ผู้ตั้ง |
ข้อความ |
จ๋า
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 09 พ.ค. 2007
ตอบ: 18
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
21 พ.ค.2007, 12:20 pm |
|
เล่าสั้นสั้นนะคะ รู้ล่วงหน้ามา (อย่ารู้เลยนะคะว่ารู้ได้อย่างไร) ว่าพ่อจะเป็นมะเร็งปอดในอนาคต แต่ไม่ได้บอกพ่อตรงๆ แบบนั้นเพราะไม่กล้า ได้แต่บอกให้พ่อไปเช็คสุขภาพ แต่พ่อเป็นคนที่ไม่เชื่อและไม่ชอบไปหาหมอถ้าไม่เจ็บหนักจริงๆ อีกทั้งยังสูบบุหรี่มาก ใครบอกให้ลดลงก็ไม่ยอม และเราก็เป็นครอบครัวที่ไม่ได้สนิทสนมกันแบบที่ว่าบอกรักหรือกอดกัน ไม่เคยทำแบบนั้นเลย และเราจึงไม่กล้าเซ้าซี้พ่อหรือบอกซ้ำแล้วซ้ำอีก หรืออีกนัยหนึ่งเราคิดเอาเองว่าพ่ออาจจะกังวลเรื่องเงินค่ารักษา หากรู้ว่าเป็นโรคร้ายแรงหลังจากไปตรวจสุขภาพ จึงไม่ยอมไปเสียเลย (และคิดว่าพ่อคงจะเครียดและหมดอาลัยตายอยากจากกิจการที่ทรุดลงเรื่อยๆ พ่อเคยมีเงินเยอะมากแต่ตอนนี้ไม่ได้เป็นแบบนั้นอีกแล้ว) เราได้แต่เก็บความไม่สบายใจไว้คนเดียวไม่รู้จะบอกใคร ขอคำแนะนำจากผู้ใหญ่ที่พอจะแนะนำได้ด้วยคะ แค่อยากรู้ว่าถ้าพ่อไม่ยอมไปโรงพยาบาลจริงๆ จะทำอย่างไร |
|
_________________ รู้ ตื่น เบิกบาน |
|
|
|
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 พ.ค.2007, 1:47 pm |
|
ได้ข้อคิด เรื่องเกี่ยวกับเงินๆทองๆ มีได้หมดได้ ถ้าไม่วางแผนให้ดี
ถึงจะวางดีอย่างไร
ถ้ามีเหตุจำเป็น ชักพานำพาให้จ่ายก็ต้องควักออกมาจ่าย ชีวิติคนไม่แน่นอน
เข้าใจเพราะประสบอยู่ตอนนี้เหมือนกัน นึกถึงแล้วเครียดพอสมควร ยิ่งอายุมากขึ้นก็หวั่นเรื่องค่าใช้จ่ายยามเจ็บไข้ สมมุติว่าเจ็บป่วยจนถึงกับนอน รพ. ก็แย่เลย
โรคบางโรคเป็นแล้ว ค่ายาค่ารักษาแพงมากๆ ยิ่งโรคมะเร็งเส็งเคร็งด้วยแล้ว หมดเงินก็ตาย มีเงินก็พอตู๊ ๆ ถูๆ ไถ ๆ ไปได้
-วกกลับมาประเด็นความกังวลใจเรื่องพ่อ
คุณก็ลองเปรยๆดูได้นิ
ถ้าต้องการให้พ่อรู้เองว่าเป็นโรค ก็ลองชวนแบบว่า พ่อๆ ไปหาหมอตรวจสุขภาพกันดูไหม ?สังเกตดูสีหน้าแล้วไม่ค่อยดีเลย ไปเห็นพ่อเพื่อนมาเขาสูบบุหรี่มีอาการอย่างนี้ๆ เป็นต้น....
พูดหยั่งเชิงดูว่าท่านจะพูดอย่างไร กังวลใจหรอไม่ หรือคิดอย่างไร ท่านคงเปิดปากพูดอะไรออกมาบ้าง
(ความไม่โรคเป็นลาภอันประเสริฐ) |
|
|
|
|
|
ปัทมนันท์ นันทิวรรธน์
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 พ.ค.2007, 2:18 pm |
|
บอกไปแล้วคะ แบบที่คุณว่านั่นแหละ คำตอบคือเงียบ และมีสีหน้าเคร่งเครียด และเราก็ไม่กล้าพูดอะไรต่อ ตอนนี้ก็เลยกลายเป็นมีคนเครียดเพิ่มอีกคน คือเราเอง ยังไงก็ขอบคุณคะ |
|
|
|
|
|
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 พ.ค.2007, 3:01 pm |
|
หรือท่านพอจะรู้ตัว
แต่กังวลเรื่องค่ารักษา |
|
|
|
|
|
กงกง
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 พ.ค.2007, 3:25 pm |
|
ชวนท่านทำอย่างอื่นเถอะ เช่น ชวนท่านไปทำบุญ พักผ่อนที่ๆ ทำให้คลายกังวล ต่างจังหวัด
ค้างสักคืน ถ้าอยู่ใกล้ๆ วัดยิ่งดีใหญ่ ตื่นเช้าชวนเข้าวัดเลย
ทำบุญทำให้ใจสะบาย คลายเครียดนะครับ
|
|
|
|
|
|
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
21 พ.ค.2007, 7:42 pm |
|
ลองพูดไปทำนองว่า
อยากให้ท่านอยู่กับเรานาน ๆ
อยากทำงานตอบแทนท่านบ้าง
อยากให้ท่านอยู่เป็นร่มไทรให้พึ่งพิงต่อไปจนถึงรุ่น ลูกหลาน เหลน โหลน
แม้ไม่ใกล้ชิดอบอุ่นกันได้มากอย่างที่คิด แต่แค่อยู่กันพร้อมหน้าถ้วนครอบครัว ปู่ย่า ตายาย พ่อแม่ พี่น้อง ก็เป็นสิ่งดีไม่น้อยแล้ว
อยู่กันให้นานได้ เมื่อสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ |
|
|
|
|
|
rkom
บัวผลิหน่อ
เข้าร่วม: 09 พ.ค. 2007
ตอบ: 3
ที่อยู่ (จังหวัด): กาฬสินธุ์
|
ตอบเมื่อ:
22 พ.ค.2007, 12:45 pm |
|
เป็นเหมือนกันเลย...ความรู้สึกไม่ต่างกัน แต่พอบอกว่าอยากให้อยู่กับเรานานๆ ท่านก็ไปนะ...บอกเรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วง เราไม่ลำบากหรอก อยากทำอะไรเพื่อท่านบ้าง เราจะดูแลเองไม่ต้องห่วง เป็นกำลังใจให้คุณนะ ความรักคือการดูแลที่ไม่มีวันสิ้นสุด |
|
_________________ คนท้อไม่แท้...คนแท้ไม่ท้อ |
|
|
|
เต๊ะ
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
23 พ.ค.2007, 10:08 am |
|
ผมเคยผ่านประสบการณ์เฉียดตายมาแล้วครับ (ผ่านมาเกือบ 3 ปีแล้ว)
จริงๆ แล้วตอนนี้กลับรู้สึกขอบคุณด้วยซ้ำ เพราะสิ่งนี้ทำให้ชีวิตผม
เปลี่ยนแปลงอย่างมากมายมากๆ ได้เพบห็นสิ่งที่งดงาม (ที่เมื่อก่อนเคยมองข้าม)
และได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า งดงาม สงบมาก
ผมว่าคุณน่าจะถือโอกาสนี้
ทำสิ่งนี้ให้เกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณ เหมือนที่เกิดขึ้นกับชีวิตของผม
ผมพูดไม่เก่งครับ ขอธรมมมะสถิตย์อยู่กับคุณ |
|
|
|
|
|
นาง ปัทมนันท์ นันทิวรรธน์
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
23 พ.ค.2007, 5:21 pm |
|
ขอบคุณมากคะสำหรับกำลังใจ มันมีข้อจำกัดหลายอย่างเหลือเกินที่จะทำได้ อยากทดแทนบุญคุณพ่อแต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำได้มากแค่ไหน พ่อไม่เข้าวัดเพราะแม่ใหม่เป็นคาทอลิค (แม่จริงเสียไปแล้วเพราะมะเร็งเหมือนกัน)เค้าอยู่กันสองคน แล้วเราก็ไม่ได้อยู่บ้านเดียวกับพ่อมาเป็นสิบปีแล้ว ที่สำคัญอาทิตย์หน้านี้ก็จะย้ายไปอยู่ที่อเมริกา(แต่งงาน) วีซ่าเพิ่งจะผ่านวันนี้เอง /มีพี่ชายและน้องชายแต่พวกเค้าแทบไม่เคยมาหา หรือพูดคุยเหมือนพ่อลูกคนอื่นๆเลย/ ถ้าเราไปอเมริกาแล้วใครจะดูแลพ่อถ้าพ่อต้องเข้าโรงพยาบาลจริงๆ ได้แต่หวังว่าถ้าไปแล้วคงจะมีเงินส่งมาให้พ่อได้ (ซึ่งก็รู้ว่าไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ อยากให้พ่อไปวัดจริงๆไปขออโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวร อะไรจะได้ดีขึ้นบ้าง เชื่อมั๊ยคะหลายปีมาแล้วเคยเอารูปถ่ายของพ่อไปให้พระสุปฎิปันโนทางภาคอีสานแผ่เมตตาให้ ท่านบอกว่าพ่อนั่งหันหลังให้คล้ายกับพ่อไม่รับ อะไรทำนองนั้น ทุกวันนี้ได้แต่สวดมนต์ภาวนาและแผ่เมตตาให้พ่อทุกครั้งที่นึกได้เผื่อว่าจะมีปาฎิหารบ้าง (พ่อเป็นคนใจดี ชอบช่วยเหลือสัตว์ที่เจ็บป่วยมาก)
รู้สึกดีและขอบคุณที่อ่านนะคะ ได้ระบายออกบ้างก็ยังดี จะทำให้ดีที่สุดคะ |
|
|
|
|
|
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
24 พ.ค.2007, 5:00 pm |
|
ขอให้คุณและคุณพ่อมีความสุขค่ะ ถึงจะเจอะเจอกับความทุกข์ความกังวลใจ และแม้ว่าคุณพ่อจะตัดสินใจอย่างไร ก็ขอให้คุณและท่านมีความสุขนะคะ ขอให้กุศลกรรมที่คุณพ่อเคยช่วยสัตว์ป่วยไว้มาปกป้องหรือทำให้ท่านเจ็บน้อยที่สุดค่ะ |
|
|
|
|
|
เศษพุทธทาส
บัวใต้น้ำ
เข้าร่วม: 08 เม.ย. 2007
ตอบ: 121
|
ตอบเมื่อ:
25 พ.ค.2007, 3:09 pm |
|
ถ้าท่านไม่อยากไปหาหมอกาย ก็ให้ไปหาหมอใจก็ได้นี่ ครับ
หรือคุณก็บำบัดให้ท่านเองเลยก็ได้ อย่างที่คุณทำนั้นแหละ สวดมนต์ นั่งสมาธิแผ่เมตตาให้ท่าน
หรือถ้าจะให้ดีก็พาท่านไปทำด้วย มันช่วยเปลี่ยนกรรมได้ครับ
ทำแบบน ี้ต่อให้มีสักกี่โรคก็ไม่กลัว ไม่เครียด ทั้งคุณทั้งพ่อ เพราะเราได้ทำดีเป็นเสบียงติดตัวไว้แล้ว
ขออภัยครับ ถึงจะเป็นช้าตายช้าหรือเป็นเร็วตายเร็ว ท่านก็มีสิ่งที่ดีติดตัวไปแล้วยิ่งกว่ายาที่คุณกำลังจะให้พ่อกิน หรือไปรักษาเสียอีก มันเป็นยารักษาใจได้นั้นแหละครับ
สบายใจด้วยไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษา ถึงพ่อคุณจะยอมไปรักษาแล้วหาย แต่ไม่เคยทำภาวนาเลยมันก็ไม่มีค่าอันใดกับตัวท่านเลย
ดีไม่ดี อาจจะมองได้ว่าคุณก็แค่เห็นแก่ตัว อยากให้พ่อหาย แล้วอยู่กับเรานานๆ เพื่อเป็นที่พึงพิงให้เรา แต่ถ้าคุณ ช่วยพ่อทางนี้มันก็เป็นการดีกว่า เพราะจะได้ไม่ต้องอยู่ในโลกแห่งทุกข์โศกเป็นเวลานานๆ
ในความเห็นของผมนะครับ ผมว่าดีเสียอีก ที่พ่อคุณเป็นแบบนั้น เพราะอะไรนะหรอครับ
ก็เพราะว่ามันจะเป็นตัวเตือนสติเราอย่างดีเลยว่า เวลาเราเหลือนิดเดียวแล้วนะ ต้องมั่นทำบุญทำดีให้มากเข้าไว้ จะได้ไม่เสียใจในภายหลัง รู้อย่างนี้น่าจะทำเสียตั้งแต่ทีแรก
ตรงกันข้ามกับคนที่เป็น พอรักษาหาย ก็มาทำชั่วต่อ หรือตกอยู่ในวังวนของมายาทุกข์โศกชนิดไร้อิสระภาวะกันเลย สู้แบบนี้อย่าไปหายเลยดีกว่า
เพราะผมเห็นส่วนใหญ่ ที่พอรู้ว่าตัวใกล้ตายมักจะทำดีกัน แต่มันก็เหลือเวลาน้อยเต็มที แต่พ่อของคุณนั้นไม่ใช่ครับ
May the Dhamma be with you. ขอธรรมจงสถิตอยู่กับท่าน |
|
_________________ ทำวันนี้ให้ดีและต้องรู้ไว้ว่า ทำดีเพื่อดี ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่ อุปสรรคไม่มี บารมีไม่เกิด |
|
|
|
จ๋า
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 09 พ.ค. 2007
ตอบ: 18
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
28 พ.ค.2007, 3:09 pm |
|
อ่านแล้วก็รู้สึกดี ขอบคุณคะ แต่ก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าน่าจะทำอะไรให้ดีกว่านี้เช่นให้พ่อไปตรวจให้ได้ เคยได้ยินมาว่าคนเราเกิดมาพร้อมกับวันและเวลาตายที่แน่นอนแล้ว แล้วเราจะเปลี่ยนแปลงได้มั๊ยคะ |
|
_________________ รู้ ตื่น เบิกบาน |
|
|
|
สมพร
ผู้เยี่ยมชม
|
ตอบเมื่อ:
29 พ.ค.2007, 8:35 am |
|
อยากให้ท่านได้บุญเราก็ทำแบบนี้ครับ เราก็ไปถวายสังฆทาน หรือทำบุญแบบใดก็ได้ที่เราชอบใจ แล้วก็โทรไปบอกท่าน ท่านได้รับรู้แล้วท่านก็ได้บุญนั้นแล้วครับ เป็นการตอบแทนคุณท่านเป็นอย่างดีเลยครับ การต่ออายุก็ต้องทำบุญเพิ่มและปล่อยสัตว์ที่เขาจะฆ่า ก็จะช่วยได้ครับถ้ายังไม่ถึงอายุไข แต่จะช่วยไม่ให้ตายก่อนอายุไขครับ คุณก็ไปปล่อยแทนท่านเลยแล้วก็โทรไปบอกท่าน นะครับ แค่นี้เราก็ช่วยให้ท่านได้มีบุญกุศลแล้วครับผม ทำแบบที่ว่านี้บ่อยๆนะครับ ท่านจะได้ชินกับเรื่องของกุศล |
|
|
|
|
|
จ๋า
บัวใต้ดิน
เข้าร่วม: 09 พ.ค. 2007
ตอบ: 18
ที่อยู่ (จังหวัด): กรุงเทพฯ
|
ตอบเมื่อ:
29 พ.ค.2007, 10:30 am |
|
เป็นคำแนะนำที่ดีแล้วก็ทำง่ายด้วย เสียดายที่น่าจะรู้มาก่อนหน้านี้ตั้งนานแล้ว อาทิตย์หน้านี้ก็ต้องย้ายไปอยู่ต่างประเทศแล้ว แต่คิดว่าก็ยังทำได้อยู่ ยังไงก็จะทำให้ถึงที่สุด อะไรก็ได้ที่ทำให้ชีวิตพ่อดีขึ้นและทุกข์น้อยลง ขอบคุณคะสำหรับทุกคำแนะนำ |
|
_________________ รู้ ตื่น เบิกบาน |
|
|
|
|