Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ประวัติ
คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ (อุบาสิกาอรหันต์ในยุคปัจจุบัน ศิษย์หลวงปู่มั่น)
สำนักชีบ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร

-----------------------------------------------------------------------------

.....แม่ชีแก้วที่อยู่บ้านห้วยทรายนี้
เป็นลูกศิษย์ดั้งเดิมของท่านอาจารย์มั่น
ตั้งแต่เป็นสาวโน่นนะ
แกภาวนาเป็นตั้งแต่ยังสาวโน่น ”

..........ความรู้ของคุณแม่แก้ว แปลกพิศดารมาก
ความสำคัญที่สุด เรียกได้ว่าไม่พลาดเลย
ไม่มีพลาด แม่นยำ ไม่เคลื่อนเลย ”

หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน
วัดป่าบ้านตาด อุดรธานี


-----------------------------------------------------------------------------------

ประวัติคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ

ชาติภูมิของท่านเป็นคนบ้านห้วยทรายโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๔ ณ บ้านห้วยทราย ตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร เป็นบุตรของ ขุนธรรมรังสี (ซ้น เสียงล้ำ) กับนางด่อน เสียงล้ำ นามเดิมของท่านคือ นางตาไป่ เสียงล้ำ แต่งงานกับนายบุญมา เสียงล้ำ เมื่ออายุได้ ๑๗ ปี อยู่ด้วยกันมา ๑๙ ปี โดยไม่มีบุตรด้วยกัน

ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล กับพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต กับ พร้อมคณะอันมีพระอาจารย์ขาว อนาลโย พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์เทสก์ เทสรํงสี พร้อมพระภิกษุสามเณร ประมาณ ๖๐ - ๗๐ รูป ได้เดินธุดงค์มา พำนักที่บริเวณวัดหนองน่อง ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสำนักชีแห่งนี้ ห่างประมาณ ๑ กิโลเมตร หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ได้อบรมสั่งสอนญาติโยมในละแวกหมู่บ้านใกล้เคียง โดยแนะนำสั่งสอนให้นั่งภาวนาพุทโธและพิจารณาร่างกายของตนเอง ว่าไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ตามสังขารด้วยกันทุกคน ท่านเป็นคนหนึ่งที่ได้ไปรับฟังคำสั่งสอนในครั้งนั้น (อายุได้ ๑๖ ปี) เผอิญในคืนนั้น เวลาประมาณ ๒๑.๐๐ น. ท่านได้บำเพ็ญภาวนาตามคำสอนของ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต จิตของท่านได้สงบเงียบไปเลยเป็นนิมิตเกิดขึ้นท่านเห็นตัวของท่านเองนอนตายได้นิมนต์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต และพระสงฆ์มาสวดมาติกา ตามนิมิตของท่าน จนกระทั่งเวลาประมาณ ๐๔.๐๐ น. ท่านตื่นจากนิมิต ใจพะวงว่าใครหนอจะนึ่งข้าวใส่บาตร ขณะนั้นใจของท่านอิ่มเอิบเป็นที่สุด

ในคราวต่อมาท่านพร้อมด้วยชาวบ้านได้เข้าไปฟังเทศนาจากหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต อีกพอได้โอกาสท่านได้เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ฟัง หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ได้บอกว่าเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องแล้วในระดับเบื้องต้น ต่อมาท่านก็ได้ปฏิบัติมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งคณะของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ได้ลาญาติโยมเพื่อจะไปธุดงค์ในถิ่นอื่น ๆ ก่อนจากไปได้ปรารภกับคุณย่าว่า “หากเจ้าเป็นผู้ชาย เราจะให้บวชเณรและติดตามไปด้วย นี่เจ้าเป็นหญิง ไปด้วยก็ลำบาก และได้สั่งว่าให้หยุดภาวนาตั้งแต่นี้ต่อไป ให้ใช้กรรมไปตามประสาโลก ๆ” ครูบาอาจารย์รุ่นหลัง ๆ ได้สันนิษฐานว่า ที่หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ให้หยุดภาวนานั้นเพราะเป็นจิตที่โลดโผน ถ้ามีผู้แนะนำที่ดี ก็จะไปได้ดี ถ้าไม่มีผู้แนะนำ อาจจะทำให้เสียคนไปก็ได้

ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๖๑ ท่านได้แต่งงานอยู่กินกันมาจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ท่านได้ขออนุญาตกับสามีว่าต้องการจะบวช ฝ่ายสามีพยายามทัดทานอ้อนวอนหลายครั้ง หลายคราก็ไม่เป็นผลสำเร็จและในที่สุดความตั้งใจอันแน่วแน่ของท่านก็บรรลุผล ท่านได้เข้าบวชเป็นชีตามปรารถนา โดยมี พระอาจารย์คำพัน กันตสีโล เป็นอุปัชฌาย์ที่วัดหนองน่อง ต่อจากนั้นได้ติดตามพระอาจารย์คำพัน กันตสีโล ไปอยู่ที่วัดภูเกล้า (ห่างจากสำนักชีแห่งนี้ไปทางทิศใต้ประมาณ ๓๐ กิโลเมตร) ท่านอยู่ที่ วัดภูเกล้ากับเพื่อนชีด้วยกัน ๔ คน กับพระอีก ๖ รูป

ท่านได้บำเพ็ญภาวานาอยู่ที่นั่นจนเกิดความรู้แปลก ๆ ต่าง ๆ หลายอย่างที่ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นมาก่อน ท่านอยู่ที่นั่นได้ ๘ ปี เผอิญในเวลาต่อมาพระอาจารย์คำพันได้ลาสิกขาบท ท่านกับคณะแม่ชีได้พากันกลับมาที่บ้านห้วยทรายและได้พูดกับญาติพี่น้องลูกหลานตั้งสำนักชีแห่งนี้ขึ้นใน ปี พ.ศ. ๒๔๘๘ และเป็นสำนักชีแห่งแรกที่ไม่มีพระภิกษุอาศัยอยู่ด้วยแต่แม่ชีก็ยังปฏิบัติธรรมอย่างเดียว ท่านได้ไปกราบหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่อำเภอ พรรณานิคม จังหวัดสกลนคร เป็นครั้งคราวแล้วกลับมาจำพรรษาที่วัดนี้ตลอดเวลา ครั้ง พ.ศ. ๒๔๙๒ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ได้มรณะภาพที่ วัดป่าสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร ท่านพร้อมกับชาวบ้านได้พากันไปร่วมงานฌาปนกิจศพด้วย

พ.ศ. ๒๔๙๔ พระอาจารย์มหาบัว ญาณสมฺปนฺโน วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ได้จาริกเดินธุดงค์มาถึงบ้านห้วยทราย และได้พาคณะพระภิกษุและสามเณรมาจำพรรษาที่ วัดป่า บ้านห้วยทราย แต่ตัวของพระอาจารย์มหาบัว ญาณสมฺปนฺโน กับสามเณรอีก ๑ รูป ได้ขึ้นไป จำพรรษาที่ถ้ำนกแอ่น ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านห้วยทรายไปทางทิศตะวันตกประมาณ ๒ กิโลเมตร ในช่วงที่จำพรรษานั้น ท่านคุณย่าขึ้นไปฟังเทศน์จากหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน เป็นครั้งคราว ท่านหลวงตาได้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม บำเพ็ญเพียรภาวนา ทั้งหมดให้ท่านคุณย่าตลอดการจำพรรษาที่ วัดป่าบ้านห้วยทราย ตลอด ๔ พรรษา

ต่อมาหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ได้ปรารถถึงโยมมารดาที่บ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ว่าท่านคุณย่าเป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะอบรมถ่ายทอดความรู้อบรมธรรมะให้มารดาของท่านได้ เพราะเป็นหญิงด้วยกัน ต่อมาท่านคุณย่าพร้อมคณะอีก ๒ ท่านได้เดินไปจังหวัดอุดรธานีตามที่ พระอาจารย์มหาบัวต้องการ ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๘ แล้วท่านก็ได้บวชโยมมารดาของ ท่านหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน สมความตั้งใจของหลวงปู่จากนั้นหลวงปู่มหาบัวได้พาคณะสงฆ์และแม่ชีไปจำพรรษาที่ วัดสถานีทดลอง จังหวัดจันทบุรี เวลาได้ ๑ พรรษาโยมมารดาของ หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน อยากกลับภูมิลำเนาเดิม ซึ่งหลวงตาก็ได้อนุญาตและได้พาคณะกลับมาสร้าง วัดป่าบ้านตาด อันเป็นภูมิลำเนาเดิมในปี พ.ศ.๒๔๙๙ ท่านคุณย่าได้จำพรรษาอยู่ที่ วัดป่าบ้านตาดกับโยมมารดา หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๐ เมื่อเป็นเวลาอันสมควร ท่านคุณย่าได้กราบลาหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน กลับภูมิลำเนาเดิมที่บ้านห้วยทรายและได้บำเพ็ญเพียร ภาวนา อบรม สั่งสอนชาวบ้านตลอดมาและมีสานุศิษย์อย่างกว้างขวางทั้งใกล้และไกลด้วยความเลื่อมใสศรัทธา

ครั้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๐ ท่านคุณย่าได้ป่วยด้วยโรคประจำตัว และมีคุณหมอเจริญและคุณหมอบุญเลี่ยม วัฒนสุชาติ จากกรุงเทพฯ ได้นำคุณย่าไปรักษาที่โรงพยาบาลพร้อมมิตร กรุงเทพฯ ระยะหนึ่ง อาการของคุณย่าหายเป็นปกติจึงได้กลับบ้านห้วยทราย

ต่อมากอาการป่วยของท่านคุณย่าก็มีเป็นครั้งคราวได้มี คุณหมอเพ็ญศรี มกรานนท์ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพฯ ได้ขึ้นมากราบ หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน และกราบคุณย่าเป็นครั้งคราว เห็นว่าท่านคุณย่าสมควรได้รับการดูแลและรักษาอย่างใกล้ชิด พร้อมนี้คุณหมอเพ็ญศรี ท่านก็ต้องการปฏิบัติธรรมด้วยจึงได้ลาออกจากราชการมาดูแลและเฝ้ารักษาท่านคุณย่า จนถึงวาระสุดท้าย นับเป็นเวลา ๑๔ ปี

จนกระทั่ง วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๓๔ เวลา ๐๙.๒๕ น. ท่านก็ได้จากไปด้วยอาการอย่างสงบ สิริอายุรวมได้ ๙๐ ปี และรวมเวลาที่บวชชีเป็นเวลา ๕๔ พรรษา

ตลอดเวลา ๕๔ พรรษาที่ท่านได้อยู่ในการบวชเป็นชีนั้น ท่านคุณย่าของเราได้บำเพ็ญเพียรภาวนา ปฏิบัติธรรม โดยสม่ำเสมอตลอดมา มิได้เคยประพฤติผิดในครองชีเพศเลย ด้วยอานิสงส์แห่งการบำเพ็ญเพียร ภาวนา ปฏิบัติธรรมอันแน่วแน่ของท่านคุณย่านี้ ทำให้ท่านคุณย่าของเราได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนโดยทั่วไปเป็นจำนวนมากได้มาให้ความเคารพกราบไหว้มิได้ขาดสาย บัดนี้ท่านคุณย่าได้จากเราไปแล้ว คงเหลือแต่คุณงามความดี และแนวปฏิบัติที่ท่านเพียรพยายามทำไว้ให้เป็นอนุสรณ์แก่พุทธศาสนิกชนสืบไป

(จากธรรมานุสรณ์ : วันฌาปนกิจคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ)
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:03 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



0369.jpg


แม่ชีแก้ว เสียงล้ำ

นามเดิม ตาไป่ เสียงล้ำ

บิดา ขุนธรรมรังสี (ซ้น เสียงล้ำ)

มารดา นางด่อน เสียงล้ำ

เกิด เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๔ ณ บ้านห้วยทราย ตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร

ศึกษาอบรมธรรม
เมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๐ พระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล กับพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต พร้อมด้วยลูกศิษย์มีพระอาจารย์ขาว อนาลโย พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์เทสก์ เทสฺรํสี พร้อมพระภิกษุสามเณร ประมาณ ๗๐ รูป เดินธุดงค์มาบริเวณใกล้บ้านคุณแม่ชีแก้ว (ขณะนั้นอายุ ๑๖ ปี)
พ.ศ. ๒๔๘๑ บวชชีที่วัดหนองน่อง บ้านห้วยทราย อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร
พ.ศ. ๒๔๙๔ – ๒๔๙๗ พระอาจารย์มหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ได้มาจำพรรษาที่บ้านห้วยทราย คุณแม่ชีแก้ว ได้รับการอบรมธรรมและอุบายธรรมจนถึงที่สุดแห่งการปฏิบัติและเป็นแม่ชีที่ พระอาจารย์มหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ยกย่องว่า “สามารถรู้วาระจิตของผู้อื่น”

