Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 เห็นทันตา (จินตนาวดี) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
๛ สายลม ๛
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 ก.ค.2004, 4:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

เห็นทันตา
โดย...จินตนาวดี


จากหนังสือ “กรรมกำหนด” เล่ม ๓


ถ้าเอ่ยชื่อ พลโทยุทธชัยฯ ชาวบ้านในแถบตำบลคลองบางหลวง ต่างรู้จักชื่อเสียงของท่านเป็นอย่างดี เพราะนอกจากท่านจะมั่งคั่งร่ำรวยแล้ว ยังเปี่ยมล้นด้วยคุณธรรมความเมตตากรุณาอีกด้วย ดังนั้น ท่านนายพลจึงเป็นที่รักใคร่เคารพยำเกรงของผู้คนในตำบลนี้โดยทั่วไป

ที่พำนักของท่านนายพลเป็นตึกทันสมัย มีอาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล บ่งบอกถึงสภาพฐานะผู้มีอันจะกินอย่างแท้จริง ท่านนายพลอาจจะเป็นคนอาภัพอยู่บ้าง ที่คุณหญิงยุทธชัยฯ ศรีภรรยาของท่านได้ถึงแก่กรรมจากไปตั้งแต่ธิดาสาว ซึ่งมีอยู่เพียงคนเดียวยังไร้เดียงสาอยู่ และบัดนี้ธิดาสาวของท่านมีอายุได้ ๑๓ ปีแล้ว

สุมาลย์ คือ ชื่อธิดาสาวของท่านนายพล แต่คนในบ้านไม่มีใครเรียกชื่อจริง ต่างเรียกเธอว่า “คุณแต๋ว” ด้วยกันทั้งนั้น คุณแต๋วเป็นขวัญใจ และเป็นที่รักใคร่ของคนในบ้านทุกคน เพราะเธอมีอุปนิสัยใจคอเหมือนผู้เป็นบิดาทุกกระเบียดนิ้ว

บุคคลที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในเรื่องที่จะนำมาเล่าสู่กันฟังนี้ คือ น้องสาวของท่านนายพลเอง คุณนายลำดวน คือ ชื่อของหญิงผู้นี้ นางมีอุปนิสัยใจคอตรงข้ามกับพี่ชายอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ คุณนายลำดวนเป็นคนเจัายศเจัาอย่างถือเนื้อถือตัว ดูถูกเหยียดหยามคนจน ปราศจากคุณธรรมความเมตตากรุณา มีจิตใจเหี้ยมโหดดุร้าย อิจฉาริษยา ไม่ต้องการเห็นใครได้ดีหรือใครดีเหนือกว่าตน

คุณนายลำดวนมีลูกติดจากสามีเก่าที่เลิกร้างกันไป ๒ คน คนโตเป็นชายชื่อ อิทธิพล คนเล็กเป็นหญิงชื่อ พนิดา ทั้งสองได้ถ่ายทอดนิสัยไม่ดีไม่งามจากผู้เป็นแม่ ซึ่งได้เสี้ยมสอนให้เหมือนหล่อหลอมออกจากเบ้าหลอมเดียวกัน

ดังนั้น จึงไม่ต้องพูดก็ได้ว่า ทั้งคุณนายลำดวนและบุตรชายหญิงของนางทั้งสองคน จะไม่เป็นที่เกลียดชังของคนใช้ภายในบ้านแทบทุกคน แต่ทุกคนก็ไม่กล้าแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง เพราะอย่างน้อยคุณนายลำดวนก็เป็นน้องสาวแท้ๆ ของท่านนายพล ซึ่งเปรียบเสมือนประดุจร่มโพธิ์ร่มไทรของพวกเขา ก็ได้แต่หันหน้าเข้าซุบซิบนินทากันเงียบๆ เท่านั้น

ในบรรดาคนใช้ทั้งหมดมีแม่ลูกคู่หนึ่งซึ่งเป็นคนใช้เก่าแก่ของท่านนายพล และท่านนายพลก็มีความรักใคร่เมตตากรุณาต่อสองแม่ลูกคู่นี้มาก เพราะทั้งแม่และลูกมีความซื่อสัตย์ จงรักภักดีต่อท่านนายพลเป็นที่สุด นอกจากนี้ยังมีความขยันขันแข็งในกิจการต่างๆ ภายในบ้านเป็นอย่างดีด้วย

ดังนั้น สองแม่ลูกคู่นี้จึงเป็นที่โปรดปรานของท่านนายพลยิ่งนัก “แพรว” คือชื่อของหญิงผู้เป็นแม่ ส่วนบุตรชายของนางชื่อ “พร” อายุได้ ๑๓ ปี เท่ากับสุมาลย์ธิดาสาวของท่านนายพล

เพราะความเมตตากรุณาของท่านนายพลที่มีต่อแม่ลูกคู่นี้ ท่านนายพลจึงส่งเสียให้พรได้รับการศึกษาเล่าเรียนในสำนักศึกษาที่ดี ขณะนี้พรกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.๒ ชั้นเดียวกับสุมาลย์ ส่วนอิทธพลและพนิดา บุตรชายหญิงของคุณนายลำดวนนั้นไม่เอาใจใส่ในการเล่าเรียน จึงเรียนต่ำกว่าพรถึง ๒ ชั้น ทั้งๆ ที่อิทธิพลก็มีอายุไล่เรี่ยกับพร

การที่ท่านนายพลส่งเสียให้พรได้รับการศึกษาอย่างดี เกินหน้าบุตรชายหญิงของคุณนายลำดวน ทั้งๆ ที่พรเป็นเพียงลูกคนใช้เท่านั้น ทำให้คุณนายลำดวนเกลียดชังและไม่พอใจพรอย่างยิ่ง ทั้งนี้ก็เนื่องจากความอิจฉาริษยา ไม่อยากเห็นลูกคนใช้ได้ดีไปกว่าลูกของตนนั่นเอง นางได้พยายามกลั่นแกล้งใช้งานสองแม่ลูกคู่นี้อย่างหนัก เพราะความเกลียดชังและอิจฉาริษยา แต่สองแม่ลูกก็พยายามอดทนไม่ปริปากแต่อย่างใด เพราะต่างสำนึกถึงความยากจนของตนดี และอย่างน้อยคุณนายลำดวนก็เป็นน้องสาวของท่านนายพล ซึ่งเป็นผู้มีพระคุณต่อตน ดังนั้น ทั้งแม่และลูกจึงต้องกล้ำกลืนความขมขื่น ยอมทนเหนื่อยยากต่อการแกล้งใช้งานของคุณนายลำดวนตลอดมา

ครั้งหนึ่ง อิทธิพลบุตรชายของคุณนายลำดวนได้พาเพื่อนๆ นักเรียนมาเที่ยวที่บ้าน อิทธิพลต้องการจะโอ้อวดเพื่อนๆ ให้รู้ว่า ตนนั้นยิ่งใหญ่แค่ไหน ก็ใช้ให้พรไปนำเครื่องดื่มมาเลี้ยงเพื่อนๆ แต่พรปฏิเสธ ถือว่าไม่ใช่หน้าที่ของตน การปฏิเสธของพร ทำให้อิทธิพลโกรธมาก อิทธิพลปรี่เข้าตบหน้าพรฉาดใหญ่ แต่พรก็ไม่ได้โต้ตอบอะไร เพราะสำนึกในสภาพชีวิตของตัวดี

การไม่โต้ตอบของพรทำให้อิทธิพลได้ใจ ก็สะอึกเข้าใส่และตบซ้ำอีกครั้ง เมื่อถูกตบติดต่อกันถึงสองครั้งพรก็ทนไม่ได้ เขาจึงต่อยอิทธิพลเต็มแรง ทำให้ผู้ถูกต่อยถึงกับล้มคว่ำลง เพราะความแรงของน้ำหนักหมัด และผลของมันก็คือ อิทธพลถึงกับปากแตกเลือดกำเดาไหล แทนที่อิทธิพลจะลุกขึ้นมาสู้ เพื่อเรียกเอาสิ่งที่เสียไปกลับคืนมาก็หาไม่ เขากลับวิ่งแจ้นไปฟ้องคุณนายลำดวนผู้เป็นแม่

พอคุณนายลำดวนได้ทราบเรื่องที่บุตรชายเสกสรรปั้นแต่งขึ้น และได้เห็นลูกชายปากแตกเลือดกำเดาไหลเช่นนั้น ก็เป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมาทันที

คุณนายลำดวนได้ให้คนใช้ไปตามพรขึ้นมาพบบนตึก และใช้กิ่งยี่โถขนาดเขื่องเฆี่ยนตีอย่างทารุณ จนพรถึงกับแตกยับไปทั้งตัว ซ้ำยังกำชับไม่ให้เขานำเรื่องนี้ไปฟ้องท่านนายพล ซึ่งขณะนี้บังเอิญไม่ได้อยู่บ้าน เพราะออกไปกิจธุระภายนอก

เมื่อแพรวผู้เป็นแม่ของพรได้เห็นบุตรชายกลับลงมาจากตึกอย่างบอบช้ำ เลือดเปรอะไปทั้งตัวเช่นนั้น ก็ถึงกับร้องไห้เพราะความสงสารลูก แต่ก็ไม่มีทางตอบโต้พฤติกรรมอันเหี้ยมโหดดุร้ายของคุณนายลำดวนได้

ความทมิฬหินชาติของคุณนายลำดวนหาได้หยุดยั้งลงแต่เพียงเท่านี้ไม่ เพราะจิตใจที่เต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาอาฆาตไม่อยากเห็นใครได้ดี ไม่อยากให้พรซึ่งอยู่ในฐานะลูกคนใช้ได้รับการศึกษาเล่าเรียนสูงกว่าลูกของตัวเอง หญิงใจร้ายผู้นี้จึงวางแผนที่จะหาทางกำจัดสองแม่ลูกคู่นี้ให้ออกไปจากบ้านให้ได้

และแล้วแผนการอันชั่วช้าของหญิงผู้ปราศจากคุณธรรมผู้นี้จึงเริ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง หลังจากเหตุการณ์อันเหี้ยมโหดทารุณได้ผ่านพ้นไปไม่นานเท่าใดนัก

ในเช้าวันต่อมา แพรวถูกคุณนายลำดวนเรียกขึ้นไปพบบนตึกและบอกว่า “ฉันอยากจะวานแม่แพรวให้ช่วยไปรับเงินที่ธนาคารให้หน่อย” พลางก็ส่งเช็คเงินสดใบหนึ่งให้ “แม่แพรวเอาเช็คใบนี้ไปเบิกเงินสดให้ฉันด้วย ฉันไม่มีเงินจะใช้เลย”

แพรวใจคอไม่เป็นปกติขึ้นมาทันที เพราะกลัวจะถูกอีกฝ่ายกลั่นแกล้งก็ปฏิเสธว่า “แพรวไม่เคยไปรับเงินที่ธนาคารเลยค่ะ แพรวโง่มากสำหรับเรื่องนี้ ท่านโปรดใช้คนอื่นเถอะค่ะ”

คุณนายลำดวนแค่นหัวเราะ “โธ่เอ๊ย แม่แพรวไม่ต้องไปเกรงกลัวอะไรเขาหรอกน่า มันไม่ยากเย็นอะไรเลยนี่นา แม่แพรวเอาเช็คใบนี้ไปให้เขา แล้วยืนคอยเขาสักครู่ เขาก็จ่ายเงินสดให้มา”

“เงินเท่าไหร่เจ้าคะ”

“สามพันบาทเท่านั้นเอง ไม่มากมายอะไรหรอก แม่แพรวช่วยสงเคราะห์ทีเถิด ฉันเชื่อว่าแม่แพรวคงช่วยได้ คนอื่นฉันก็มองไม่เห็นใคร”

แพรวอิดเอื้อนอยู่ครู่ใหญ่อย่างสองจิตสองใจ เพราะแม้จะเป็นเงินเพียงสามพันบาท แต่สำหรับผู้ที่มีฐานะอย่างนางก็ไม่ใช่จำนวนเล็กน้อยนัก คุณนายลำดวนพอจะเดาใจได้ก็คะยั้นคะยอขึ้นอีก

“ช่วยสงเคราะห์หน่อยนะแม่แพรว วันนี้ตอนเย็นๆ จะมีคนมาเก็บเงินซะด้วย ถ้าฉันไม่มีให้เขาละก็อายเขาตาย” พลางก็ยัดเยียดเช็คใบนั้นให้พร้อมด้วยค่ารถ แพรวไม่อาจจะขัดได้ ก็จำต้องฝืนใจรับเช็คใบนั้นมา

ขณะเดินออกมาจากห้องของคุณนายลำดวนจะก้าวลงมาจากตึก ก็มีสาวใช้ผู้หวังดีต่อแพรวคนหนึ่งชื่อ ถวิล กระซิบถามว่า “เขาใช้อะไรหรือ พี่แพรว”

แพรวส่งเช็คให้ถวิลดูและบอกว่า “แกให้พี่เอาเช็คใบนี้ไปเบิกเงินสดที่ธนาคาร”

อีกฝ่ายส่ายหน้าไปมา “โธ่ พี่แพรวไปรับของแกมาทำไมนะ เดี๋ยวก็เคราะห์ร้ายอีกละ พี่ก็รู้นิสัยของแกดีอยู่แล้วว่าเป็นคนยังไง”

แพรวฝืนยิ้ม ไม่มีลักษณะประหวั่นพรั่นพรึงแต่อย่างใด “ไม่ต้องวิตกหรอกหวิน พี่เชื่อว่าความไม่ประมาทของพี่คงจะช่วยตัวเองได้”

“ระวังให้ดีนะพี่” ถวิลเตือนด้วยความเป็นห่วง แพรวกล่าวคำขอบใจสาวใช้เบาๆ พลางรีบสาวเท้าออกจากบ้านไปโดยเร็ว

เมื่อมาถึงธนาคารดังกล่าว แพรวรู้สึกตื่นเต้นและประหม่าอย่างบอกไม่ถูก ขณะที่มองเห็นผู้คนในธนาคารเป็นจำนวนมาก แต่ก็พยายามระงับใจให้เป็นปกติ ค่อยๆ จรดฝีเท้าก้าวเข้าไป เมื่อเข้ามาในธนาคารแล้ว ก็หยิบเช็คเงินสดใบนั้นออกมาตรวจพิจารณาดูอีกครั้ง ในเช็คบอกจำนวนเงินสามพันบาทไว้อย่างชัดเจน

แพรวไม่โง่เกินไปนักที่จู่ๆ จะตรงเข้าไปรับเงินทันที นางกวาดสายตามองดูพนักงานของธนาคารซึ่งเดินขวักไขว่ไปมาอย่างสนใจ ในขณะเดียวกันนี้ ปรากฏว่ามีพนักงานคนหนึ่งเดินออกมาภายนอก แพรวจึงตรงเข้าไปหาทันที

“คุณคะ กรุณาช่วยดูเช็คใบนี้หน่อยเถอะค่ะ เอ้อ...ไม่ทราบว่าเป็นเช็คที่ถูกต้องตามกฎหมายและรับเงินได้หรือเปล่า”

อีกฝ่ายรับไปพิจารณาอยู่ชั่วครู่ก็บอกว่า “เช็คใบนี้รับเงินได้ครับ ไม่มีอะไรปลอมแปลงหรอกครับ นอกเสียจากว่าถ้าเบิกเงินเกินบัญชีไปแล้วก็จะไม่มีเงินจะจ่ายให้” แพรวกล่าวคำขอบคุณ ในความเอื้ออารีของพนักงานผู้นี้ เบาๆ แล้วเดินไปที่ช่องจ่ายเงิน หลังจากที่ยืนรออยู่หน้าช่องจ่ายเงินประมาณชั่วครู่ พนักงานจ่ายเงินก็เรียกแพรวไปรับเงิน

แพรวรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย เมื่อเดินไปรับเงินจากพนักงานของธนาคารซึ่งส่งธนบัตรฉบับละร้อยให้แพรวสามปึก หญิงผู้ยากไร้เอื้อมมืออันสั่นเทาไปรับเงินจำนวนดังกล่าวมานับ นับแล้วนับอีก เพราะเกรงจะผิดพลาดได้ เมื่อครบตามจำนวนแล้ว ก็สอดเงินทั้งหมดไว้ในอกเสื้อ แล้วรีบออกจากธนาคารบ่ายหน้ากลับทันที

เมื่อกลับมาถึงก็รีบก้าวขึ้นไปบนตึก เพื่อมอบเงินจำนวนนี้ให้คุณนายลำดวน จะได้หมดเรื่องหมดราวไป ขณเดียวกันก็สวนกับคุณนายลำดวนซึ่งกำลังจะลงมาข้างล่าง คุณนายลำดวนยิ้มแย้มเมื่อเห็นแพรว

“เป็นไง เรียบร้อยไหม แม่แพรว”

“เรียบร้อยแล้วเจ้าค่ะ” แพรวตอบ พลางล้วงหยิบเอาเงินในอกเสื้อจำนวนสามพันบาทออกมาส่งให้ คุณนายลำดวนเผยอยิ้มรับเงินจากแพรวมาถือโดยไม่ต้องนับและตรวจดูเลย คุณนายลำดวนกล่าวคำขอบใจ แล้วก็หันหลังจะกลับขึ้นไปบนตึก แพรวนึกเฉลียวใจอะไรขึ้นมาบางอย่าง ก็รีบบอกโดยเร็ว

“ท่านจะไม่ตรวจเงินให้ถูกต้องเสียก่อนหรือคะ” หญิงใจร้ายสั่นศีรษะ

“ไม่ต้องหรอก ฉันเชื่อใจแม่แพรว” พูดจบก็รีบผลุนผลันกลับขึ้นไปบนตึกโดยเร็ว คุณนายลำดวนหายเงียบขึ้นไปบนตึกเพียงชั่วครู่เดียวเท่านั้นก็กลับลงมาใหม่ นางรีบเดินตรงไปที่ห้องของหญิงผู้ยากไร้ พลางร้องเอะอะโวยวายขึ้นว่า

“แม่แพรว ตายแล้ว โธ่ ทำไมถึงได้โง่อย่างนี้ก็ไม่รู้ ดูซิไปถูกเขาต้มมาแล้ว”

แพรวใจหายวาบ ถามว่า “ทำไมหรือคะ”

“ทำไมล่ะ ก็แกไปเอาแบงก์ปลอมมาทั้งหมดน่ะซิ”

ขณะเดียวกันนี้ ถวิลสาวใช้ผู้มีความหวังดีต่อแพรวก็มายืนฟังเหตุการณ์อยู่ด้วย และหล่อนก็สามารถรู้ได้ทันทีว่า แพรวถูกหญิงใจร้ายนี้กลั่นแกล้งเสียแล้ว

แพรวได้ปฏิเสธเสียงแข็งว่า นางมิได้เอาธนบัตรปลอมมา เพราะขณะที่รับเงินจากธนาคารก็ตรวจแล้วตรวจอีก ซ้ำยังบอกเมื่อตอนส่งเงินให้คุณนายลำดวน ให้คุณนายตรวจนับดูเสียก่อน แต่ก็ไม่ยอมตรวจนับดู

หญิงใจร้ายไม่ยอมฟังเหตุผลอะไรทั้งสิ้น บงการให้คนใช้ผู้ชายคนหนึ่งไปแจ้งความที่สถานีตำรวจ นำตำรวจมาจับตัวแพรวไปในข้อหายักยอกเงิน แพรวได้ให้การกับสารวัตรผู้เป็นเจ้าของท้องที่อย่างละเอียด โดยไม่ปิดบังอะไรทั้งสิ้น สารวัตรนั่งฟังคำให้การของแพรวด้วยความสนใจ

“ถ้าน้ามีพยานสักคนที่เขาเห็นและได้ยินคำพูดของน้า ตอนที่ส่งเงินให้คุณนายลำดวน น้าก็จะพ้นมลทินในเรื่องนี้ แต่นี่ก็ไม่มีใครเห็น คงจะลำบากเหมือนกัน”

แพรวนิ่งไม่ยอมพูดหรือปริปากว่ากระไร ในเวลาไล่ๆ กันนี้เอง ถวิลสาวใช้ผู้มีความหวังดีต่อแพรว ก็ติดตามมาที่สถานีตำรวจและขอพบสารวัตรเพื่อให้การเป็นพยานแก่แพรว ถวิลได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้สารวัตรสอบสวนฟังอย่างละเอียด ซึ่งคำให้การของถวิลตรงกับที่แพรวได้ให้การมาแล้วทั้งสิ้น จะมีผิดบ้างก็เป็นส่วนปลีกย่อยเท่านั้น เมื่อเป็นเช่นนี้ น้ำหนักทางฝ่ายแพรวจึงเริ่มดีขึ้น

“เธอเห็นตอนที่น้าคนนี้ แกนำธนบัตรไปส่งให้คุณนายลำดวนต่อหน้าหรือเปล่า”

“เห็นค่ะ ตอนนั้นดิฉันอยู่ในห้องรับแขก ไม่ห่างจากที่คุณนายลำดวนกับพี่แพรวยืนอยู่เท่าไหร่นัก ดิฉันยังได้ยินพี่แพรวบอกกับคุณนายลำดวนว่าให้ท่านตรวจเงินดูเสียก่อน แต่คุณนายลำดวนไม่ยอมตรวจนับเงิน เสร็จก็รีบขึ้นไปบนตึกทันที”

สารวัตรพยักหน้า “ทุกวันนี้คุณนายลำดวนมีรายได้ทางไหนบ้าง เธอพอจะรู้ไหม”

“นอกจากท่านนายพลแล้ว ดิฉันก็ไม่เห็นแกจะมีรายได้ทางไหนเลย”

เจ้าหน้าที่ได้ซักถามปากคำของถวิลหลายอย่าง ปรากฎว่าคำให้การของสาวใช้มีประโยชน์ต่อการสอบสวนมาก ขณะนี้ความสงสัยของตำรวจในเรื่องธนบัตรปลอมรายนี้ ได้ตกไปอยู่ที่คุณนายลำดวนแต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น

“มีคนภายนอกมาติดต่อกับคุณนายลำดวนเสมอหรือ”

“มีเสมอค่ะ” สาวใช้ตอบ

“เธอพอจะจำได้ไหม มีใครบ้าง”

“โดยมากเป็นพวกพ่อค้าเอาของมาขายค่ะ แต่ที่มาเสมอๆ มีอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้นแหละค่ะ”

“เธอรู้ไหมว่าชื่ออะไร”

“ดิฉันได้ยินคุณนายลำดวนเรียกว่าคุณหลวง แต่ไม่ทราบว่าคุณหลวงอะไร นัยว่าเป็นเพื่อนเก่าแก่ของสามีแก”

สารวัตรพยักหน้าช้าๆ นั่งไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่ ก็บอกกับสาวใช้ว่า “ทางตำรวจใคร่จะขอความร่วมมือจากเธอในเรื่องนี้”

“ยินดีเสมอค่ะ ท่านสารวัตร” สาวใช้รับคำด้วยเสียงเน้นหนัก

สารวัตรได้บอกวิธีการให้สาวใช้ฟังโดยละเอียด พลางกล่าวสรุปในตอนท้ายว่า “ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผนนี้ เธอรีบโทรศัพท์มาแจ้งให้รู้ทันที”

“ค่ะ”

ระยะเวลาต่อมาอีกเพียงอาทิตย์เศษๆ เท่านั้น สารวัตรและตำรวจภายใต้บังคับบัญชาอีก ๒ นาย ก็พากันไปยังบ้านของพลโทยุทธชัยฯ และแสดงหมายขอตรวจค้นห้องของคุณนายลำดวนทันที

คุณนายลำดวนมีอาการสั่นเทาไปหมดทั้งตัว เมื่อตำรวจมีความประสงค์จะขอค้นห้องของนาง นางรีบพูดทักท้วงขึ้นมาทันที “ดิฉันไม่มีอะไรหรอกค่ะท่านสารวัตร ห้องของผู้หญิงจะมีอะไรกันคะ โปรดให้เกียรติแก่ดิฉันบ้างซิคะ”

นายตำรวจผู้เป็นเจ้าของท้องที่ยิ้มในหน้า ไม่ยอมฟังคำทักท้วงแต่ประการใด และแล้ว...การตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ก็เริ่มขึ้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน คุณนายลำดวนถึงกับเหงื่อแตกซิก ใบหน้าถอดสีซีดเผือด เมื่อตำรวจขอกุญแจตู้เซฟของนางไขออก และหยิบธนบัตรฉบับละ ๑๐๐ บาท มัดเป็นปึกๆ ออกมาจากตู้เซฟไม่ต่ำกว่า ๑๐ ปึก

สารวัตรหันไปทางพลโทยุทธชัยฯ ผู้เป็นเจ้าของบ้านและบอกว่า “นี่คือธนบัตรปลอมทั้งหมดครับท่าน คุณนายลำดวนได้ลักลอบนำออกมาจำหน่ายมานานแล้ว”

ผู้เป็นพี่ชายและเป็นเจ้าของบ้านยืนนิ่งอย่างตกตะลึงพรึงเพริด ต่อเหตุการณ์อันไม่คาดฝันที่ได้อุบัติขึ้นครั้งนี้ รีบหันขวับไปทางน้องสาวทันที

แต่ปรากฎว่า....คุณนายลำดวนได้เป็นลมล้มพับไปเสียแล้ว

“กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมตอบสนอง ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว”



...............................

คัดลอกจาก
http://www.lekpluto.com/index02/kram.html
 
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 27 ส.ค. 2006, 4:08 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใจหายแทบแย่ กลัวคนดีถูกกลั่นแกล้งค่ะ
 

_________________
พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
pump
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 07 พ.ย. 2006
ตอบ: 12
ที่อยู่ (จังหวัด): pathumthani

ตอบตอบเมื่อ: 07 พ.ย.2006, 11:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แลบลิ้น
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
ทูล ดำนงค์
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 พ.ย.2006, 12:35 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เวรกรรมมีจริง ปัจจุบันนี้เร็วมากๆ ด้วย
 
ไลลารินทร์
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 14 ก.ค. 2006
ตอบ: 64

ตอบตอบเมื่อ: 16 มี.ค.2007, 3:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กรรมใดใครก่อ ผู้นั้นก็ต้องรับ
 

_________________
เชื่อ ศรัทธา และเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วยหัวใจอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวYahoo Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง