Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
โบตั๋น (หลวงตาแพรเยื่อไม้)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นิทาน-การ์ตูน
ผู้ตั้ง
ข้อความ
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
ตอบเมื่อ: 20 ต.ค.2004, 6:46 pm
โบตั๋น
โดย หลวงตาแพรเยื่อไม้
จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา
งาน อนุสรณ์ ยิ่งใกล้เข้ามา พระอาจารย์ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาก็ยิ่งมีภาระต้อนรับแขกมากขึ้น ด้วยศรัทธาพากันให้ความร่วมมือเกือบทั้งสิ้น เพราะเป็นที่ประจักษ์อยู่ทั่วไปว่าศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาแห่งนี้เป็นแหล่งปั้นวิญญาณผู้เยาว์ที่มีประสิทธิภาพ มีท่านพ่อ แม่จำนวนไม่น้อยที่มองกิจการของศูนย์ด้วยความสำนึกบูชา เพราะตระหนักว่าบุตรธิดาของตน
ทำตัวให้รักได้อย่างสิ้นกังวล กุศลใดๆ จะมาสูงไปกว่าแน่ใจว่าลูกจะไม่เหลวไหนเป็นไม่มีแล้วในปัจจุบัน
หลายคนกราบท่านผู้อำนวยการด้วยใบหน้าที่อิ่มบุญ บ้างก็นำตัวมารับใช้ บ้างก็นำปัจจัยมาร่วมงาน ที่มาตั้งทุนมูลนิธิก็มี เพิ่มทุนเก่าก็มี สุดแต่ใครจะมีกำลังทางใด.....สาธุ !
เธอจะตั้งชื่อทุนของเธอว่าอย่างไร ? พระอาจารย์ถามสองหนุ่มสาวอย่างแช่มชื่น เพราะทุนใหม่นี้หลายแสน
กระผมกับน้องตั๋นเห็นพ้องกันว่า จะไม่ใช้ชื่อ
ชายหนุ่มตอบ
ว่าไงนะ ? ท่านเอียงหน้าตาหรี่ขณะย้อนถาม
เป็นทุนไม่ต้องมีชื่อครับ !
ทำไม ?
เพราะเราต้องการลืมครับ ! ชื่อมันทำให้เราลืมเรื่องที่อยากลืมไม่ได้
โบ กับ ตั๋น
เป็นผู้ให้การสนับสนุนศูนย์อีกรายที่พระอาจารย์ผู้อำนวยการน่าจะยินดีเป็นพิเศษ แต่ผู้ตั้งทุนก็แสดงเจตนาให้ยินดีไม่สนิทใจ เขาเป็นศิษย์เก่าของศูนย์ ที่จากศูนย์กลับไปสู่โลกด้วยหัวใจผิดแผกกับเมื่อแรกเข้ามาศึกษา
สำหรับโบ เขาช่างสมกับเกิดมาก่อนตั๋น ตั๋นอุ่นไปทั่วขุมชีวิตที่มีพี่ชายเช่น โบ โบเองพอเริ่มเดียงสาก็รู้สึกว่าโลกไม่ใช่ขนมหวานสำหรับเขาและน้อง แม้จะมีผู้ให้ความอุปการะอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ดูเหมือนว่าความมีน้ำใจของผู้เมตตาต่อตนนี้เอง ทำให้เขาขมขื่นกับชีวิต เศร้าสำหรับตนเอง เวทนาน้องซึ่งเป็นหญิง ด้วยอำนาจที่ถูกบังคับให้สำนึกในฐานผู้สืบสันดาน มันเริ่มต้นตั้งแต่เขาและน้องเป็นกำพร้าพ่อ โบแปดขวบเศษ ตั๋นหกขวบครึ่ง ยังทารกเกินไป แต่โบก็ถูกโลกอิทธิพลมนุษย์ผู้คลั่งไคล้ความดีบังคับให้เป็นคนช่างคิด โตเกินวัยจนกลายเป็นเด็กแก่แดด.....คิดอ่านอาจหาญ มานะทิฐิเกินตัว
เมืองไทย สมัยที่โบและตั๋นสิ้นพ่อสิ้นแม่ตามที่การศึกษา พาเขาย้อนกลับไปรู้อยู่ในภาวะสับสน ประชาชนระเริงเสรีกันเหมือนกระดี่ตื่นฝน พากันไปค้างแห้งตายซาก อย่างสนุกสนานโลกมองไทยแลนด์ เป็นดุจแดนสุขาวดีของคนรักสนุก และนักผจญภัย ชาวต่างประเทศให้การยกย่องระดับแชมป์แก่ไทยแลนด์หลายอย่างในช่วงนั้น เช่น ยุงชุมที่สุดในโลก และขโมยก็พอๆ กับยุง เป็นแหล่งผลิตยาเสพติดที่ใหญ่ยิ่งที่สุดในโลก สิงห์อมควันมากที่สุดในโลก โสเภณีมากและราคาเยาว์ สนใจลูกค้าตาน้ำข้าวมากที่สุดในโลก เหล้า เบียร์ คลับ วิเศษสุดในโลก และซิฟิลิสก์ก็กำลังจะมาเป็นที่หนึ่ง ฯลฯ
สินค้าเมืองไทยตามสถิติที่ไม่ได้รับการยืนยันว่าขายดีที่สุด ก็มี เหล้า บุหรี่ ภาพยนตร์และลอตเตอรี่ เป็นเครื่องวัดรสนิยมของคนประเทศนี้ว่า ละเอียดอ่อนเพียงไหน
พวกสุขนิยมจากตะวันตก ที่เรียกกันว่า ฮิปปี้ ใจกล้าหน้าเป็น ยิ้มอย่างสดได้ทุกที่ทุกเวลาแม้กระทั่งในอเวจี จนคนไทยยึดเอาเป็นสรณะจำนวนมาก พากันมาบันเทิงจับคู่สู่สมกันราวกับรอบๆ ตัวมีแต่ฝูงวัวฝูงควาย หรือไม่ก็เข้าใจว่าประวัติศาสตร์ชาติพันธุ์ของชาวประเทศนี้ เพิ่งอยู่แค่ยุคหินเท่านั้น นึกจะทำอะไรที่ไหนก็ได้ ตามสิทธิของผู้ก้าวออกมาจากแดนอารยะ ครั้งแล้วหนังสือพิมพ์ซึ่งเป็นสถาบันอันทรงเกียรติและศักดิ์ศรี ก็พากันถ่ายทำนำภาพอันหาชมได้ยากมาสู่หูตาปวงชนผู้โง่เง่าอีกทอดหนึ่ง น่าที่ฝรั่งชุดนี้จะแทงกิ้วสื่อมวลชนไทย ที่ให้ความร่วมมือโดยไม่ได้ขอร้อง ช่วยแพร่ข่าววีรเวรเดนสถุลของเขา แม้จะกล่าวเป็นเชิงตำหนิก็จะแปลกอะไร ในเมื่อภาพ ผลแห่งพฤติการณ์ได้แผ่ซ่านเข้ากระแสประสาทปวงชนได้อย่างมีประสิทธิภาพกว้างขวางและรวดเร็ว ดุจเชื้อห่า
(มีต่อ 1)
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
ตอบเมื่อ: 20 ต.ค.2004, 6:53 pm
ว่ากันในแง่ประชาธิปไตยบริสุทธิ์ ไทยก็ก้าวเข้ามาถึงยุคทอง หากจะกล่าวถึงพฤติกรรมประจำยุค ก็น่าจะต้องยกเอาประโยคความที่มีลีลาเชิงพังเพยของนักเทศน์ท่านหนึ่งมาเป็นคำจำกัดความ เพราะค่อนข้างจะอมความได้มาก คือ
นักเรียนโชว์ระเบิดขวด ตำรวจบุกบ้านนายก หัวหน้าประสกเจ้าชู้ เจ้ากูเดินขบวน
นี่คือสิ่งที่ตกทอดสืบมาจาก ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. นั้น พ่อกับแม่ของโบและตั๋น เป็นผู้หนึ่งที่มีส่วนต้องเสวยความศิวิไลซ์ของไทยแลนด์ เหมือนคนปลูกบ้านอยู่ในป่าช้า ถึงจะใช้น้ำหอมวิเศษและแสนแพงอย่างไร ก็ยากที่จะมีกลิ่นไม่เหมือนศพ
แม่ของโบร่วมมือกับชายชู้ลูกน้องพ่อฆ่าพ่อ ด้วยวิธีการที่มีเงื่อนงำ พ่อเป็นผู้มีฐานะ ตำแหน่งงานสูง และมีเกียรติปรากฏแก่สังคมยุคนี้
ประชาชน เอ๊ย ไม่ใช่ หนังสือพิมพ์ต่างหากจึงสนใจติดตามทำข่าว จนปัญหาปากท้องของชาวบ้านชาวเมืองหมดความหมายไป ประชาชนถูกบังคับให้รับรู้พฤติกรรมอันแสนจะโสโครกบัดสีอยู่วันแล้ววันเล่า หลีกไม่พ้นเพราะเลือกไม่ได้ เรื่องที่ต้องรับรู้จะเป็นศิริมงคลหรืออัปรีย์สีกบาล ก็สุดแต่สื่อมวลชนจะยัดจะป้อน ! ฐานันดรอันทรงศักดิ์ศรี ! อนิจจัง ทุกขังเอ๋ย !
กิจกรรมการเล่นชู้ของแม่ หนังสือพิมพ์ได้แสดงถึงสมรรถภาพที่แสนจะมหัศจรรย์ สงสัยว่านักข่าวยุคนั้นจะฝึกวิธีนั่งเทียนด้วย เพราะลามกกรรมหลายอย่างที่คนปกติไม่มีทางจะล่วงรู้ แต่นักข่าวทำได้ใสและมันส์ จนผู้อ่านต้องถอนใจด้วยความรัญจวน
กำพืดหรือภูมิหลังของแม่ราวกะซิลเดอลิลรา แม่มาจากหญิงขายผักดองในตลาดสด โดยการอนุเคราะห์ของแมวมองที่หากินอยู่กับขาอ่อนหรือขอบกระโปรง นำเข้าสู่เวทีประกวด แล้วก็ลัดไปสู่ฐานะคุณนาย
ชีวิตแม่ถูกหั่นถูกซอยอย่างวิจิตรในแง่ลามกกรรมต่างๆ จนทำให้บรรดาชายชาติม้า (อาชาไนย) ทั้งหลาย ซึ่งมีฐานะวาสนาพอจะช่วยคู่ชีวิตให้เป็นคุณนายแบบสังคมอุปโลกน์ได้ หันมาชำเลืองสำรวจถึงความน่ารักของที่บ้านกัน เนื่องจากสังคมช่วง พ.ศ. นั้น ความเป็นเมียตามความนิยมของผู้ชาย มิใช่แต่จะเป็นคู่ขวัญร่วมสุขร่วมทุกข์ ฝากฝีฝากไข้กันเท่านั้น ยังมุ่งหวังเพื่อจะโชว์เพื่อนอีกด้วย เขาจะทนไม่ไหวถ้ารู้ตัวว่าเมียตนน่ารักน้อยกว่าเมียเพื่อน (แต่มักจะแพ้เมียเพื่อนจนได้) จึงพยายามหาหญิงงามที่สุดมาเป็นคุณนาย เท่าที่อำนาจการซื้อของตนจะบันดาลได้ บังเอิญหญิงงามๆ ทั้งที่หน้างามและงามหน้า ก็ไปอุดมดาษดื่นอยู่ตามขอบอ่างอโนดาต จึงเกิดมีวิมานผีกระสือให้เกลื่อนไป คุณนายตาฟางน่ะหรือ ธรรมด๊าธรรมดาใน พ.ศ. นี้
เพื่อนพ่อจำนวนมากพากันเศร้าสลด ในชะตากรรมของพ่อและอเนจอนาถในพฤติกรรมของแม่ โบและตั๋นได้ตกเป็นเป้าแห่งความเมตตาอาทรของเพื่อนพ่อ
ท่านจึงร่วมกันสละทรัพย์ตั้งเป็นทุนเพื่อการศึกษาของโบและตั๋น และเป็นจำนวนเงินหลายแสนบาท มอบให้นายพลตำรวจท่านหนึ่ง ซึ่งเคยเป็นครูอบรมสั่งสอนพวกเขามา ด้วยแน่ใจว่าท่านจะเป็นร่มโพธิ์ไทรของเด็กน้อยสองพี่น้อง ผู้น่าเวทนาได้
แต่แล้วในท่ามกลางระหว่างคดีอันมีเงื่อนงำยังไม่กระจ่างนี้เอง แม่ก็ไม่อาจทนดูหน้าคน และรับรู้เรื่องราวของตัวต่อไปได้ จึงจบฉากชีวิตด้วยการทำลายตัวเอง จากนั้นโบและตั๋นก็ชื่อว่ากำพร้าที่สมบูรณ์แบบ
ถ้าจะมีอำนาจอะไรสักอย่าง มาบังคับเวลาให้หยุดนิ่ง โบแลตั๋นคงจะไม่ต้องขมขื่นกับกำพืดของตน แต่เวลาไม่มีสิ่งใดมาหยุดมันได้ โบและตั๋น ยิ่งเติบโต ก็ยิ่งรู้ว่าสังคมนั้นมีอิทธิพลเพียงใด เขาต้องรับผิดชอบต่อกำพืดในฐานผู้สืบสันดาน จากนามสกุลที่เขาใช้อยู่ทำให้เขาตกเป็นผู้ถูกสอบสวนไปทันที โดยเฉพาะกับคนแรกรู้จัก และต่อมาก็ได้รับการมองด้วยแววตาประหลาด แม้การศึกษาที่พบสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ก็มีอะไรบางอย่างมาทำให้เขารู้สึกว่า ตนไม่เหมือนใครอยู่ร่ำไป ครูอาจารย์ตามสถานศึกษา เมื่อทราบนามสกุลของเขา มักจะถามว่า
เธอเป็นอะไรกับคุณนพและคุณนายเยาวเรศฯ พอเขาตอบว่าเป็นบุตรเท่านั้น เขาจะรู้สึกโดยนัยว่าเขาได้ตกเป็นนักโทษไปแล้ว คือนักโทษของสังคม ?
(มีต่อ 2)
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
ตอบเมื่อ: 20 ต.ค.2004, 6:55 pm
ชีวิตของโบและตั๋น ในแง่การศึกษาก็จัดว่าเป็นบุญไม่เคยพบข้อขัดข้องเลย เพราะมีเงินพอจะแก้ปัญหาอย่างสบายก็จากทุนมูลนิธิที่เพื่อนพ่อ มอบไว้ให้นายพลตำรวจจัดการนั่นแหละ ข้อลำบากใจก็อยู่ที่ว่าทุกครั้งที่เข้าไปรับเงินอนุเคราะห์ จะต้องได้รับโอวาทที่ชวนให้สำนึกในรอยบาปที่แม่กับพ่อได้ตราเอาไว้
ทำตัวให้ดี อย่าให้เหมือน
เขารู้ว่าท่านเมตตาหวังดี เขาต้องทนรับความเมตตาที่มีพื้นฐานมาจากความหลังที่อัปยศของพ่อแม่ เขาอยากจะสลัดมันให้กระเด็นไปจากชีวิต เหลือไว้เพียงเมตตาที่บริสุทธิ์ แต่เขาทำไม่ได้ เขาต้องทนรับมันเหมือนทนดื่มยาที่แสนจะขมและขื่น และแล้วท่านนายพลตำรวจผู้หวังจะเห็นเขากับน้องไม่มีเหมือนพ่อและแม่ ก็พามามอบให้ศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาแห่งนี้เพราะท่านเป็นผู้มีส่วนอุปถัมภ์ค้ำชูอยู่
นับเป็นสถานศึกษาแห่งแรก ที่ทำให้เขาและน้องเริ่มรู้สึกว่าได้รับการต้อนรับ มีเพื่อน ไม่มีใครสนใจในกำพืดของเขา ทุกคนมุ่งฝึกตนเองไปในทางที่ว่า จะให้ตนเป็นที่รักของทุกคน ความรู้สึกของเพื่อนร่วมศูนย์ก็นั่นแหละคือ เข็มวัด หรือเครื่องทดสอบคุณสมบัติที่ศูนย์ได้กำหนดเอาไว้
ทำประโยชน์ทุกขณะ ความรักคือเครื่องวัดคุณค่าการศึกษา
ในด้านผู้อบรมสั่งสอนซึ่งเป็นสมณะพระสงฆ์ ก็มิเพียงแต่สอนให้ศิษย์รู้เรื่องที่น่ารู้เท่านั้น ยังลึกเข้าไปถึงความรู้สึกของศิษย์อีกด้วย โบกับน้องตั๋น เริ่มจะรู้ซึ้งถึงความหมายของพุทธศาสนาที่นี้เอง เฉพาะพระอาจารย์ผู้อำนวยการ พูดจาให้ความรู้แก่เขาเหมือนจะล่วงรู้อยู่ตลอดทุกซอกมุมแห่งจิตสำนึกว่า เขาและน้องมีปัญหาอะไร ต้องการอย่างไร ?
อย่าไปอาทรร้อนใจกับคำนินทาว่าร้ายที่เหลือวิสัยที่เราจะแก้ไขได้ ดอกบัวทุกดอกล้วนแต่เกิดจากโคลนตมสกปรกทั้งนั้น คนก็เถอะ จะดีหรือชั่วก็เกิดมาแล้ว อย่าหมองมัวกับชาติตระกูลไปทำไม มุ่งหน้าทำตนให้งดงามเหมือนดอกบัว คนจะบูชาให้เกียรติเอง โลกจะเป็นอย่างไรไม่สำคัญ สำคัญที่เราจะรู้สึกต่อโลกอย่างไรต่างหาก
ข้อความทำนองนี้ ทำให้โบและตั๋นรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและหายว้าเหว่ จากนั้นเขาก็ได้เผชิญโลกและชีวิตด้วยความเข้มแข็ง และขบขันกับความบกพร่องของตนเองได้บ้าง จะเอาความสมประกอบอะไรหนักหนา ในเมื่อไม่ได้มาจากสิ่งที่สมบูรณ์ ความสำนึกทำนองนี้ทำให้รู้จักยิ้ม และแสดงละครเป็น ทุกหนทุกแห่งที่ชีวิตผ่าน ในมหาวิทยาลัย ในสังคม ในหน้าที่การงาน ฯ เขาผ่านได้ เหมือนเดินทางในทะเลรู้จักจริตทะเลสนุกสนานกับคลื่นลม ทั้งๆ ที่รู้ชัดว่าเจ้าสิ่งนี้มันพร้อมที่จะฝังเขาอยู่ทุกขณะ
บัดนี้โบและตั๋น ต่างเป็นผู้ใหญ่มีงานมีการทำ แต่ก็ยังมีพันธะกับทุนสงเคราะห์จากนายพลตำรวจผู้เมตตาสูงอยู่ทุกคราวที่เข้าไปรับเมตตา ก็ทำให้เขาจับตัวเองได้ว่าเขาเป็นเพียงนักแสดงเท่านั้น คือ แสดงว่าเข้มแข็ง ปลงโลกตก แต่แท้จริงเขายังปวดร้าวกับกำพืดอยู่มาก และต้องการพ้นจากทุกขเวทนาอันนี้ เขาไม่อยากจะหวนกลับมาเกี่ยวข้องกับทุนนี้ต่อไป จึงได้ยอมอนุญาตยกทุนทั้งหมดให้แก่นายพลตำรวจผู้เฒ่านี้ สุดแต่ท่านจะใช้สอยเพราะเขากับน้องมีกำลังพอจะปกปักรักษาตัวเองได้ แต่ท่านไม่ยอมรับ จึงนำมามอบให้แก่ศูนย์ศึกษาพุทธศาสนาแห่งนี้
ความจริงก็เหมาะสมมาก เพราะศูนย์นี้เป็นแหล่งพยาบาลจิตของเขาและน้องได้ จึงทำให้มั่นใจว่าจะเป็นกำลังเพื่อช่วยผู้อื่นได้เช่นกัน แม้ปัญหานั้นจะต่างกันก็ตาม
แต่เหตุผลที่เขาและตั๋นมอบสละนั้น เพียงเพื่อไม่ต้องการให้เงินก้อนนี้ สะกิดสะเกาถึงกำพืดภูมิหลังของแม่เท่านั้น อยากจะลืมให้สนิทว่าแม่มีชู้
(มีต่อ 3)
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
ตอบเมื่อ: 20 ต.ค.2004, 7:01 pm
ต้องการจะลืม
พระอาจารย์ผู้อำนวยการ ทวนคำย้ำถึงเจตนาของโบและตั๋นเพื่อให้แน่ใจ แล้วก็นั่งมองศิษย์เก่าสองพี่น้องนิ่งและนาน หมดปฏิภาณอย่างสิ้นเชิง ท่านเข้าใจถึงความรู้สึกของโบและตั๋นดี ไม่ได้คิดว่าสองพี่น้องจะเนรคุณที่ตั้งใจจะลืมอดีต
ไม่ใช่พระคุณของผู้อุปการะหรอก มลทินที่พ่อแม่สร้างไว้ต่างหาก ที่สองพี่น้องต้องการจะลบให้สูญไปจากความทรงจำ
ท่านได้ตระหนักถึงอิทธิพลของผู้สร้างมรดกทางสันดานหรือพ่อแม่ ชัดเจนขึ้นเป็นทวีคูณ การดำรงชีวิตเพียงแต่ให้มีชีวิตเท่านั้น มันไม่ยากนัก แต่การจะรู้สึกต่อชีวิตต่อกำพืดของตนเองนี่สิ มันไม่ง่าย ภาระส่วนนี้ขึ้นอยู่แก่ผู้ให้กำเนิดโดยแท้
ถ้ารักลูก สงสารลูกแล้ว กรุณาเถิด อย่าเห็นแก่ตัว สร้างกรรมอันเป็นมลทินให้ลูกเต้าต้องขมขื่นทรมานกับมรดกอันแสนทราม เยี่ยงโบและตั๋นต้องเป็นอยู่ขณะนี้เลย
พระอาจารย์ผู้อำนวยการรำพึงอยู่ในหัวอก
พ่อแม่ที่ประพฤติไม่บริสุทธิ์ คือโจรปล้นความภาคภูมิใจของลูก
เจ้าคุณกวี ฯ หรือพระอาจารย์ใหญ่ทบทวนพังเพยภาษิตโบราณ พลางก้มลงบันทึกชื่อมูลนิธิรายใหม่
ทุนเพื่อลืม
.................. เอวัง ...................
amai
บัวบาน
เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435
ตอบเมื่อ: 20 ต.ค.2004, 8:29 pm
ถ้าไม่รู้จะเลี้ยงลูกให้ดียังไง
แนะนำให้อ่านหนังสือ
เลี้ยงลูกถูกธรรม
เพิ่มเติมค่ะ
http://www.dhammajak.net/book/baby/baby.php
โบตั๋น
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 09 ส.ค. 2006, 4:15 pm
^^o^^
ผู้เยี่ยมชม
ตอบเมื่อ: 15 พ.ค.2007, 2:02 pm
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
นิทาน-การ์ตูน
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th