มรณะ วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๓๔ เวลา ๐๙.๒๕ น. สิริอายุรวม ๙๐ ปี บวชเป็นชี ๕๔ พรรษา หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน เป็นประธานประชุมเพลิง คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ ซึ่งจัดขึ้นอย่างสมถะเรียบง่ายแต่คลาคล่ำไปด้วย พระกรรมฐาน หลังประชุมเพลิงเสร็จไม่นานอัฐิท่านกลายเป็นพระธาตุ

•แม่ชีอรหันต์
รู้เหตุการณ์ในอดีต อนาคต เปรต ภูตผี เทวดา และพวกกายทิพย์
ผู้เฒ่าแม่แก้วอัฐิเป็นพระธาตุแล้ว ผู้เฒ่านี้ถ้าพูดตามหลักความจริงก็ผ่าน (สิ้นกิเลส) มาหลายปีแล้วนี่นะ ถ้าจำไม่ผิดเราว่าตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๙๕ นู้น นานเท่าไร
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



%A4%D8%B3%E1%C1%E8%AA%D5%E1%A1%E9%C7%20%E0%CA%D5%C2%A7%C5%E9%D3.jpg


ประวัติชีวิต คติธรรม ปฏิปทา ของ
คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ

๑ . นามเดิม ตาไป่ เสียงล้ำ
มีความหมายว่า ผู้คนมากมายมองมาเป็นสายตาเดียวกัน
จุดรวมของเหล่าสายตา
จุดรวมของการจ้องมอง
ทั้งนี้เพราะผู้ถูกมองมีคุณสมบัติ มีคุณธรรม มีความดี หรือมีรูปสมบัติ อีกอย่างก็ตั้งชื่อให้สอดคล้องกับนามของบิดาของคุณแม่ชื่อ นาย ตาซ้น ภายหลังได้ชื่อยศทางราชการเจ้านายยุคสมัยนั้นตั้งชื่อให้ว่า “ขุนธรรมรังสี” มารดาชื่อ นางด่อน เสียงล้ำ

๒ . เกิดเมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๔๔๔
ณ บ้านห้วยทราย ต.คำชะอี อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร เดิมเป็นอำเภอมุกดาหาร จังหวัดนครพนม ต่อมาอำเภอมุกดาหาร ได้ยกฐานะเป็นจังหวัด จึงขึ้นกับจังหวัดมุกดาหาร

๓ . ต้นตระกูล เป็นชนชาวภูไท อันเป็นชนเผ่ารักสงบ ชอบอิสระ มีความภาคภูมิในความเป็นไท และนับถือเชื้อสายญาติพี่น้องชนเผ่าเดียวกัน แม้อยู่ไกลกัน ก็ยังนับไล่เลียงลำดับสายเครือญาติเดียวกัน อีกทั้งนับเป็นชนเผ่า ที่มีขนบธรรมเนียมประเพณี ที่เป็นตัวของตัวเอง รักสามัคคี กตัญญู

ชาวภูไท บ้านห้วยทรายเป็นต้นตระกูล เชื้อเจ้าภูไท ทางฝ่ายหญิง คือ ทางฝ่ายเจ้าแก้ว ผู้พี่สาวของเจ้ากล่ำ และเจ้าก่า
ด้วยพื้นเพของต้นตระกูลฝ่ายหญิง จึงแสดงออกซึ่งความรักสงบ ความคิดเฉียบแหลม ปัญญาคม เด็ดเดี่ยว รักญาติพี่น้อง ตั้งมั่นอยู่ในความยุติธรรม เพราะจะเห็นได้จากคำของคนคนเฒ่าโบราณ ว่าแต่ก่อนพากันนับถือผีหิ้งผีหอ ผีทะดา เพราะเชื่อกันว่า ผีเหล่านั้นเป็นผีปู่ผีย่า ปู่สังกับสาย่าสังกับสี มีการเซ่นสรวง บูชานับถือเป็นสรณะที่พึ่งของชนเผ่า

ต่อมาเมื่อประมาณ ปี พ.ศ. ๒๔๕๗ – ๒๔๖๐ หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล พร้อมคณะสงฆ์หมู่หนึ่งได้มาจำพรรษา โปรดผู้คนในแถบถิ่นนี้ ในครั้งนั้น เรียกพระสงฆ์หมู่แรกที่มาเยือนบ้านห้วยทรายว่า “พระอัสดงค์” หรือ “พระหัสดงค์” ซึ่งองค์หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล ก็ให้ความหมายว่า “พระสงฆ์ สามเณรผู้ทำความดับทุกข์อยู่เสมอตลอดเวลา”

ด้วยเหตุนี้จึงได้รับเมตตาธรรมกรุณาธรรม จากพระปฐมจารย์ของชาวบ้านห้วยทราย
องค์ท่านได้แนะนำให้การศึกษาอบรม แจกจ่ายอุบายธรรมให้เรียนรู้ในข้อประพฤติปฏิบัติจึง ได้พากันเปลี่ยนแนวคิด ตลอดจนเปลี่ยนขนบประเพณีดั้งเดิมมาเป็นการนับถือพุทธศาสนาแทนการถือผีสางมลางบรรพ์ ทั้งนี้เพราะเห็นว่าดีกว่า เหมาะสมกว่า มีเหตุมีผล นำความสงบสุขมาสู่หมู่ตน และเป็นผลเป็นประโยชน์ต่อไปในภายภาคหน้า

ด้วยเหตุนี้เอง บิดามารดาคนเฒ่าคนแก่ ชาวบ้านห้วยทรายในยุคสมัยนั้น จึงละทิ้งเผาผีหิ้ง ผีหอมานับถือพระไตรสรณคมณ์ เป็นแก่นเป็นหลักของใจ เป็นที่ระลึก เป็นที่พึ่ง เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตจิตใจ

แม้ว่าในยุคสมัยแรก ๆ นั้นมีผู้ปัญญาน้อยนั้น คิดอ่านแบบเดิม ยังจะต่อต้าน หรือแสดงการปฏิเสธแนวของพุทธศาสนา โดยองค์หลวงปู่เสาร์ กนฺตสีโล อยู่บ้าง ก็เป็นธรรมดาของสัตว์โลกผู้โมห์เมามืดเมาหลงอยู่

ในครั้งนั้น วิถีชีวิตของชาวบ้านคนเฒ่าคนแก่ เปลี่ยนแปลงไปมากที่สำคัญ คือ ทำให้เกิดสำนักสงฆ์แห่งใหม่เกิดขึ้น โดยอยู่ทางใต้ของหมู่บ้าน ตั้งอยู่กลางดอนทุ่งนา เรียกชื่อกันว่า วัดหนองน่อง มีหมู่พระกรรมฐานตามมาอีกมากมายที่สุด ๖๐ – ๗๐ รูป

ต้นตระกูลของคุณแม่แก้ว เสียงล้ำ ต้นตระกูลของ หลวงปู่จาม มหาปุญโญ จึงเรียกได้ว่าเป็นตระกูลสัมมาทิฏฐิ มีศรัทธา อย่างมั่นคงแรงกล้าในปฏิปทาของพระธุดงค์กรรมฐาน ผู้วางแนวทางสัมมาทิฏฐิ สืบมาจนปัจจุบัน

คุณย่าแก้ว เคยเล่าว่า “เป็นเด็กน้อยก็ไปส่งจังหัน เตรียมของใส่บาตร ช่วยดายหญ้าวัด ช่วยตักน้ำช่วยหาฟืน ทำทุกอย่างแล้วแต่คนเฒ่าท่านจะใช้ให้ช่วยทำอะไร”

ทั้งนี้เพราะบิดามารดาของท่านเป็นผู้อุปัฏฐากดูแลพระธุดงค์กรรมฐานหมู่นี้อันมี องค์หลวง ปู่เสาร์ กนฺตสีโล เป็นประธานสงฆ์อยู่

หลวงปู่จาม มหาปุญโญ เล่าว่า “เรือนของบ่าวตาซ้น เรือนหนึ่ง เรือนของพ่อออกแม่ออกเรือนหนึ่ง เรือนของบ่าวพรหมาเรือนหนึ่ง สามเรือนนี้เป็นตัวตั้งในการดูแลสร้างวัดหนองน่อง ทำร้านนอน ร้านน้ำ หอฉัน ทางจงกรม ที่พักของพระเณร เพิ่นครูอาจารย์เสาร์มาอยู่ก่อนเพิ่นครูอาจารย์มั่น ๒ – ๓ ปี เพิ่นครูอาจารย์มั่น มาอยู่ทีหลัง”

คุณย่าแก้ว เคยเล่าว่า “เราเป็นเด็กน้อย เป็นผู้หญิง ไปวัดก็ต้องไปกับพ่อกับแม่ เข้าใกล้ พระเณรนักก็มิได้ แม้แต่นั่งฟังเทศน์ธรรม ก็นั่งอยู่ห่าง ๆ พอได้ยิน อัญญาท่านเสาร์เพิ่นสอนให้ไหว้พระสวดมนต์ ให้แผ่เมตตา ให้รู้จักทำบุญให้ทาน สอนให้รู้ในข้อปฏิบัติของพระธุดงค์ ว่าควรทำอะไรบ้างจึงไม่ผิดพระวินัย การปฏิบัติระหว่างกันของพระเณรกับญาติโยม ลูกหลานก็คนเฒ่าพ่อแม่สอนให้ไหว้พระสวดมนต์แผ่เมตตาก่อนนอน แม้บางครั้งลูกเล็กเด็กน้อยป่วยนานหาย เข้าหา อัญญาท่านเสาร์ ท่านก็ว่า “สูเจ้าไม่ไหว้พระสวดมนต์ก็อยู่ไม่สบายอย่างนี้ ให้รู้จักไหว้พระก่อนนอนก่อนตื่น ระลึกถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์ ก็จักหายได้” ก็นับเป็นอัศจรรย์อยู่บ้าง อาการป่วยไข้ของลูกเล็กเด็กน้อยก็หายไปได้”

อาจจะเป็นด้วยเหตุนี้ก็ได้ที่เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ไม่ชอบพระอัสดงค์ก็ว่าพระธุดงค์หมู่นี้เป็นผียักษ์เชื้อมาร จะมากินเด็กน้อยให้ล้มตายไป

แต่ในที่สุดก็มิได้เป็นเช่นนั้นพอเด็กเล็กหายจากป่วยไข้เพราะผู้เป็นพ่อเป็นแม่ ทิ้งผี มานับถือพระ
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



คุณแม่ชีแก้วแม่ชีที่บ้านห้วยทราย มุกดาหาร..jpg


คุณแม่ชีแก้ว (องค์หลัง) ถ่ายกับเพื่อนแม่ชีที่บ้านห้วยทราย มุกดาหาร.jpg


คุณแม่ชีแก้ว (องค์หลัง) ถ่ายกับเพื่อนแม่ชีที่บ้านห้วยทราย มุกดาหาร
---------------------------------------------------------------



ประวัติคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ จากวัดป่าดอยแสงธรรมญาณสัมปันโน
---------------------------------------------------

ย้อนไปเมื่อ 89 ปีที่แล้ว (พศ.2460) ณ บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร หญิงสาวผู้หนึ่งได้ถางป่าเพื่อจับจองที่ปลูกหม่อนเลี้ยงไหมหลวงปู่มั่นได้ธุดงค์ผ่านมาพร้อมคณะพระ ท่านได้เห็นที่บริเวณนั้นเหมาะที่จำทำเป็นที่พักสงฆ์ จึงได้ขอที่บริเวณนั้น หญิงสาวนั้นมีปิติยินดี ได้ถวายที่แด่ท่าน หลวงปู่ได้ให้พรว่า "ต่อไป เจ้าจะไม่มีวันอดอยาก" วัดแห่งนี้ชาวบ้านเรียกว่า วัดหนองน่อง (น่องคือเถาวัลย์ชนิดหนึ่ง ใช้เป็นยาเบื่อยาสลบ)

หลวงปู่มั่นและคณะพระได้อยู่ปฏิบัติธรรม ณ วัดแห่งนั้น สั่งสอนชาวบ้านแถบนั้น ให้ละจากการนับถือผีมานับถือพระพุทธศาสนา ยังให้เกิดศรัทธา เข้าใจศาสนามากขึ้น หนึ่งในนั้นก็มีเด็กสาวรุ่น อายุ 16 ผู้เป็นผู้ถวายที่ คือคุณแม่ชีแก้ว ในปัจจุบัน

ก่อนหลวงปู่มั่นกับคณะพระจะธุดงค์จากไป หลวงปู่มั่นได้ปรารภกับคุณแม่ชีแก้วว่า "หากเจ้าเป็นผู้ชาย เราจะให้บวชเป็นเณรและให้ติดตามไปด้วย แต่นี่เป็นหญิง ไปด้วยก็ลำบากต่อพระธรรมพระวินัย และสั่งว่าให้หยุดภาวนา ตั้งแต่นี้ต่อไปให้ใช้กรรมไปตามประสาโลก กาลต่อไปข้างหน้าจะมีผู้มาสั่งสอน"
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



20112006230828.jpg


ต่อ......

หลังจากที่หลวงปู่มั่นจากไป แม่ชีแก้วก็ได้แต่งงาน เมื่ออายุได้ 17 ปี และได้ใช้ชีวิตผ่านสุขทุกข์ต่าง ๆ ตามประสาโลก สำหรับผู้มีวาสนาย่อมเห็นโทษของการครองเรือน จึงได้ขอสามีบวชชี แต่สามีไม่ยินยอม ได้พยายามอยู่ถึง 2 ปี สามีจึงยินยอมให้บวช ชีวิตนักบวชจึงได้เริ่มต้น เมื่ออายุได้ 36 ปี ณ วัดหนองน่อง บ้านห้วยทราย อ.คำชะอี จ.มุกดาหาร โดยมีหลวงพ่อกา (ปู่ของพระอาจารย์อินทร์ถวาย วัดป่านาคำน้อย) เป็นพระอุปัชฌาย์

พรรษาแรกผ่านไป สามีจะให้สึก เพราะอนุญาตให้บวช 1 พรรษา คุณแม่ชีแก้วจึงได้ย้ายไปศึกษาปฏิบัติธรรมกับพระอาจารย์คำพัน ณ วัดภูเก้า ได้เกิดความรู้แปลก ๆ มากมาย ตามประวัติท่านกล่าวว่า จิตท่านผาดโผนมาก ออกรู้สิ่งต่าง ๆ มากมาย ทั้งเรื่องราวอดีต อนาคต ทั้งนรก สวรรค์ จิตดวงภาวนานี้ได้ทราบหมด
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



20112006233018.jpg


20112006231501.jpg


ต่อ.....

8 ปีจากนั้น พระอาจารย์คำพันได้ลาสิกขาไป แม่ชีจึงได้ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้านห้วยทราย ตั้งสำนักแม่ชีขึ้น เมื่อปี พศ.2488 คือสำนักชีในปัจจุบัน
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



20112006230513.jpg


ต่อมาเมื่อปี พศ. 2493 คุณแม่ชีแก้วได้นิมิตดังที่หลวงปู่มั่นได้เคยกล่าวไว้ ว่า กาลต่อไปข้างหน้าจะมีผู้มาสั่งสอน แม่ชีแก้วก็ได้เล่าให้เพื่อนแม่ชีฟังเพื่อเตรียมจัดสถานที่และรอพิสูจน์ความจริงร่วมกัน ปรากฎว่า มีพระผ่านมา แต่แม่ชีแก้วก็ว่าไม่ใช่องค์นี้ จนกระทั่งหลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เดินทางมากับพระเณรจำนวนหนึ่ง แม่ชีแก้วเห็นเข้ารู้ทันทีว่าเป็นพระอาจารย์องค์นี้ที่ปรากฎตามนิมิตแน่ จึงได้พากันนิมนต์ต้อนรับ
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



20112006234140.jpg


หลวงตามหาบัว ได้เทศน์ไว้เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2549 ความตอนหนึ่งว่า

"อย่างแม่ชีแก้วนั่นออกรู้ข้างนอก กระจายไปเลย พอไปก็ว่าหลวงปู่มั่นท่านเวลาท่านจะจากไปท่านห้ามไม่ให้ภาวนา เราสะดุดกึ๊ก ต้องมีจุดใดจุดหนึ่งเราจะคอยฟังจุดนั้น พอแกแย็บออกความรู้ของแก อ๋อ อันนี้เอง แน่ะอย่างนั้นละเข้าใจทันที แล้วที่ไล่แกลงภูเขาก็จุดนี้จะเป็นอะไรไป


คือมันอยากภาวนามากเข้าๆ ก็เลยภาวนา แต่ระวังเอาแกว่างั้น บทเวลาเอากันจริงๆ แล้วก็นั่นละไล่ลงภูเขาร้องไห้ ก็คืออันนี้เอง แกไม่ยอม ความรู้ของแกดีไม่ดีเอามาทับหัวเราอีก ว่าเราเป็นลูกศิษย์ของแกไปอีก ใส่เปรี้ยงนี้ก็ไล่ลงภูเขา ร้องไห้ลงไป แกก็มีเหตุมีผลอยู่ ที่ท่านไล่ลงภูเขาเพราะอะไร ก็เพราะไม่เชื่อฟังคำท่าน เอาแต่ความรู้ของตนไปอวดท่าน ท่านก็ไล่เอาบ้างซิ ถ้าหากว่าจะปฏิบัติตามท่าน ในฐานะถือว่าเป็นครูเป็นอาจารย์แล้วก็ปฏิบัติตามที่ท่านสอนซิ ท่านสอนว่าไง ทีนี้ก็เลยปล่อยเรื่องของแกหมด เข้ามาหาจุดที่เราสอน อย่างนั้นนะ
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



20112006232224.jpg


หลวงตามหาบัว ได้เทศน์ไว้เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2549 ความตอนหนึ่งว่า

"อย่างแม่ชีแก้วนั่นออกรู้ข้างนอก กระจายไปเลย พอไปก็ว่าหลวงปู่มั่นท่านเวลาท่านจะจากไปท่านห้ามไม่ให้ภาวนา เราสะดุดกึ๊ก ต้องมีจุดใดจุดหนึ่งเราจะคอยฟังจุดนั้น พอแกแย็บออกความรู้ของแก อ๋อ อันนี้เอง แน่ะอย่างนั้นละเข้าใจทันที แล้วที่ไล่แกลงภูเขาก็จุดนี้จะเป็นอะไรไป
คือมันอยากภาวนามากเข้าๆ ก็เลยภาวนา แต่ระวังเอาแกว่างั้น บทเวลาเอากันจริงๆ แล้วก็นั่นละไล่ลงภูเขาร้องไห้ ก็คืออันนี้เอง แกไม่ยอม ความรู้ของแกดีไม่ดีเอามาทับหัวเราอีก ว่าเราเป็นลูกศิษย์ของแกไปอีก ใส่เปรี้ยงนี้ก็ไล่ลงภูเขา ร้องไห้ลงไป แกก็มีเหตุมีผลอยู่ ที่ท่านไล่ลงภูเขาเพราะอะไร ก็เพราะไม่เชื่อฟังคำท่าน เอาแต่ความรู้ของตนไปอวดท่าน ท่านก็ไล่เอาบ้างซิ ถ้าหากว่าจะปฏิบัติตามท่าน ในฐานะถือว่าเป็นครูเป็นอาจารย์แล้วก็ปฏิบัติตามที่ท่านสอนซิ ท่านสอนว่าไง ทีนี้ก็เลยปล่อยเรื่องของแกหมด เข้ามาหาจุดที่เราสอน อย่างนั้นนะ


พอเข้ามามันก็ถูกนี่ ก็สอนด้วยความถูกต้อง ผู้นั้นผิด งมเงาไปเฉยๆ พอเข้ามาจุดนี้มันก็จ้า สว่าง อัศจรรย์เกินคาดเกินหมายแกว่า ก็อย่างนั้นแล้ว พอออกจากที่ภาวนาก็หันหัวไปทางโน้นกราบ เราอยู่บนภูเขากับเณรภูบาล ทางด้านตะวันตก วัดห้วยทรายอยู่ทางนั้น บ้านห้วยทรายอยู่ทางนี้ วัดอยู่ทางนั้นเราอยู่ทางนั้น สำนักชีเขาข้ามทุ่งไปเลย วันพระเขาไปยกขบวนไปเลย พอ ๔ โมงเขาก็ขึ้นไปถึง ๕ โมงกว่าๆ เขาก็ลงมา ไปพูดถึงเรื่องปัญหานั่นละ นี่ละที่ว่าไล่ลงภูเขา ควรไล่มันต้องไล่จะว่าไง เมื่อเอาไว้ไม่อยู่แล้วก็ซัดกัน นิวเคลียร์ก็มานิวตรอนก็มาเข้าใจไหม ร้องไห้ลงภูเขาไป

ทีแรกก็ว่าองค์นี้แหละ แน่ะ แกก็แม่นยำดีอยู่ ว่าออกพรรษาแล้ว ปีนี้จะมีครูบาอาจารย์มาโปรดพวกเรานะ พระเณรมากมายคล้ายคลึงกับหลวงปู่มั่นมาจำพรรษาที่หนองน่องปีนั้นว่างั้น พระเณรมากมายคล้ายคลึงกันคอยดู พอครูบาอาจารย์องค์ไหนมาก็ไปดู เป็นไงใช่ไหม ไม่ใช่ๆ เรื่อยๆ เลย พอถึงวาระที่เราไป ออกไปดู ใช่ไหม บอกใช่เลยร้อยเปอร์เซ็นต์ นี้ละใช่แล้ว พูดให้เปิดเผยเสียว่าทั้งปวดหนักทั้งปวดเบามันอะไรพูดไม่ถูก ทั้งกลัวทั้งเคารพเลื่อมใสทุกอย่างอยู่ในนั้นหมด เรียกว่าทั้งปวดหนักปวดเบา ถามว่าองค์นี้ไหม ใช่องค์นี้แหละคอยดูว่าท่านจะสอนพวกเราไหม คอยดูก็แล้วกันท่านจะสอนไหม
บทเวลาไล่ลงภูเขาสอนหรือไม่สอน แน่ะ แกก็ได้ตรงนั้นละ ได้ตอนที่ไล่ลงภูเขา ไปได้สติละซิ ที่ไม่ยอมฟังเราเราก็ไล่ลงภูเขาไปเลยซิ เมื่อไม่มีทางไปว้าเหว่ เราหวังจะพึ่งครูบาอาจารย์องค์นี้แล้วท่านก็สลัดปัดทิ้งไล่ลงภูเขาเสีย เราจะไปพึ่งใคร แล้วการไล่ท่านนั้นเพราะเหตุไร นั่นแกก็จับเอาตรงนั้น ก็เพราะไม่ฟังคำท่าน เอ้า ถ้าอย่างนั้นก็ฟังคำท่านซิ เราก็เอากันมาเสียพอแล้วก็ไม่เห็นได้เรื่องได้ราวอะไร ก็ฟังท่านซิ นั่นละพอฟังแล้วลง แล้วก็ลงผึงเลย ได้สี่วันแกก็ขึ้นไปเราไม่ลืมนะ ขึ้นไปขนาบอีก จากนั้นก็ต่อให้ละที่นี่ต่อให้เรื่อย


แกรวดเร็วอยู่นะ ออกทางด้านปัญญานี้ก็หมุนติ้วเหมือนกัน ๙๓ จำหนองผือ ๙๔ จำห้วยทราย ๙๕ จำห้วยทราย ๒ ปีนี้แกก็ผ่านปี ๙๕
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



20112006233839.jpg


21112006001547.jpg


แม่ชีแก้ว
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:24 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



21112006001909.jpg


21112006001319.jpg


มรณภาพ

เจดีย์ศรีไตรรัตนานุสรณ์ หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน ได้เดินทางมาบรรจุอัฐิธาตุ คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2549
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



19112006135022.jpg


ผะอบพระธาตุแม่ชีแก้ว (ถ่ายเมื่อปี 2539) ที่ผะอบเกิดแสงสว่างจ้า และแสงสีรุ้ง ดังภาพ ซึ่งผู้ถ่ายก็ไม่สามารถอธิบายได้
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



19112006131458.jpg


พระธาตุ คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



20112006233018.jpg


ประวัติคุณแม่ชีแก้ว เสียงลำ
จากจากธรรมานุสรณ์ : วันฌาปนกิจคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ


ประวัติคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ

ชาติภูมิของท่านเป็นคนบ้านห้วยทรายโดยกำเนิด เกิดเมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๔๔ ณ บ้านห้วยทราย ตำบลคำชะอี อำเภอคำชะอี จังหวัดมุกดาหาร เป็นบุตรของ ขุนธรรมรังสี (ซ้น เสียงล้ำ) กับนางด่อน เสียงล้ำ นามเดิมของท่านคือ นางตาไป่ เสียงล้ำ แต่งงานกับนายบุญมา เสียงล้ำ เมื่ออายุได้ ๑๗ ปี อยู่ด้วยกันมา ๑๙ ปี โดยไม่มีบุตรด้วยกัน


ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๖๐ ท่านพระอาจารย์เสาร์ กนฺตสีโล กับพระอาจารย์มั่น ภูริทตฺโต กับ พร้อมคณะอันมีพระอาจารย์ขาว อนาลโย พระอาจารย์ชอบ ฐานสโม พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร พระอาจารย์เทสก์ เทสรํงสี พร้อมพระภิกษุสามเณร ประมาณ ๖๐ - ๗๐ รูป ได้เดินธุดงค์มา พำนักที่บริเวณวัดหนองน่อง ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสำนักชีแห่งนี้ ห่างประมาณ ๑ กิโลเมตร หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ได้อบรมสั่งสอนญาติโยมในละแวกหมู่บ้านใกล้เคียง โดยแนะนำสั่งสอนให้นั่งภาวนาพุทโธและพิจารณาร่างกายของตนเอง ว่าไม่มีความเที่ยงแท้แน่นอน มีเกิด แก่ เจ็บ ตาย ตามสังขารด้วยกันทุกคน ท่านเป็นคนหนึ่งที่ได้ไปรับฟังคำสั่งสอนในครั้งนั้น (อายุได้ ๑๖ ปี) เผอิญในคืนนั้น เวลาประมาณ ๒๑.๐๐ น. ท่านได้บำเพ็ญภาวนาตามคำสอนของ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต จิตของท่านได้สงบเงียบไปเลยเป็นนิมิตเกิดขึ้นท่านเห็นตัวของท่านเองนอนตายได้นิมนต์หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต และพระสงฆ์มาสวดมาติกา ตามนิมิตของท่าน จนกระทั่งเวลาประมาณ ๐๔.๐๐ น. ท่านตื่นจากนิมิต ใจพะวงว่าใครหนอจะนึ่งข้าวใส่บาตร ขณะนั้นใจของท่านอิ่มเอิบเป็นที่สุด


ในคราวต่อมาท่านพร้อมด้วยชาวบ้านได้เข้าไปฟังเทศนาจากหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต อีกพอได้โอกาสท่านได้เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนั้นให้หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ฟัง หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ได้บอกว่าเป็นการปฏิบัติที่ถูกต้องแล้วในระดับเบื้องต้น ต่อมาท่านก็ได้ปฏิบัติมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งคณะของหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ได้ลาญาติโยมเพื่อจะไปธุดงค์ในถิ่นอื่น ๆ ก่อนจากไปได้ปรารภกับคุณย่าว่า “หากเจ้าเป็นผู้ชาย เราจะให้บวชเณรและติดตามไปด้วย นี่เจ้าเป็นหญิง ไปด้วยก็ลำบาก และได้สั่งว่าให้หยุดภาวนาตั้งแต่นี้ต่อไป ให้ใช้กรรมไปตามประสาโลก ๆ” ครูบาอาจารย์รุ่นหลัง ๆ ได้สันนิษฐานว่า ที่หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ให้หยุดภาวนานั้นเพราะเป็นจิตที่โลดโผน ถ้ามีผู้แนะนำที่ดี ก็จะไปได้ดี ถ้าไม่มีผู้แนะนำ อาจจะทำให้เสียคนไปก็ได้


ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๖๑ ท่านได้แต่งงานอยู่กินกันมาจนถึงปี พ.ศ. ๒๔๘๐ ท่านได้ขออนุญาตกับสามีว่าต้องการจะบวช ฝ่ายสามีพยายามทัดทานอ้อนวอนหลายครั้ง หลายคราก็ไม่เป็นผลสำเร็จและในที่สุดความตั้งใจอันแน่วแน่ของท่านก็บรรลุผล ท่านได้เข้าบวชเป็นชีตามปรารถนา โดยมี พระอาจารย์คำพัน กันตสีโล เป็นอุปัชฌาย์ที่วัดหนองน่อง ต่อจากนั้นได้ติดตามพระอาจารย์คำพัน กันตสีโล ไปอยู่ที่วัดภูเกล้า (ห่างจากสำนักชีแห่งนี้ไปทางทิศใต้ประมาณ ๓๐ กิโลเมตร) ท่านอยู่ที่ วัดภูเกล้ากับเพื่อนชีด้วยกัน ๔ คน กับพระอีก ๖ รูป


ท่านได้บำเพ็ญภาวานาอยู่ที่นั่นจนเกิดความรู้แปลก ๆ ต่าง ๆ หลายอย่างที่ไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นมาก่อน ท่านอยู่ที่นั่นได้ ๘ ปี เผอิญในเวลาต่อมาพระอาจารย์คำพันได้ลาสิกขาบท ท่านกับคณะแม่ชีได้พากันกลับมาที่บ้านห้วยทรายและได้พูดกับญาติพี่น้องลูกหลานตั้งสำนักชีแห่งนี้ขึ้นใน ปี พ.ศ. ๒๔๘๘ และเป็นสำนักชีแห่งแรกที่ไม่มีพระภิกษุอาศัยอยู่ด้วยแต่แม่ชีก็ยังปฏิบัติธรรมอย่างเดียว ท่านได้ไปกราบหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ที่อำเภอ พรรณานิคม จังหวัดสกลนคร เป็นครั้งคราวแล้วกลับมาจำพรรษาที่วัดนี้ตลอดเวลา ครั้ง พ.ศ. ๒๔๙๒ หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต ได้มรณะภาพที่ วัดป่าสุทธาวาส จังหวัดสกลนคร ท่านพร้อมกับชาวบ้านได้พากันไปร่วมงานฌาปนกิจศพด้วย


พ.ศ. ๒๔๙๔ พระอาจารย์มหาบัว ญาณสมฺปนฺโน วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ได้จาริกเดินธุดงค์มาถึงบ้านห้วยทราย และได้พาคณะพระภิกษุและสามเณรมาจำพรรษาที่ วัดป่า บ้านห้วยทราย แต่ตัวของพระอาจารย์มหาบัว ญาณสมฺปนฺโน กับสามเณรอีก ๑ รูป ได้ขึ้นไป จำพรรษาที่ถ้ำนกแอ่น ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านห้วยทรายไปทางทิศตะวันตกประมาณ ๒ กิโลเมตร ในช่วงที่จำพรรษานั้น ท่านคุณย่าขึ้นไปฟังเทศน์จากหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน เป็นครั้งคราว ท่านหลวงตาได้ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม บำเพ็ญเพียรภาวนา ทั้งหมดให้ท่านคุณย่าตลอดการจำพรรษาที่ วัดป่าบ้านห้วยทราย ตลอด ๔ พรรษา


ต่อมาหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน ได้ปรารถถึงโยมมารดาที่บ้านตาด จังหวัดอุดรธานี ว่าท่านคุณย่าเป็นผู้ที่เหมาะสมที่จะอบรมถ่ายทอดความรู้อบรมธรรมะให้มารดาของท่านได้ เพราะเป็นหญิงด้วยกัน ต่อมาท่านคุณย่าพร้อมคณะอีก ๒ ท่านได้เดินไปจังหวัดอุดรธานีตามที่ พระอาจารย์มหาบัวต้องการ ประมาณปี พ.ศ. ๒๔๙๘ แล้วท่านก็ได้บวชโยมมารดาของ ท่านหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน สมความตั้งใจของหลวงปู่จากนั้นหลวงปู่มหาบัวได้พาคณะสงฆ์และแม่ชีไปจำพรรษาที่ วัดสถานีทดลอง จังหวัดจันทบุรี เวลาได้ ๑ พรรษาโยมมารดาของ หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน อยากกลับภูมิลำเนาเดิม ซึ่งหลวงตาก็ได้อนุญาตและได้พาคณะกลับมาสร้าง วัดป่าบ้านตาด อันเป็นภูมิลำเนาเดิมในปี พ.ศ.๒๔๙๙ ท่านคุณย่าได้จำพรรษาอยู่ที่ วัดป่าบ้านตาดกับโยมมารดา หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๑๐ เมื่อเป็นเวลาอันสมควร ท่านคุณย่าได้กราบลาหลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน กลับภูมิลำเนาเดิมที่บ้านห้วยทรายและได้บำเพ็ญเพียร ภาวนา อบรม สั่งสอนชาวบ้านตลอดมาและมีสานุศิษย์อย่างกว้างขวางทั้งใกล้และไกลด้วยความเลื่อมใสศรัทธา


ครั้นเมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๐ ท่านคุณย่าได้ป่วยด้วยโรคประจำตัว และมีคุณหมอเจริญและคุณหมอบุญเลี่ยม วัฒนสุชาติ จากกรุงเทพฯ ได้นำคุณย่าไปรักษาที่โรงพยาบาลพร้อมมิตร กรุงเทพฯ ระยะหนึ่ง อาการของคุณย่าหายเป็นปกติจึงได้กลับบ้านห้วยทราย


ต่อมากอาการป่วยของท่านคุณย่าก็มีเป็นครั้งคราวได้มี คุณหมอเพ็ญศรี มกรานนท์ ซึ่งเป็นอาจารย์สอนนักศึกษาแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กรุงเทพฯ ได้ขึ้นมากราบ หลวงตามหาบัว ญาณสมฺปนฺโน และกราบคุณย่าเป็นครั้งคราว เห็นว่าท่านคุณย่าสมควรได้รับการดูแลและรักษาอย่างใกล้ชิด พร้อมนี้คุณหมอเพ็ญศรี ท่านก็ต้องการปฏิบัติธรรมด้วยจึงได้ลาออกจากราชการมาดูแลและเฝ้ารักษาท่านคุณย่า จนถึงวาระสุดท้าย นับเป็นเวลา ๑๔ ปี


จนกระทั่ง วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๓๔ เวลา ๐๙.๒๕ น. ท่านก็ได้จากไปด้วยอาการอย่างสงบ สิริอายุรวมได้ ๙๐ ปี และรวมเวลาที่บวชชีเป็นเวลา ๕๔ พรรษา


ตลอดเวลา ๕๔ พรรษาที่ท่านได้อยู่ในการบวชเป็นชีนั้น ท่านคุณย่าของเราได้บำเพ็ญเพียรภาวนา ปฏิบัติธรรม โดยสม่ำเสมอตลอดมา มิได้เคยประพฤติผิดในครองชีเพศเลย ด้วยอานิสงส์แห่งการบำเพ็ญเพียร ภาวนา ปฏิบัติธรรมอันแน่วแน่ของท่านคุณย่านี้ ทำให้ท่านคุณย่าของเราได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากสาธุชนโดยทั่วไปเป็นจำนวนมากได้มาให้ความเคารพกราบไหว้มิได้ขาดสาย บัดนี้ท่านคุณย่าได้จากเราไปแล้ว คงเหลือแต่คุณงามความดี และแนวปฏิบัติที่ท่านเพียรพยายามทำไว้ให้เป็นอนุสรณ์แก่พุทธศาสนิกชนสืบไป

คำสอนของอุบาสิกาแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ

“มาบวชเป็นลูกแม่แล้วนี้ให้พากันตั้งใจอย่าให้เป็นหมา ให้เป็นคน เป็นคนผู้สมบูรณ์ เป็นแม่ชีที่งดงาม อด อด เพียร เพียร ให้เรียนที่ตนเองนี้”

“ขอให้ลูกของแม่ ถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นแนวทางดำเนินเดินดุ่มข้างหน้า อย่าห่วงหลังแลคอยภพน้อยภพใหม่อันพาไหลพาหลง ขอให้พากันตรงเดินแต่ต่อต้าน อย่าได้เกียจคร้านขดคู้อยู่แต่บ่อนนอน ให้เฝ้าสอนจิตตนค้นหาแต่ใจของเราผู้เดียวแค่นี้”


จากธรรมานุสรณ์ : วันฌาปนกิจคุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



9466.jpg


เจดีย์ศรีไตรรัตนานุสรณ์ บรรจุอัฐิธาตุ คุณแม่ชีแก้ว เสียงล้ำ
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



9390.jpg


9413.jpg


9425.jpg


ประมวลภาพหลวงตาเดินทางมาเปิดเจดีย์คุณแม่ชีแก้ว
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:48 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



9413.jpg


9425.jpg


ประมวลภาพหลวงตาเดินทางมาเปิดเจดีย์คุณแม่ชีแก้ว
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



ผู้ศรัทธาที่มาร่วมงานเปิดเจดีย์แม่ชีแก้ว.jpg


ประมวลภาพหลวงตาเดินทางมาเปิดเจดีย์คุณแม่ชีแก้ว
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:53 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



9421.jpg


เจดีย์แม่ชีแก้ว  ในยามค่ำคืน.jpg


เจดีย์คุณแม่ชีแก้ว ในยามค่ำคืน
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
วีรยุทธ
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร

ตอบตอบเมื่อ: 29 มิ.ย.2007, 4:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



หลวงตามหาบัว เมตตามาในงานเปิดเจดีย์.jpg


ผู้ศรัทธาที่มาร่วมงานเปิดเจดีย์แม่ชีแก้ว.กำลังฟังธรรมหลวงตาบัว.jpg


ผู้ศรัทธาที่มาร่วมงานเปิดเจดีย์แม่ชีแก้ว.jpg


ประชาชนที่มาร่วมงานเปิดเจดีย์
 

_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง