Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 สัจจบารมี (ท.เลียงพิบูลย์) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2006, 1:48 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

สัจจบารมี
โดย ท.เลียงพิบูลย์

จากหนังสือกฎแห่งกรรม
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เล่ม ๓



วันหนึ่งในปี พ.ศ. ๒๕๐๘ ข้าพเจ้าได้รับเชิญให้ไปในงานฉลองพระวิหาร และสะพานคอนกรีตซึ่งสร้างอยู่หน้าสถานีรถไฟอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในบัตรเชิญกำหนดงานก่อนเทศกาลตรุษสงกรานต์หนึ่งวัน งานฉลองทางศาสนาจะได้จัดนิมนต์พระสงฆ์มาเจริญพระพุทธมนต์ที่วิหาร เลี้ยงพระฉันเพล และเชิญผู้ไปในงานร่วมรับประทานอาหารเที่ยงทุกท่าน วิหารหลังนี้มีชื่อว่า “วิหารหลวงพ่อสุริยะมุนี” ได้สร้างขึ้นในที่ธรณีสงฆ์และที่ของรถไฟ เดิมเป็นวัดร้างสมัยก่อนมีชื่อว่า “วัดหัวกระบือ” มีผู้เฒ่าผู้แก่เล่าต่อๆ กันมา จะเท็จจริงประการใดก็ไม่ทราบแน่ว่า

วัดหัวกระบือนี้ได้ทิ้งร้างมาตั้งแต่ครั้งเสียกรุงศรีอยุธยาแก่ข้าศึก สมัยแผ่นดินพระเจ้าเอกทัต ซึ่งเป็นเจ้าแผ่นดินครองกรุงศรีอยุธยาองค์สุดท้าย และทิ้งร้างไม่มีการบูรณปฏิสังขรณ์มาจนถึงปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้าเคยทราบเบื้องหลังของการสร้างวิหารหลังนี้มาก่อน ท่านผู้มีจิตศรัทธาผู้นี้ต้องใช้เวลาและความอดทนมิได้ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ พยายามจัดสร้างพระวิหารขึ้นในสถานที่เดิม ความพยายามต้องติดต่อกันมานานเป็นเวลานับสิบๆ ปี เพราะต้องขออนุญาตทั้งทางฝ่ายสงฆ์และทางฝ่ายบ้านเมือง ทั้งทางฝ่ายการรถไฟ

ด้วยมีจิตศรัทธาเข้มแข็งและได้ตั้งสัจจะไว้แล้วเป็นทุนเดิม จะเป็นด้วยบุญบารมีส่งเสริมหรือความพยายามไม่ทอดทิ้ง พระวิหารหลังนี้ก็ได้สำเร็จรูปลง ทั้งพระพุทธรูปที่สลักหักพังก็ได้รับการบูรณะให้เป็นองค์สมบูรณ์ รวบรวมได้เป็นจำนวนเก้าองค์ปิดทองเหลืองอร่าม ประดิษฐานอยู่ในพระวิหารสง่างามเป็นที่น่าเคารพบูชายิ่งนัก

เหตุที่ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความปีติยินดีขึ้นในใจที่ได้รับข่าวอันเป็นกุศล และได้รับบัตรเชิญไปในงานฉลองวิหารหลังนี้ ก็เพราะปลื้มใจที่ยังมีผู้พยายามสร้างกรรมดีด้วยจิตใจบริสุทธิ์ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ ที่มาขัดขวาง บุคคลเช่นนี้หาได้ยากยิ่งในยุคปัจจุบัน เพราะทุกวันนี้เราได้รับแต่ข่าวทำให้ใจไม่สบาย เพราะมีผู้ประกอบกรรมชั่วไม่มีความละอายต่อบาป ทำการชั่วช้าสาธารณ์ลอบลักตัดเศียรพระพุทธรูป นำไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวเป็นข่าวที่น่าเศร้าสลดใจของชาวพุทธ เป็นการทำลายความรู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจชาวไทยทั่วไป

สำหรับท่านผู้เฒ่าผู้แก่มีจิตใจกุศลเคารพบูชาพระพุทธรูปทั้งหลาย ได้ทราบข่าวชั่วช้าของคนใจบาป บางท่านมีความโกรธแค้นก็แช่งด่าว่า “อ้ายพวกนี้สัตว์นรกมาเกิดเพื่อทำลาย มีจิตใจหยาบช้า มันจะไม่มีความรุ่งเรืองตลอดชาติ มันจะต้องพบภัยอันตายไปตลอดชีวิต” บางท่านสาปแช่งว่า “ขอให้มันวินาศฉิบหายไปตลอดชาตินี้” ผู้เฒ่าที่เข้าถึงธรรมก็ได้แต่พูดว่า “ใครทำดีทำชั่วก็ได้แก่ตัวของเขาเองเป็นไปตามกฎแห่งกรรม ไม่มีใครหนีพ้นไปได้”

แต่บัดนี้มีข่าวดีเป็นสิริมงคล ตรงกันข้ามกับคนใจชั่ว เป็นขาวกับดำ ด้วยมีท่านผู้มีจิตใจเป็นกุศลนี้ได้ออกทั้งกำลังความคิด และกำลังทรัพย์ ทั้งกำลังกาย ด้วยความอดทนมุ่งหวังจะได้สร้างเสริมเพื่อจะทำนุบำรุงพระศาสนาให้ยั่งยืนถาวรตลอดไป โดยมิหวังสิ่งใดทางโลกตอบแทน หรือมีอะไรแอบแฝงอยู่ ข่าวนี้นอกจากจะทำให้ข้าพเจ้าเกิดความปีติขึ้นแล้ว ยังทำให้คิดอีกว่าคงจะทำให้ผู้เฒ่าผู้แก่และสาธุชนทั่วไปเกิดความปลาบปลื้มขึ้นทางจิตใจ คงจะยกมือขึ้นเหนือหัวกล่าวคำอนุโมทนาสาธุสรรเสริญให้พรทั่วหน้ากัน

ก่อนจะถึงวันงานฉลองพระวิหาร ข้าพเจ้าได้พบท่านผู้นี้ที่บ้านเพื่อนรุ่นพี่ที่ฝั่งธนบุรี เราต่างมีความยินดีที่ได้พบและมีโอกาสร่วมสนทนา ท่านผู้นี้ขอร้องให้ข้าพเจ้าไปในงานฉลองพระวิหารหลวงพ่อสุริยะมุนี ที่หน้าสถานีอยุธยาให้ได้ หากข้าพเจ้ามีความประสงค์จะไปทางรถไฟก็ยินดีจองตั๋วไปกลับให้ โดยไม่ให้ข้าพเจ้าต้องเดือดร้อนอะไรเลย จะไปกี่คนก็ได้ ข้าพเจ้ากล่าวขอบคุณที่ท่านเป็นผู้มีจิตใจกว้างขวาง

ข้าพเจ้าบอกว่าจะขอไปรถยนต์และไปพร้อมกับคุณพี่ และรับรองว่าจะไปแน่ เพราะมีความเลื่อมใสศรัทธาในตัวท่านผู้นี้เป็นทุนอยู่แล้ว แม้ว่าเราจะรู้จักคุ้นเคยกันในระยะไม่นานนัก แต่ข้าพเจ้าก็รักใคร่นับถือในบุคลิกลักษณะอันเข้มแข็ง ความพยายามอดทนในการสร้างความดี ทั้งมีนิสัยสุภาพอ่อนโยน มีจิตใจโอบอ้อมอารี มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่แก่ผู้รู้จักคุ้นเคยทั่วไป เป็นผู้ที่น่าเคารพนับถือยิ่งนัก หลังจากเราได้สนทนากันพอสมควรแล้ว ข้าพเจ้าอยากให้ท่านผู้นี้ได้เล่าเรื่องเบื้องหลังการสร้างวิหารพระสุริยะมุนี เพื่อข้าพเจ้าจะได้บันทึกไว้เป็นอนุสรณ์ให้อนุชนรุ่นหลัง จะได้มีโอกาสรู้และจดจำไว้เป็นตัวอย่างที่ดี ท่านก็ได้กรุณาเล่าเรื่องให้ฟังด้วยความเต็มใจว่า

เมื่อสมัยผมอายุได้สัก ๑๕ ปี ถ้าจะย้อนหลังจาก พ.ศ. ๒๕๐๘ ไปก็จะเป็นเวลาถึง ๕๓ ปีผ่านมาแล้ว เพราะเวลานี้ผมอายุ ๖๘ ปีแล้ว เหตุการณ์ในสมัยนั้นผมยังจำได้ดีว่า ผมได้โดยสารรถไฟสายเหนือ ขบวนรถไฟออกจากสถานีหัวลำโพงเวลาเช้าจะเดินทางไปลงที่สถานีปากน้ำโพอันเป็นจุดหมายปลายทาง เมื่อรถผ่านมาถึงสถานีอยุธยาหรือกรุงเก่า ในสมัยนั้นรถได้หยุดที่สถานีนี้นานกว่าสถานีอื่นที่ผ่านมาแล้ว เพราะหัวรถจักรจะต้องเติมน้ำเพิ่มและคอยรอหลีกรถที่มาจากเหนือสวนลงกรุงเทพฯ สมัยนั้นยังไม่มีรถด่วนรถเร็ว เมื่อหยุดนานคนโดยสารบนรถส่วนมากพากันบ่นว่า เมื่อไรรถจะออกสักที หยุดนานเกินไปจะร้อนจนรู้สึกเบื่อและรำคาญ ในรถนั้นร้อนอบอ้าวเพราะรถหยุดนิ่งไม่มีลมพัดผ่านมาเลย


(มีต่อ ๑)
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --

แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 01 ม.ค. 2007, 10:18 am, ทั้งหมด 5 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2006, 2:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ส่วนผมนั้นไม่รู้สึกอะไรมากนัก เพราะเพิ่งขึ้นรถไฟเป็นครั้งแรก ยังมีความรู้สึกตื่นเต้นอยู่ ผมนั่งอยู่ในรถไฟโผล่หน้าออกมามองดูรอบนอกสถานีรถไฟ รู้สึกเป็นสิ่งแปลกตาไม่เคยพบเห็นมาก่อน สิ่งที่สะดุดตาสะดุดใจที่ผมเห็นจากทางหน้าต่างรถไฟนั้นก็คือ ห่างออกไปจากหน้าสถานีเป็นป่าปกคลุมไปด้วยพันธุไม้เลื้อยรกเป็นพง นอกจากนั้นยังมีต้นไม่ใหญ่ๆ ขึ้นในเขตนั้นอีกหลายต้น บริเวณนั้นมีเนินโคก มี พระพุทธรูปไม่มีพระเศียรนั่งเด่นอยู่กลางหมู่เถาวัลย์และพงไม้ นอกจากนั้นยังมีพระพุทธรูปแขนหักหัวหักตกอยู่กลาดเกลื่อนในบริเวณนั้น เมื่อผมพิจารณาดูแล้วก็เกิดความสังเวชขึ้นในใจ ความเศร้าหมองก็เกิดตามมาคิดว่า นี่หลวงพ่อท่านคงอยู่ในสภาพเช่นนี้มานานแล้ว ทำให้สงสารเกิดความศรัทธาขึ้นมา แม้ว่าในเวลานั้นผมยังไม่สามารถทำอะไรได้เพราะยังอยู่ในฐานะที่ขัดสน แต่ก็มีจิตใจที่แน่วแน่เข้มแข็งจึงตั้งสัจจะไว้ในใจว่า

“หากต่อไปภายหน้า ชีวิตผมมีโอกาสลืมหน้าอ้าปากได้ มั่งมีเงินทอง ผมจะขอทะนุบำรุงหลวงพ่อคอหัก และพระพุทธรูปที่ชำรุดปรักหักพังทั้งหลายในบริเวณนี้ให้มีสภาพดีดังเดิม และจะสร้างพระวิหารให้เป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อทั้งหลาย เพื่อจะได้เป็นที่เคารพบูชาของสาธุชนต่อไป ขอให้ความตั้งใจนี้สมตามความปรารถนาของผมด้วย”


นับตั้งแต่นั้นมา ผมก็นึกถีงฝันถึงคิดแต่การจะสร้างพระวิหารทะนุบำรุงหลวงพ่อคอหักตลอดมามิได้ลืมเลย จะเป็นด้วยสัจจบารมีที่ผมตั้งใจไว้หรือเหตุบังเอิญก็ตามแต่จงพิจารณาดูเถิด ต่อมาผมจะทำการค้าหรือทำสิ่งใดก็มีแต่ความเจริญรุ่งเรืองตลอดมา ทำให้ผมเกิดมีกำลังใจมีมานะสร้างหลักฐาน เพื่อให้มีกำลังทรัพย์ที่จะสร้างพระวิหารได้ตามที่ได้ตั้งใจไว้

ต่อมาเมื่อผมได้ผ่านสถานีอยุธยา ผมก็ขอร้องให้พวกหัวหน้าจับกังที่สถานี หรือกรรมกรช่วยหักร้างถางพงที่หน้าสถานีบริเวณหลวงพ่อคอหัก และช่วยรวบรวมพระพุทธรูปที่ปรักหักพังแขนขาหักมารวมไว้ในที่แห่งเดียวกัน โดยผมได้มอบเงินจำนวนหนึ่งไว้เป็นค่าแรงงาน หลังจากนั้นผมก็กะโครงการณ์ที่จะสร้างพระวิหาร โดยให้สถาปนิกออกแบบพระวิหารให้เหมาะแก่สถานที่ จากนั้นแบบแปลนพระวิหารก็เสร็จเรียบร้อยพร้อมที่จะก่อสร้างได้ทันที

แต่ทุกสิ่งทุกอย่างไม่ง่ายเหมือนใจคิด การที่นึกว่าเงินพอจะสร้างวิหาร และคิดว่าการขออนุญาตก่อสร้างสิ่งที่เป็นสาธารณกุศลคงไม่ยากนัก แต่ก็ไม่ง่ายอย่างที่นึกไว้ตามความตั้งใจ จะก่อสร้างวิหารหลังนี้ไว้ในที่วัดร้างซึ่งเคยเป็นวัดเก่าแก่ เคยรุ่งเรืองแต่ครั้งกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี วัดร้างนี้เป็นศาสนสมบัติ และเป็นเขตของรถไฟ ผืนดินในสมัยนั้น ต้องขออนุญาตทางบ้านเมืองและทางคณะสงฆ์และทางรถไฟหลวง ความจริงสถานีวัดร้างแห่งนี้ไม่มีอะไรเหลืออยู่ให้เห็นเป็นโบราณสถานอันควรสงวน นอกจากพระพุทธรูปที่ปรักหักพังอยู่บนดิน และจมดินเท่านั้นที่ทำให้รู้ได้ว่าเป็นวัดร้าง

ส่วนพระเจดีย์ที่เก่าแก่ ได้ทราบว่าเคยมีแต่ก็พังทลายลงหมดแล้ว ส่วนอิฐดีอิฐหักก็มีผู้นำเอาไปขายเป็นประโยชน์ส่วนตัว ยังคงเหลือแต่เศษพระพุทธรูปที่ชำรุดอยู่ตามดิน ใครจะนำไปทำประโยชน์อะไรก็เกรงจะเกิดภัย และเสนียดจัญไรแก่ตัวและครอบครัว สันนิษฐานว่าเขตวัดคงถูกตัดเพื่อสร้างทางรถไฟผ่านและสร้างสถานีรถไฟจึงไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เป็นหลักฐานบ่งว่าเป็นเขตของวัดมาก่อน การขออนุญาตสร้างพระวิหารก็ไม่สะดวก ต้องเสียเวลานานปี หรือทางการจะเห็นเป็นเรื่องไม่สำคัญก็ได้ แต่ผมก็มีจิตใจแน่วแน่และไม่ย่อท้อเพื่อจะให้ลุล่วงตามความตั้งใจไว้ด้วยจิตศรัทธาเป็นทุน

เมื่อมีผู้ทราบว่า ผมได้พยายามวิ่งเต้นขออนุญาตจะสร้างวิหารนี้ให้ได้ ด้วยจิตใจเข้มแข็งอดทน ก็มีผู้ใจบุญหลายท่านเห็นใจเขาช่วยเป็นกรรมการโดยมิได้หวังสิ่งตอบแทน และมิได้เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยด้วยความเห็นความเต็มใจ ตลอดทั้ง หลวงพ่อวิเชียร แห่งจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นสงฆ์ที่เคารพนับถือของข้าราชการและประชาชนทั่วไป ทางจังหวัดภาคเหนือหลายจังหวัด ท่านได้มีจิตใจเอ็นดูในศรัทธาอันมั่นคงของผม ได้พยายามช่วยเหลือเพื่อให้วิหารนี้สำเร็จเป็นรูป บัดนี้ท่านได้มรณภาพไปแล้ว

ต่อมาทางสงฆ์ได้แจ้งว่า อนุญาตให้สร้างวิหารได้ทุกแห่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเลือกเอาที่ใดที่หนึ่งก็ได้ แต่ขอยกเว้นวัดร้างหน้าสถานีแห่งเดียวเท่านั้น แต่ผมได้ฝังใจแน่นตามสัจจะเสียแล้วว่าจะขอสร้างวิหารบนเนินวัดร้างแห่งเดียว จึงขัดข้องเพราะไม่ตรงกับความประสงค์ นับตั้งแต่ผมได้ตกลงใจจะสร้าง ได้ออกแบบแปลนพระวิหารไว้เรียบร้อย ก็ต้องพบกับอุปสรรคตลอดมาเป็นเวลาถึง ๒๒ ปี จึงได้สมตามความปรารถนา

แต่ผมก็ต้องสัญญากับทางการรถไฟในปัจจุบันนี้ว่า ถ้าหากทางราชการจำเป็นจะต้องใช้วัดร้างนี้ก็ให้รื้อถอนได้ตามความต้องการ เวลานี้พระวิหารและพระพุทธรูปได้สำเร็จสมบูรณ์เรียบร้อย พร้อมทั้งสะพานคอนกรีต และได้เตรียมงานกำหนดวันฉลองตามที่คุณได้ทราบมาแล้ว

เมื่อข้าพเจ้าได้ฟังเรื่องเบื้องหลังในการสร้างวิหารพระสุริยะมุนี ที่หน้าสถานีอยุธยาของท่านผู้นี้แล้ว บังเกิดความปิติยินดีเพิ่มขึ้น ขอยกย่องว่าท่านมีความอดทนในการสร้างความดี แม้จะได้รับความทุกข์ยากลำบากใจเพียงไร แต่ความเด็ดเดี่ยวไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคใด ก็ยังไม่เปลี่ยนแปลงความตั้งใจเดิม ผลสุดท้ายด้วยสัจจบารมีความตั้งใจ ก็สมตามความปรารถนาทุกประการ

พระพุทธองค์ทรงสรรเสริญบุคคลผู้มีความเพียรเพื่อสร้างกรรมดี กุศลจิตอันแน่วแน่ของท่านผู้นี้ ทำให้ข้าพเจ้านึกไปถึงชีวิตต่อสู้ของ “ท่านอนาคาริกธรรมปาล” ซึ่งนามของท่านผู้นี้เป็นที่รู้จักทั่วไปในหมู่ชาวพุทธเพราะท่านได้สร้างประโยชน์ทางพระพุทธศาสนาไว้มากมาย เป็นที่ยกย่องสรรเสริญของชาวโลกทั่วไป


ท่านธรรมปาลผู้นี้เป็นชาวลังกาอยู่กันคนละขอบฟ้าเขาเขียวกับเรา แต่บุคคลในเชื้อชาติใดภาษาใดก็ตามที่ได้เป็นผู้สร้างคุณงามความดีเพื่อชาวโลก คนทั่วไปย่อมสนใจในผลงานของท่าน เราเคารพยกย่องผู้ประกอบกรรมดี พวกเราชาวพุทธที่มีใจเป็นปกติชนทั้งหลายย่อมจะยกย่องสรรเสริญ

ข้าพเจ้าเองเพียงแต่ได้ทราบผลงานของท่านธรรมปาลก็พลอยชื่นชมปิติยินดีไปด้วย เพราะความดีเป็นบารมีแผ่มาถึงจิตใจ ในส่วนลึกทำให้คิดถึงผู้เฒ่าผู้แก่ในสมัยก่อน ทำบุญทำทานสิ่งใดก็แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้ทั่วไป ใครจะรู้ใครจะเห็นก็พลอยปลื้มปิติ ตื่นเต้น อิ่มเอิบใจในผลงานบุญไปด้วย นี่เป็นผลบุญทางใจเกิดขึ้นกับตัวข้าพเจ้าเองแล้ว


(มีต่อ ๒)
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --

แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 26 ก.ค.2006, 1:14 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2006, 2:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดังเรื่องประวัติย่อของท่านธรรมปาล ที่ผมทราบว่าเมื่อนับย้อนหลังจาก พ.ศ. ๒๕๐๘ ไปเป็นเวลา ๗๕ ปี เป็นครั้งแรกที่ท่านธรรมปาลได้เดินทางไปประเทศอินเดีย เพื่อนมัสการปูชนียสถานที่สำคัญในทางพระพุทธศาสนาหลายแห่ง แต่เมื่อมาถึงได้พบเห็นโบราณสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา ชำรุดทรุดโทรมเกือบไม่มีอะไรเหลือไว้เป็นหลักฐาน เพราะสถานที่ทางศาสนาหลายแห่ง ตกอยู่ในความปกครองของพวกมหันต์ พวกนี้ไม่ได้นับถือศาสนาพุทธ เป็นธรรมดาย่อมไม่สนใจในคุณค่าของโบราณสถานที่สำคัญทางศาสนาและทางโบราณคดี พวกนี้จึงมีแต่จะทำลายให้ปรักหักพังยิ่งขึ้น

ท่านธรรมปาลเห็นแล้วบังเกิดความสังเวชเศร้าหมองขึ้นในใจ คิดว่าทำอย่างไรจึงจะรักษาโบราณสถานที่ต่างๆ เหล่านั้นไว้ได้ต่อไป ทำอย่างไรจึงจะรักษาพระศรีมหาโพธิ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้พบได้เห็นต่อไป ความมุ่งหวังจะกอบกู้พระพุทธศาสนาในอินเดียให้ฟื้นคืนมา ก่อให้เกิดศรัทธาเป็นแก่กล้า เกิดกำลังใจ มีมานะตั้งสัจจะอธิษฐานไว้ว่าจะไม่ยอมย่อท้อต่ออุปสรรคใดๆ หวังเพียงจะให้บังเกิดผลตามความปรารถนาตามที่ตั้งใจไว้ ท่านได้สละทรัพย์สินของท่านจัดตั้งสมาคมใช้นามว่า “มหาโพธิสมาคม”

ท่านธรรมปาลได้พยายามติดต่อกับผู้มีจิตศรัทธาในพระพุทธศาสนาทั้งหลาย ท่านต้องต่อสู้กับพวกมหันต์ อีกทั้งทางฝ่ายศาสนา และทางฝ่ายบ้านเมือง แม้จะไม่ได้ผลเป็นที่พอใจนัก ท่านก็มิได้ละความพยายามอดทน ท่านได้ใช้เวลาเผยแพร่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ทั้งยุโรป อเมริกา และเอเชีย เรียกร้องความเห็นใจ ก็ได้เงินตามที่มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเป็นจำนวนมาก ตลอดชีวิตของท่านได้ต่อสู้ด้วยความอดทนเด็ดเดี่ยว อุทิศชีวิตเพื่อพระพุทธศาสนา

แม้จะได้รับความทุกข์ยากลำบากเพียงไร จิตใจของท่านก็ไม่เปลี่ยนแปลง ได้สร้างวิหารใหญ่อยู่ใกล้เคียงกับปูชนียสถาน ในสารนาถสมดังความปรารถนาที่ได้ตั้งใจไว้ ในสมัยนั้นรัฐบาลอินเดีย ซึ่งอังกฤษเป็นฝ่ายปกครองได้รื้อฟื้นโบราณสถานขึ้นมา บัดนี้ถ้าผู้ใดเดินทางไปนมัสการปูชนียสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ก็จะได้รับความสะดวกจากมหาโพธิสมาคมซึ่งปัจจุบันมีสาขาอยู่เกือบทั่วประเทศอินเดีย เมื่อนึกถึงมหาโพธิสมาคม แล้วก็จะต้องนึกถึงความดีของท่านธรรมปาลคู่กันไป แม้ตัวท่านจะได้จากโลกนี้ไปแล้ว แต่คุณความดีที่ท่านได้สร้างไว้ในพระพุทธศาสนา ไม่มีวันลืมไปจากความรู้สึกของชาวพุทธทั่วๆ ไป

การที่ข้าพเจ้าได้นำประวัติย่อของท่านธรรมปาลเล่าไว้ในที่นี่ ก็หวังจะชี้ให้เห็นว่า ท่านทั้งสองนี้อยู่ห่างจากกันคนละขอบฟ้า แต่ชีวิตและการปฏิบัติของท่านคล้ายคลึงกัน จะผิดบ้างก็เพียงแต่ท่านผู้สร้างพระวิหารจังหวัดอยุธยาอยู่ในวงแคบ ยังไม่ค่อยจะมีผู้รู้เห็นมากนัก และการสร้างวิหารครั้งนี้ท่านก็มิได้บอกบุญเรี่ยไรใครเป็นการใหญ่ ท่านขอร้องเพียงว่า การสร้างวิหารครั้งนี้ท่านขอออกทุนทรัพย์ส่วนตัวแต่เพียงผู้เดียว ตลอดจนสร้างสะพานคอนกรีตและงานฉลองเลี้ยงผู้ที่ไปในงานนั้นทุกท่าน โดยอ้างว่าเพื่อจะทำตามสัจจะที่ได้ตั้งใจไว้ เมื่อครั้งแรกมีอายุ ๑๕ ปี ขอให้ทุกสิ่งสมบูรณ์ตามที่คิดไว้แต่เดิมทุกประการ

เมื่อถึงวันงาน ข้าพเจ้าได้ไปตามกำหนดไว้พร้อมกับเพื่อนรุ่นพี่ การฉลองพระวิหารในวันนี้เต็มไปด้วยความสนุกเป็นกันเอง การเลี้ยงฉลองถวายของพระก็เป็นไปตามระเบียบประเพณีอันดีงาม ตลอดทั้งอาหารเที่ยงที่จัดเลี้ยงแขกก็บริบูรณ์เป็นที่ชื่นชมของผู้ที่ไปในงานโดยทั่วไป หลังอาหารท่านเจ้าภาพได้นำเหรียญทองเหรียญเงินรูปพระวิหาร และหลวงพ่อสุริยะมุนีได้ปลุกเสกให้เกิดสิริมงคลจากพระอาจารย์ที่ทรงวิทยาคม แจกเป็นที่ระลึกแก่ผู้ที่ไปในงานทั่วทุกท่าน วันนั้นในความรู้สึกของข้าพเจ้าตามความสังเกตว่าอากาศในท้องฟ้าสดชื่น แจ่มใส ผู้คนที่มาในงานต่างก็มีหน้าตายิ้มแย้มมีอารมณ์สดใส มีกลองยาวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ และสตรีชาวอยุธยาฟ้อนรำแห่รอบพระวิหาร

ต่อมาก็มีเสียงพิณพาทย์บรรเลงเพลงไทยนิ่มนวล ไพเราะถูกอารมณ์ข้าพเจ้า เหมาะแก่ในงานบุญงานกุศล ทำให้จิตใจของผู้ที่อยู่ในบริเวณงานต่างมีสีหน้าแช่มชื่น ทั้งพระวิหาร ทั้งสะพานคอนกรีตตบแต่งประดับธงทิวหลากสี เพิ่มความสง่างามยิ่งขึ้น กลิ่นธูปควันเทียนจุดถวายเคารพบูชาหลวงพ่อในพระวิหารเป็นสัญูลักษณ์แห่งความเลื่อมใสศรัทธา บรรยากาศสิ่งแวดล้อมจูงใจให้เกิดอยากสร้างความดี ท่านเจ้าภาพได้แนะนำให้ผู้ไปในงานรู้จัก หลวงพ่ออั้น หรือพระครูกิติคุณ เจ้าอาวาสวัดพระญาติการาม และได้บอกว่าทางวัดพระญาติการาม กำลังสร้างโรงเรียนเพื่อให้การศึกษาแก่เยาวชน แต่ทุนในการก่อสร้างครั้งนี้ยังไม่เพียงพอ

พวกเราที่ไปในงานต่างก็มีจิตอยากจะสร้างสาธารณกุศลเพื่อประโยชน์แก่อนุชน จึงต่างพากันสละทรัพย์ตามความศรัทธา เมื่อรวบรวมจำนวนเงินได้เจ็ดพันกว่าบาทเศษ ท่านเจ้าภาพก็มีจิตร่วมการกุศลครั้งนี้ด้วยโดยเพิ่มเติมเงินให้ครบแปดพันบาท แล้วก็มอบถวายหลวงพ่ออั้น เจ้าอาวาสวัดพระญาติการาม ช่วยสมทบทุนสร้างโรงเรียนต่อไป ต่อจากนั้น เราก็อุทิศส่วนกุศลในการช่วยสมทบทุนสร้างโรงเรียนนี้ถวายให้แก่หลวงพ่อสุริยะมุนี เพื่อเป็นอนุสรณ์ในวันฉลองพระวิหารใหม่

สิ่งที่เราได้รับตอบแทนก็คือ ความเบิกบานใจในการร่วมบริจาคครั้งนั้น

นายสถานีรถไฟอยุธยาเป็นกรรมการและเป็นโฆษก ก็ได้บรรยายถึงความเป็นมาของวิหารหลังนี้ หลังจากนั้นท่านโฆษกก็ได้นำไข่เต่ามาให้ชมบอกว่า ก่อนวันงานเต่าคลานขึ้นมาจากน้ำได้ไข่ไว้ที่วิหาร พวกเราต่างชมแล้วก็ส่งไปให้ชมต่อๆ กันจนทั่ว ข้าพเจ้าพิจารณาดูก็เห็นเป็นไข่เต่าชนิดเปลือกแข็ง เล็กกว่าไข่ไก่ธรรมดา เปลือกไข่นั้นมีรอยนูนขึ้นมาเหมือนเส้นด้ายขดเป็นตัวเลขมองเห็นได้ชัดเจนเป็นเลข ๓๖ ท่านโฆษกบอกว่า หลวงพ่อท่านมักจะให้หวยเป็นเลขท้ายสลากกินแบ่งรัฐบาล ก่อนหน้าวิหารจะเสร็จเรียบร้อยมีคนถูกไปมากแล้ว บางคนถูกไปตั้งยี่สิบครั้งก็มีทั้งรางวัลใหญ่รางวัลน้อย

แต่หลวงพ่อท่านไม่ชอบให้กินรวบหรือหวยเถื่อน เพราะเคยมีคนมาขอหวยเถื่อนจากท่าน แต่ผู้นั้นก็มีอันเป็นไป อยู่ในวิหารในวันนั้นสายตาของคนเป็นจำนวนส่วนมากเห็นเป็นเลข ๓๖ มีหลายท่านเมื่อออกจากพระวิหาร ก่อนจะกลับแวะหาซื้อสลากกินแบ่งกันคนละใบเพราะรุ่งขึ้นเป็นวันออกสลาก แต่ปรากฏว่าในงวดวันที่ ๑๓ นั้นไม่ได้ออกเลข ๓๖ ต่อมาอีกงวดคือ วันที่ ๒๐ เมษายน สลากก็ออกเลขท้าย ๓๖ ตรงกับเลขในไข่เต่า นับเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดที่ข้าพเจ้าเขียนบันทึกนี้ ก็มิใช่จะมุ่งให้ท่านงมงาย เพียงแต่ชี้ให้เห็นความประหลาด ที่อยู่ในสายตาคนเป็นจำนวนมากในวันนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าคิด

หลังจากงานฉลองพระวิหารและหลวงพ่อสุริยะมุนีสิ้นสุดลง เราต่างก็มีใจอิ่มเอิบ และได้เห็นผลงานของผู้ประกอบกรรมดีสร้างวัตถุถาวรไว้ในพระพุทธศาสนา คิดว่าผู้ที่ไปในงานครั้งนี้ทุกคนต่างก็มีจิตใจเบิกบาน เมื่อทราบประวัติความพยายามด้วยความเข้มแข็งอดทน และด้วยความศรัทธานับว่าได้พบได้เห็นในสิ่งที่เป็นมงคลตลอดเวลา เมื่อกลับมาถึงบ้านก็ตั้งใจว่าจะบันทึกเรื่องนี้ไว้ เพื่อท่านที่ยังไม่รู้จะได้รู้ ที่ยังไม่เคยเห็นก็จะได้เห็น และคิดว่าท่านผู้อ่านคงอยากจะทราบชื่อของท่านผู้ประกอบกรรมดี ที่มีความรู้สึกในชีวิตคล้ายคลึงกับท่านธรรมปาลว่าคือใคร ข้าพเจ้าคิดว่าจะไม่แจ้งในที่นี้ หากท่านผู้ใดมีจิตศรัทราอยากรู้จริงๆ ก็ขอให้ท่านไปดูชื่อผู้สร้างวิหารติดไว้หน้าวิหารหลวงพ่อสุริยะมุนี ที่หน้าสถานีรถไฟอยุธยา เพื่อจะได้เพิ่มความศรัทราในตัวท่านยิ่งขึ้น



..................... เอวัง .....................
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --

แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 26 ก.ค.2006, 1:20 pm, ทั้งหมด 2 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 11 เม.ย.2006, 2:17 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ด้วยสัจจะ บารมี อันแน่วแน่
ไม่เชือนแช เปลี่ยนใจ ไปเป็นอื่น
เฝ้าตั้งจิต อธิษฐาน ทุกวันคืน
ขอให้ชื่น สมจินต์ ในเจตนา
สิบห้าปี ผ่านมา น่าพิศวง
จิตมั่นคง ตั้งมั่น ในศาสนา
วิหารหลวงพ่อ สุริยะ อยุธยา
สร้างสำเร็จ จากศรัทธา และบารมี

ท.เลียงพิบูลย์
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 04 ส.ค. 2006, 12:15 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนา สา....ธุ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 04 ส.ค. 2006, 11:09 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ สาธุ สาธุ
 
ว่าที่ร.ต.ศุภเสฏฐ์ รวีภั
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2006, 5:40 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มีความเชื่อในกรรม เวร - ของมนุษย์ ...ขอให้ตั้งใจทำความดีเสมอ...
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.ย. 2006, 1:52 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อ่านแล้วมีสาระดีจะนำไปเผยแผ่ต่อไป นายอังคาร ยิ้ม
 
โอบเอื้อ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 10 ก.พ.2007, 3:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โมทนา...สาธุ กับการสร้างพระวิหารอริยะมุนี
 
ไลลารินทร์
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 14 ก.ค. 2006
ตอบ: 64

ตอบตอบเมื่อ: 13 มี.ค.2007, 1:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขออนุโมทนาสาธุกับท่าน ท.เลียงพิบูลย์ ด้วยนะคะ สาธุ
 

_________________
เชื่อ ศรัทธา และเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วยหัวใจอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวYahoo Messenger
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 09 เม.ย.2007, 1:38 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมเคยไปที่สถานีรถไฟอยุธยาไม่เจอวิหารสุริยะมุนีเลยครับ รบกวนผู้รู้ช่วยตอบหน่อยครับว่าตอนนี้ยังมีอยู่หรือเปล่า อยากไปนมัสการน่ะครับ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง