Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ความบันเทิงทางศาสนา อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 01 ธ.ค.2004, 5:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากให้มีการทำละครสั้นๆจากพระสูตร แล้วเสนอในช่วงเวลาสั้นๆตอนหัวค่ำ แทนที่จะมีแต่ละครหรือหนังอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เพราะเดี๋ยวนี้เทคนิคการถ่ายทำพัฒนาไปมาก แม้แต่เรื่องการแสดง "ยมกปาฏิหาริย์"ก้อาจจะทำได้ทางเทคนิค ถ้าจินตนาการออกมาได้ ถ้ามีหนังเกี่ยวกับพระสูตร สามารถจะสอนศาสนาแก่คนรุ่นใหม่โดยสอนพระสูตร เหมือนคนรุ่นก่อนฟังพระเทศน์ด้วยการอ่านใบลาน
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 02 ธ.ค.2004, 10:47 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไอเดียครับ แต่การจะนำไปไว้ตอนหัวค่ำ คงยากเพราะเป็นช่วงที่มีการแข่งขันเยอะ แต่ละคลื่นก็ต้องการเรดติ้ง พยายามหาสิ่งที่ดึงดูดผู้ชมให้เข้ามากที่สุด เพราะนั้นคือที่มาของผลประโยชน์ที่จะได้จากโฆษณาต่างๆ ถ้าไม่คนดูก็ไม่โฆษณา ถ้ามีก็จะคนดูน้อยผลประโยชน์ก็ลงด้วย ฉะนั้นเป็นเรื่องยากที่จะทำได้อย่างที่คุณเสนอมา ส่วนแล้วรายธรรมะนั้นจะไปอยู่ช่วงดึกๆ หรือก่อนสว่างไปถึงเทียง เพราะช่วงนี้ค่าเช่าเวลาจะถูกกว่าช่วงอื่น รายการธรรมะทั่วไปก็ไม่มีทุนเยอะ และทำแล้วก็ไม่ได้มีกำไรดังรายการอื่นๆ หลายคนก็คิดอย่างคุณ แต่ความเป็นได้ที่จะความคิดนั้นเป็นรูปธรรมนั้นเปอร์เซ็นมีน้อยมาก ...



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 ธ.ค.2004, 2:51 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อาจหาสปอนเซอร์ หรือทำมูลนิธิสนับสนุนการเช่าเวลา แต่การทำบทภาพยนต์ หรือละคร รวมทั้งเทคนิคต่างๆให้เหมาะสม การสอดแทรกจริยธรรมต่างๆก็เป็นเรื่องละเอียดเหมือนกัน แต่คนที่คิดเรื่องนี้แทบไม่มี เราไม่เคยเห็นละครจากพระสูตรเลย
 
TU
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 23 พ.ค. 2004
ตอบ: 1589

ตอบตอบเมื่อ: 02 ธ.ค.2004, 6:52 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน





ขออนุโมทนาบุญกับความคิดเห็นของคุณโอ่ นะค่ะ

คิดว่าสักวันในไม่ช้า ความคิดเห็นอันงดงามแบบนี้ จะเห็นปรากฎเป็นรูปธรรมนะค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวYahoo Messenger
satima
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 10 มิ.ย. 2004
ตอบ: 120

ตอบตอบเมื่อ: 02 ธ.ค.2004, 8:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าเกิดขึ้นได้จริงก็ดีซิคะ



แต่คงยากทีเดียว เพราะโลกนี้ กิเลสนำซะมากกว่า คนที่จะทำโดยเห็น

ประโยชน์จริงๆ จังๆ เพื่อพระศาสนานั้นหายากยิ่งค่ะ



ทำอะไรเขาล้วนเล็งผลประโยชน์เป็นหลักทั้งสิ้นค่ะ

ก็คงต้องรอให้คนทางธรรม ที่มีบุญบารมีมากๆ (มีตังเยอะๆ ด้วย)

มาเล็งเห็นประโยชน์แบบคุณโอ่ และลงมือทำค่ะ



ถ้าอย่างเราๆ อยากทำก็ไม่มีทุนจะทำค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 ธ.ค.2004, 9:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ความคิดผมจริงๆแล้วไม่ได้งดงามอะไรหรอกครับเป็นความคิดธรรมดา เพราะผมอ่านพระสูตรแล้วชอบมาก มีจินตนาการนึกว่าพระสูตรนี้ถ้าคนเอาไปเขียนบทให้คงของเดิมไว้ แต่ก็เป็นเรื่องสนุกมีคติข้อคิดมาก เพราะข้อธรรมนั้นสามารถขยายความได้ ผมคิดว่าถ้ามีคนทำได้ จะมีคนชอบดูและฮิตกว่าละครน้ำเน่า แต่ผลพลอยได้ก็คือปัญหาสังคมจะลดลงมากทีเดียว เพราะจิตของคนจะเข้าหาการกุศลมากขึ้น นักเขียนบทหนัง ละคร น่าจะสละเวลาอ่านพระสูตรอ่านชาดก แล้วทำความเข้าใจด้วยการอ่านซ้ำหลายๆครั้ง คือต้องทำความเข้าใจธรรมะด้วยให้รูซึ้งสักหน่อย แล้วสามารถตีบทแตก เขียนบทได้ดีแน่ แต่ถ้าอ่านผ่านๆครั้งสองครั้งเขายังไม่พบอะไรในเรื่องพระสูตร ต้องอ่านให้มาก ต้องอ่านแบบหาความรู้ความเข้าใจด้วย คือต้องศึกษา จึงจะทำเป็นหนังละครได้
 
ดนุวัติ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 ธ.ค.2004, 7:45 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมก็ชอบเรื่องพระสูตรเหมือนกันครับ ไอเดียดีครับ คุณโอ่ แต่ข้อสำคัญอยู่ที่ว่าคนที่เขียนบทหรือสร้างออกมนั้น จะต้องเข้าใจธรรม และรู้เรื่องจริง จุดที่พระพุทธเจ้าทรงยกมาเทศน์ นั้นสำคัญอย่างไร

เพราะถ้าสร้างผิดไปจากความเป็นจริง ก็อาจไม่เป็นประโยชน์เลยแม้แต่น้อย อย่างเช่นทุกวันที่เราเห็นกันอยู่ คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า บางอย่างเช่นเรื่องของ อภิญญา ก็ดี การปฏิบัติสมาธิก็ดี ก็ยังถูกตีแผ่หรือเขียนออกมาอย่างไม่ถูกต้อง และริดรอนความดีในพระพุทธศาสนาเสียก็เยอะ จนความมหัศจรรย์ในพระพุทธศาสนาแทบจะไม่มีเหลืออยู่แล้วในเวลานี้
 
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 03 ธ.ค.2004, 3:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การทำหนังนั้นอาจทำให้บิดเบือนเบี่ยงเบนทั้ง อรรถ และพยัญชนะได้ ดังนั้นจึงควรมีบุคคลที่มีความรู้ทางพุทธสาสนาให้คำปรึกษา ที่มีความรู้ทางวิชาการพุทธสาสนาซึ่งก็มีอยู่ไม่น้อย

เรื่องที่เป็นบุคลาธิษฐานต้องตรงกับธรรมาธิษฐาน จึงจะถือว่าถูกต้อง ทุกวันนี้แม้คนที่สนใจพุทธศาสนายังเอานิกายต่างๆมาผสมปนเปกัน
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ ไม่สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ ไม่สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง