Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เราเป็นเกย์ควรทำตัวอย่างไร อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
มนต์108
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2007, 4:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การเป็นเกย์แต่มีศรัทธาอยากจะบวชแต่การบวชในพระพุทธศาสนามีเงื่อนไขหลายอย่าง ซึ่งเมื่อศึกษาดูอย่างลึกซึ้งแล้ว เงื่อนไขที่พระพุทธองค์ทรงวางไว้ เราจำเป็นจะต้องให้ความเคารบ เพราะว่าทุก ๆ สังคมต้องมีกฎต้องมีเงื่อนไข ถ้าไม่มีเงื่อนไขแล้วสังคมนั้น ๆ ก็อยู่ไม่ได้ สังคมสงฆ์ที่อยู่มาได้ถึงทุกวันนี้ ก็เพระมีกฎคือพระวินัยเป็นแบบอย่างให้เราถือปฏิบัติสืบต่อกันมา ถึงปัจจุบัน แต่ การปฏิบัติธรรมเพื่อขูดเกลากิเลส หรือเพื่อการมีสติสามธิ ผมว่าไม่จำเป็นต้องบวชหรอกครับ เป็นฆราวาสปฏิบัติบรรลุคุณธรรมสูง ๆ ก็มีเยอะแยะไปครับ
 
ส.สุขสันติ์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.พ.2007, 6:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มีห้อง แช็ท สนทนาธรรม ชื่อ Dhamma_tan มีเพื่อนสหธรรมมิกเยอะ ครับแลกเปลี่ยนแนวทางการปฏิบัติ
สาธุ
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 03 มี.ค.2007, 2:07 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำตัวเป็นเกย์ชดใช้กรรมต่อไปเถอะครับ คุณไม่มีทางได้เห็นธรรมได้ครับ ใช้กรรมต่อไปให้หมดก่อนเพราะจิตคุณก็ไม่ปกติแล้ว บวชไปจิตก็ไม่สงบเพราะมีความเห็นผิดเป็นทุน
 
skunk
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 มี.ค.2007, 1:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลองความคิดนี้ดูนะครับ

อดีต เคยพูดจาไม่ดีไว้ แล้ว วันนี้ ตอนนี้นึกขึ้นได้ว่ามันไม่ดี อยากแก้ไข แต่ทำไม่ได้
แต่วันนี้ พูดจาดีๆ กับตัวเองว่า จะพูดดีๆ ออกไปสัก 3-4 คำ ทำได้แน่นอน

วันนึงมีคนมาพูดจาไม่ดีใส่เรา เราคิดได้ว่า เมื่อวันนั้น เราเคยพูดจาไม่ดี วันนี้รับกรรมไป จบกัน

ผ่านมาหลายวัน กำลังนึกถึงเหตุการณ์ที่โดนคนพูดจาไม่ดีใส่เรา ขึ้นมา แล้วคิดได้ว่า จะคิดไปทำไม

ผมชี้ให้เห็นธรรมชาติ การเกิด ดับของ จิตของคนเรา ปุถุชน คนทั่วไป มักคิดย้อน เวลามีเรื่องไม่ดี
ทั้งที่มันดับไปแล้ว จบไปแล้ว นั่นคือ ความจำในส่วนอดีต แก้ไขไม่ได้

การทำความรู้สึกตัวเสมอ หรือ สติ ไม่สนใจว่า อดีต ทำอะไรมา รู้ลงปัจจุบันลูกเดียว

มันคิด ก็รู้ว่า กำลังคิด ความคิดดับไป ก็รู้ ว่าดับไปแล้ว ความคิดใหม่เกิดขึ้นมาก็รู้ รู้ไม่ทัน ก็รู้ว่ารู้ไม่ทัน

พระพุทธองค์ ไม่ได้ให้เราแก้ไขอดีต แต่ให้เรา ทำเหตุ คือพึงมีสติ ในปัจจุบัน เมื่อ ทำมากเข้า จะรู้ทุกข์ ขึ้นมาเอง เนื่องจาก เห็นสภาวะธรรมเกิด ดับ ตลอดเวลา เห็นว่า ความคิดเกิดขึ้น แล้วก็ดับไป ความจำเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป รู้เท่าที่รู้ได้ รู้ตามหลัง รู้ให้ไวขึ้น

การรู้ที่เรียกว่า สติเกิดเองนั้น ทำให้เกิดไม่ได้ แต่ สติเกิดเพราะจิตนั้นจำสภาวะธรรมได้แม่น

เช่นเรารู้แรกๆ รู้แค่ว่า เราคิดเรื่องอะไร แต่ไม่รู้ว่ากำลังคิด
ตามรู้ไปเรื่อยๆ เริ่มรู้ว่า ความคิดเพิ่งจะดับไป เมื่อสักครู่นี่เอง

ต่อมารู้ทันแล้วว่า ความคิดเก่า ดับไป มีความคิดใหม่เกิดขึ้น เราก็รู้ รู้แค่ว่า มันเกิด แล้วก็ดับไป

ที่มันเกิด เพราะมันมีเหตุ หมดเหตุมันก็ดับไป นี่เป็นปัญญา ที่เกิดขึ้นเมื่อเห็นการเกิดดับ ตามจริง

ทำอย่างนี้ทุกวัน จนบรรลุธรรมตามลำดับ ซึ่งไม่มีเลยที่ว่า เธอเกิดเป็นอย่างนี้ ต้องรอชาติหน้า
มีแต่ว่า รู้ลงปัจจุบัน สติเกิดเอง เห็นสภาวะธรรมเกิดดับ เห็นตามจริง เห็นแล้วว่า มันเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา อย่างนี้ มีปัญญา แล้วรู้ต่อไปให้ตรงตามที่พระพุทธเจ้าบอก คือรู้อริยสัจ
ทุกข์ให้รู้ เหตุแห่งทุกข์ (สมุทัย)ให้ละ นิโรธให้แจ้ง มรรคให้เจริญ ให้ทำเหตุคือ ให้รู้ทุกข์ ละสมุทัย แล้วจะแจ้งนิโรธเอง ไม่ต้องทำ ส่วนมรรค เริ่มจากสัมมาทิฐิ นั้น เมื่อเห็นสภาวะเกิด ดับตามจริงแล้ว ชื่อว่าเห็นถูกต้อง ในขั้นเริ่มต้น แห่งวิปัสสนาญาณ

ลองศีกษาเพิ่มเติมใน www.wimutti.net หรือ www.84000.org
และลอง download วิธีปฏิบัติ ที่หลวงพ่อปราโมทย์ ปราโมชโช แสดง
http://wimutti.net/pramote/ หรืออ.สุรวัฒน์ http://wimutti.net/surawat/
หรืออยากไปลองหัดดูสภาวะธรรม ได้ที่สวนสันติธรรม ตามแผนที่ใน
http://www.wimutti.net/images/suansantidham.jpg

ผมลองฟังแล้วทำตามแล้ว เห็นจริงตามนั้น
 
ก๋องแก๋ง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 09 มี.ค.2007, 4:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เป็นเกย์ก็คนค่ะ
ไหนๆ ก็เป็นเราแล้ว ใช้วิกฤตเป็นโอกาสซะเลย
ก้อฝึกตนเลยค่ะ ถ้าเราเป็นเกย์แต่ปฏิบัติตนเองให้อยู่ในศีลธรมอย่างเคร่งครัด
ถึงจะเป็นเรื่องยาก แต่ถ้าทำได้ก้อคุ้มค่าค่ะ (ทำดีน่ะทำยาก เอาจัยช่วยค่ะ) ยิ้ม
 
ming
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 มี.ค.2007, 10:40 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คนที่ไม่เป็นก็ไม่รู้ว่าเป็นความทุกข์ ทางจิตนั้นมากมายขนาดไหนลองจินตนาการว่าคุณไม่ได้กิน
ข้าวมาทั้งวันแล้วเห็นจานข้าวที่มีกับพร้อม แต่กินไม่ได้คือจิตของคนที่เป็นต้องรับสภาพกับราคะ
ที่เกิดขึ้นในแต่ละครั้ง ที่เจอผู้ชายน่าตาดี อยากแนะนำว่า การปฏิบัติวิปัสสนาคือทางเดียวจะชำระจิตได้แต่จะให้ออกทั้งหมด ต้องมีกำลังใจและการปฏิบัติ ธรรมรู้ได้เฉพาะตน ละก็ได้เฉพาะตน
 
VbVb
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 14 มี.ค.2007, 7:06 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Anonymous พิมพ์ว่า:
ทำตัวเป็นเกย์ชดใช้กรรมต่อไปเถอะครับ คุณไม่มีทางได้เห็นธรรมได้ครับ ใช้กรรมต่อไปให้หมดก่อนเพราะจิตคุณก็ไม่ปกติแล้ว บวชไปจิตก็ไม่สงบเพราะมีความเห็นผิดเป็นทุน


มีตรัสในพระวจนะ หรือพระสูตรไหนครับ ว่าเกย์บรรลุธรรมไม่ได้ ก่อนเขียนพิจารณาด้วยนะครับ ปัจจุบันทางการแพทย์ก็ยอมรับ ว่าไม่ใช่ความผิดปกติ ความเห็นผิดที่ทำให้ไม่เห็นธรรมคืออวิชชาครับ ไม่ใช่แค่เรื่องชายต้องชอบหญิง หรือ หญิงต้องชอบชายครับ โลกุตรอยู่เหนือสมมติชายหญิงครับ ระดับพระอนาคามีก็ตัดเรื่องกามออกไปได้แล้ว

แต่ที่แน่ๆคือมีพระพุทธวจนะรับรองว่า

"ดูกรภิกษุทั้งหลาย หนทางนี้เป็นทางเดียวที่จะทำให้เหล่าสัตว์บริสุทธิ์ได้ ล่วงพ้นความโศกและความรำพันคร่ำครวญได้ ดับทุกข์และโทมนัสได้ บรรลุอริยมรรคเพื่อเห็นแจ้งพระนิพพานได้ หนทางนี้คือสติปัฏฐาน 4 ประการ"

ดังนั้นใครปฏิบัติสติปัฏฐาน 4 ได้ ก็มีสิทธิ์บรรลุธรรมทั้งนั้นแหละครับ
------------------------------------------------------------
ขอให้กำลังใจ จขกท ครับ อย่ากำลังใจตกนะครับ
 
โบว์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 มี.ค.2007, 4:11 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าคุณเป็นเกย์ แต่มีความศรัทธา ไม่คิดหมกมุ่นเรื่องกาม คุณน่าจะบวชได้นะคะ ดีกว่าคนไม่มีศรัทธาบวชเสียผ้าเหลือง ก็ในเมื่อเกิดมาเป็นแบบนี้แล้วคิดในสิ่งดีก็น่าจะทำได้ ไม่งั้นต้องรอถึงเมื่อไร ชาติไหนก็ไม่รู้จริงไหมคะ
 
dogwon
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 เม.ย.2007, 9:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณลองศึกษาคำถามทั้ง 13 ข้อ ก่อนการบวชดูนะครับ ว่าคุณมีคุณสมบัติตรงตามนั้นรึป่าว ถ้าตรงและมีใจคิดอยากจะบวช คุณสามารถบวชได้
 
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67

ตอบตอบเมื่อ: 13 เม.ย.2007, 9:54 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณวิสุทธิ์ครับ ผมเป็นเกย์เหมือนคุณ หลายอย่างก็เคยมีคำถามเหมือนคุณ เคยแม้กระทั่งเข้าใจผิดเรื่องการบวช เพราะไปสับสนกับบัณเฑาะว์ ศาสนาพุทธใจกว้างและให้โอกาสทุกชีวิตครับ เมื่อลองทำดูแล้วจึงรู้ บวชแล้วสงบลงเยอะ ธรรมไม่มีเพศครับ เรื่องความรัก ไม่ผิดศีลครับ รักได้ ผมเชื่อว่าคนเป็นเกย์เป็นกรรมเพราะผิดศีลข้อกาเม สังเกตุจากพฤติกรรมส่วนมากสิครับ ตัวเองด้วย พยายามและให้สัญญากับตนเองว่าจะไม่ยุ่งกับคนมีเจ้าของ อย่าทุกข์ใจเลยครับ ไม่มีใครเลือกเกิดได้ ไม่มีใครอยากผิดเพศครับ ยอมรับ และเรียนรู้ แล้วจะอยู่อย่างมีความสุข
 

