Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
มุทิตา...โลกุตระฌาน โลกียฌาน (หลวงปู่หลวง กตปุญโญ)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ผู้ตั้ง
ข้อความ
วีรยุทธ
บัวทอง
เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร
ตอบเมื่อ: 26 มี.ค.2007, 12:50 pm
มุทิตา...โลกุตระฌาน โลกียฌาน
โดย หลวงปู่หลวง กตปุญโญ
วัดป่าสำราญนิวาส
ต.ศาลา อ.เกาะคา จ.ลำปาง
หลวงปู่ :
มุทิตา ตัวนี้กว้างขวาง หมายถึงว่าความยินดี เรายินดีในการทำคุณงามความดีก็เป็นมุทิตา ถ้าให้ของผู้ที่มีคุณ ก็เป็นมุทิตาสักการะ เช่นให้ครูบาอาจารย์ ให้บิดามารดา เราจะให้อะไรก็ตาม ที่ให้นี่คือมุทิตาสักการะ
มุทิตาจิตคือความยินดี เขาทำดีก็ยินดี ไม่อิจฉา ส่วนมากคนมันไม่มีมุทิตา อิจฉาแล้วบัดนี้ เห็นเขาได้ดีก็อิจฉา แกล้งเขา นั่นคือคนไม่มีมุทิตา ขาดมุทิตาจิต แกล้งกัน เหมือนโลกที่เขาแก่งแย่งกันก็เพราะขาดมุทิตาจิตนี่แหละ กว้างขวางเหมือนกัน มุทิตาคือ ความโลภ เห็นคนอื่นได้ดี อยู่ไม่ได้ อิจฉาเขา แปลว่า ขาดมุทิตาจิต
ศิษย์ :
หลวงปู่ครับ แสดงว่าคนเราต้องทำจิตให้เข้าถึงความสงบก่อนนะครับ เป็นเมตตา แล้วจิตมันถึงจะเข้ากระแสของธรรม
หลวงปู่ :
เออ แน่นอนล่ะ ถ้าไม่สงบก็เข้าไม่ถึงธรรม บ่รู้ธรรมหรอก ถ้าไม่สงบก็ไม่เห็นธรรม ไม่รู้ธรรม
ศิษย์ :
ที่เราเจริญสมถะ ก็เพื่อเข้าถึงผู้รู้ ความสงบนั่นเองใช่ไหมขอรับ
หลวงปู่ :
ก็นั่นแหละความสงบ ท่านเปรียบอย่างนี้
สงบเปรียบเหมือนน้ำนิ่ง น้ำอยู่ในอ่าง มันนิ่ง น้ำนิ่ง มันเห็นเจ้าของหมด มองเห็นคนอื่นผ่านมาก็มองเห็น ตลอดที่สุดนกบินท้องฟ้าก็เห็น เห็นหมดเปรียบเทียบเหมือนน้ำนิ่ง ไม่กระเพื่อมฉะนั้น จิตที่มีความสงบนิ่ง จะรู้ รู้ ใครจะคิดดี คิดร้าย มาหาเราก็รู้ มุทิตาตัวนี้เป็นองค์ฌาน ผู้ที่ได้พรหมวิหารแท้ๆ คือได้ฌานนั่นเอง
ศิษย์ :
หลวงปู่ครับ ฌานในทางโลกนี่มันยังมีทางเสื่อมได้ใช่ไหมครับ
หลวงปู่ :
เออ ฌานโลกีย์ร้อยเปอร์เซ็นต์นั่นแหละ
ศิษย์ :
หลวงปู่ครับ แล้วจิตของปุถุชนที่ปรารถนาจะดำเนินจิตเข้าสู่มรรคานะขอรับ ต้องเจริญฌานประเภทใดขอรับ
หลวงปู่ :
ถือว่าฌานโลกีย์ไม่เอา เอาฌานโลกุตระ บำเพ็ญฌานโลกุตระ คือว่าไม่ติด เมื่อเห็นสิ่งต่างๆ อะไร รูปต่างๆ ก็ไม่ติด ไม่เอา ละหมด
ศิษย์ :
คือเห็น สักแต่ว่าเป็นอารมณ์เกิดดับใช่ไหมครับขอรับ ปล่อยนะขอรับ
หลวงปู่ :
ปล่อย...คือรู้ว่าอันนั้นไม่เที่ยง เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่เที่ยง เป็นอารมณ์ ไม่ยึดถึอ ละ พิจารณา ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา
ศิษย์ :
อย่างที่เราเจริญสตินะครับหลวงปู่ เมื่อจิตสัมผัสกับอารมณ์ เกิดดับ เราก็รู้กับมันแล้วก็ทิ้งมันไป ด้วยความเข้าใจใช่ไหมครับ
หลวงปู่ :
สติรู้...ระลึกขึ้นมา...รู้...รู้แล้วก็ปล่อยวาง ระลึกขึ้นมาได้ แต่มันจะรู้ได้เพราะสติ ไม่มีสติก็ไม่รู้อีกล่ะ
ศิษย์ :
บางทีอาจจะเกิดเหตุการณ์ไปปรุงแต่งพอสติรู้ทันมันก็ดับ
หลวงปู่ :
คือว่า พอสติรู้ขึ้นมา ตัวสัมปชัญญะ ตัวรู้นั่นแหละเป็นตัวดับ ท่านว่าอย่างนี้น่ะ เป็นหลักมันน่ะ จะรู้ได้เพราะสติ จะละได้เพราะปัญญา ถ้าไม่มีสติ ก็รู้ไม่ได้ รู้แต่ว่าละไม่ได้ รู้เฉยๆ รู้แล้วก็ยึดถือ บ่มีปัญญา รู้ก็หลงตัวรู้นี่อีกล่ะ ฉะนั้นท่านให้ ละ ตัวรู้ ตัวนั้นอีก
ครั้งพระพุทธเจ้าทรงพระชนม์ มีชีวิตอยู่ ลูกศิษย์ของพระองค์ นั่นน่ะจะไปเจริญฌานโลกีย์นี่ไม่ได้ พระองค์ด่าให้เลย ท่านรู้แล้วห้าม ไม่ให้เล่น ไม่ให้ทำเพราะมันไม่พ้นทุกข์
ศิษย์ :
หลวงปู่ขอรับ ฌานโลกีย์ อุปมาเปรียบเหมือนเราส่งพลังงาน แล้วฉายมันออกไปข้างนอกใช่ไหมครับ มันจึงไปติด ไปยึด แต่ถ้าเป็นฌานโลกุตระนี่ คือชี้เข้ามาในใจของเรา แล้วก็เห็นว่าอะไรที่มันเกิดดับ เป็นของไม่เที่ยง ไม่ควรยึด มั่นถือมั่น เป็นตัวเป็นตน คือให้พิจารณาอย่างนี้อยู่เนื่องๆ ใช่ไหมขอรับ
หลวงปู่ :
รู้แล้วก็วาง
_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
วีรยุทธ
บัวทอง
เข้าร่วม: 24 มิ.ย. 2005
ตอบ: 1790
ที่อยู่ (จังหวัด): สกลนคร
ตอบเมื่อ: 26 มี.ค.2007, 12:54 pm
ภาพ พระครูการุณยธรรมนิวาส (หลวงปู่หลวง กตปุญฺโญ) ศิษย์หลวงปู่มั่น
วัดป่าสำราญนิวาส ต.ศาลา อ.เกาะคา จ.ลำปาง
โทร. ๐-๙๘๑๖-๔๓๔๓ ( อ.ยุวดี ชาติไทย)
------------------------------------------------
_________________
ท่านสามารถฟังวิทยุเสียงธรรมหลวงตามหาบัวได้ทั่วประเทศ
และโทรทัศน์ดาวเทียมเสียงธรรมทั้งภาพและเสียงได้แล้วที่
http://www.luangta.com
I am
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972
ตอบเมื่อ: 26 มี.ค.2007, 12:56 pm
สาธุครับ...โมทนาด้วยนะครับ คุณวีรยุทธ
_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
บทความธรรมะ
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th