Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 การแก้กรรม แก้ที่วัดไหนก็ได้หรือไม่ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
กล้วยไม้
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 28 ต.ค.2004, 10:50 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าเกิดรู้สึกตนเอง ต้องอยู่กรรม จะต้องไปแก้ที่วัดเดิม รึเปล่า หรือ วัดไหนก็ได้ครับ ขอบคุณครับ
 
เจียง
บัวใต้น้ำ
บัวใต้น้ำ


เข้าร่วม: 04 ต.ค. 2004
ตอบ: 118

ตอบตอบเมื่อ: 28 ต.ค.2004, 11:29 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กรรมคือสิ่งที่คุณกระทำ ใครจะแก้ได้ ผมไม่เชื่อว่าจะมีใครแก้กรรมได้ นอกจากรอรับผลของกรรมที่กระทำไป และไม่ทำกรรมใหม่มาเพิ่ม น่าจะเป็นการแก้กรรมที่ถูกที่สุด
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 28 ต.ค.2004, 12:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ผมเข้าใจถึงความหมายที่แท้จริงที่คุณกล่าวนะ



กรรมประเภทนี้เป็นกรรมที่หนักพอควร และยิ่งไม่รีบแก้ก็จะสั่งสมให้หนักเข้าไปอีก

ถ้ามีโอกาสก็รีบไปแก้เสียนะครับ วัดไหนก็ได้ที่เค้าจัดกัน



แนะนำที่ชลบุรี มีวัดแห่งหนึ่งรับตลอดปี



วัดสุขใจดี (วัดซากสมอ) อ.เมือง ชลบุรี โทรติดต่อ 038-214671



******





 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 28 ต.ค.2004, 12:46 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ลืมบอกไปนะครับ สิ่งที่เราทำไปแล้วไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือกรรมชั่ว ก็ตาม

การกระทำก็เหมือนกับการประทับรอย เราไม่สามารถที่แก้ไขรอยประทับนั้นให้เหมือนเดิมได้ ฉะนั้นการแก้กรรม คือไม่ได้ไปแก้สิ่งที่ทำไปแล้ว แต่เป็นการสร้างกรรมที่ตรงกันข้าม เช่นต้องการแก้กรรมชั่วไม่ดี เราก็พยายามสร้างกรรมดีซึ่งเป้นสิ่งที่ตรงกันข้าม เพราะกรรมดีที่เราสร้างใหม่นั้นนำพาหรือดึงให้เราห่างไกลจากผลของกรรมชั่วที่จะส่งผล การแก้กรรมก็คือการสร้างกรรมใหม่ที่ตรงกันข้ามนั้นเองครับ



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
ปุ๋ย
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 02 มิ.ย. 2004
ตอบ: 1275

ตอบตอบเมื่อ: 28 ต.ค.2004, 5:42 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



ทุกคนเกิดมาเรียนรู้ทุกข์ และทุกคนต้องได้รับผลทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว ที่ตนเองได้ก่อขึ้นมา ทั้งที่จะเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตาม



การเกิดเป็นมนุษย์ ยากที่จะหลีกเลี่ยงที่จะไม่ให้เกิดเหตุของการก่อกรรม หากเรา คิดดี ทำดี พูดดี และมีสติอยู่ตลอดทุกอิริยาบทของชีวิตประจำวัน ก็ไม่จำเป็นต้องไปแก้กรรมตามพิธีกรรมต่างๆที่อุปโลกน์กันขึ้น



แก้ดี ก็ดีไป แก้ไปแก้มา รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ก่อกรรมหนักทั้งผู้ทำพิธีและผู้ที่เข้าไปทำตามพิธีที่แนะนำ



ท่านลองตรองดูเถิดว่า ทำอย่างไร จึงจะไม่ต้องไปทำพิธีแก้กรรม



มณี ปัทมะ ตารา
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 28 ต.ค.2004, 6:10 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยู่กรรม เป็นยังไงหรอค่ะ



ไม่เคยได้ยินเลยค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 28 ต.ค.2004, 6:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ถ้าอมัยเคยได้ยินการจัด "ปริวาสกรรม" ก็จะเข้านะครับ



ถ้าไม่เคยได้ยิน บอกน่ะ จะอธิบายให้ฟัง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
อาจาโร
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 31 ต.ค.2004, 12:35 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณกล้วยไม้ครับ การอยู่กรรม หมายถึงการเข้าไปปฏิบัติอะไรสักอย่างหรือแต่งชุดขาวอยู่ในวัดเฉยๆครับ ? ขอความเข้าใจด้วยครับ



ที่บอกว่าไปแก้ที่วัด หมายความว่าแก้กรรมใช่หรือไม่ครับ ถ้าใช่ เกรงว่าคุณกล้วยไม้อาจเข้าใจผิด เพราะว่ากรรมที่ไม่ดีที่เรากระทำแล้วแก้ไม่ได้ เราต้องรับผลของกรรมนั้น เป็นชาวพุทธต้องเชื่อเรื่องกรรม เพราะพระพุทธเจ้าสอนเรื่องกรรม คือทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว



๑ ใน ๑๒ ประเภทของกรรม มีอยู่อันหนึ่งเรียกว่า อโหสิกรรม กรรมบางอย่างอโหสิกรรมได้ แต่เรามีกรรมดี เพียงพอที่จะขออโหสิกรรมแล้วหรือยัง อย่างที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนว่า " เราเกิดมาทำไม เราเกิดมาสร้างความดี ใช้หนี้กรรมเก่า " ไม่ใช่ไปเข้าพิธีแก้กรรมอย่างที่เข้าใจนะครับ เสียเงินเสียทองเสียเวลาเปล่า !



ผมเคยประสบปัญหาชีวิตที่หนักเอาการ ชนิดกินไม่ได้นอนไม่หลับ แต่ยังมีสติระลึกได้ว่า พุทธัง สรณัง คัจฉามิ ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ผมก็ใช้วิธีเข้าห้องพระสวดมนตร์ทุกคืน บทที่สวดผมก็ใช้บทอิติปิโส ( พุทธคุณ ) เรื่อยไปจนขึ้น หาหุงฯ ถึงชะยันโตเลย จิตใจดีขึ้นครับ แล้วก็รอดพ้นวิกฤตมาได้อย่างน่าอัศจรรย์ พาหุงฯ อยู่ในบทชัยมงคลคาถา หรือที่เรียกว่าบทพระพุทธเจ้าชนะมารนั่นแหละครับ ไม่เสียหายหรอกครับ เพราะการสวดมนตร์เป็นกิจอันหนึ่งของชาวพุทธ จัดเป็นบุญในข้อภาวนามัย แทนที่เราจะใช้บทภาวนาว่า พุทโธ หรือ สัมมาอรหัง หรือ ยุบหนอพองหนอ เราก็ใช้บทสวดมนตร์นี้เป็นองค์ภาวนาแทน



ไม่ต้องไปแก้กรรมที่ไหนหรอกครับ แก้ที่ตัวเรานี่แหละ ได้ผลที่สุด
 
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 31 ต.ค.2004, 2:35 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณกล้าวไม้ช่วยขยายความของคำถามให้ชัดเจนมากกว่านี้หน่อยครับ



ดูสิทำให้คนอื่น ๆ เค้าตีความไปต่างๆ นานา



ถ้าเข้ามาก็ช่วยอธิบายหน่อยว่าการแก้กรรม

กรรมที่ว่าคืออย่างไรจะได้แนะนำได้ถูกต้อง นะครับ



 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
โอ่
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 พ.ย.2004, 5:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เราลองถามตัวเองว่าเราสามารถทำบุญได้มากขนาดไหน(ไม่ได้หมายถึงการใช้เงิน) แต่หมายถึงอินทรีสังวร และการระลึกในอนุสติ 10 และบุญกิริยาวัตถุ 10 ทำได้ในขอบเขตเท่าไร ทำให้มากกว่านั้นได้มากเท่าไร มีความเพียรมากเท่าไร มีความอดทนมากเท่าไร ระดมออกมาใช้ให้หมดอย่าให้เหลือ พัฒนาชีวิตให้จิตเหลืออยู่แต่ระลึกในกุศล ทำให้มาก ทำให้เกิดผลอย่างใดอย่างหนึ่ง ทำให้มันประจักษ์กับเราเอง แล้วทำตามนั้นนั่นแหละถือว่าเป็นการแก้กรรมที่ดีที่สุดไม่ต้องมีพิธีการ
 
P.Nung
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 พ.ย.2005, 10:16 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอเชิญเข้าอยู่ปริวาสกรรมและบวชชีพราหม์ ประจำปี 2548

ณ วัดดอนชะเอม ต.ดอนชะเอม อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี

ระหว่างวันที่ 4 - 13 ธันวาคม 2548

( ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 1 ถึง ขึ้น 12 ค่ำ เดือน 1 ของทุกปี )

ร่วมถือเนกขัมมะ (บวชชี-พราหมณ์) ปฏิบัติธรรม ฝึกสมาธิ ฟังการบรรยาย

ใส่บาตรถวายภัตตาหาร-เครื่องดื่ม แด่พระภิกษุสามเณร-ผู้ปฏิบัติธรรม

“เสริมสร้างบารมี ขจัดปัดเป่าปัญหาชีวิตศึกษาธรรมสร้างที่พึ่งทางใจ”ได้ทุกวัน

ผู้มีศรัทธา ประสงค์จองเป็นเจ้าภาพภัตตาหาร และเครื่องดื่ม

ติดต่อสอบถามทางวัดโดยตรงได้ตั้งแต่บัดนี้ หรือ โทร 071558141 / 01 3107191

www.donchaam.th.gs
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง