Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ทำไม !...แม่ชีธนพรถึงล่วงรู้เรื่องกรรม อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2006, 5:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ทำไม !...แม่ชีธนพรถึงล่วงรู้เรื่องกรรม

แม่ชีธนพร ชัยประคอง หรือแม่ชีใหญ่ เดิมเป็นฆราวาสธรรมดาคนหนึ่ง มีชื่อและนามสกุลเดิม คือ นางมาลินี ชัยปกรณ์ เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๐๑ ได้ใช้ชีวิตทางโลกจนมีบุตรทั้งหมด ๕ คน ทางด้านการเงินถือว่ามีฐานะพอสมควร ประกอบกับมีอาชีพค้าขายได้กำไรดี

สำหรับเหตุของการบวชนั้น แม่ชีธนพร บอกว่า เกิดจากเบื่อหน่ายชีวิตทางโลก เพราะมีความวุ่นวาย โดยเฉพาะปัญหาทางครอบครัว ปัญหาที่สามีไม่สามารถเข้ากันได้กับผู้เป็นพ่อ ในที่สุดก็ต้องเลิกรากันไป เกิดความทุกข์ใจ จึงได้หัดสวดมนต์ไหว้พระ เอาคุณพระเป็นที่พึ่งมาโดยตลอด กระทั่งได้มีโอกาสรู้จักกับ หลวงพ่อปรีชา วัดเขาอิติสุคโต แล้วก็ได้บวชชีพราหมณ์ เริ่มแรกคิดว่าจะบวชเป็นระยะเวลาประมาณ ๑๐ วันเท่านั้น

ส่วนการเปลี่ยนชื่อจาก มาลินี มาเป็น ธนพร นั้น แม่ชีธนพร ให้เหตุผลว่า ครั้งหนึ่งได้ไปกราบ หลวงพ่อเฮง วัดเขาน้อย จ.ระยอง โดยท่านทักว่าให้เปลี่ยนชื่อจากมาลินี เป็นธนพร ชื่อนี้จะทำให้มีคนรู้จักทั่วประเทศ ครั้งแรกไม่เชื่อเนื่องจากไม่รู้ว่าจะเป็นไปได้อย่างไร แต่ก็เลยลองเปลี่ยนดู เพราะถือว่าเป็นมงคล เป็นชื่อที่พระท่านตั้งให้ และก็เป็นจริงดังคำทำนายของหลวงพ่อเฮงจริงๆ

ภายหลังได้เข้าสมาธิ ที่วัดเขาอิติสุคโตเพียงวันแรก ได้รับคำแนะนำ จากหลวงพ่อปรีชาให้แม่ชีธนพรและแม่ชีอีก ๕ ท่าน ขึ้นไปบำเพ็ญภาวนาบนเขา ระหว่างแม่ชีธนพรสามารถเข้าสมาธิ ต่อเนื่องยาวนานถึง ๒ ชั่วโมง จิตรวมลงเป็นหนึ่งเกือบได้จตุถฌาณ จากนั้นบังเกิดภาพนิมิตขึ้นมาเป็นฉากๆ

แม่ชีธนพรเล่าว่า เหมือนกับการฉายสไลด์ภาพเข้ามาแล้วถูกเลื่อนออกไปทีละภาพๆ ภาพที่ปรากฏขึ้นในขณะนั้นเป็นเรื่องราวของตัวเองทั้งสิ้น

จังหวะที่เห็นภาพ จิตตัวรู้ ก็อธิบายเรื่องราวของกรรม ให้เข้าใจตามไปด้วยว่า กรรมที่ทำลงไปเป็นผลให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ตามมา เรื่องราวทั้งหมดย้อนไปตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน

ภาพหนึ่งที่เห็นอยู่นั้น ในใจได้ถามตัวเองว่า นี่เรากำลังทำอะไรอยู่ ตัวรู้ก็บอกออกมาให้เข้าใจว่า กำลังขโมยเงินคนอื่น แล้วภาพเก่าก็เลื่อนออกไป กลายเป็นภาพใหม่เข้ามาฉายแทน พอภาพใหม่เข้ามาก็ถามอีกว่า นี่อะไร ในใจก็บอกออกมาว่า กำลังพูดให้คนอื่นทะเลาะกัน คำตอบจากในใจสามารถอธิบาย สิ่งที่เห็นได้หมด แสดงว่า ตัวเองนี้แหละที่บันทึกการกระทำต่างๆ นั้นไว้ แม่ชีธนพร เล่าต่อว่า ทุกภาพที่เห็นได้เรียงลำดับแต่เล็กมาอย่างเป็นระเบียบ เริ่มมีสติคิดได้ว่า หากตายลงวันนี้คงมิต้องไปอยู่ในนรกหรอกหรือ

การนั่งสมาธิครั้งแรกนี้มีประโยชน์มาก เพราะทำให้รู้เรื่องกรรมและผลของกรรมเป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกกลัวในการทำชั่วขึ้นมาอย่างจับใจ จิตน้อมนำไปทางธรรมอย่างลึกซึ้ง เห็นภัยในทางโลกชัดเจนมากขึ้น ขณะที่จิตตรึกในธรรมอยู่นั้น เพื่อนๆ แม่ชีที่นั่งกรรมฐานด้วยกันได้ถอนจากสมาธิออกมาหมดแล้ว คงเหลือแต่แม่ชีธนพรเพียงท่านเดียวที่คงเข้าสมาธิอยู่

แม้การบวชชีพราหมณ์ครั้งนี้จะทำให้แม่ชีธนพรได้ความรู้พิเศษจากการนั่งกรรมฐาน แต่ยังมีกรรมบางส่วนที่เข้ามาขวางทำให้ใจคิดอยากสึก ตอนนั้นได้เปลี่ยนชุด เป็นฆราวาสธรรมดาแล้ว หลวงพ่อปรีชาได้ถามว่า สึกแล้วจะไปทำอะไร แม่ชีก็กราบเรียนท่านว่า จะไปทำร้านอาหาร ระหว่างที่ยืนยันจะสึกนั้น มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้น

ภายหลังที่ได้กลิ่นคาวประหลาด ไม่มีใครรู้ว่ามาจากไหน ทันใดนั้นเองร่างกาย ของท่านก็ไม่สามารถควบคุมได้ ประหนึ่งว่ามีพลังงานบางอย่างที่เป็นอำนาจจิต อันมีพลานุภาพมหาศาลเข้ามาควบคุมร่างกายท่าน ครั้งแรกไม่เข้าใจ พยายามที่จะหันหน้าตรงๆ แต่คอและหน้ากลับบิดไปทางซ้ายที ขวาที จนบิดไปครบสี่ทิศ จากนั้นประกาศตนเองออกมาว่า เป็นพรหม

หลังจากที่องค์พรหมเข้ามาผ่านร่างแล้ว เพียงครู่เดียวก็ปรากฏเป็นดวงจิตพลังงานอื่นๆ ที่ผ่านร่างกายท่านเข้ามาอีกหลายอย่าง ทั้งพญาช้าง พญานาค พญายักษ์ และเทพพรหม อีกหลายองค์ จนกระทั่งองค์สุดท้ายเป็น พระแม่ธรณี

เมื่อองค์พระแม่ธรณีลงมาแล้วรู้สึกด้วยว่า เหมือนมีน้ำไหลออกมาจากบริเวณหน้าผาก จึงเป็นที่มาของการไม่สึกจากแม่ชี ของแม่ชีธนพร ตราบจนปัจจุบัน

สำหรับการตรวจกรรมในอดีตชาตินั้น แม่ชีธนพรบอกว่า ครั้งแรกได้ตรวจดูอดีตกรรมของญาติโยม โดยเริ่มจากการส่องญาณดูหลวงพ่อปรีชาก่อน ดูว่าที่หลวงพ่อปรีชารู้เรื่องราวต่างๆ ของญาติโยมที่มานั้น ท่านรู้ได้อย่างไร นั่งสมาธิครั้งแรกจิตสงบนิ่ง จนเห็นอดีตกรรมของตัวเอง ระหว่างใช้วาระจิตตรวจดูกรรมของหลวงพ่อปรีชานั้น หาได้รอดพ้นข่ายญาณของหลวงพ่อปรีชาไม่ เพราะหลังจากทำวัตรสวดมนต์เสร็จ หลวงพ่อปรีชาก็ตำหนิใส่แม่ชีธนพรว่า มึงแอบดูกูทำไม

หลวงพ่อปรีชาได้เข้ามาสอนแม่ชีธนพร ว่า เอ็งดูแบบนี้ไม่ได้ เรียกว่าเป็นตัณหา คือความอยากดูแบบนี้ไม่บริสุทธิ์ เป็นการอยากไปรู้เรื่องของเขา เมื่อหลวงพ่อห้ามไว้ แม่ชีธนพรก็ยังสงสัยว่า เมื่อเป็นแบบนี้ ทำไมท่านจึงเห็นสิ่งต่างๆ ได้ในเมื่อมันไม่ดี

แต่ถึงอย่างนั้นท่านก็ไม่ได้ซักถามหลวงพ่อปรีชาต่อ ได้แต่เก็บความสงสัยไว้ในใจ ซึ่งหลวงพ่อปรีชาสอนเอาไว้ว่า การรู้ให้เป็นไปโดยการปล่อยวาง ให้รู้เองเห็นเองโดยไม่มีเจตนาความอยากเข้าไปพัวพัน การรู้แบบนี้เป็นการรู้โดยที่จิตเป็นอุเบกขากรรม ตัวรู้รู้โดยบริสุทธิ์เพราะไม่มีตัณหาเข้ามายุ่งเกี่ยว และไม่มีอุปทานใดๆ แอบแฝง

“แม้กรรมจะเป็นสิ่งลี้ลับ เพราะกรรมบางอย่างให้ผลข้ามภพข้ามชาติ เป็นสิ่งที่มนุษย์โดยทั่วไปไม่สามารถพิสูจน์ทราบได้ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ แต่กฎแห่งกรรมก็ยังเป็นสัจธรรมที่พระพุทธองค์ทรงยืนยัน แม้ว่าการให้ผลของกรรม บางครั้งบางกรณีจะอยู่นอกเหนือความเข้าใจของคนทั่วไปก็ตาม” แม่ชีธนพรกล่าวยืนยัน พร้อมกับอธิบายให้ฟังว่า

ผลแห่งกรรมที่เราทุกคนต้องประสบหากประมาทและไม่เชื่อในเรื่องกรรม

๑. ลูกเถียงพ่อเถียงแม่ จัดว่าทำกรรมชั่วที่หนักหนาสาหัส เมื่อลูกผู้นั้นเริ่มเข้าสังคมจะโดนผู้อื่นว่าร้าย ถกเถียงชนิดคำต่อคำ อาจส่งผลต่อร่างกายทำให้ลิ้นสั้นจุกปาก พูดจาไม่ถนัด พูดลิ้นพันกัน ลิ้นแข็ง เป็นกรรมที่แสดงออกมาทางร่างกาย

๒. ลูกที่ทำร้ายบิดามารดาตนเอง เป็นกรรมหนักว่าข้อแรกหลายเท่า ในศาสนาพุทธท่านว่า ตายไปแล้วย่อมไปเกิดในขุมนรกชื่อตปะนรก มีลักษณะเป็นบัวกรดเผาทำลายอยู่เป็นนิจ และมียมบาลคอยเอาฆ้อนทุบหัวอยู่ร่ำไป

๓. การทำแท้ง เป็นกรรมในหมวดข้อการเบียดเบียน ผู้ที่ทำกรรมนี้จะหากินไม่ขึ้น หาความสุขใจในชีวิตนี้ไม่ได้ เพราะโดนวิญญาณที่จะมาเกิดเป็นลูกของตนจองเวรอยู่ด้วยความอาฆาต

แม่ชีธนพรยังกล่าวถึงการแก้ไขวิบากกรรมจากการทำแท้งด้วยการทำบุญกุศล ถือศีลกินเจ สวนมนต์ภาวนา อธิษฐานจิตอุทิศบุญจากการเจริญทาน ศีล ภาวนาให้แก่เจ้ากรรมนายเวร พร้อมทั้งขอให้เขาอโหสิกรรมก็จะสามารถแก้ไขได้ และใครก็ตามที่ต้องการเปิดกรรม

อย่างไรก็ตาม ความเป็นมาของแม่ชีธนพรทั้งหมดอ่านได้จากหนังสือ “เกิดแต่กรรม” แม่ชีธนพรจะเปิดกรรมในวันเสาร์-วันอาทิตย์ และงดวันโกนกับวันพระ สอบถามรายละเอียดได้ที่วัดพิชยญาติการาม วรวิหาร เขตคลองสาน กทม. โทร. ๐-๒๘๖๑-๔๕๓๐-๑

.........................................................................

นสพ. คมชัดลึก ฉบับวันที่ 14 ธันวาคม 2547
เรื่องโดย สุทธิคุณ กองทอง

.........................................................................

เว็บไซต์แม่ชีทศพร
http://www.thossaporn.com
http://www.thossaporn.com/index2.html

กระทู้อื่นๆ

1. ระเบียบการปฏิบัติธรรม ณ วัดพิชยญาติการาม และแผนที่
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=3103

2. สัมภาษณ์พิเศษ “แม่ชีทศพร ชัยประคอง” ผู้มีตาทิพย์
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1524

3. แก้กรรมด้วยพลังธรรม
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=1527

4. เมื่อ...แม่ชีทศพร “ตรวจกรรมในคุกคลองเปรม”
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10290

5. กะเทาะชีวิตแม่ชีทศพร ผู้หยั่งรู้ “เกิดแต่กรรม”
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=960

6. รู้ชอบ ชั่วดี ย่อมเกิดกับผู้มีสติ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=10288

7. เที่ยว “วัดพิชัยญาติ” ชมภาพสลัก “สามก๊ก” หนึ่งเดียวในประเทศ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13330
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2006, 5:21 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

แม่ชีทศพร ชัยประคอง

ต้องขอบอกให้เข้าใจนะค่ะว่า ที่จะเล่านี้เพื่อเป็นการก่อให้เกิดปัญญา ความเข้าใจ และความรักความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ไม่มีเจตนาใดๆ ทั้งสิ้นในทางลบเลย อยากให้ทุกท่านที่ได้อ่านมีความรู้สึกว่าอย่างน้อยๆ แกกับฉัน ก็เดินทางเดียวกัน คือเดินภายใต้กฏของกรรมเช่นกัน ไม่มีใครสูงต่ำดำขาวไปกว่าใคร แม้กระทั่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ขอเริ่มเลยแล้วกัน

มีผู้หญิงคนหนึ่ง แม่ชีก็เรียกเลขบัตรขึ้นมา
แม่ชี : อย่าคิดอะไรไม่ดีนะลูก
ผู้หญิง : ไม่ดีอย่างไรค่ะ
มช : คิดน้อยเนื้อต่ำใจแล้วจะฆ่าตัวตายไง เคยคิดแล้วใช่ไม๊
ผญ : ( ร้องไห้... ) ใช่เจ้าค่ะ
มช : ผิดหวังความรัก....
ผญ : ใช่ค่ะ... (ยังร้องอยู่)
มช : เมื่อชาติก่อนโยมฆ่าตัวตาย คนที่เคยฆ่าตัวตาย เขาว่าจะต้องฆ่าตัวตาย 500 ชาติ ถ้าไม่มีใครไปบอกเขา โยมใจเด็ดมากเลย ผูกคอตายกับหน้าต่างบ้าน โดยนั่งตาย ( หน้าต่างบ้านคนสมัยก่อนสูงแค่หน้าขา ) โยมเอาผ้าขาวม้าข้างหนึ่งผูกกับขอบหน้าต่าง อีกข้างผูกกับเชือก แล้วเอาเชือกไปผูกกับปลายนิ้วโป้งที่เท้า แล้วถีบเท้าให้ผ้ามันกระตุกให้ขาดใจตาย ชาตินี้โยมปวดที่ต้นคอ และนิ้วโป้งเท้าข้างนั้นมาก ใช่ไม๊...
ผญ : ใช่เจ้าค่ะ
มช : ตอนที่คนเราจะตายจิตจะอยู่ที่ตรงความรู้สึกตรงนั้น เวลามาเกิดใหม่เลยเจ็บปวดบริเวณที่ก่อนตายนึกเอาไว้
ผญ : แล้วจะต้องแก้ไขอย่างไรค่ะ
มช : ให้กลับไปผูกคอใหม่ แต่ทำพอเป็นพิธีนะ อย่าเอาจริง แล้วก็อาราธนาศีล 5 แล้วก็นึกแผ่เมตตาจิตให้กับดวงจิตของเราขณะที่นึกถึงว่าเรากำลังผูกคอตาย ให้ว่าขอให้ข้าพเจ้าหลุดพ้นจากการคิดฆ่าตัวตายในทุกๆ ชาติ
ผญ : ขอบคุณมากค่ะ

ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ถ้าต้องขาดตอนไปบ้างก็ต้องขอโทษด้วยนะค่ะ เพราะเรื่องมันยาว ถ้าเขียนในคราวเดียวคงตาอักเสบแน่ เพราะนั่งฟังท่านตั้งแต่ราว 9 โมง เช้า ถึง 5 โมงเย็น ขนาดนั้นยังไม่อยากให้ท่านไปเลย วันนั้นท่านมีอัดรายการโทรทัศน์

ต่อดีกว่า

เรื่องนี้เด็ดมากเลย ใครที่เป็นลูกน้อง และเจ้านายคน โปรดอ่านทางนี้

มช : โยมอยู่กับแม่ไม๊...
ผญ : ไม่ค่ะ...
มช : เจอแม่ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่...
ผญ : เมื่อ สัก 2 ปี มั๊งค่ะ
มช : แม่อยู่อย่างไร... รู้ไม๊...
ผญ : ไม่ทราบเลยเจ้าค่ะ
มช : โยมมีกรรมกับแม่นะ...
ผญ : ( ทำหน้างง..)...
มช : พ่อกับแม่โยมมีปัญหากันตอนเกิดโยม ตอนเด็กๆ พอคิดได้หน่อย โยมก็เลยคิดในใจ (ขอย้ำแค่คิดในใจ..(จากผู้เขียน)) ว่า เอาๆ กันแล้วก็ไป .....ฯลฯ
ผญ : ( ทำตาโต ) ค่ะ...
มช : กลับไปขอโทษท่านแล้วก็ดูแลซะ...แล้วทุกๆ เรื่องจะดีเอง..
ผญ : แล้วเรื่องงานละค่ะ...
มช : ว่าไงละ...
ผญ : หนูเป็นข้าราชการอยู่กระทรวงหนึ่ง ถูกนายมอมยาแล้วพาเข้าโรงแรม แล้วถ่ายภาพไว้ ขู่บังคับว่าห้ามเอาความลับของเขาไปพูด ถ้าพูดเขาจะเอาภาพไปลงเน็ต หนูกลัวเพราะเรายังมีลูกอีก 2 คน กำลังเรียน เลยไม่กล้าบอกใคร ไม่นานเขาก็ให้หนูไปนอนกับนายเขาอีก หลังจากนั้นไม่นาน ฝ่ายตรงข้ามกับเขามาหาความลับเอาจากหนู ตล่อมหนูและสัญญาว่าจะปกป้องและช่วนหนูทุกอย่าง หนูเชื่อเลยเล่าทุกอย่างให้ฝ่ายตรงข้ามฟัง ที่ไหนได้ เขากลับเอาความลับที่หนูเล่าไปเป็นประเด็นโจมตีนายหนู และบอกว่าได้ข้อมูลมาจากหนู นายโกรธหนูมาก พยายามให้หนูออกจากราชการ และตอนนี้หนูทำหนังสือถึงในหลวงแล้วค่ะ จะมีคนช่วยหนูไหมค่ะ ( ร้องไห้มากเลย ตอนนี้...) หนูเป็นห่วงลูกมากเลย ถ้าออกตอนนี้ลูกๆ เรียนไม่จบแน่...
มช : แม่ชีพูดใส่ไมล์ได้ไม๊ ( ปกติจะต้องถามตอบใส่ไมล์อยู่แล้ว ) ...
ผญ : ได้ค่ะ..
มช : ชาติก่อนโยมเป็นเมียหลวง ผัวไปมีเมียน้อย เลยเอาคนไปโทรมเมียน้อย ความรักจึงเป็นแบบนี้ไง...
ผญ : โฮๆๆๆ.. แล้วจะแก้อย่างไรดีค่ะ
มช : เดียวก็ดีแล้ว เขามาทวงกันไปแล้ว เดียวตอนกรรมฐานแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรนะ และก็ให้ดวงจิตของตัวเองที่คิดกับแม่อย่างนั้น กรรมที่คิดกับแม่อย่างนั้นทำให้เราไปเป็นคนมีเสน่ห์ โยมไม่สวยหลอก แต่มีเสน่ห์ ผู้ชายเห็นก็อยากจะ_อนด้วย มันมี * appeared ( เขียนถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้ ) เลยทำให้ความรักไม่สมหวัง หมั่นกรรมฐานนะ จิตที่นิ่งๆ นี้แก้กรรมได้ดีที่สุดเลย
ผญ : ขอบคุณมากค่ะ

สงสารได้ค่ะ แต่ให้พิจารณาตามค่ะ ว่ายังมีเรื่องราวของคนอีกมากที่เราไม่รู้ แย่ๆ ยิ่งกว่าเรา ถ้าใครกำลังทดท้อนะค่ะ แล้วตัวอย่างที่ยกมาให้อ่านนี้มันน้อยไป ไม่ได้ feel เลย ไปวัดวันเสาร์หน้าเลยค่ะ ก่อน 06.30 น. นะ ได้ฟังทุกคน แต่ท่านเรียกได้ไม่หมดนะค่ะ คน กว่า 500 คน ไงไหวละค่ะ แต่ถึงแม้นว่าจะไม่ได้สนทนากับท่านการที่ได้ฟังคนอื่นเล่าเรื่องของเขาก็เป็นธรรมทานมากเลยค่ะ

อย่าหดหู่นะค่ะ มีลมหายใจสู้กันไปก่อนนะ


(มีต่อ)
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2006, 5:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ด้วยความยินดีค่ะ ทุกๆ ท่าน

ขอย้ำว่าอ่านแล้วอย่าไปว่าเขาเลยนะค่ะ บางชาติเราอาจก็เคยทำอะไรเลวๆ ยิ่งกว่าเขาอีก บางชาติเราอาจเคยเป็นพระ บางชาติเราอาจเป็นโสเภณี หรืออะไรๆ ใครจะรู้ เขาเราไม่ต่างกันเลยค่ะ เดินตามทางเดียวกันหมด คือ กฏแห่งกรรม และความไม่ถาวร เคยเป็นเศรษฐี ก็ต้องตาย กลับกลายมาเป็นคนธรรมดา มันมีอะไรถาวรบ้าง

ต่อดีกว่า

มีชาวอเมริกัน เชื้อสายเวียดนาม คนหนึ่ง แม่ชีเห็นว่ามาไกลเลยอนุญาตให้เข้ามาคุย คุยกันผ่านล่าม

มช. : (อ่านจากกระดาษที่คนไทยเขียนให้...แล้วเงยขึ้นมาถามว่า...) พาสปอรต์หาย
คนเวียดนาม : ใช่ครับ
มช : หายยังไงละ
ควน : มามีเมียที่นี้แต่เป็นคนเขมรขโมยไปหมดเลยครับ
มช : น่าสงสาร แล้วนี้จะกลับอย่างไรละ
ควน : ยังไม่ทราบเลยครับ รบกวนถามแม่ชีว่าเมียผมจะกลับมาไม๊ และจะได้พาสต์ปอต์คืนไม๊
มช : เขายังมีหวังว่าเมียจะกลับมาอีก...
ควน : ผมถูกสายการบินแห่งหนึ่งหลอกขายตัวแพงมากด้วยที่มาเมืองไทย ค่าตั๋วตั้ง 1600 ดอนล่า จากอเมริกา แต่กลับบินกลับบ้านไม่ได้ตอนขากลับ ...
มช : โยมถูกหลอกตลอดเลย รู้ไม๊เพราะอะไร เพราะชาตินี้แหละโยมไปหลอกเขาไว้ โยมทำงานอะไร
ควน : เป็นวิศวกรครับ
มช : ตอนซื้อขายของโกงเขา ของ 1 บอกว่า 2 เพื่อให้ได้ประโยชน์เข้าตัว หลอกเขา เลยไปไหนก็ถูกเขาหลอกประจำ ใช่ไม๊ล่ะ
ควน : ใช่ครับ
มช : กลับไปนี้ก็อย่างทำอย่างนั้นอีกนะ ( แล้วแม่ชีก็พยายามโทรหาลูกศิทย์ที่พอจะช่วยเรื่องตั๋วให้เขาได้ พร้อมๆ กับควักเงินให้เขาเอาไปเป็นค้าตั๋วเครื่องบิน ทันทีที่พูดเสร็จ ) นี่กลับไปจะถูกหวยนะ
ควน : ผมซื้อไว้ที่ อเมริกา จะถูกที่นี้ได้ไง
มช : ถูกที่นี้สิ จะได้มีเงินกลับบ้าน
ชาวบ้านที่นั่งอยู่ด้วย : คุณก็ไปซื้อดูสิ ที่ประเทศไทยนี่
ควน : ได้ครับ ขอบคุณมากครับ


(มีต่อ)
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2006, 5:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

นอกจากเมตตากันแล้ว ยังต้องรักษาศีล ตั้งใจให้มั่นที่จะเป็นคนดี (สังคหวัตถุ 4 - ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา)
และ ศรัทธาในพระพุทธเจ้าอย่างไม่ลังเลสงสัย เพียงเท่านี้กรรมดีก็จะถีบตัวเองห่างจากกรรมชั่ว จนกรรมชั่วหรือความทุกข์ต่างๆ ตามมาสนองเราไม่ทัน สนองได้แต่กรรมดี

มาต่อเรื่องของแม่ชี

มีชายคนหนึ่งมือหงิกงอข้างขวา ขาก็เดินไม่ดี ต้องใช้ไม้เท้าช่วยเดิน
มช : เป็นไงโยมเดินได้บ้างไม๊
ผู้ชาย : นิดหน่อยครับ
มช : แม่ชีเห็นวัวควาย โยมเป็นผลของกรรม คือพ่อแม่ทำแล้วลูกมาได้รับ อย่างที่บทแผ่เมตตาว่า มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นทายาทนะ ที่บ้านมีใครทำเกี่ยวกับวัวควายไม๊
ผช : พ่อค้าขายครับ
มช : พ่อไม่ได้ฆ่าหรอก แต่พ่อโกง ซื้อวัว 50 ตัว แต่เขียน 52 เพื่อเอาอีก 2 ตัวไปใช้เอง กรรมมันเลยตกถึงโยมนะ ( แล้วแม่ชีก็หลับตาแป๊บหนึ่ง ) เดี๋ยวอีก 2 - 3 วันก็จะหายนะ
ผช : ขอบคุณมากครับ

อีกเรื่อง

ผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาตอนแม่ชีเรียกเบอร์ 227
มช : เป็นไงโยม
ผู้หญิง : ไม่ทราบเจ้าค่ะ มันเป็นไงไม่รู้งงๆ
มช : แล้วงง เรื่องอะไรละ
ผญ : ไม่ทราบเจ้าค่ะ ( คนอื่นๆ ก็หัวเราะแกเพราะแกพูดไปก็เกาหัวไป ผู้เขียนก็เลยคิดว่าแล้วแกกำลังทำให้เรางงไปกับแกด้วยนะเนี่ย แล้วเมื่อไรแกจะหายงงละเนี่ย จะได้รู้เรื่อง )
มช : โยมยังอยู่กับแฟนไม๊
ผญ : ยังอยู่กันค่ะ
มช : อยู่กันอย่างไร
ผญ : ก็เค้ามาหาบ้าง
มช : ตกลงว่ายังอยู่กับแฟนแล้วเขาทำไมถึงต้องมาหาละ
ผญ : ( แกก็ยังคงทำท่างง ) คือว่าแกไปกับอีนังคนนั้น หนูจับได้ที่แรกหนูก็เฉยๆ ไม่ได้ว่าอะไร พอครั้งที่ 3 หนูขายของอยู่ อีนังนั้นมันมาขอซื้อขนมหนู หนูเลยบอกมันว่า กูไม่ขาย แล้วก็ถามมันว่ามันไปไหนมากับพี่ดำ มันบอกว่ามันไปกับเพื่อน มันไม่ได้ไปกับพี่ดำ หนูเลยเอารองเท้าตบหน้ามัน
มช : แล้วหลังจากนั้นพี่ดำทำอย่างไรละ
ผญ : พี่ดำก็หอบผ้าไปกับมันเลย จะกลับมาบ้างก็นานๆ
มช : แล้วโยมทำอย่างไรกับพี่ดำหรือเปล่า
ผญ : เปล่าเจ้าค่ะ
มช : โยมทำทุกอย่างเพื่อให้พี่ดำกลับมา โยมไปทำของให้พี่ดำกิน กะว่าจะเอาให้ตายเลย
ผญ : ค่ะ แต่ไม่ได้ทำเพราะสงสาร
มช : โธ่ พี่ดำ.......โยมเคยถ่ายออกมาเป็นดำๆ เลยใช่ไม๊ ของมันเข้าตัวโยมแล้วตอนมันออกจากทวารทั้ง 5 มันจะดำๆ ( แล้วแม่ชีก็หันมาพูดกับโยมคนอื่นๆ ว่า แม่ชีขอเถอะอย่าเข้าไปยุ่งกับไสยศาสตร์เลย พอมันเข้าตัวแล้วเราจะงงๆ ก๊งๆ นี้เขาไม่ได้เกรงนะ จิตใจเขาไม่อยู่กับตัวเพราะของที่เขาเที่ยวไปทำมาหาพี่ดำนั้นแหละ) โยมเบอรอะไร
ผญ : 201 ค่ะ
มช : แม่ชีเรียกเบอร์ 227 ( หันมาหาญาติโยม...เขาไม่ได้เกรงนะ ) โยมคันไปทั้งตัวเลยนะ
ผญ : เจ้าค่ะไม่ทราบว่าเป็นอะไร
มช : โยมไปเผาพริกเกลือแช่งเขาให้แสบร้อน โยมชื่ออะไรละ
ผญ : สายสวาท เจ้าค่ะ
มช : โยมน้อยใจพี่ดำ ผู้หญิงคนนั้นสวยสู้โยมไม่ได้เลย ทำไมพี่ดำไปเอาได้
ผญ : ใช่ค่ะ มันน่าแค้นไมละค่ะ แล้วจะแก้อย่างไรดีค่ะ
มช : อีกอย่าง โยมไปทำแท้งด้วยใช่ไม๊
ผญ : ก็ตอนนั้นมันไม่พร้อมนะค่ะ
มช : เด็กเขาอยากมาเกิดแล้วไม่ให้เขามา เขาไปไหนไม่ได้จนกว่าจะอายุไขเขา เขาก็จะอยู่กับโยม และคอยกันทุกคนให้ออกไป ทำให้ชีวิตโยมไม่มีความสุข
ผญ : แล้วควรทำอย่างไรค่ะ
มช : ก็หมั่นทำสัฆทานให้เด็ก และต้องมากรรมฐานนะโยมเพราะกรรมโยมมันแรง วัดไหนก็ได้ แล้วอาการ งงๆ เอ๋อๆ จะดีขึ้น ขอให้โยมโชคดีนะ อย่าไปว่าพี่ดำแกเลย เดี๋ยวแกก็กลับมา
ผญ : ขอบคุณเจ้าค่ะ


(มีต่อ)
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2006, 5:26 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ใช่ค่ะมีคนยังทุกข์กว่าเราอีกมาก ชนิดที่เราเองก็คาดไม่ถึง ดังเช่นเรื่องนี้ค่ะ

มช : เทพ เทพ เทพอยู่ไม๊ (แม่ชีเรียกใครสักคนที่อยู่ในห้องกว่าครึ่งพัน แล้วก็มีเด็กชายอายุราว 17-18 ออกมาหาแม่ชี )
เทพ : อยู่ครับ

มช : แม่ชีพูดได้ไม๊
เทพ : พูดได้ครับ

มช : ( หันมาหาญาติโยม ) แม่ชีพบเทพในโรงทาน เขาจะเข้าไปกินข้าว แต่ยามเห็นว่ามีท่าทางหลุกหลิก เลยไม่อนุญาตให้เข้าเพราะกลัวว่าจะเข้าไปขโมยของ เทพเดินเร่รอนอยู่เห็นว่ามีโรงทานก็เลยพยายามเข้ามาหาอะไรทาน เค้าหนีออกจากบ้านที่แม่ฮ่องสอนเข้ามาอยู่กรุงเทพ ( หันไปหาเทพ ) ได้นานเท่าไหรแล้ว
เทพ : ประมาณ ปีกว่าแล้วครับ

มช : เทพถูกชายหลายคนโทรม และถูกตี และถูกทำร้ายร่างกาย ชาติก่อน เทพจับเด็กผู้หญิงไปขาย เด็กเลย ประมาณ 13-15 ปี ชาตินี้จึงต้องโดน.... และก็ดูท่าทางไม่น่าเชื่อถือ พอใกล้ใครเขาก็ไม่ไว้ใจ ผู้หญิงนี้ไม่เข้าใกล้เลย แต่จะดีกับพวกผู้ชายด้วยกัน ( หันไปหาเทพ ) ถ้าได้ตังค์แล้วกลับบ้านไม๊ สัญญาก่อนว่าต้องกลับไปดูแลพ่อ-แม่
เทพ : ครับ ผมเองก็อยากกลับบ้าน แต่ไม่มีเงิน ผมกลับแน่นอนเลยครับ

มช : มาเอาตังค์ไป๊ ( แม่ชีควักตังค์ของตนเอง )
ญาติโยมในห้อง : อย่าไปเอาตังค์แม่ชีเลย มาเอาที่นี้ ( แล้วก็มีอีกหลายคนก็ได้สละทรัพย์ ควักให้เทพไปจนทั่วทั้งห้องโถงใหญ่ )

แล้วเทพก็เอาเงินไปให้แม่ชี
เทพ : ผมไม่เอาครับแม่ชี
มช : แม่ชีไม่เอาหรอกคนเข้าให้เทพ

เทพ : ผมขอแค่ค่ารถ และค่ากินอีกนิดหน่อยครับ
มช : ไม่เอาหรอก

มช : กลับบ้านนะเทพ อย่าเอาเงินไปเที่ยวนะ
เทพ : ครับผมจะกลับพรุ่งนี้เลยครับ ขอขอบคุณแม่ชีครับ


(มีต่อ)
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2006, 5:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มีอีกเรื่องหนึ่งค่ะ ได้ฟังมาเมื่อเสาร์ทึ่แล้ว

แม่ชีเรียกเลขขึ้นมา 3 เลข ห่างๆ กัน
แม่ชี : โยมคนนี้ ( แม่ชี 1 ในสาม ) กลัวความมืดไม๊ กลัวมากเลย !
คนที่ 1 : ใช่เจ้าค่ะ
แม่ชี : ( แล้วก็หันไปหาอีกคน ) โยมคนนี้เป็นคนที่ระแวงมาก จะทำอะไรจะไม่มีความมั่นใจเลย กลัวคนจับได้แล้วว่าเอา
คนที่ 2 : ใช่เจ้าค่ะ
แม่ชี : ( แล้วหันไปหาอีกคน ) โยมไม่สมหวังในความรักเลย มีแฟนกี่คนก็ไม่สมหวัง มันหวาดระแวงไปหมด กลัวเขาจะทิ้ง กลัวนั้นนี้
คนที่ 3 : ใช่เจ้าค่ะ
แม่ชี : ( แล้วหันมาหาคนทั้ง 3 ) โยมทั้ง 3 คน ทำกรรมร่วมกันมานะ มาวันเนี่ยนับว่าโชคดี ให้ได้แก้กรรมร่วมกัน โยมทั้ง 3 ร่วมกันวางยาพิษคนให้ตาย สองคนเนี่ย ( แม่ชีชี้ไปที่ 2 ใน 3 ) เป็นนางรับใช้ คนโน้น ( ชี้คนที่เหลือ ) คนโน้นสั่งให้ใส่ยาลงในอาหารแล้วเอาไปให้เมียน้อย เพราะสามีรักเมียน้อยมาก ระหว่างทางมันมืดและมีคนถามตลอดทางเลย โยมคนหนึ่งเลยกลัวความมืดมาก และอีกคนก็กลัวว่าจะมีคนจับได้ระหว่างทางที่เดินไป สุดท้ายโดนจับได้ว่าโยม 2 คนที่เป็นคนใช้ทำ แต่ก็ไม่สัดทอดถึงนายหญิง แล้วก็ตายในคุก โยมที่สั่งเขาเนี่ย กรรมที่ขัดขวางเขาและสั่งฆ่าเขา ทำให้เวลามีความรักมักมีแต่เรื่องเสีย เสียใจ เสียเงิน เสียๆๆ ชอกช้ำมาก
ทั้ง 3 คน : เจ้าค่ะ ( บ้างคนร้องไห้แล้ว )
แม่ชี : เดี๋ยวไปแก้กรรมพร้อมกันทั้ง 3 คนนะ เดี๋ยวตอนเย็นไปหาแม่ชีนะ
( แม่ชีหันมาหาญาติโยม ) สามคนเนี่ยเขาไม่รู้จักกันเลยนะในชาติเนี่ย แต่บุญบรรดาลให้ได้มาพบเจอ
กันเพื่อได้แก้กรรมร่วมกัน


(มีต่อ)
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2006, 5:27 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขณะที่กำลังเปิดกรรมให้กับผู้ชายคนหนึ่งอยู่ ไมล์มันหอน แม่ชีก็เลยหันหน้าไปหาเครื่องคุมไมล์ แล้วก็ยิ้มอย่างเมตตา

แม่ชี : โยมคนที่ยื่นอยู่ตรงเครื่องคุมเสียงกับโยมคนจับไมล์เนี่ย เขามีกรรมเรื่องไฟ ( ยังยิ้มอยู่เลย )
โยมคนจับไมล์ : ยังไงครับ

แม่ชี : โยมนะเป็นคนสมัยเสียกรุงตอนพระเจ้าตากนะ โยมเป็นคนไทย เป็นทหารรักษาประตู พม่ามันโฮ้ร้องอยู่หน้าประตู โยมกลัวตาย โยมคิดว่าไม่เปิดตายแน่ ถ้าเปิดบางที่มันอาจจะไว้ชีวิตเราก็ได้ ก็เลยเปิดประตู แต่พอเข้ามาแล้วมันฆ่าหมดเลย ทุกวันนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่ได้นาน เขารังเกียจ ถูกบีบให้ออก ตอนนี้อยู่ที่ไหน

ผู้ชายคนที่จับไมล์ : ตอนนี้ทำธุรกิจอยู่ที่ญี่ปุ่นครับ ตอนแรกก็ทำงานอยู่ที่ไทยแต่ไม่รุ่งเลย ก็เลยไปต่างประเทศ ไปมาหลายประเทศสุดท้ายก็อยู่ที่ญี่ปุ่น ใช่ครับแม่ชี ทำมาหลายอย่างมาก

แม่ชี : แล้วตอนนี้ทำอะไรละ

ผู้ชายคนที่จับไมล์ : ขายของเก่าของไทยเราที่ญี่ปุ่นครับ

แม่ชี : ยั้งงี้ยิ่งต้องแก้กรรมเลยนะ ให้ไปที่ประตูพระราชวังวัดพระแก้วนะ ตรงธรณีประตู ก้มลงกราบ แล้วบอกกับพระแม่ธรณีประตูว่า " กรรมอันเกิดจากลูกได้เปิดประตูเมืองครั้งนั้น ลูกขออโหสิกรรม งดโทษให้ลูกด้วยเถอด " ขออนุญาติทหารก่อนนะ ถ้าเขาไม่ให้ก็ขอเขาอ้อนวอนเขา ส่วนมากเจ้ากรรมนายเวรเขาไม่ยอมให้ทำง่ายๆ หรอก

ผู้ชายคนที่จับไมล์ : ครับ แล้วไปเกี่ยวกับไฟอย่างไรครับ

แม่ชี : ก็ไฟเผาเมืองที่พม่ามันเผาไง

ผู้ชายคนที่จับไมล์ : ครับ เข้าใจแล้วครับ แล้วเรื่องค้าขายและหนี้สินจะหลุดเมื่อไหรครับ

แม่ชี : ไปทำเสียก่อนแล้วจะปลดได้หมด

ผู้ชายคนที่จับไมล์ : ครับ ขอบคุณแม่มากครับ


(มีต่อ)
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2006, 5:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ที่นี้มาดูคนที่อยู่ตรงไมล์บ้าง

แม่ชี : โยมช่วยออกห่างจากไมล์หน่อยนะ ไม่งั้นมันไม่หยุดหอนหรอก เมื่อสัปดาห์ก่อนโน้นก็ทีหนึ่งแล้ว พอออกห่างไมล์ มันก็หยุดหอนนะ แปลกแต่ก็จริง พอให้ไปจุดธูป และชำระหนี้สงฆ์ ก็หายหอนเลย

โยม : ครับ ( ค่อยๆ กระเพ็กๆ ออกห่างจากไมล์เพราะขาเขาเป็นโปลิโอทั้ง 2 ข้าง )

แม่ชี : ของโยม แม่ชีเห็นว่าเอาของเก่าใส่ของใหม่แล้วเอาไปขาย ตอนนี้ทำอะไรอยู่ละ

โยม : ผมไม่ได้ทำอะไรครับ และตกงาน อยากถามแม่ชีว่า จะได้งานไม๊ และจะทำอะไรดีครับ ทำอะไรมันก็โดนเขาโกงทั้งนั้น ญาติๆ กันทั้งนั้นที่โกง

แม่ชี : โยมทำอย่างทีแม่ชีว่าหรือเปล่าละ เป็นเหล็กๆ ด้วย

โยม : ก็เมื่อก่อนเอามือถือมาซ่อมแล้วก็เอาไปขาย วันหนึ่งๆ ก็หลายร้อยเครื่อง ตอนสมัยมันบูมใหม่ๆ นะครับ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนหนิครับ

แม่ชี : แล้วโยมไปบอกเขาว่ามันเป็นของใหม่ด้วย

โยม : ครับ แม่ชีครับ แฟนก็ทิ้งผมครับ หอบเอาลูกไปด้วย ผมอยากเจอลูก เขาไม่ให้ผมพบลูกๆ เลย ผมจะได้พบและอยู่กับลูกๆ ไหมครับ

แม่ชี : ไม่ได้อยู่หรอก

โยม : ทำไมละครับ ( เริ่มร้องไห้ เล็กๆ )

แม่ชี : โยมมีเมียกี่คน
โยม : คนที่ผมเรียกว่าเมียแล้วเอามาอยู่ด้วยจนมีลูกก็คนเดียวครับ แต่ก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้นับหรอกครับ แต่ก็หลายคน

แม่ชี : แม่ชีเห็นผู้หญิงเยอะมาก เห็นอย่างนี้นะ เจ้าชู้เหมือนกัน ที่โยมเป็นแบบนี้ ( โปลิโอนะ ) เพราะว่าชาติก่อนนะ โยมเที่ยวสาบานกันผู้หญิงไว้หลายคนเลยว่าถ้ารักไม่จริงขอให้ฟ้าผ่าตาย แล้วโยมก็โดนฟ้าผ่าตายจริงๆ ทุกวันนี้กลัวมากใช่ไม๊ละ เวลาฝนตกและฟ้าร้อง

โยม : ใช่ครับ มันบอกไม่ถูกเลยครับ

แม่ชี : ดังนั้นชาตินี้ก็เลยพลัดพรากจากสิ่งที่รักด้วยเพราะ ชาติก่อน มีหลายคน

โยม : แล้วจะทำอย่างไรดีครับ

แม่ชี : เดี๋ยวให้โยมไปชำระหนี้สงฆ์ แล้วอธิฐานว่า “ สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินต่อพระรัตนไตร โดยเฉพาะพระสงฆ์ ลูกของดโทษ ขอให้พระรัตนไตร งดโทษให้ และ ขอให้ชีวิตเจริญรุ่งเรื่องในทุกๆ ด้าน “ และ เวลาฝนตก ก็ให้โยมออกไปยืนกลางฝน เวลาฟ้าร้องก็ให้อธิฐาน “ คำสาบานใดๆ ที่ลูกเคยให้ไว้กับใครๆ ในเรื่องฟ้าผ่า ลูกขอยกเลิก และขอให้ท่านทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ทั้งหลาย โปรดยกโทษให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเถอด “

โยม : แล้วฟ้าจะไม่ผ่าผมอีกหรือครับแม่ชี

แม่ชี : ไม่หรอก แต่ถ้าเจ้ากรรมนายเวรเขาอนุญาตนะ ฝนก็จะตก แต่ถ้าเขาไม่ยอมนะ ฝนจะหยุดตก แล้วโยมก็จะทำไม่ได้ พอจะเข้าใจไม๊

โยม : เข้าใจครับ แล้วลูกๆ ไม่มีความหวังเลยหรือครับ

แม่ชี : อย่าไปนึกถึงเรื่องนั้นเลย ไปทำอย่างที่แม่ชีว่านี้ก่อนนะ

โยม : ครับแม่ชี (ก้มลงกราบ)

แม่ชี : ขอให้โชคดีนะ


(มีต่อ)
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2006, 5:29 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณทุกๆ ท่าน และคุณฉิมค่ะที่ติดตามมาโดยตลอด

ขุนศรี ไปทุกๆ เสาร์อาทิตย์ที่ว่างเลยค่ะ เวลาได้ฟังแล้วอยากร้องไห้ไปกับพวกเขาเลยค่ะ บ้างคนไม่ใช่เรื่องของเราเลย แต่เห็นใจมากเลยค่ะ เหมือนเขาเป็นญาติพี่น้องเรา

บางคนได้ฟังแล้วก็คิดว่า โธ่ไม่น่าเลย ถ้าเป็นเราเราคงไม่ทำอย่างนั้นหรอก แต่ถ้าเราพิจารณากันจริงๆ นะ ก็จะเข้าใจว่า มันต้องมีเหตุปัจจัยหนุนนำกันไป ตั้งแต่เมื่อไหร่เราก็ไม่รู้ ที่สุดก็จะได้คิดว่า อย่าไปสนใจมันเลยเหตุมันจะเป็นอย่างไร ขอผลคือไม่ให้อะไรๆ มันเกิดกันอีกเถอด นั้นคือขอนิพพานเถอด

รู้สึกชีวิตเหมือนเด็กเล่นขายของ ชาตินี้เราสมมุติเป็นแม่ เป็นเมีย เป็นผัว ถ้าผูกพยาบาท อาฆาต รวมถึง ผูกใจรักหรือพิษวาสกันไว้ เดี๋วยชาติหน้า ก็ต้องกลับมาเล่นกันในบทนั้นๆ อีก ไม่จบไม่สิ้น เหมือนคนที่พูดกันไม่รู้เรื่อง แล้วก็ต้องพูดกันใหม่ เรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ

เวลาได้ฟังเรื่องต่างๆ แล้วทำให้ได้เตือนตัวเองเสมอว่า แก่นะยังโง่อยู่มาก ชีวิตนี้มันอาจจะไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับแก่ อยากจะทำอะไรให้รีบๆ ทำ ตายไปใครๆ ก็ด่าแก แล้วแกจะได้ไปสวรรค์ก็บ้าเต็มที และต้องทำแต่สิ่งดีๆ ด้วย เพราะไม่งั้น บาปบางตัวที่แกทำลงไปอาจใช้เวลา เป็นร้อยๆ ชาติกว่าจะหลุดแค่เรื่องหนึ่งๆ ถ้าแก่ทำไว้หลายๆ เรื่อง ก็โน้น อาจเป็น โกฐเลย กว่าแก่จะได้เห็นแสงธรรมกับเขานะ

ทำให้รู้สึกสงสารเพื่อนมนุษย์ และตัวเองค่ะ ตั้งแต่ได้ฟังธรรมของหลวงพ่อตอนไปบวชที่วัดท่าซุง และได้ไปฟังธรรมจากแม่ชี ไม่มีแม่สักลมหายใจเลยค่ะ ที่ไม่คิดเมตตาใคร และก็ความโกรธง่ายๆ ลดลงไปมากเกือบ 70% เลย

ดังนั้น อยากให้ทุกๆ ท่านที่ได้อ่านเรื่องราวนี้ มีความรักและเมตตาในตัวเรา และเพื่อนมนุษย์ และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เป็นพื้นฐานก่อน จะทำให้มี อิทธิบาท 4 ที่เข้มแข็งมากเลยค่ะ ลองพิจารณาดูนะค่ะ ถ้าไม่เข้าใจ Post ถามมานะค่ะ จะอธิบายให้ฟัง เพราะได้เกิดกับดิฉันจริงๆ ค่ะ

ขอขอบคุณทุกๆ ท่านที่เมตตานะค่ะ

วัดพิชัยญาตินี้ บังเอิญอยู่ตรงใกล้ๆ โรงเรียนเก่าสมัยเด็กๆ พอดี เลยเหมือนกลับไปเยี่ยมบรรยากาศเก่าๆ ด้วยค่ะ

อีกอย่างค่ะ ที่วัด เขามีโรงทาน และมีเสื้อผ้าขาวให้เสร็จ แสดงถึงความที่แม่ชีท่านมีเมตตาสูงมากเลยค่ะ เวลาไปวัดแล้วชอบบริจาคลงตู้โรงทาน และช่วยค่ะซักเสื้อผ้า ชาตินี้จะได้มีกินไม่อด และกำจัดกิเลส ให้หมดจดเหมือนผ้าที่ขาวๆ ไงค่ะ


(มีต่อ)
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2006, 5:31 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มาแล้วค่ะ

ขุนศรีพึ่งกลับมาจากวัดแม่ชี คราวนี้ขุนศรีได้นั่งใกล้ท่านมากเลย เพราะต้องการเก็บทุกเรื่องราวมาฝากเพื่อนๆ ค่ะ

ว่ากันต่อเลยนะค่ะ ของวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2548

แม่ชีเรียกเบอร์ออกมาเบอร์หนึ่ง ผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมา หน้าตาเธอสวยมากกกกกก ขุนศรีเห็นแล้วนึกชอบมากๆๆๆ แก้มใสผิวละเอียด โอ้โฮ้ สวยจริงๆ

แม่ชี : แม่ชีพูดได้ไม๊

โยม : ได้ค่ะ

แม่ชี : ( ยิ้ม แล้วหันไปคุยกับคนข้างๆ แป๊บหนึ่ง )

แม่ชี : แม่ชีพูดได้ไม๊

โยม : ได้เจ้าค่ะ

แม่ชี : โยมแต่งงานหรือยัง

โยม : ยังเจ้าค่ะ

แม่ชี : มีแฟนหรือยัง

โยม : มีแล้วเจ้าค่ะ

แม่ชี : ตอนนี้โยมอยู่กับใคร

โยม : อยู่กับแฟนค่ะ

แม่ชี : แม่ชีพูดได้ไม๊

โยม : ได้เจ้าค่ะ

แม่ชี : ( ยิ้ม ) ที่แม่ชีถามหลายๆ ครั้งก็เพราะว่า โยมจะมีคำถามในใจตลอดเวลาว่า ใช่ไม๊ ไม่ใช่ ดีไม๊ ไม่ดี ทำไม๊ ไม่ทำ ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง

โยม : ใช่เจ้าค่ะ

แม่ชี : ที่หนูเป็นแบบนี้ก็เพราะ ความรักไม่สมหวังก็เลยขาดความมั่นใจในตนเอง มีแฟนกี่คนเขาก็ทุบตี

โยม : ใช่เจ้าค่ะ ( เริ่มร้องไห้แล้ว ขุนศรีดึงทิชชูให้สับน้ำตา )

แม่ชี : โยมนี้ผู้ชายเห็นหน้าแล้วอยากทุบตี ทุบแล้วถึงจะมีอารมณ์นอนด้วย ตอนที่เป็นแฟนกันก็จะสุภาพมากๆ แต่พอได้นอนเป็นผัวเมียกันแล้ว ธาตุแท้ก็จะออกมา ( แม่ชีหันมาทางทุกๆ คน ) กรรมมันจะแสดงออกมาตอนได้นอนกันแล้ว อย่างนี้ทุกรายไป เราดูไม่ออกหรอก ( หันกลับมาที่โยมคนนี้ ) เขาอัดอั้นมากเลย อยากจะบอกใครสักคน

โยม : ( ร้องไห้มากเลย ) เจ้าค่ะ

แม่ชี : มันเป็นผลของกรรมนะลูก ชาติก่อนโยมเป็นทนายความ ทำผิดให้เป็นถูก ทำถูกให้เป็นผิด โยมเอาคนเข้าคุกโดยที่เขาไม่มีความผิด สมมุติว่าเขาต้องติดคุก 20 ปี พอ 10 เขาตาย เหลืออีก 10 ปี เขาก็อาฆาตโยมไว้นะ

โยม : แล้วจะให้แก้ไขอย่างไรดีค่ะ

แม่ชี : โยมกลับไปบ้านนะ เอาผ้าห่ม ผ้าห่มลายสก็อตนะ แล้วเข้าไปอยู่ในนั้นนะ ปิดให้มิดเลย อยู่ในนั้น 47 นาที ตั้งนาฬิกาไว้เลยนะ ระหว่างที่อยู่ในนั้นก็อธิฐานว่า " กรรมอันใดที่ข้าพเจ้าได้ทำให้ผิดเป็นถูก ถูกเป็นผิด ทำให้คนอื่นเดือดร้อนเพราะข้าพเจ้า ไม่ว่าจะเจตนาหรือไม่ รู้หรือไม่รู้ก็ดีข้าพเจ้าขออโหสิกรรมนั้น ขอให้ท่านทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินอโหสิกรรมให้ข้าพเจ้าด้วยเถอด " โยมต้องอดทนหน่อยนะ เพราะเจ้ากรรมนายเวรเขาจะทำให้โยมทรมารมากเลย ใน 47 นาที่นี้

โยม : เจ้าค่ะ

แม่ชี : แต่ว่าพอโยมจะทำ แฟนโยมเขาก็จะไม่ให้ทำนะ แล้วเขาก็อยากจะนอนกับโยม

โยม : งั้นเดี๋ยวไปนอนบ้านพ่อแม่ก็ได้ค่ะ

แม่ชี : ได้ๆ ผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตโยมก็พวกที่โยมทำถูกให้เป็นผิดนั้นแหละ สังเกตุสิ ต้องทุบก่อนถึงจะนอนได้ ไม่มีเหตุผล เห็นหน้าก็โกรธไม่มีเหตุผล

โยม : เจ้าค่ะ โยมจะทำตาม

แม่ชี : ดีลูก

เดี๋ยวขุนศรีกลับมาเล่าต่อค่ะ ยังมีอีกเพียบ


(มีต่อ)
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 13 ส.ค. 2006, 5:32 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เรื่องต่อมาเป็นเรื่องของ ผู้ชายคนหนึ่ง แม่ชีเรียกออกมา

แม่ชี : โยมทำงานอะไร

โยม : รับราชการครับ เป็นนิติกรครับ

แม่ชี : เป็นคนจังหวัดไหน

โยม : สงขลาครับ

แม่ชี : ตอนนี้อยู่ที่ไหน

โยม : กรุงเทพฯ ครับ

แม่ชี : แม่ชีเห็นมากกว่านั้น โยมรับราชการมากี่จังหวัดแล้ว

โยม : อุบลฯ ฯลฯ ( ขุนศรีฯ จำไม่ได้ ประมาณ 5 จังหวัดนะ )

แม่ชี : โยมนี้กลัวโยมผู้หญิงมากเลย เวลาอยู่นอกบ้านมีความมั่นใจมากเลย แต่พอเข้าบ้าน ความมั่นใจมันกองอยู่หน้าบ้าน (หัวเราะ) โยมผู้หญิง (เมีย) มาด้วยไม๊

โยม : มาครับ

แม่ชี : (ยิ้มปนหัวเราะ แล้วหันไปหาโยมผู้หญิงที่มาด้วยกัน ) โยม เขาไม่ไปไหนแล้ว เขาจะตายที่โยมแล้ว ไม่ต้องระแวงและเป็นกังวลนะ

โยมผู้ชาย : เขาจะระแวงผมมากเลย

แม่ชี : โยมผู้หญิงนี้ดุขนาดที่ว่า มีปืนยิงได้เลย มีมีด มีอะไรใก้ลมือ ฆ่าได้เลย ( ปนหัวเราะ ) โยมผู้ชายมีเมียมากี่คนแล้ว

โยม : ( หัวเราะ ) จำไม่ได้ครับ

แม่ชี : เมือชาติก่อนนะ โยมผู้ชายเป็นเจ้าเมือง เวลาไปเมืองไหนๆ เขาก็จัดโต๊ะต้อนรับ แล้วก็หาสาวๆ มาให้ และก็ติดสินบนเรา ให้ทำตามที่เขาขอร้อง

โยม : ครับ

แม่ชี : เลยมีเมียหลายคน แต่ก็ต้องผ่านไป แต่คนเนี่ยตัวจริงแล้วโยม ( หันไปหาโยมผู้หญิง ) โยมคิดอย่างไร

โยมผู้หญิง : ก็ไม่ทราบเป็นอย่างไร เห็นหน้าเขาแล้วมันหงุดหงิด อะไรอยู่ในมือก็แทงได้เลย เจ้าชู้นิ ได้เราเป็นเมียแล้วต้องรับผิดชอบ ไม่ยอมหรอก ตายเป็นตาย

โยมผู้ชาย : นั้นนะสิครับ ผมก็ไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาทำอะไรดูมันผิดไปหมด แล้วนี้เป็นหนึ่งในเครื่องบรรนาการหรือเปล่าครับ ( โยมผู้ชายหันไปหาโยมผู้หญิง )

แม่ชี : ( หัวเราะ ) ใช่ โยมผู้หญิงเนี่ยเขาถูกนำมาถวายตั้งแต่ยังเด็ก แล้วเกิดท้อง แล้วโยมก็ไปเมืองอื่น เขาโกรธมากเลย เขาเลี้ยงลูกไปก็ทุบตีลูกไปด้วยความแค้น และอาฆาตเอาไว้ว่า " ขอให้ชาติหน้ามาเกิดกับไอ้นี้มันอีก จะจองเวรกับมันทุกชาติไป " เรื่องเก่าอดีตนะ อย่าเอามาใส่ใจ อภัยกันสะ โยมกราบเขาสะ

โยมผู้ชาย : ให้ผมกราบเมียหรือครับ

แม่ชี : ไม่ใช่ ให้โยมผู้หญิงกราบขออโหสิกรรมแล้วโยมผู้ชายก็อโหสิให้เขาสะ

โยมผู้หญิงกราบโยมผู้ชาย แล้วทั้งคู่ก็กอดกัน ถึงตอนนี้หลายคนเริ่มร้องไห้แล้ว

ขอให้โยมทั้งสองโชคดีนะ



>>>>>>>>> จบ >>>>>>>>>


...........................................................

คัดลอกจากคุณขุนศรี 1972 เว็บพลังจิต
http://www.palungjit.com/
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
::M[i]M[i]::
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 ส.ค. 2006, 11:14 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มาเม้นให้พี่ชายชื่อคุ้ยค่ะ
เค้าสนใจเรื่องธรรมมะ
มิ้นก้ออยากรู้เรื่องเวรกรรมด้วยค่ะ
 
ผู้เยี่ยมชม






ตอบตอบเมื่อ: 24 ส.ค. 2006, 3:48 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขออนุโมทนาค่ะ
ได้ความรู้เพิ่มจากเดิมมากเลยค่ะ
 
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 25 ส.ค. 2006, 1:37 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากสละทรัพย์สินที่ถือครองอยู่แล้วไปปฏิบัติธรรมตลอดชีวิตค่ะ

อยากขายบ้าน 2 หลัง ที่มหาชัย , เพชรบุรี
ที่ดินเปล่า 2 แปลงมหาชัย , บ่อไทยเพชรบูรณ์ (แปลงตั้งใจทูลเกล้าถวายในหลวง)
เป็นกังวล และภาระมากไม่อยากดูแลเลย
เบื่อหน่ายมากค่ะ
อยากไปปรึกษาแม่ชี ให้ช่วยแนะวิธีปลดภาระนี้
แม่ชีจะช่วยได้รึเปล่าหนอ
เศร้า
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
pn_rtc
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 04 ก.ย. 2006
ตอบ: 3

ตอบตอบเมื่อ: 04 ก.ย. 2006, 8:49 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณ "แมวขาวมณี"

ผมเป็นคนหนึ่งที่มีปัญหาทางสุขภาพ ดูรายการเกิดแต่กรรมทางช่อง MV3 Cable TV ของท่านแม่ชีมานาน และจดจำแนวทางที่ท่านแนะนำให้ปฏิบัติมาประยุกต์ใช้กับตนเอง เช่น สมาทานศีล 5 + สวดมนต์ + เจริญภาวนา นานประมาณ 6 เดือน

แล้วอธิษฐานจิตก่อนจะไปพบท่านแม่ชีว่า "หากบุญที่ทำไว้เจ้าเวรนายกรรมเห็นมีพอสมควร ขอให้มีโอกาสได้พบท่านแม่ชีให้เปิดกรรม ซึ่งก็สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้"

ผมพึ่งจะหลุดพ้นก่อนเข้าพรรษา (11 กค.49) นี่เองหลังจากทนทุกข์ทรมาณจากสุขภาพ และปัญหาจากลูกคนเล็ก (อายุ 29 ปี) มา 10 กว่าปี ท่านแม่ชีท่านทราบโดยคำพูดของเรา เพียงแค่แจ้งอาการท่านก็แนะทางแก้ไขให้แล้วไปปฏิบัติตาม ปัญหาทุกอย่างโล่งหมด (ปัจจัตตัง) หลานๆ ที่พาไป (เขาไปปฏิบัติเกือบทุกเสาร์-อาทิตย์) ยังนึกไม่ถึงว่ารวดเร็วเพียงนี้ กล่าวโดยสรุป

1. จิตต้องเป็นกุศลในเบื้องต้น (อย่างคุณ "แมวขาวมณี" คิดนั่นแหละ)
2. คิดดี
3. ทำดี

ถ้าตั้งใจจริงผมว่าได้แน่นอนครับ แต่ระดับไหนอย่าไปคาดหวังขอให้ทุเลาเบาบางลงก็ยังดี ขอเป็นแรงใจให้ครับ ยิ้มเห็นฟัน
 

_________________
เป็นครูที่ดีไม่ได้ ก็อย่าเป็นครูที่เลว
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แมวขาวมณี
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307

ตอบตอบเมื่อ: 06 ก.ย. 2006, 7:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขอบคุณ คุณ..pn_rtc .... มากค่ะ

ตอนนี้ก็ สมาทานศีล 5 + สวดมนต์ + เจริญภาวนา + ทำสมาธิ เกือบทุกวัน ช่วงเช้า/ บ่ายบ้าง
และก่อนนอน ยึดแนวทางหลวงตาจรัญน่ะค่ะ สวด อิติปิโสเท่าอายุ + 1

เพิ่มกุศลบารมีให้ตัวเองก่อน ก่อนที่จะไปขอพึ่งบุญ บารมีผู้อื่น
วันนี้มีข่าวดี (แค่ข่าว) เพื่อนกำลังติดต่อแฟนพี่สาวเป็นชาวต่างประเทศมาดูบ้านที่เพชรฯ เพราะอากาศดี ใกล้ทะเล แต่บ้านราคาหลายล้านบาทไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จหรือไม่

การมีทรัพย์ มีภาระ วุ่นวายในการรักษาทรัพย์นั้น เป็นทุกข์หนอ
สัญญาว่าจะถือสันโดษ มีเพียงอย่างละ 1 สำหรับใช้กับชีวิต เข็ดกับการมีมากเกินพอดีจริงๆ

ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ
สาธุ
 

_________________
พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Email
kanyavee
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 26 ก.ย. 2006
ตอบ: 1

ตอบตอบเมื่อ: 26 ก.ย. 2006, 1:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากไปปฏิบัติธรรมกับแม่ชีคะ สาธุ
 

_________________
สัตว์โลกมีกรรมเป็นของของตน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง EmailMSN Messenger
สายลม
บัวเงิน
บัวเงิน


เข้าร่วม: 30 พ.ค. 2004
ตอบ: 1245

ตอบตอบเมื่อ: 27 ก.พ.2008, 3:55 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ตกใจ
 

_________________
"อย่าลืมตัว อย่าลืมปัจจุบัน อย่าลืมปฏิบัติ"
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 17 มิ.ย.2008, 3:47 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

พุทโธ อนุโมทนาด้วยครับ
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
พัชมน เพียรสุรกุล
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 28 มิ.ย. 2008
ตอบ: 4
ที่อยู่ (จังหวัด): นนทบุรี

ตอบตอบเมื่อ: 24 ก.ค.2008, 3:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

๛ Nirvana ๛
เดี๋ยวนี้คุณยังไปที่วัดอยู่รึเปล่า สนใจจะไปบ้าง ยังไม่เคยไป แนะนำด้วยค่ะ
 

_________________
รู้อะไรก็ไม่สู้รู้วิชา วิชาอะไรก็ไม่สู้รู้วิชาธรรมะ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง