Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 หลวงปู่ศรี มหาวีโร พระผู้มากล้นด้วยบุญบารมี อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2007, 5:11 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เทียน ประวัติและปฏิปทา “หลวงปู่ศรี มหาวีโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=50005

เทียน รวมคำสอน “หลวงปู่ศรี มหาวีโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=50228

เทียน งานพระราชเพลิงสรีระสังขาร “หลวงปู่ศรี มหาวีโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=41937

เทียน ประวัติและปฏิปทา “หลวงพ่อทองอินทร์ กตปุญโญ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=44107

Image

ประวัติย่อ พระเทพวิสุทธิมงคล (หลวงปู่ศรี มหาวีโร)
วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด

พระภิกษุสงฆ์ ในประเทศไทย สายอรัญวาสี หรือที่เรียกว่า "พระป่า พระธุดงคกรรมฐาน" นับตั้งแต่ ปีพุทธศักราช 2458 เป็นต้นมา ได้รับการอบรม วางหลักปักฐาน การเผยแผ่ ศาสนธรรม จากพระบุพพาจารย์ใหญ่ สายวิปัสสนากรรมฐาน คือท่าน พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

ด้วยปฏิปทาบารมีธรรม ของพระเดชพระคุณหลวงปู่มั่น ทำให้บังเกิดกองทัพธรรมพระกรรมฐาน นำธงชัย แห่งพระพุทธศาสนา กระจายเผยแผ่อมตะธรรมไปทั่วสารทิศ และในบรรดาพระกรรมฐาน ลูกศิษย์ของท่าน ได้มีสมณะผู้ทรงศีลาจารวัตร เป็นที่เลื่อมใสศรัทธา ของชาวพุทธกว้างไกล และนำพาซึ่งประโยชน์ แห่งการพระศาสนาอย่าง สัมฤทธิ์ผล ปรากฏชัด ณ ปัจจุบันกาล พระคุณเจ้ารูปนี้คือ

พระราชสังวรอุดม ( หลวงปู่ศรี มหาวีโร ) วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด

นามเดิมของท่านชื่อ ศรี เกิดในสกุลปักกะสีนัง เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม พ.ศ.2460 ตรงกับวันศุกร์ เดือนหก ปีมะเมีย ที่บ้านขามป้อม อำเภอวาปีปทุม จังหวัดมหาสารคาม โยมบิดาชื่อนายอ่อนสี โยมมารดาชื่อนางทุม ปักกะสี

ในช่วงปฐมวัย ท่านเข้าศึกษา ที่โรงเรียนประชาบาล วัดบ้านขามป้อม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำท้องถิ่น จบชั้นประถมปีที่ 6 และได้ขวนขวาย เข้ามาเรียนต่อ ที่โรงเรียนสารคามพิทยาคม ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำจังหวัด จนจบชั้นมัธยมปีที่ 3 เมื่อปี พ.ศ.2480

การศึกษาของท่าน ในยุคสมัยนั้น นับว่าอยู่ในขั้นดี ท่านได้เข้ารับราชการ เป็นครูในปีรุ่งขึ้น หลังจากสำเร็จการศึกษา ชีวิตการเป็นครู ท่านเริ่มที่ โรงเรียนวัดบ้านชาด ตำบลหัวเรือ มหาสารคาม และต่อมาที่โรงเรียน บ้านสวนจิก ตำบลปอภาร ร้อยเอ็ด

ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ในพระพุทธศาสนา ท่านได้บรรพชาอุปสมบทเมื่อปี พ.ศ.2488 ณ พัทธสีมาวัดราษฎร์รังสรรค์ บ้านป่ายาง อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด โดยมีพระโพธิญาณมุนี ( ดำ โพธิญาโณ) เจ้าคณะจังหวัดร้อยเอ็ด (ธรรมยุต) เป็นอุปปัชฌาย์ ได้รับฉายา ทางพระพุทธศาสนา เป็นมคธว่า "มหาวีโร"

พรรษาแรก ในชีวิตสมณะผู้ละวาง ท่านได้พำนักศึกษาปฏิบัติธรรม อยู่กับท่านพระอาจารย์คูณ อุตตโม วัดประชาบำรุง มหาสารคาม

ปีต่อมา พ.ศ.2489 ท่านได้จาริกไปจำพรรษ ที่วัดป่าแสนสำราญ อำเภอวารินชำราบ จังหวัดอุบลราชธานี มีโอกาสศึกษา ปฏิบัติธรรม เจริญวิปัสสนา กับท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม ซึ่งเป็นศิษย์สำคัญของท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต

เมื่อออกพรรษาแล้วพระศรี มหาวีโรในครั้งนั้นได้ออกจาริกแสวงธรรม ไปตามวนาป่าเขาราวไพร อาทิ ภูเก้า ภูผักกูด บ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดนครพนม ซึ่งที่ภูผักกูด หรือภูผากูดแห่งนี้ เป็นสัปปายะสถาน ที่พ่อแม่ครูอาจารย์หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น เคยธุดงค์จาริก มาพำนัก เป็นแหล่งเจริญธรรม ที่ผู้กล้าแห่งกองทัพธรรม ได้มาประพฤติธรรม บำเพ็ญเพียร ด้วยเป็นสถานที่อยู่ไกลจากชุมชน ขาดแคลนขัดสน ในปัจจัยสี่ แต่มีภูมิทัศน์ ที่เหมาะแก่การพัฒนา ภูมิธรรมสัมมาปฏิบัติเป็นอย่างยิ่ง

ปี พ.ศ. 2490 หลวงปู่ศรี มหาวีโร ธุดงค์ไปพำนักที่ถ้ำพระเวส ครั้นเข้าพรรษา ได้ไปจำพรรษา ที่วัดบ้านนาแก อำเภอนาแก จังหวัดนครพนม ซึ่งในยุคสมัยนั้น เป็นดินแดนที่ครุกรุ่นไปด้วยสถานะการณ์ แห่งความขัดแย้ง ด้านอุดมการณ์ทางการเมือง และสังคม แต่ท่านก็อยู่ด้วยความราบรื่น ปราศจากอันตราย จนกระทั่ง ออกพรรษา จึงจาริกไปยังจังหวัดสกลนคร และปี พ.ษ. 2491 เข้าจำพรรษา ที่วัดโนนนิเวสน์ อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเป็นการเดินตามทางรอยธรรม พ่อแม่ครูอาจารย์ คือหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งเคยมาพำนักที่วัดแห่งนี้มาแต่ครั้งอดีต

ด้วยความเลื่อมใสศรัทธา ในปฎิปทาบารมีธรรม ของท่าน พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระบุพพาจารย์ใหญ่ ด้านวิปัสสนากรรมฐาน ซึ่งขณะนั้น อยู่ในช่วงปัจฉิมวัย พำนักอยู่ที่สำนักป่า บ้านหนองผือ ตำบลนาใน อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร

พระอาจารย์ศรี มหาวีโร จึงเข้าไปกราบนมัสการ พระเดชพระคุณหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่สำนักป่าบ้านหนองผือ ขออนุญาต พำนักจำพรรษา และศึกษาธรรมกับท่าน ซึ่งหลวงปู่มั่น ก็เมตตาอนุญาติ นับเป็นโอกาส อันเป็นมหามงคล ในชีวิตบรรพชิต ที่มีโอกาสศึกษาธรรม และอุปปัฎฐาก พระบุพพาจารย์ใหญ่ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต รวมทั้งมีโอกาสเจริญธรรม กับสหธรรมิกร่วมสำนัก ร่วมครูอาจารย์เดียวกัน

เมื่อหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต อาพาธพระอาจารย์ศรี ก็มีโอกาสถวายการปฏิบัติ เมื่อท่านพระอาจารย์ใหญ่ถึงแก่มรณภาพ ก็นำความวิโยคอาดูร มาสู่ผู้เป็นศิษย์ ผู้เคารพศรัทธาครูอาจารย์ อย่างสุดจิต สุดใจ พระอาจารย์ศรี มหาวีโร ได้ถวายสักการะ สรีระ หลวงปู่มั่น เป็นครั้งสุดท้าย ในงานถวายเพลิง ฌาปนกิจ ที่วัดป่าสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร

ต่อมาปี พ.ศ.2493 พระอาจารย์ศรี มหาวีโร ไปจำพรรษาที่วัดป่าบ้านหนอง ผักตบ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดอุดรธานี และปีต่อมา ได้มีโอกาส ไปพำนัก จำพรรษาที่ วัดบ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร ได้มีโอกาส ศึกษาธรรม กับท่านอาจารย์พระมหาบัว ญาณสัมปันโน ซึ่งเป็นประธานสงฆ์ในสำนักแห่งนี้

ปี พ.ศ.2495 ได้ร่วมสร้างวัดป่าหนองแซง โดยบัญชาของท่านเจ้าคุณธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) วัดโพธิสมภรณ์ อุดรธานี

ท่านพระอาจารย์ศรี ได้ออกจาริกห่างถิ่นมหาสารคาม และร้อยเอ็ดไปนานหลายปี จนกระทั้งปี พ.ศ.2496 ท่านจาริกมายังวัดป่ากุง ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาประมาณ 170 ปี ท่านเป็นผู้นำศรัทธา ในการพัฒนาวัดป่ากุง ให้เรืองรุ่งโดยลำดับ จนกระทั้งเป็น "วัดประชาคมวนาราม" ที่งามสง่า เป็นศาสนสถาน อันไพศาล สำหรับชาวพุทธ ผู้ศรัทธาในธรรมะ ของพระผู้มีพระภาคเจ้า และดำเนินตามธรรมวิถีของพ่อแม่ครูอาจารย์

หลวงปู่ศรี มหาวีโร จำพรรษาที่วัดประชาคมวนาราม หรือวัดป่ากุง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2507 เป็นต้นมา ท่านเป็นผู้นำ เป็นธุระในกิจการงาน พระศาสนา อย่างจริงจังและ มั่นคง สร้างคุณูปการและสาธารณประโยชน์ เป็นจำนวนมาก

ที่เป็นงานยิ่งใหญ่อลังการคือการก่อสร้าง "พระมหาเจดีย์ชัยมงคล" ณ วัดผาน้ำทิพย์ อำเภอหนองพอก จังหวัดร้อยเอ็ด

พระมหาเจดีย์แห่งนี้ เป็นผลานิสงส์แห่งแรงศรัทธา ของชาวพุทธ ต่อพระบวรพุทธศาสนา ต่อพระสุปฏิปันโน ต่อบารมีธรรม ของพระราชสังวรอุดม เจ้าคุณหลวงปู่ศรี มหาวีโร ที่มุ่งเพื่อประโยชน์ ต่อสถาบันชาติ ศาสน์ กษัตริย์ อันเป็นหลักชัยหลักใจของชาวไทย หมายจรรโลงพระพุทธศาสนา สืบสานศิลปวัฒนธรรม งานพุทธศิลปให้สถิตสถาพรสืบไป

รูปแบบอันวิจิตร เป็นศิลปผสมความยิ่งใหญ่ ของพระปฐมเจดีย์ กับความ โอฬารของพระธาตุพนม กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียว ประดิษฐานตระหง่าน ตระการตา ด้วยศิลปกรรม อันล้ำเลิศ ด้วยฝีมือลูกหลานไทย เป็นนฤมิตกรรมแห่งยุคสมัย ที่จะเป็นปูชนียสถานสำคัญ ของไทย และของโลกวัฒนา สืบต่อไปภายภาคหน้า

ในยามเช้าผู้คนจากบ้านไกลเรือนไกล จากหลายถิ่น จะมารวมกัน ที่หน้าวัดประชาคมวนาราม เพื่อเตรียมถวายภัตตาหาร บิณฑบาตรพระคุณเจ้า เป็นโอกาสที่พุทธศาสนิกชน จะได้กราบนมัสการหลวงปู่ศรี อย่างใกล้ชิด บางรายบางท่าน ก็มาขอพึ่งบารมีธรรมของท่าน ซึ่งท่านก็เมตตาเสมอตลอดมา

การบิณฑบาตร เป็นธุดงควัตรที่พระกรรมฐานประพฤติปฏิบัติ หลวงปู่ศรีจะตื่นแต่ดึก ออกเดินไปรอบ ๆ วัด จนถึงเวลาบิณฑบาตร ท่านเป็นผู้มีสุขภาพพลานามัยแข็งแรงแม้จะมีอายุกว่า 80 ปีแล้ว

หลังจากบิณฑบาตรแล้ว สาธุชนจะร่วมกันถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสามเณร หลวงปู่ศรี มหาวีโร ท่านเป็นพระวิปัสนาจารย์กรรมฐาน ที่มีความสามารถอย่างสูงในการแจกแจงแสดงธรรม

หลวงปู่ศรี มหาวีโร เป็นพระเถราจารย์ ผู้เปี่ยมด้วยพรหมวิหารธรรม เป็นเนื้อนาบุญ อันยิ่งใหญ่ ของพระพุทธศาสนา เป็นพระป่า พระกรรมฐาน ที่ศิษย์เคารพ ศรัทธา อย่างมหาศาล เป็นสมณะผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ อย่างสิ้นสงสัย




--------------------------------------------------------------------------------
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2007, 5:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

หลวงปู่ศรี มหาวีโร
วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) อำเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด

หลวงปู่ศรี ท่านเป็นพระสงฆ์ผู้ได้ชื่อว่า…ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ มีศีลจริยาวัตรงดงาม ท่านมีชื่อเสียงโด่งดังเลื่องลือทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศมานานแล้ว อีกทั้งอำนาจวาสนาแก่กล้าเป็นที่น่าอัศจรรย์
ปฏิปทาในการประพฤติปฏิบัติของท่านนั้น ได้เจริญรอยตามพระบุพพาจารย์ฝ่ายสมถะและวิปัสสนากรรมฐานในยุค คือหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ท่านเป็นศิษย์องค์หนึ่งในจำนวนศิษย์ ทั้งหลาย ทีมีเจตนาอันเดียวกันคือ
รักษาบทบัญญัติพระธรรมวินัย พร้อมกับสร้างสรรค์ความสมบูรณ์พูลสุขในสังคมมนุษย์ชาติจนได้รับความศรัทธา เชื่อมั่นจากประชาชนคนไทยและต่างประเทศเป็นอย่างยิ่ง
หลวงปู่ศรี มหาวีโร ท่านเป็นพระผู้กล้าเสียสละ โดยยกเอาความเมตตาเป็นเบื้องต้น อันเป็นอุปนิสัยของพระอริยเจ้าที่กระทำสืบต่อกันมาเป็นประเพณีนั้นเอง
กอปรกับท่านเคยมีนิสัยเดิมสมัยเป็นฆราวาส คือท่านได้สละกำลังกาย กำลังใจ ฝึกฝน อบรมเยาวชนในฐานะท่านเป็นครูมาแล้วสมัยหนึ่ง
ถิ่นกำเนิดของหลวงปู่ศรี มหาวีโร ท่านเป็นคนชาวจังหวัดมหาสารคาม
สมัยเป็นหนุ่มท่านดำเนินชีวิตประกอบกิจการงานเป็นครูโรงเรียนหนึ่ง ในจังหวัดมหาสารคามต่อมาท่านได้แต่งงานมีบุตร ๔ คน
ในชีวิตข้าราชการครู น้อยนักที่จะหาเวลาหรือโอกาสอุปสมบทได้ ดังนั้นท่านจึงได้ปรารภกับภรรยาขอบวชเพื่อนมัสการคุณพระพุทธเจ้าสักครั้ง ก็เป็นที่น่ายินดีที่ภรรยาท่านอนุญาตให้บวชเพียง ๗ วันเท่านั้น!…
เมื่อตกลงกันเรียบร้อยแล้วก็ได้เดินทางมาอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดประชาบำรุง อ.เมือง จ.มหาสารคาม
หลังจากบวชเป็นพระภิกษุศรี มหาวีโร แล้ว ประกอบกับทุนเดิมในการประพฤติปฏิบัติสมัยเป็นฆราวาส ท่านก็เร่งทำความเพียรตลอดวัน
ธรรมปีติที่เกิดขึ้นภายในจิตใจไม่หยุดหย่อน ท่านพยายามตักตวงบุญกุศลและการภาวนาในช่วงเวลาที่เหลืออีกไม่กี่วันนี้
เหมือนบุญบารมีหนุนจิตใจให้ท่านต้องครองเพศสมณะอันบริสุทธิ์ต่อไป เกิดได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และศิษย์เอก คือท่านพระอาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม เข้าในช่วงนั้น
ข่าวที่เชื่อถือได้นี้บอกว่า “ท่านทั้งสององค์เป็นพระอาจารย์ผู้ปฏิบัติแตกฉานในวิปัสสนากรรมฐาน อีกทั้งยังมีปฏิปทาจริยาวัตรอันงดงาม น่าเคารพเลื่อมใสยิ่ง”
หลวงปู่ศรี มหาวีโร สมัยเป็นพระหนุ่ม ก็ยิ่งทำให้กระวนกระวายใจยิ่งนัก คอยฟังข่าวว่าท่านอยู่ที่ไหน
เมื่อได้ทราบข่าวแน่นอนว่าท่านพระอาจารย์สิงห์อยู่ จ.อุบลราชธานี ก็ไม่รอช้ากัน รีบเดินทางไปทันที เวลาสึกตามสัญญาก็เหลืออีกไม่กี่วันด้วย
ในที่สุดก็ไดพบท่านพระอาจารย์สิงห์พร้อมกับสดับตรับฟังธรรมะ เป็นที่ถูกอกถูกใจเป็นอันมาก
ธรรมที่ฝังลึกลงก้นบึ้งแห่งจิตนี้ ทำให้สัญญา ๗ วันเป็น ๑๕ วัน ถึง ๑ เดือน และ ๑ ปี ในขั้นสุดท้ายก็ขาดสะบั้นลง ปิดทางโลกจนหมดสิ้น ไม่ยินดีที่จะใช้ชีวิตทางโลกอีกต่อไป
เพราะบัดนี้ท่านได้พบกับพระผู้มีคุณธรรมวิเศษเข้าแล้ว คือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
หลวงปู่ศรี มหาวีโร ท่านได้ปฏิบัติภาวนามาตั้งแต่ต้นมาจนปัจจุบัน ท่านกล่าวสั้นๆ ให้ ได้ยินว่า
“เอาชีวิตนี่แหละเป็นเดิมพัน เพื่อแลกกับความดี”
การเดินธุดงค์ไปตามป่าดงหรือปักกลดบำเพ็ญสมาธิภาวนาท่านมีแต่ความอิ่มเอิบอาจหาญ
ผลทางใจที่เคยได้รับสมัยแรกเป็นแรงหนุนความเด็ดเดี่ยว
สติมั่นคง ต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ นานาประการ
หลวงปู่ศรี มหาวีโร ท่านได้พระคณาจารย์ที่เป็นพระสหธรรมที่ถูกอัธยาศัยหลายองค์เช่น ท่านพระอาจารย์มหาบัว ญาณสัมปันโน พระมหามี หลวงปู่บัว สิริปุณโณ ท่านพระอาจารย์ชา สุภัทโท ซึ่งพระคณาจารย์ฝ่ายอาวุโสเหล่านี้ ท่านเคยได้ออกเดินธุดงค์บำเพ็ญสมณธรรมด้วยกัน ทั้งสิ้น
ท่านเคยเล่าให้ผู้เขียนฟังว่า… “การนั่งสมาธิภาวนาอย่างขั้นอุกฤษฎ์ คือ… นั่งภาวนา ๒๔ ชั่วโมง จะเปลี่ยนอิริยาบถเพียง ๒ ครั้งเท่านั้น เพื่อดูทุกขเวทนาในตนเอง จนปรากฏทุกขเวทนาอย่างเด่นชัด และรู้เล่ห์เหลี่ยมของกิเลสมาร ที่มารบเร้าจิตใจของท่านจนหมดสิ้น
การนั่งสมาธิในคราวนั้นโดยไม่ยอมเปลี่ยนอิริยาบถได้เป็นเหตุให้เกิดพุพองเป็นตุ่มขึ้นมา ทำให้ปวดแสบปวดร้อนมาก
ท่านเล่าว่า… โอ…นรก ๘ ขุม มันเกิดยกมากันที่นี่ทั้งหมด เออ…มันยกทัพกันมา ดังสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั้งร่างกาย เรานี่แหละสู้กับมัน
ขอให้มีสติดีเสียอย่างเดียวมันจบได้ คือ ความเจ็บปวดทั้งหลายนั้น มันจะไม่เกิดอีกเลย นี่นักปฏิบัติต้องเอาชนะให้ได้ ถ้าไม่ได้ แพ้มันเด็ดขาด”
หลวงปู่ศรี มหาวีโร ท่านยังได้ยกเหตุผลธรรมะอีกข้อหนึ่งว่า
“นักปฏิบัติธรรมต้องมีสติพร้อมเสมอ ถ้าสติอ่อน มันจะติดสัญญาภาพเก่าๆ ที่เราได้ จดจำมาแล้วทั้งสิ้น แล้วธรรมที่เกิดนั้นมันก็ยังเป็นของคนอื่น ยังมิใช่ของเราแท้นะ
ระวังกิเลสมันจะหลอกล่อจิตใจเราให้ลุ่มหลง เพ้อพกไปได้แม้อาตมาเอง มันยังหลอกให้หลงอยู่กับนิมิตเกือบ ๖ ปี เพราะนิมิตตัวเดียวแท้ๆ”
ทางด้านอภิญญาญาณ หลวงปู่ศรี มหาวีโร ท่านมีความแจ่มใสในเรื่อง อภิญญาญาณ มาก เป็นที่เคารพนับถือของชาวจังหวัดร้อยเอ็ด และคณะศรัทธาญาติโยมในจังหวัดต่างๆ เกือบทั่วประเทศ
หลวงปู่ศรี ท่านเป็นร่มโพธิ์ทองสำหรับเราชาวไทยทุกคน ท่านมีเมตตาธรรมเสมอภาค ไม่เคยแบ่งชั้นแก่ผู้ใด แม้ท่านที่เดินทางไปวัดประชาคมวนาราม จ.ร้อยเอ็ด ก็จะได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีของคณะกรรมการวัด และญาติโยม
ปัจจุบันนี้ แม้ท่านจะมีภารกิจต่างๆ มากมาย และเป็นองค์ประธานในการสร้างวัดไทยในต่างแดนอีกวัดหนึ่ง แต่ท่านก็โปรดเราด้วยธรรมเสมอ
ท่านแสดงธรรมไว้เป็นบทปฏิบัติว่า “ถ้าสติไปถึงจิตเมื่อไรเมื่อนั้นพวกกิเลสหรือนิวรณ์ ทั้งหลายนี่ มันจะถอยหนีไปหมดเลย”
ปัจจุบัน หลวงปู่ศรี มหาวีโร ท่านอยู่จำพรรษาที่วัดประชาคมวนาราม (ป่ากุง) ต.บ้านศรีสมเด็จ อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 28 มิ.ย.2007, 5:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

หลวงปู่ศรี มหาวีโร
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.ค.2007, 2:49 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



หลวงปู่ศรี  มหาวีโร 1.jpg


ภาพองค์หลวงปู่ศรี มหาวีโร
ถ่ายเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2549
เนื่องในงานครบรอบอายุวัฒนะมงคลครบ 90 ปีหลวงปู่ศรี มหาวีโร
ณ วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.ค.2007, 2:50 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



หลวงปู่ศรี  มหาวีโร 2.jpg


ภาพองค์หลวงปู่ศรี มหาวีโร
ถ่ายเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2549
เนื่องในงานครบรอบอายุวัฒนะมงคลครบ 90 ปีหลวงปู่ศรี มหาวีโร
ณ วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.ค.2007, 2:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



หลวงปู่ศรี  มหาวีโร 3.jpg


ภาพองค์หลวงปู่ศรี มหาวีโร
ถ่ายเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2549
เนื่องในงานครบรอบอายุวัฒนะมงคลครบ 90 ปีหลวงปู่ศรี มหาวีโร
ณ วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.ค.2007, 2:57 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



หลวงปู่ศรี  มหาวีโร 7.jpg


ภาพองค์หลวงปู่ศรี มหาวีโร
ถ่ายเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2549
เนื่องในงานครบรอบอายุวัฒนะมงคลครบ 90 ปีหลวงปู่ศรี มหาวีโร
ณ วัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) อ.ศรีสมเด็จ จ.ร้อยเอ็ด
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.ค.2007, 3:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



monk7.jpg


"....พระเทพวิสุทธิกวี (หลวงปู่ศรี มหาวีโร) เจ้าอาวาสวัดประชาคมวนาราม (วัดป่ากุง) ตำบลโพธิทอง อำเภอศรีสมเด็จ จังหวัดร้อยเอ็ด ท่านเป็นลูกศิษย์พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต เป็นพระเถระผู้มั่นคงในพระรัตนตรัย ดำรงอยู่ในสมณเพศ เป็นพระนักปฏิบัติภาวนาและนักพัฒนารูปหนึ่ง ท่านได้บำเพ็ญตนอุทิศให้กับพระพุทธศาสนาและสังคมไทยมาตลอดชีวิต ท่านได้ก่อตั้งสำนักวิปัสสนากรรมฐาน ๑๕๔ สาขาวประเทศไทย ท่านจึงได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าใจเรื่องชีวิต ได้อบรมสั่งสอนพุทธบริษัท อย่างสมำเสมอตลอดมา..."


ส่วนหนึ่งใน พระวรธรรมคติ
สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก
ประทาน เนื่องในวันคล้ายวันเกิด พระเทพวิสุทธิกวี ๓ พฤษภาคม ๒๕๔๙


____________________________________________________________
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.ค.2007, 3:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน.1.jpg


หลวงตามหาบัว กล่าวยกย่องหลวงปู่ศรี

"...ท่านอาจารย์ศรีมีลูกศิย์ลูกหามาก
พระเจ้าพระสงฆ์ที่เป็นสาขาของท่านก็มีอยู่ทั่วไป
นอกจากจังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว ยังมีทั่วไปในประเทศไทย
ท่านนับว่า เป็นผู้มีบุญวาสนากว้าขวางองค์หนึ่งที่หาได้ยาก
เพราะคำว่าวาสนานี้ มิได้เกิดขึ้นอย่างลอยๆ
หรือเสกสรรปั้นยอกันเกิดขึ้นได้
แต่ต้องเกิดมาตามหลักธรรมชาติ
แห่งบุญญาธิสมภารของท่านผู้สร้างบุญบารมีมา
เมื่อสร้างมากขึ้นๆ ก้ยิ่งเพิ่มบารมีขึ้นเต็มหัวใจ เต็มนิสัยวาสนา
ไปสถานที่ใดก็มีคนเคารพนับถือ
จากนั้นก็มี เทวบุตร เทวดา อินทรื พรหม กราบไหว้บูชา
เป็นขวัยตาขวัญใจ ไปได้ทุกแห่งทุกหน
เพราะอำนาจแห่งเมตตาธรรมที่ท่านปฏิบัติมา บรรจุอยู่ในหัวใจเต็มไปหมด
อำนาจแห่งเมตตาธรรมนี้เอง ทำความร่มเย็นให้แก่โลกที้งสาม
คือ กามโลก รูปโลก อรูปโลก หรือ กามภพ รูปภพ อรูปภพ
ทั้ง ๓ นี้ อยู่ใต้ร่มเงาแห่งเมตตาธรรมทั้งนั้น"

____________________________________________________________

สาธุ เทียน อ่านเนื้อหาโดยละเอียดได้ที่...

เทียน หลวงปู่ศรี มหาวีโร พระผู้มากล้นด้วยบุญบารมี
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=50005

เทียน รวมคำสอน “หลวงปู่ศรี มหาวีโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=72&t=50228

เทียน งานพระราชเพลิงสรีระสังขาร “หลวงปู่ศรี มหาวีโร”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=38&t=41937

เทียน ประวัติและปฏิปทา “หลวงพ่อทองอินทร์ กตปุญโญ”
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=44107
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง