Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ต้นรกฟ้าขาว (ต้นอัชชุนะ) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
เว็บมาสเตอร์
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 19 มี.ค. 2005
ตอบ: 993

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.ค.2007, 5:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ต้นรกฟ้าขาว (ต้นอัชชุนะ)

“ต้นรกฟ้าขาว” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า “Terminalia alata Heyne ex Roth.” วงศ์ Combretaceaee ในภาษาบาลีเรียกว่า “ต้นอัชชุนะ” มีชื่อพื้นเมืองที่เรียกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่นของไทย คือ กอง, คลี้, จะลีก, ชะลีก, เชือก, เซียก, ฮกฟ้า เป็นต้น

ต้นรกฟ้าขาว เป็นไม้ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ ผลัดใบ สูง 20-30 เมตร เปลือกนอกสีเทาถึงเทาปนดำ แตกเป็นร่องลึกและเป็นสะเก็ดทั่วไป ใบเป็นใบเดี่ยว ติดตรงข้ามหรือเยื้องกันเล็กน้อย ทรงใบรูปขอบขนาน หรือรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ใบอ่อนมีขนสีน้ำตาลทั้ง 2 ด้านใบแก่ขนหลุดร่วงหมด ด้านหลังใบจะมีต่อมคล้ายหูดหนึ่งหรือสองต่อม ขอบใบเรียบหรือเป็นคลื่นบ้างเล็กน้อย ดอกออกเป็นช่อขนาดเล็ก ดอกช่อ panicle เกิดที่ปลายกิ่ง ดอกย่อยสีขาวหรือขาวอมเหลือง เป็นดอกสมบูรณ์เพศผ่าศูนย์กลางประมาณ 4-5 มิลลิเมตร กลีบรองกลีบดอก โคนกลีบเชื่อมติดกันเป็นรูปถ้วย มีขนทั้งสองด้าน ไม่มีกลีบดอก เกสรผู้ 10 อันแยกกัน ผลรูปรีๆ มีครีบตามยาวผล 5 ครีบ ผลรวมทั้งครีบ กว้าง 2.5-5 เซนติเมตร ยาว 4-6 เซนติเมตร ผิวเกลี้ยง

รกฟ้าขาวพบทั่วไปในป่าผลัดใบ และป่าเต็งรัง ที่สูงจากระดับน้ำทะเล 100-1,000 เมตร ทิ้งใบในช่องเดือนมกราคม-เมษายน ผลัดใบใหม่ในเดือนมิถุนายน พร้อมตาดอก

Image

คุณประโยชน์ต้นรกฟ้าขาว อาทิเช่น ไม้รกฟ้าเป็นไม้เนื้อแข็งและมีลายละเอียดมาก ใช้ขัดซักเงาได้เป็นอย่างดี, ใช้ทำพื้น คาน เฟอร์นิเจอร์ ด้ามเครื่องมือ รวมทั้ง นิยมใช้ในงานตกแต่งสมัยใหม่ในโรงแรม ร้านอาหาร และร้านสปาต่างๆ เป็นต้น โดยเฉพาะเปลือกให้น้ำฝาดสำหรับฟอกหนัง

ในพระไตรปิฎก ฉบับธรรมทาน หัวข้อ ‘อัชชุนปุปผิยเถราปทาน’ ได้กล่าวถึง ผลแห่งการถวาย ‘ดอกรกฟ้าขาว’ บูชาของพระอัชชุนปุปผิยเถระ ไว้ว่า

“ครั้งนั้น เราเป็นกินนรอยู่ที่ใกล้ฝั่งแม่น้ำจันทภาคา ได้เห็นพระสยัมภูพุทธเจ้าผู้ปราศจากกิเลสธุลี มีความเลื่อมใสมีใจโสมนัส เกิดความปราโมทย์ ประนมอัญชลีแล้วถือเอาดอกรกฟ้าขาวมาบูชาพระสยัมภู ด้วยกรรมที่เราทำไว้ดีแล้วนั้น และด้วยการตั้งเจตน์จำนงไว้ เราละร่างกินนรแล้ว ได้ไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เราได้เป็นจอมเทพเสวยราชสมบัติในเทวโลก ๓๖ ครั้ง ได้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิเสวยราชสมบัติอันใหญ่ ๑๐ ครั้ง ได้เป็นพระเจ้าประเทศราชอันไพบูลย์โดยคณนานับมิได้ พืชอันหว่านในเนื้อนาอันดี คือ พระสยัมภู ได้สำเร็จผลเป็นอันดีแก่เราแล้ว กุศลของเรามีอยู่ เราบวชเป็นบรรพชิตทุกวันนี้ เราควรแก่การบูชาในศาสนาของพระศากยบุตร เราเผากิเลสทั้งหลายแล้ว ฯลฯ พระพุทธศาสนาเราได้ทำเสร็จแล้ว ดังนี้”

Image


......................................................

http://web.ku.ac.th/nk40/nk/data/02/rokfa.htm
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง