คนที่สามารถแสดงปาฏิหาริย์ลอยกลางอากาศได้ (อิทธิฤทธิญาณ)

ตอบเมื่อ: 18 พ.ย.2006, 6:07 pm

คนที่สามารถแสดงปาฏิหาริย์ลอยกลางอากาศได้
(อิทธิฤทธิญาณ)

จากการพิสูจน์ปรารกฏว่าลอยอยู่กลางถนนสูงถึง 70 ฟุต ต่อหน้าประจักษ์พยาน และในเวลากลางวันแสกๆ ชายคนหนึ่งแสดงปาฏิหาริย์ลอยตัวออกไปนอกหน้าต่างโรงแรมสูงถึง 70 ฟุต และนอนตัวลอยอยู่ได้ในอากาศที่นั่น ไม่มีใครสามารถขบปัญหาอันลี้ลับนี้ได้ว่าเป็นเพราะเหตุใด

การทดลองซึ่งได้กระทำหลายครั้งต่อเนื่องกันด้วยความร่วมมือจาก มร.แดเนียล ดังกลาส ฮิวม์ ปรากฏเป็นเรื่องราวเป็นหลักฐานใน “วารสารวิทยาศาสตร์” รายไตรมาสฉบับประจำฤดูร้อนมีความยาวครึ่งคอลัมน์ในตอนท้ายข้อความนั้นตีพิมพ์ด้วยอักษรขนาดใหญ่มีความว่า

“ในทัศนะของข้าพเจ้าไม่มีข้อสงสัยใดๆ เลยว่าเป็นด้วยวิธีการใดไม่เป็นที่ทราบชัด มร.ฮิวม์สามารถยกตัวลอยขึ้นไปเหนือพื้นดินได้ และลอยอยู่เช่นนั้นกลางอากาศเป็นระยะสูงพอสมควร”

วารสารวิทยาศาสตร์ได้ก่อให้เกิดความครึกโครมขึ้นในหมู่คนอ่านเป็นเวลาหลายปี...แสดงว่าแดเนียล ดังกลาส ฮิวม์ เป็นมนุษย์มหัศจรรย์ ครั้นแล้วพฤติกรรมของเขาก็ได้รับการประเมินค่าทางวิทยาศาสตร์ในที่สุด ไม่แต่ฮิวม์จะได้รับการเห็นชอบด้วยจากวารสารวิทยาศาสตร์ฉบับนั้นเท่านั้น ในเวลาหลายปีแห่งศตวรรษหลังสุดนี้ความเร้นลับซึ่งเกิดขึ้นในสก๊อตแลนด์รายนี้ยังเป็นเหตุการณ์ที่เล่าลือกันไปทั่วโลกอีกด้วย

ต่อหน้าประจักษ์พยานมากมาย ในเวลากลางวันแสกๆ เขาได้แสดงปาฏิหาริย์อีกหลายครั้ง ซึ่งไม่เคยประสบความล้มเหลว และไม่มีใครสามารถอธิบายได้ถึงอานุภาพอันประหลาดมหัศจรรย์ของเขาได้ ถ้าแม้ว่าเขาเป็นคนลวงโลก ก็ไม่มีใครสามารถจับเขาได้ แดเนียล ดังกลาส ฮิวม์ เกิดในสก๊อตแลนด์และมาเติบโตอยู่ที่อเมริกา เมื่อเป็นเด็กเขาทำให้บิดางุนงงและวุ่นวายใจด้วยการที่เขาชอบพูดเรื่องที่บิดามารดาไม่สามารถเห็นได้

ในไม่ช้าเขาก็ได้ชื่อว่าเป็น “ด็กพ่อมด” การกระทำที่ประหลาดมหัศจรรย์ซึ่งเขาแสดงให้เห็นมีหลายอย่าง รวมทั้งการทำให้วัตถุต่างๆ ลอยขึ้นจากโต๊ะ และการทำให้เกิดเสียงน่าขนลุกขนพองออกมาจากมุมต่างๆของห้อง แต่บิดามารดาก็ยังถือว่าเขาเป็นนักแสดงกลอยู่นั่นเอง เว้นแต่ว่าเป็นนักแสดงกลชั้นเซียนเท่านั้น

เมื่ออายุ 25 เขาจึงออกเดินทางไปยังภาคพื้นยุโรป ด้วยความหวังว่าอานุภาพของเขาคงจะมีผู้คำนึงถึงอย่างจริงจังมากขึ้น และก็เป็นไปดังที่เขามุ่งหวังจริงๆ ในไม่ช้าฮิวม์ก็กลายเป็นผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง ในเวลาที่เขาแสดงอภินิหารมีผู้มาดูกันอย่างแน่นขนัด และพวกนั้นก็ไม่เคยผิดหวังในเมื่อชาวสก๊อตนัยน์ตาสีฟ้า ร่างสูง แสดงอภิหารมหัศจรรย์ให้พวกเขาได้ชมเสมอ

ห้องที่เขาประกอบพิธีตามไฟสว่างเสมอ ฮิวม์ประณามคนทรงทั้งหลาย ที่จำเป็นจะต้องปฏิบัติการณ์ของตนภายในห้องที่มืดขมุกขมัว ซึ่งชวนให้คิดว่าต้องมีลับลมคมในไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่ง

โรเบิร์ต เบรานิง จินตกวีเอกของโลกก็เคยไปชมการแสดงปาฏิหารย์ของเขาครั้งหนึ่ง ซึ่งเขาแสดงให้เห็นว่าสามารถทำให้โต๊ะลอยพ้นพื้นสามฟุต และเคลื่อนคล้อยผ่านไปในห้องได้หลายหลา

หลายคนเชื่อว่าการแสดงปาฏิหาริย์เช่นนี้สามารถกระทำได้ก้ต่อเมื่อผู้นั้นติดต่อกับภูตผีปีศาจได้เท่านั้น รเชื่อเช่นนั้น เป็นเหตุให้ทางกรุงโรมสั่งขับเขาออกจากนิกายคาธอลิค เพราะเห็นว่าการติดต่อกับภูติผีปีศาจเป็นการกระทำที่เป็นไปไม่ได้ การมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นยิ่งเพิ่มความมีชื่อเสียงให้แก่ฮิวม์มากยิ่งขึ้น

ในการแสดงาฏิหาริย์ที่ไม่เป็นทางการ ตามบ้านสมัยใหม่ในกรุงลอนดอน เขายินดีแสดงการเล่นกีตาร์โดยไม่ได้แตะต้องเครื่องดนตรีนั้นเลย และการเขียนลายเส้นโดยที่ยืนอยู่ห่างจากปากกาและกระดาษหลายหลา

การแสดงอภินิหารต่างๆ เหล่านี้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงหลายคนมีความกระหายใคร่ที่จะหาข้อเท็จจริง พวกเขาเห็นว่า ถึงเวลาแล้วที่ฮิม์ควรจะให้ผู้ชี่ยวชาญสอบสวนเสียที จะได้ทำให้นักวิทยาศาสตร์ที่ดึงดันอยู่กับความเห็นอย่างเก่าได้ประจักษ์แจ้งว่าความเห็นของตนถูกหรือผิด

ครั้นแล้ว ด้วยความประหลาดใจอย่างใหญ่หลวง ฮิวม์ได้ยินยอมตกลงให้มีการสอบสวนโดยดี ก่อนที่จะมีการสอบสวน ฮิวม์ได้เดินทางทัศนาจรไปตามประเทศต่างๆ หลายประเทศในทวีบยุโรปที่นับว่าสำคัญก็คือ เขาได้แสดงปาฏิหาริย์ถวายต่อหน้าที่นั่งพระราชินีแห่งฮอลันดา พระราชาธิบดีแห่งปรัสซียและพระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย และที่ตื่นเต้นก็คือได้มีผู้ยายามจะสังหารเขาในเบลเยี่ยม แต่ไม่สำเร็จ

เมื่อกลับมายังประเทศอังกฤษ เขาพบว่าห้องชุดห้องหนึ่งในโรงแรมที่กรุงลอนดอนได้ถูกสั่งจองล่วงหน้าไว้แล้ว เพื่อการสอบสวนหาความจริงจากเขาตามที่ได้รับปากไว้ การทดสอบจึงได้มีขึ้นหลายวันต่อเนื่องกัน ภายใต้การดำเนินงานของเซอร์วิลเลียม ครูคส์ นักฟิสิกซ์และนักเคมีผู้มีชื่อเสียง ผู้สังเกตการณ์มีรวมทั้งเอิร์ลแห่งดังราเวน และลอรดบรูฮ์ม

การทดสอบได้จะได้กระทำในเวลากลางวันแสกๆ ทั้งสิ้น ซึ่งฮิวม์ก็ตกลงตามเงื่อนไขเหล่านี้ทุกประการ ในวันแรกฮิวม์แสดงตนด้วยการเสกไฟออกมาจากมือเปล่าๆ และสั่งให้เครื่องเรือนหลายชิ้นลอยขึ้นจากพื้น บรรดาผู้ทดสอบต่างพากันเที่ยวค้นหาเครื่องมือ ซึ่งอาจจะมีซ่อนอยู่ แต่ก็ไม่พบอะไรเลย

ในวันที่สองเซอร์วิลเลียมได้รายงานในวารสารวิทยาศาสตร์ไตรมาสว่า “ในสามโอกาสต่างๆ กัน ข้าพเจ้าเห็นเขายกตัวให้ลอยขึ้นพ้นจากพื้นห้องโดยสิ้นเชิง ขณะที่ปรากฏตัวเข้าฌาน ข้าพเจ้าเอามือสอดผ่านเข้าไปใต้เท้าของเขาและจับพื้รองเท้าของเขาดู ก็ไม่พบอุปกรณ์ใดๆ ทั้งสิ้น”

อนึ่งในบ่ายวันที่สองนั้นเอง ที่ฮิวม์แสดงอภินิหารของเขาให้เซอร์วิลเลียม และคณะของเขาตระหนักแนว่าวกเขากำลังด้ดูการแสดงปาฏิหาริย์ที่ไม่มีที่ใหนได้ดูอีกแล้วในพิภพนี้

ขณะเข้าฌานอยู่อย่างลึก ในทันใดฮิวม์ก็ลอยขึ้นไปในอากาศสูงประมาณห้าฟุต แล้วนอนตัวตามขวางผ่านห้องตรงไปยังหน้าต่างที่เปิดอยู่

ลอร์ดดันราเวนวิ่งถลันออกไปด้วยเกรงว่าจะเกิดภัยพิบัติขึ้น แต่ก็สายเกินไป ทุกคนต่างก็เฝ้าดูเหตุการณ์อยู่อย่างใจหายใจคว่ำ ขณะที่ฮิวม์ลอยออกไปนอกหน้าต่างและนอนตัวอยู่เช่นนั้น พ้นขอบหน้าต่างออกไปสองสามฟุต และสูงเหนือระดับถนนถึง 70 ฟุต นับเป็นภาพที่น่าอัศจรรย์ใจจนเหลือเชื่อ

ครั้นแล้วหลังจากนั้นสักครู่หนึ่ง ร่างที่กำลังเข้าฌานอยู่ก็ลุกขึ้นยืน เดินผ่านหน้าต่างบานนั้นเข้าไปในห้องอีกชั้นหนึ่งข้างบน คนพวกนั้นพากันยืนดูอย่างฉงนสนเท่ห์ ครั้นแล้วหลังจากนั้นอีกครู่หนึ่งประตูก็เปิดออกและแดเนียล ฮิวม์ก็กลับเข้ามาในห้อง

จึงไม่จำเป็นที่จะต้องมีการทดสอบอีกต่อไปแล้ว ผู้สอบสวนทุกคนออกจากโรงแรมไปอย่างตัวสั่นงันงก

“ถ้ามีใครเล่าเรื่องนี้ให้ผมฟัง” ลอร์ดดันราเวนกล่าว “ผมคงคิดว่าคนนั้นไม่บ้าก็เมา แต่บัดนี้ผมเชื่อแล้วว่าแทบทุกอย่างไม่ว่าอะไรก็สามารถเป็นไปได้ทั้งนั้น”

แดเนียล ดังกลาส ฮิวม์ถึงแก่กรรมเมื่ออายุ 53 ปี เขาใช้เวลาในชีวิตของเขาเข้าฌานแสดงปาฏิหาริย์ให้คนชม แต่เขาไม่เคยได้เงินจากพรสวรรค์ของเขาแม้แต่เก๊เดียว

ที่มา :: จากมิติพิศวง สันตสิริ