_________________
ทำทุกวันให้ดีที่สุด ยึดหลักกตัญญูรู้คุณเป็นคุณธรรมประจำใจ คนมีทั้งดีและไม่ดี ใช้ด้านดีอยู่ร่วมกันอย่างเป็นหนึ่งเดียว ควบคุมด้านไม่ดีอย่าให้มีผลกระทบ พลาดพลั้งไป กลับตัวกลับใจ เพื่อเรียนรู้การให้อภัย เริ่มต้นที่ตนเอง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
นายกสมาคมเกย์(หล่อ)ไทย
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 13 เม.ย. 2007
ตอบ: 11

ตอบตอบเมื่อ: 13 เม.ย.2007, 11:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เกย์เยอะจัง ขำ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67

ตอบตอบเมื่อ: 17 เม.ย.2007, 10:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำตัวตามปกติครับ ผมก็เป็น ยอมรับ เรียนรู้ และอยู่อย่างมีความสุข เกย์ก็รักษาศีล สวดมนต์ เจริญภาวนาได้ครับ เราเป็นมนุษย์ ธรรมไม่มีเพศ ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องสูงกว่าวัตรปฏิบัติขั้นต้นนะครับ สมัยนี้แล้วด้วย ธรรมดาครับ ขออย่าเป็นเกย์ทุศีลก็พอ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
ผู้ยากทางธรรม...เด้อจร้า
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 เม.ย.2007, 11:26 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ ขอแจมด้วยคนเด้อ คั๊บเด้อ......มือใหม่หัดแต่ง อย่าว่ากันนะ สาธุ

เมื่อเกิดกายใจปรุงแต่งแห่งภาวะ
จากผัสสะโถมเปื้อนด้วยตัณหา
จิตสิระ พลันหมอง ลงทันตา
ยังสรรหา ทุกข์โศก วิโยคกาย


หากจิตสม ด้วยกรรม แห่งภพเก่า
มันยั่วเย้าให้เสริม อกุศล
อวิชชาครอบงำ ยิ่งจำดล
เข้ายังหนทางดำกรรมเพิ่มพูน


หากสะสมกุศลกรรมแต่ปางก่อน
จึงได้ย้อนสู่ สัจ-ธรรม แห่งตถา
ปติรูปะเทศ กำเนิดมา
กัลยาณมิตรธรรม จากจำเดิม


เร่งปลดปล่อยกิเลสกามที่สะสม
ล้างจิตจม ตมเน่าก่อนเพิ่มเสริม
สิระจิตสว่างกระจ่างเดิม
ด้วยเร่งเพิ่มทางมรรค จากกามา


นรก สรวง หน่วงภพ ให้เกิดกาย
ต้องเวียนว่าย วัฏฏะจะสรรหา
ตามตกแต่ง รูป จิต เป็นกายา
ให้ต้องทน ทรมา อีกช้านาน


เป็นมนุษย์ ถือประเสริฐ ยิ่งนักแล้ว
ดังได้แก้ว จึ่งต้องเจียรให้ผ่องใส
อย่าได้ถือเพียงก้มหน้ารับกรรมไป
เร่งเสริมใจ สลัดภพ เลี่ยงหลบเวร


มาก้าวสู่ อัฐฐะมรรค ร่วมกันเถิด
อย่าได้เปิดทาง อบาย ต่อเลยหนา
มาช่วยกัน ละเว้น ซึ่งอัตตา
ตามรู้มาซึ่ง จิต ปัจจุบัน


กายาเพียง จตุธาตุ ที่วาดไว้
เวทนาเพียงแต่งใจ ให้ไขว่เขว
จิตเพียงตามเท่าทันที่ปนเป
ธรรมก็เส บุญบาป ให้เฝ้ามอง


กระจ่างแท้ วิปัสสนา เข้าหามรรค
จงตระหนัก สมถะ อย่าให้หมอง
กิริยาทั้งสี่ ยิ่งน่ามอง
อย่าเพียงลอง ด้วยทำ เพียงจำใจ


อย่าให้ทุกข์ โศก เศร้า เร้าให้เดิน
อย่ามัวเพลิน ทางนรก ที่หมกไหม้
อย่างก้มหน้ารับกรรม ทั้งกายใจ
กำหนดไว้ เกิดแล้วดับ นับเวลา


เพียงลมผ่านกายา ตั้งสติ
วิสุทธิกองลม นั่นซิหนา
จึงเริ่มสู่ทาง ทิพย์-พะ กายา
ถึงสัมมา พุทธะ เป็นอารมณ์


จะหญิง ชาย ทอม ดี้ หรือ ตุ๊ดเกย์
จะหักเหเป็น หมู หมา หรือกาไก่
จะทวยเทพ เทวา รักษาไพร
จะหมู่สัตว์น้อยใหญ่ใน สกล


ล้วนบ่มทุกข์ บ่มกรรม ที่ได้สร้าง
สะสมอ้างอิง แนบแอบทุกหน
กรรมใหญ่น้อยจึงบันดาลยังหมู่ชน
อันช่วยดลให้ สุข เศร้า เข้าอบาย


มาถึงซึ่ง ตถาคต กันเถิดหนา
ไว้พึ่งพา พักพิง ท่านทั้งหลาย
ได้สิ้นทุกข์ ไร้โศก วิโยคกาย
ทั้งผ่อนคลายกามภพ จบนิรันดร์


นิวรณ์ธรรม กำหนดต้องปลดปล่อย
จึงต้องค่อยพิจ(ร)ณา อย่างสร้างสรรค์
หาใช่ฟ้ากำหนด ทุกสิ่งอัน
อย่าพึ่งพรรณนาอ้างฟ้าดิน


อุปัตถัมภ์ อุปปีฬ์ อุปฆาต์
ทั้งชนกกรรม นั้นหนาถือเป็นสิน
ล้วนแต่งแต้ม สุข ทุกข์ ทั่วธานินทร์
ฤ จะสิ้นชาติภพ ที่อบอวล


ปหานะปริญญา เพื่อตัดภพ
มาล้างลบ จบสิ้นอย่าให้หวน
การเวียนว่ายในธาร ให้รัญจวน
จึงเชิญชวน ไหว้วอนให้ถอนกัน


สุข ฤ ทุกข์ เพียง “รู้เฉย” เฉลยจิต
วอนมวลมิตร ให้วางอย่างสร้างสรรค์
เกิด “ตัวรู้” กาย ใจ ในฉับพลัน
เพียงเท่านั้น เริ่มต้น จนถึงปลาย


ทัศนญาณเกิด บรรเจิดแพร้ว
ดุจดังแก้วมณี ที่เฉิดฉาย
รัศมีสว่าง ล้วนพร่างพราย
มิคลาดคลาย สุริยา สถาพร


ส่องสว่างกลางจิตที่มิดมัว
สิ้นสลัว เหมือนเช่นในกาลก่อน
ทัสสะบารมีธรรม เข้าทางจร
มิให้ย้อนนอนทับ ดับอเว(จี)


เมื่อรู้แจ้งแทงตลอด ณ จิตนี้
บารมี เกาะเกี่ยว เหนี่ยวหักเห
สั่งสมเพิ่มต่อ ภูมิ หน้าด้วยทุ่มเท
ดุจดั่งเนรมิต สถิตนาน


ขอพระบารมีแห่ง พุทธะ
วอนอรรถถะ ธรรมโม ทุกสถาน
อริยะ สังฆา มาเนินนาน
ดลบัลดาล ให้มิตรธรรม พ้นกรรมเทอญ


**************************************************

ปรบมือ ยิ้ม ยิ้มแก้มปริ ยิ้ม ยิ้มแก้มปริ ยิ้ม ยิ้มแก้มปริ ยิ้ม ยิ้มแก้มปริ ยิ้ม ปรบมือ
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 10 พ.ค.2007, 5:02 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ก่อนอื่นเราต้องขอบอกเลยนะว่า เราดีใจอย่างสุดซึ้งเหลือเกินที่ชาวสีม่วงสนใจศึกษาธรรมะ เพราะเราก็มีเพื่อนคนหนึง ซึ่งเค้าก็เป็นเกย์ ฉันอยากให้เค้าได้รู้จักศึกษาธรรมะมากๆ เลย ฉันพยายามหาโอกาสให้เค้าได้ทำบุญ ว่างๆ เราก็ยกประเด็นสัจธรรมของชีวิตขึ้นมาคุยกัน ฉันรู้สึกว่าเขามีสติปญญญาเข้าอกเข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ดีมาก ฉันอยากให้เขาบวชมากเลย

สำหรับเรื่องแล้วฉันคิดว่าไม่น่าจะเป็นปัญหา ถ้าคุณอยากจะบวช เพราะว่าพระพุทธองค์ก็ไม่ได้ทรงห้ามเกย์ออกบวช เพียงแต่ห้ามกระเทยที่มี 2 เพศในคนคนเดียว

จิตไม่ได้เลือกเพศหรอก คิดดูตัวเป็นหญิงแต่มีเมีย จิตมันเลือกเพศเสียที่ไหน ไม่ว่าจะเป็นชายเป็นหญิงก็สามารถรู้เห็นธรรม ได้เหมือนกันหมดนั่นแหละ

คุณไม่ต้องห่วงหรอกนะว่า คุณรักผู้ชายด้วยกันมันจะทำให้คุณไม่สามารถมีดวงตาเห็นธรรม เพราะอันที่จริง ใครก็มีกิเลสตัวนี้ทั้งแหละ ไม่ว่าจะรักชายหรือหญิง เราหมายถึงจะรักชายหรือหญิงมันไม่ใช่ประเด็น แต่ประเด็นมันอยู่ที่กิเลสความลุ่มหลงนี้ต่างหากล่ะ ถึงต่อให้คนที่เขารักตามครรลองคลองธรรม ชายรักหญิง ถ้าคุณไม่ถอดถอนกิเลสตัวนี้ คุณก็ไม่สามารถบรรลุธรรมขั้นหลุดพ้นได้หรอก ต้องถอดถอนจนจิตไม่มี เพศ สัตว์ บุคคล ตัวตน เราเขาโน่นแหละ

และคุณก็ไม่ต้องห่วงอีกนะแหละว่าถ้าคุณบวชไป แล้วเกิดหลงรักพระภิกษุ เพราะว่าอย่างที่บอกนั่นแหละว่าถ้าคุณมีจิตใจอันตั้งมั่น เด็ดเดี่ยวออกบวชเพื่อจะกำจัดอาสวะกิเลสออกจากใจ และตั้งใจบำเพ็ญเพียร หมั่นพิจารณาอสุภอสุภัง เรื่องแค่นี้คุณก็สามารถผ่านพ้นมันไปได้ อย่าไปหลงกับอารมณ์ เสียงกระซิบที่มารมันบอกคุณว่ารูปนี้ช่างงามแต๊ๆ น่อ นั่นแหละมันเริ่มขึ้นแล้ว ถ้าคุณเชื่อและทำตามมันสั่ง สิ่งที่คุณตั้งไว้มันก็ล้ม

คุณไม่ต้องกลัวหรอกว่าสิ่งนี้มันจะทำให้คุณอยู่ในเพศพรหมจรรย์ไม่ได้เพราะ ในสมัยพุทธกาล พระองค์ก้ยังทรงอนุญาตให้คนบ้ากามบวชได้ เนื่องจากพระองค์เห็นว่า คนเหล่านี้จะได้รู้ว่าความมืดบอด ความสกปรกของจิตใจเป็นอย่างไร จะได้น้อมนำมาสั่งสอนเป็นความเพียร ในที่สุดภิกษุเหล่านี้ก็ได้บรรลุธรรม

เอาหละเราก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณนะ ถ้าคุณมีจิตใจที่มุ่งมั่นในการที่จะปลดเปลื้องสมมติทั้งหลายทั้งปวงออกจากจิตจากใจ เราก็ขอให้คุณจงยึดมันไว้ และจงดำเนินรอยตามความตั้งใจของคุณเถิด ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ nothing is impossible ยิ้ม ยิ้ม ผีเสื้อ
 
เหล่ากอสมณะ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 12 พ.ค.2007, 5:32 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ต้องถามพี่ก่อนว่าพี่อากเป็นอย่างนี้ทุกภพทุกชาติชาติหรือเปล่า???
ถ้าอยากก็ปล่อยไปตามกิเลสตามสิ่งที่ยั่วย้อมมอมเมาจิตใจ
ถ้าไม่ก็บังคับใจตัวเอง สัญญากับตัวเองว่าจะให้ชาตินี้ เป็นชาติสุดท้ายสำหรับการเป็นอย่างนี้
รักษาศีลข้อ 3 ให้ดี ให้ได้ เพราะว่าถ้าเราละเมิดมันก็เหมือนกับการเติมเชื้อเพลิงให้มีแรงส่งผลให้เราเป็นอยากนี้ไปเรื่อยๆ ตรงกันข้ามถ้าเราหยุดมัน เชื้อเพลิงมันก็จะค่อยๆ แห้งไป จนหมดในที่สุด เราก็จะไม่เป็นอย่างนี้อีก
ป.ล. ขอให้ศีลที่ท่านรักษาแล้ว ความดีที่ตั้งใจทำโดยเจตนาที่บริสุทธิ์แล้ว จงคุ้มครองรักษาท่าน ลอดไป
 
ชินภพ พิมพะกร
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 17 ธ.ค. 2006
ตอบ: 67

ตอบตอบเมื่อ: 19 พ.ค.2007, 1:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำตัวตามปกติครับ ไม่มีใครเลือกเกิดได้ ทุกคนมีกรรมเป็นแดนเกิด เกิดมาก็เพื่อเสวยวิบากแห่งกรรม สร้างกรรมใหม่ หมายถึงกุศลกรรมอันดีเพื่อตัดรอนอกุศล ให้ส่งผลแต่น้อย ทุกข์อันใดที่เกิดก็จะบรรเทาเบาบางลง ให้รู้โดยนิสัย ว่าเคยทำผิดอะไรมา ถามจากตัวเอง ก็แน่ใจว่าเป็นกาเมฯครับ ดูจากอุปนิสัยในชาตินี้ ก็จะบอกได้ รักแล้วมักทุกข์ เพราะเป็นความรักต้องห้าม ถึงแม้จะนิยมกันว่าเป็นเรื่องปกติและได้รับการยอมรับแล้วในทุกวันนี้ ก็เชื่อแน่ว่าไม่มีใครอยากเป็น เป็นแล้วก็ทำให้ดี หมายถึงเป็นคนดี มีศีล มีสัตย์ ใคร ๆ ก็รักคนดีครับ เทวดาก็รัก พระก็รักครับ รักโลกุตตระ ตัดโลกียะ เป็นที่สรรเสริญ ประเสริฐยิ่งนักครับ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
rain
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 20 พ.ค.2007, 12:13 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

***** ไม่ว่า คุณ จะเป็นใคร
***** ไม่ว่า คุณ จะมาจากไหน
***** ไม่ว่า คุณ จะมีเชื้อชาติอะไร
***** ไม่ว่า คุณ จะมีพฤติกรรมอย่างไร
***** ไม่ว่า คุณ จะมีนิสัยแบบไหน
***** และ ไม่ว่า คุณ จะเป็นชาย หรือ หญิง หรือ เพศที่สาม
***** สิ่งหนึ่งที่ คุณ มีคือ ความเป็น มนุษย์ มี ปัญญา ความคิด
***** มนุษย์ ... ผู้มีใจสูง ปัญญา...ฝักใฝ่ในสิ่งดีงาม
***** สองสิ่งนี้ ก็เพียงพอแล้ว ที่ คุณ ควรจะรักษาไว้
***** รักษาใจ ให้คงที่ เป็นตัวของตัวเอง ทำแต่ความดี
***** ต้องรู้ว่า สิ่งที่สังคมบัญญัติ เรียกขาน ล้วนเป็น สิ่งสมมติ
***** การปฏิบัติธรรม จะทำให้ คุณ รู้จัก วิมุตติ
***** บางทีต้อง ยอมขัดใจ บุพพการี เพื่อ แสวงหา วิมุตติ
***** เมื่อสัมผัสกับ วิมุตติ แล้ว นับว่าเป็นการตอบแทน บุพพการี ยิ่งสิ่งใด

ดวงตาเห็นธรรม จงมีแด่คุณ
ผู้มาเยือน
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 21 พ.ค.2007, 2:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

รักมากก็ทุกข์มาก รักน้อยก็ทุกข์น้อย ไม่รักก็ไม่ทุกข์
 
ณภัทร สุวิพร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 08 มิ.ย.2007, 6:44 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แค่อยากแสดงความคิดเห็นให้กับเพื่อนๆ ได้ทราบทั่วกัน คนที่เกิดเป็นเกย์หรือกระเทยนั้นเป็นวิบากกรรมของศีลข้อกาเมครับ ชาติก่อนที่จะได้ลงนรกได้ผิดศิลข้อกาเมแล้วจึงได้ไปเกิดในนรกหลังจากใช้กรรมในนรกเรียบร้อยแล้ว ด้วยอำนาจของเศษกรรมที่ยังเหลือส่งผลให้เมื่อเกิดมาเป็นมนุษย์แล้วจึงได้เป็นเกย์หรือพวกผิดเพศครับ(ไม่ได้ว่าใครครับ คำว่าผิดเพศในความหมายของผมก็คือคนที่เกิดมาไม่สมบูรณ์ด้วยจิต เพราะจิตเป็นตัวกำหนดกรรมหรือการกระทำของแต่ละคน ให้หักเหไปในสู่บ่วงของกรรมที่เราได้สร้างเอาไว้)แต่ไม่ได้หมายความว่าเมื่อเราเป็นอะไรๆ เพราะว่ากรรมเก่าทั้งหมด กรรมเก่าเป็นแค่ตัวกำหนดว่าเราจะต้องเจออะไร เราเองครับเป็นผู้กำหนดกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา ฉะนั้นก็อยู่ที่ตัวของคุณแล้วว่าจะเลือกเดินไปทางไหน สาธุ
 
ศีล8
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 มิ.ย.2007, 4:12 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทุกอย่างอยู่ ที่ใจ ใจเป็นใหญ่ที่สุด
พยายามตั้งสติให้ ดี ว่า เรามีกาย เป็น เพศใด
ถือ ศีล 5 ให้ เคร่งครัด ตลอด เดือนนี้ ก่อน เริ่ม 18/6/2550
สำคัญ สุด
1.ห้าม ดื่ม เหล้า
2. การ พนัน ห้าม หมด หวย เหย ห้าม ทุก กรณี
3. ห้ามฆ่า สัตว์ ทุก ชนิด ห้าม กิน เนื้อ สัตว์ ด้วย ห้าม
4. ห้าม โกหก
( อย่า หาว่า ห้าม มาก นะ ถ้า คิด จะเอาดีให้ ได้ ต้อง ทน ทน ทน สุดดด)
วันพระ ถือ ศีล 8 เอาให้จริง จัง ทำจริง ต้องเจอ ของจริง
คุณ ลองทำ ทั้งหมด ให้ ได้ ก่อน แล้ว เรามาคุย กัน อีก ที
เราเป็น กำลังใจ ให้ นะ
มี ญาติ 1 คน เป็น แอบแบบนี้ ( ขอโทษ ที่ใช้ คำ นี้ )
...
ตอนนี้ 50 กว่าแล้ว มี ลูก ชาย 1 คน ชีวิต ก็ ไม่ มี อะไร เงินที่หาได้ ไปลง กับ พวก ไม่ดี ทั้งหมด เรา ไม่ อยาก ให้ ใคร ใคร เป็น แบบนี้ อีก
เราบริจาคเลือด มา 11 ครั้ง ขอบุญนี้ ถึง ทุก คน ที่ มี ทุกข์
...
เราไป ถือ อุโบสถศีล ที่ วักป่า มา
ขอให้ ทุกคน ใน เวป นี้ มี ความสุข คิด สิ่งใด ได้ สิ่งนั้น เถิด
...เข้า มา คุย นะ คอย อยู่
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง