ์ลง พืชพันธุ์นั้นย่อมงอกเพื่อเติบโตเป็นลำต้นและให้ผลในกาลข้างหน้า



เราสร้างชีวิตเราเอง ด้วยสิ่งที่เรากระทำลงไปนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าความดีนี้จะไม่มีผล
 
นิทรา
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 02 ธ.ค. 2004
ตอบ: 26

ตอบตอบเมื่อ: 16 ธ.ค.2004, 1:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กราบขอบพระคุณคุณโอ่เป็นอย่างสูง ที่ได้พูดแสดงความเห็น และอธิบายในเรื่อง " ทุกข์ " ไว้อย่างดีเยี่ยม เป็นข้อเตือนใจ เป็นเครื่องอยู่ของใจเป็นอย่างที่คุณโอ่แสดงไว้ เหมือนเหตุการณ์ ความรู้สึกที่เกิดขึ้นกับคนที่กำลังประสบกับความทุกข์ โดยเฉพาะทุกข์ที่ดูเหมือนหนักมาก ดิฉันคิดว่าคนที่ตกทุกข์ได้ยากเท่านั้นที่จะรับรู้ถึงรสชาติของความทุกข์ของคนอื่น ก็พยายามจะไม่คิด ไม่ปรุง ไม่แต่ง ทำอะไรที่ดูแล้วมีคุณค่ากับตนเองค่ะ กาลเวลาเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้อะไรๆ ดีขึ้นได้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
นิทรา
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 02 ธ.ค. 2004
ตอบ: 26

ตอบตอบเมื่อ: 23 ธ.ค.2004, 1:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณโอ่พูดถึงเรื่อง " ทุกข์ " ไว้ได้ชัดเจนดีมากค่ะ อ่านแล้วหลายรอบ

อ่านแล้วมีความรู้สึกที่ดี คิดว่าทุกข์นั้นคงจะผ่านพ้นไปตามกาลเวลา พร้อมๆกับการทำใจให้เข้มแข็ง อดทน ค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง