Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ความอยากทางเพศ อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
รักษาจิต
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 03 พ.ย. 2006
ตอบ: 8
ที่อยู่ (จังหวัด): เชียงใหม่

ตอบตอบเมื่อ: 04 พ.ย.2006, 1:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เมื่อเราพยายามรักษาศีล และทำสมาธิอย่างถูกวิธี จนได้ผลของสมาธิแล้ว อารมณ์จิตที่เป็นอุเบกขาสมบูรณ์ด้วยสติ จะเป็นจิตที่สะสมกำลังได้เต็มที่ เมื่อจิตคลายตัวลงมา ก็ใช้พิจราณาธรรมได้ เช่นร่างกาย เหมือนดูทีวี (จิตจะสว่างตั้งแต่จิตสงบ) เห็นกายของเรา อวัยวะภายใน และจิตเรา อยู่ภายในกาย นิมิตที่เห็นจิตที่บริสุทธิ จะประภัสสร เห็นเป็นเพ็ชรเจียนัยเหลี่ยมสะท้อนแสงแวววาว น่าตื่นตาตื่นใจยิ่งนัก เราเลยเห็นว่ากายที่เป็นเปลือกว่าสวยว่างามห่อหุ้มอวัยวะใหญ่น้อยอันไม่น่าดูแถมสกปรก เป็นสรีรยนต์ที่ทำงานโดยธรรมชาติโดยหน้าที่ของมัน เพื่อให้ร่างกายดำรงอยู่ได้ ระบบต่างๆทำงานโดยเราไม่รู้เลย เช่นระบบสืบพันธุ์ก็ทำหน้าที่ผลิตอสุจิ ต่อมใต้สมอง ก็ผลิตฮอร์โมนกระตุ้นให้เกิดความกำหนัดที่จะปลดปล่อยเชื้อชีวิตเพื่อการดำรงเผ่าพันธ์ มีความเสียวกระสันเป็นรางวัลให้กับผู้ปฏิบัติการ แต่ผู้ปฏิบัติเกิดติดใจในรางวัลนิดหน่อยนั้น ก็หลงวนเวียนทำหน้าที่นั้นทุกโอกาสที่มีเรี่ยวแรง ซ้ำซากอยู่เช่นนั้น แม้ต้องใช้ไวอากร้า จิตดวงนี้ก็เลยไม่มีโอกาสพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีกว่าได้เลย จิตเกิดความเบื่อหน่ายหน้าที่นี้เพราะรุ่มร้อนเหน็ดเหนื่อย ต่างกับจิตที่สว่าง สอาด สงบ เป็นเอกเทศเป็นไท เห็นดวงนิมิตของจิตที่บริสุทธิ กับดวงจิตที่เป็นกามต่างกัน จิตที่เป็นราคะจะมีวงสีแดงและดำล้อมดวงจิตราคะและโมหะ แสงสว่างแห่งจิตไม่สามารถทะลุทะลวงผ่านออกมาได้ ปัญญามันจะบอกเองว่าจะเลือกเอาแบบไหน ถ้าจิตปลดปล่อยได้จะเกิดความโลงว่างเป็นอัศจรรย์(เจโตวิมุติ) ถ้าปลดปลอ่ยไม่ได้ก็เข้าใจได้บ้างจิตมันเริ่มรู้และพยายามทำต่อไป กามราคะก็จะเบาบางลง อย่าไปหลงกายเน่าๆอันต้องทิ้งในที่สุดไม่เกิน100ปีนี้เลย ชีวิตของจิตมีอายุประมาณไม่ได้ เป็นของที่เราต้องพัฒนา ร่างกายเลี้ยงไม่เชื่องไม่ใช่อะไรของเรา ของอาศัยชั่วคราว อย่าไปตามใจกิเลส เอาร่างกายไปใช้กับเรื่องโง่ๆ เอามาศึกษาพัฒนาจิตดีกว่า การเวียนว่ายตายเกิดเป็นเรื่องจริง ผมรู้เห็น สสาร พลังงานไม่หายไปไหน เคยเห็นพลังงานที่เป็นแสงหลายกลุ่มมาหา และกลุ่มหนึ่งมีมิติเหมือนสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด มาแสดงวิธีเหาะให้ดู เห็นด้วยตาเนื้อ สติ 100 เปอเซ็นต์ หยิกตัวเจ็บ เลยลาออกจากงานมาเรียนรู้ธรรมะ มีเพื่อนแสดงวิธีแตกธาตุหายวับไปปรากฏอีกที่ ย่นระยะทาง10กิโลชั่วพริบตาเดียว เราเดิน 3ชม นี่ก็เป็นเรื่องปลีกย่อย บอกให้รู้ว่าในพระไตรปิฏกเป็นเรื่องจริง ที่วิเศษสุดคือการบรรลุธรรม ที่มนุษย์ทำได้ดีที่สุด สัตว์หมดสิทธิ เทวดาก็ยากกว่า เพราะหลงเสพสุข ไม่เห็นทุกข์เหมือนมนุษย์ ก็อย่าให้เสียชาติเกิด หลงทำซ้ำๆ ซากๆ เหมือนหมาแทะกระดูก อร่อยน้ำลายตนเอง สิ่งดีกว่ามีอีกแยะ ให้คนไม่รู้ทำหน้าที่สืบทอดเผ่าพันธุ์ไปเถอะ
 

_________________
รักษาจิต
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
gorn_666
บัวใต้ดิน
บัวใต้ดิน


เข้าร่วม: 28 ต.ค. 2006
ตอบ: 22

ตอบตอบเมื่อ: 04 พ.ย.2006, 6:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

บางครั้งถ้า ปฏิบัติโดยลำพัง อาจจะหลงทาง ก็ควรหากัลยานิมิตร หรือ สถานที่ปฏิบัติธรรม ให้ผู้รู้เป็นผู้แนะแนวทาง ให้จะเร็วและถูกทางกว่า ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ความสำเร็จมากน้อยเท่าไหร่ อยู่ที่ความตั้งใจด้วยครับ ไม่ใช่บอกทำทุกวัน แต่วันละ 5 นาทีอย่างนี้คงลำบากหน่อยครับ

http://www.dhammajak.net/board/viewforum.php?f=9

http://www.ruendham.com/ruendham.php

สาธุ
 

_________________
วันคืนล่วงไป ล่วงไป บัดนี้เราทำอะไรอยู่
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง