Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ไม่หมั่นเจริญสมาธิภาวนา...สมาธิท่านก็หมดไปเอง (หลวงพ่อจรัญ) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 15 มี.ค.2007, 4:11 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ถ้าท่านตั้งใจอย่างนี้ “เจริญสมาธิภาวนา”
วงจรกระแสไฟฟ้าท่านก็จะเข้าสู่ล็อค
ท่านจะเก็บไฟในหม้อแบตเตอรี่ไว้ได้
รักษาหม้อแบตเตอรี่ไว้ดีด้วย หมั่นเติมน้ำกลั่นรถท่าน
ท่านมีรถหรือขายรถก็ตามต้องรักษารถ
เอารถมาจอดทิ้งไว้ไม่ใช้ จะสตาร์ทไม่ติด
รับรองรถท่านเสียแน่ นี่ยกตัวอย่างให้เห็น

เหมือนเรามีสมาธิไม่หมั่นทำ ไม่หมั่นเจริญสมาธิ
สมาธิท่านก็หมดไปเอง
รับรองสมาธิท่านก็ต้องเสื่อมไปตามสภาพ
ไม่ใช่ว่าเรามานั่งกรรมฐานแล้วกลับไปเลิกเลย
ไม่เจริญสมาธิภาวนา สมาธิยิ่งทำดียิ่งมีปัญญา
สามารถจะแก้ไขปัญหาได้


ขอฝากท่านสาธุชนไว้ กระแสไฟมันหมดง่ายเหลือเกิน
จิตมันตก ไปเชื่อคนโน้นคนนี้
อย่าไปเชื่องมงาย อย่าไปเชื่อหมอดู
เราก็เหมือนหม้อแบตเตอรี่หมดไฟ
ระวังนะ หม้อแบตเตอรี่หมดไฟนี้จะไปไม่รอด
จะไม่ปลอดภัย จะมีแต่เสนียดจัญไร
จิตใจก็ตก จิตใจก็ไม่สบาย ทำอะไรไม่ได้
มันเป็นเสนียด มันไม่มีปัญญา ไม่รอบรู้ในกองการสังขาร
คิดแล้วคิดเล่าเฝ้าแต่คิด
เราจะไม่สามารถประดิษฐ์สร้างสรรค์สิ่งใดได้

“การเจริญกรรมฐาน” เป็นการรวบรวมจิตตั้งสติปัญญา
เจริญสติปัฏฐาน ๔ กายานุปัสสนา ตัวนี้
ท่านจะเดิน จะยืน นั่ง นอน เหลียวซ้ายแลขวา
เอาสติจับเข้าไป ตั้งเข้าไว้ตลอดเหมือนเติมน้ำกลั่น
น้ำกลั่นอย่าให้แห้งเหมือนจิตใจ
ท่านจะไม่แล้งน้ำใจ ก็จะมีแต่อัธยาศัย
มีแต่น้ำใจโอบอ้อมอารีเป็นต้น นี่แหละกระแสไฟ
มันมีแสงสว่างเท่าไรเกิดเมตตามากเท่านั้น
ถ้าท่านมืดท่านจะมีแต่อกุศล จะไม่ได้ผลงานแต่ประการใด
เมตตาจะไม่มีกับคนที่ไร้สาระ คือ ขาดกระแสไฟ
คนที่ไม่มีกระแสไฟน่ะคนโง่ คนโมหะมันต้องคลำไป
มองไม่เห็นของจริง มองไม่เห็นของที่เป็นประโยชน์แก่ชีวิต
แก่ครอบครัวแต่ประการใดเลย
กลายเป็นคนไร้สาระ ไม่มีสติปัญญาแต่ประการใด

การที่มีกระแสไฟทำให้เกิดแสงสว่าง บัดนี้ทำให้มันมืดแล้ว
เราก็ใช้กระแสไฟฟ้า ท่านมีรถแต่ขาดไฟ หน้ารถก็ไม่มีไฟ
ท้ายรถก็ไม่มี แล้วท่านจะวิ่งไปได้หรือ วิ่งไปไม่ได้หรอก
เหมือนตัวเราก็เช่นเดียวกัน ขาดแสงสว่าง ก็คือ “ขาดปัญญา”
คนเราขาดปัญญาแล้วจิตมันตก ไม่มีโอกาสตะเกียกตะกาย
ขยันหมั่นเพียรได้ คนที่ขาดแสงสว่างขาดปัญญา
ส่วนมากจะขี้เกียจ ไม่อยากจะเอางานเอาการ
ไม่อยากจะรับผิดชอบแต่ประการใด ขอฝากไว้อย่างนี้เป็นต้น


ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้


http://www.jarun.org
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
I am
บัวบานเต็มที่
บัวบานเต็มที่


เข้าร่วม: 25 ต.ค. 2006
ตอบ: 972

ตอบตอบเมื่อ: 19 มี.ค.2007, 9:16 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุครับ.. สาธุ
ธรรมสวัสดีครับ คุณลูกโป่ง
 

_________________
ทุกข์ใดดับได้ด้วยปัญญา ทุกข์นั้นจะไม่เกิดอีก
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 22 พ.ค.2012, 9:46 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง