Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
พุทธคยา สังเวชนียสถานแห่งการตรัสรู้
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
วัดและศาสนสถาน
ผู้ตั้ง
ข้อความ
ก้อนดิน
บัวบานเต็มที่
เข้าร่วม: 07 ก.ค. 2004
ตอบ: 623
ตอบเมื่อ: 05 ธ.ค.2006, 3:20 pm
พุทธคยา
สังเวชนียสถานแห่งการตรัสรู้
พระพุทธองค์ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ณ ตำบลอุรุเวลาเสนานิคม แคว้นมคธ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในเขตเมืองพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย
ณ พุทธคยาแห่งนี้ จึงเป็นหนึ่งในสังเวชนียสถานอันสำคัญที่ชาวพุทธทั่วโลกเดินทางไปแสวงบุญอยู่เนืองนิจ เพื่อสักการะ
พระที่นั่งวัชรอาสน์ และต้นพระศรีมหาโพธิ์
ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระพุทธเจ้าทรงประทับตรัสรู้
ส่วนพุทธศาสนสถานสำคัญที่เหมือนเป็นสัญลักษณ์ของที่นี่ก็คือ พระเจดีย์ศรีมหาโพธิวิหาร ซึ่งเป็นเจดีย์ใหญ่ทำด้วยหินทราย สูงประมาณ 160 ฟุต ตามประวัติเล่าว่า พระเจ้าอโศกมหาราชได้สร้างขึ้น เมื่อราว 300 ปีก่อนคริสตกาล หรือประมาณ พ.ศ.205 โดยเชื่อว่าตัวเจดีย์ใหญ่ได้รับการบูรณะและสร้างขึ้นใหม่เมื่อราวคริสตศตวรรษที่ 7 โดยกษัตริย์วงศ์ปาละ แห่งแคว้นเบงกอล
ในเดือนมิถุนายน พ.ศ.2545 องค์การยูเนสโกได้ขึ้นทะเบียนและประกาศให้พุทธคยาเป็นมรดกโลก
โดยเมื่อวันที่ 17-19 ก.พ.46 ที่ผ่านมา ผู้แทนชาวพุทธกว่า 400 คนจาก 25 ประเทศทั่วโลกได้เดินทางมาร่วมสัมมนาระดับนานาชาติว่าด้วยเรื่องการท่องเที่ยวเชิงจิตวิญญาญ (spiritual tourism) ณ เมืองนิวเดลี พร้อมกันนี้ได้จัดงานเฉลิมฉลองให้กับพุทธคยาที่ได้เป็นมรดกโลกด้วย
สำหรับประเด็นสำคัญที่ได้อภิปรายกันนั้น ยังคงเป็นคำถามที่ค้างคาใจผู้แทนชาวพุทธส่วนใหญ่ว่าพุทธคยาจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นหลังจากที่ได้เป็นมรดกโลกหรือไม่
หรือว่าจะกลายเป็นเพียงแหล่งท่องเที่ยวที่ขายสินค้า และล่อหลอกนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมโดยไม่ได้รับรู้คุณค่าที่แท้จริงของสถานแห่งนี้
เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมา บริเวณพุทธคยาเต็มไปด้วยสิ่งสกปรกรกรุงรัง นอกจากนี้ ยังมีร้านค้าขายและขอทานนั่งอยู่เกลื่อนกลาด นักท่องเที่ยวต่างชาติกว่าหนึ่งในสามถูกฉกชิงวิ่งราวทรัพย์สิน ทำให้หลายคนไม่กล้ากลับมาเยี่ยมชมอีก แต่ดูเหมือนว่ารัฐบาลอินเดียจะไม่เคยใส่ใจกับเรื่องเหล่านี้มาก่อน จนกระทั่งได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลก ทางรัฐพิหารจึงได้ตกลงจัดสรรงบประมาณรวม 65 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้ในการบูรณปฏิสังขรณ์พุทธคยาให้เป็นศูนย์กลางของศาสนาพุทธ เฉกเช่นเดียวกับเมืองวาติกันของคริสต์และเมืองเมกกะของอิสลาม
รัฐบาลได้ยื่นมือเข้ามาจัดระเบียบมรดกโลกของชาวพุทธ โดยแบ่งโซนนิ่งเมืองพุทธคยา ออกเป็น 3 ส่วนหลัก ได้แก่ บริเวณใจกลาง บริเวณกันชน และบริเวณรอบนอก
ในบริเวณใจกลางคือส่วนพระมหาเจดีย์นั้น รัฐบาลจะปรับปรุงน้อยที่สุดโดยจะอนุรักษ์ให้คงรูปแบบเดิม ที่มีความร่มรื่นและเงียบสงบสำหรับปฏิบัติภาวนา พร้อมกับมีป้ายแสดงประวัติความเป็นมาของสถานที่สำคัญต่างๆ อย่างละเอียด สำหรับผู้มาเยี่ยมชมทั่วไปจะจัดให้เดินอยู่ภายนอกบริเวณกันชน เพื่อจะได้ไม่เป็นการรบกวนการปฎิบัติธรรม ส่วนบริเวณรอบนอก จะจัดเป็นที่สำหรับขายสินค้า
รัฐบาลอินเดียคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมพุทธคยามากขึ้นกว่าปีที่แล้วหลายเท่าตัว เพราะมีการส่งเสริมให้พุทธคยาเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชิงจิตวิญญาณด้วย อย่างไรก็ดี ผลกระทบจากการจัดโซนนิ่งดังกล่าว ทำให้นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาเพื่อจาริกบุญ โดยการสวดมนต์ภาวนาและปฏิบัติธรรมนั้น แปรเปลี่ยนเป็นกลุ่มทัวร์ที่เข้ามายืนออเพียงเพื่อจะถ่ายรูปใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์เท่านั้น ชาวบ้านส่วนใหญ่ในพื้นที่บอกว่า เมืองพุทธคยาขาดเสน่ห์แบบดั้งเดิมที่เคยมีมา แม้พวกเขาจะมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องแลกกับบรรยากาศเก่าๆ ที่คุ้นเคย คงต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัวกับเมืองที่แปลงโฉม เพื่อรอต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกสารทิศ
พุทธคยาเริ่มเปลี่ยนไปแล้ว เปลี่ยนไปเช่นเดียวกับสถานที่ที่เป็นมรดกโลก ในหลายๆ ประเทศ หากในวันวิสาขบูชาเดือนหน้านี้ ใครมีโอกาสไปพุทธคยา เขียนมาบอกเล่ากันบ้างนะคะว่ารู้สึกอย่างไรกับพุทธคยา...มรดกโลกที่เปลี่ยนไป
....................................................................
เรื่องจากต่างแดน : พุทธคยา
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 29 เมษายน 2547 14:52 น.
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
วัดและศาสนสถาน
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th