Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ชีวิตแม่รำพึง (หลวงตาแพรเยื่อไม้) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 25 ต.ค.2004, 5:28 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ชีวิตแม่รำพึง
โดย หลวงตาแพรเยื่อไม้

จัดพิมพ์โดย ธรรมสภา


แม่ก็เหมือนผู้หญิงทั่วไป เกิดมาแล้วต้องต่อสู้ เคยแพ้เคยชนะ เคยยาก เคยดี เคยมี เคยจน ฯลฯ ชีวิตแม่ตอนระยะแรกและท่ามกลางเป็นเช่นกับเรือลำน้อย ล่องลอยอยู่กลางทะเลต้องกระเด็นกระดอนไปตามแรงเหวี่ยงซัดโยนของคลื่นและลม ยามทะเลราบเรียบดูทุกอย่างรอบตัวแจ่มใสและสวยงาม ตั้งแต่ท้องฟ้า เปลวแดด เกล็ดคลื่นอันแผ่กระจายอยู่ระยิบระยับ รู้สึกตัวไม่ผิดอะไรกับปุยนุ่น ที่กระเพื่อมร่ายระบำไปตามจังหวะลีลาของสายลม

แต่ครั้นถึงวาระทะเลบ้า มหาสมุทรคลั่ง ทุกส่วนทุกอณู ดูมันกลายเป็นสิ่งที่จ้องประหัตประหาร แม่เคยเสียขวัญ แต่แล้วเรียกมันกลับคืนได้ แม่กัดฟันต่อสู้ ชีวิตเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่ และเป็นคัมภีร์อันประเสริฐในตัวมันเอง

ขณะนี้ ชีวิตแม่ได้ดำเนินมาถึงจุดปลายทาง นึกถึงข้างหน้าก็มีหวัง หวนระลึกถึงข้างหลัง แม่ก็มีความสุข อดีตและอนาคต มีสายใยที่เหนี่ยวคล้องอยู่ในจิตสำนึก ทำให้แม่ต้องตกเป็นจำเลยของกาลเวลาอยู่เสมอโดยเฉพาะอดีต แม่พอใจที่จะเป็นจำเลย เพราะทุกคราวที่ถูกนำมาตรวจสอบให้การ แม่ได้ผ่านความวิตกกังวลมาได้เกือบสิ้นเชิง และทำให้คิดไปว่าชีวิตของหญิงมีความหมาย เท่าที่แม่มีก็น่าจะพอใจ แม่จึงไม่ทะเยอทะยานใฝ่ฝันและริษยาผู้หญิงคนใด กลับจะกลายเป็นว่าควรจะถูกริษยาไปเสียด้วยซ้ำ

แม่เกิดมาในยุคที่สังคมไทยกำลังมีการปรับปรุงค่านิยมจากเก่าเข้าสู่ใหม่ ชีวิตหญิงแต่ดั้งเดิม ถือเอาประเพณีเป็นมาตรวัดความหมายค่าหรือเกียรติของสตรี เริ่มต้นด้วยความไม่มีมลทิน ตระกูลวงศ์ที่แม่ถูกบุญวาสนาแต่ปางก่อนนำมาเกิด ตระหนักและเคร่งครัดในประเพณีมาก ชีวิตและวิญญาณแม่จึงถูกชุบอาบด้วยหลักพระศาสนาซึ่งเป็นแม่บทของวัฒนธรรม ด้านจิตใจแม่ถูกสอนให้สำนึกว่า ราคีของหญิงอะไรจะมาร้ายแรงเท่ากับละเมิดประเพณี เป็นไม่มี ฉะนั้น แม่จึงรักษานวลสงวนตัวเหมือนพระเคร่ง เกรงอาบัติ

แต่แม่ก็ไม่อาจจะทำตัวเหมือนผ้าพับไว้ได้ เพราะอิทธิพลของความเปลี่ยนแปลงทางสังคม การศึกษาหา ความรู้ ทัศคติดั้งเดิมที่เกรงว่าสาวๆ จะริเล่นเพลงยาวกับผู้ชายหนุ่มๆ ได้กลายเป็นเรื่องชวนหัวที่น่าเวทนาไป แม่ได้มีโอกาสสมาคมกับผู้อื่นที่นอกเหนือไปจากวงศ์ญาติ โดยเฉพาะสถานศึกษา แม่มีเพื่อนทั้งเพศเดียวกันและต่างเพศ

แต่ทว่าเพศชาย แม่มีอุปทานหรือคติฝังอยู่ในหัวใจให้รู้สึกอยู่เสมอว่า ไม่ต่างอะไรกับเชื้อโรค แต่แม่ก็หนีไม่พ้นจากโรคภัย - ไข้เจ็บ เหมือนทุกคนเกิดมาไม่ใครหรอกที่จะไม่เคยเป็นหวัด ในที่สุดความจริงมันก็บังคับให้จำยอมและรับว่าเชื้อโรคนั้น แท้จริงมันก็มีประโยชน์อยู่ตรงที่กลายมาเป็นภูมิต้านทานโรคเหมือนเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า กันโรคหมาบ้า ความรักทำให้ชีวิตสตรีล่อแหลมต่อมลทิน แต่ก็ความรักนั่นเองช่วยทำให้ลูกผู้หญิงเข้มแข็ง และรู้จักประคองชีวิต

แล้วแม่ก็เปิดฉากชีวิตด้วยการทำงาน ก็ต้องนับว่าเป็นภาระหนัก สำหรับสตรีที่เกิดมาในยุคของแม่และถูกอบรมมาอย่างแม่ ต่อมาแม่ต้องรับภาระทั้งในบ้านในฐานะแม่บ้านแม่เรือน เป็นงานหลักของกุลสตรี แล้วชีวิตแม่ก็ต้องเปลี่ยนแปลงกลายมาเป็นแม่อีกแบบหนึ่ง คือแม่แรง

แม่พบชายที่พึงใจ จะเป็นโชคหรือเคราะห์ของสตรียุคนี้ก็ไม่ทราบที่ความนิยมชนิดคลุมถุงชนกำลังจะผ่าน ถ้าเป็นโชค ก็ตรงที่ไม่ต้องฝืนใจลงทุนด้วยชีวิต วิญญาณ หากเป็นเคราะห์ก็เพราะปัญหาที่จะต้องต่อสู้ขับเคี่ยวนั้นมีมากมาย เหตุที่ถึงอย่างไรผู้หญิงก็คือผู้หญิง สังคมไทยยังไม่อนุญาตให้ปล่อยความรู้สึกอย่างสินเชิง การต่อสู้เรื่องเกี่ยวแก่คู่ครองจึงจำต้องเป็นแบบคลื่นใต้น้ำ สงครามใต้สมุทร เป็นระยะที่ชีวิตต้องกระทบทั้งสุขและกังวล หวานและชื่น

ชีวิตของสตรีมีความหมายเพราะการแต่งงาน มีค่าตรงที่ได้เป็นแม่


(มีต่อ)
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
amai
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 24 พ.ค. 2004
ตอบ: 435

ตอบตอบเมื่อ: 25 ต.ค.2004, 5:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การแต่งงานเป็นขั้นตอนที่ต้องรับผิดชอบด้วยตนเอง ตระกูลวงศ์แม้จะสำคัญ แต่ก็ไม่อาจจะเข้ามาเกี่ยวข้องมากนัก เหมือนฝั่งคลองไม่อาจจะยื่นลงไปประคองคนที่กำลังแหวกว่ายอยู่ในกระแสน้ำ อย่างจะดีที่สุดก็เพียงแต่เป็นความหวังของคนที่หมดแรงว่ายจะได้โผเข้ามาพักพิง.....ไม่มีฝั่ง.....แห่งไหนที่จะผลักไสคนที่สิ้นเรี่ยวแรงฉันใด วงศ์ตระกูลก็มีหน้าที่ต่อกุลบุตรฉันนั้น

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของแม่ไม่เคยทำให้แม่ต้องผิดหวังเลย โดยเฉพาะคู่ครอง แม่อบอุ่นไปทั่วขุมชีวิต ประกอบกับหน้าที่การงานของแม่และสามีเป็นไปในแนวถนัด ไม่มีอะไรขัดกันเหมือนนายแพทย์กับพยาบาล เหตุนี้ผลิตผลจากความรัก ลูกเต้าหญิงชาย จึงมีความสมบูรณ์ทั้งกายและใจ

ลูกผัว แม่มักมีภาษาประสาชาวบ้านครองใจอยู่เสมอ ภาษาชาวบ้านมีส่วนทำให้รู้สึกว่าชีวิตครอบครัวเป็นหุ้นส่วนที่แน่นกระชับ “ผัวเปรียบเหมือนขวัญ ลูกนั้นเหมือนเนตร” โศลกจากพระเทศน์ที่แม่จดจำมาแต่เนิ่นนาน หวลเข้าสู่ความรู้สึกดุจลมหายใจ แม่เป็นหญิงที่มีขวัญมั่นคงเพราะสามีไม่เคยทำตัวเป็นข้าศึก แม่ไม่เคยมีทุกข์เพราะต้องร่วมรักชายเดียวกับหญิงอื่น จะจัดว่าแม่เป็นหญิงที่ปลอดภัยไร้ทุกข์ ตามวิสัยหญิงก็คงได้

บางคราวแม่ก็ต้องระแวง เนื่องจากชีวิตจำต้องเหินห่างพลัดพรากจากกันเพื่อหน้าที่ เพื่อความมั่นคงของครอบครัว แม่ก็สู้อดทนและพยายามดับความระแวงอันเป็นพิษร้ายออกไปด้วยการให้เกียรติสามี เชื่อในความดีของคู่ครอง และที่พึ่งสำคัญยามนี้ก็ได้แก่พระ ยามใดที่ชีวิตต้องเผชิญเหตุการณ์เสมือนถูกทอดทิ้ง แม่ก็จะหันหน้าเข้าพึ่ง ตั้งใจรับคำสอนของพระ ในระยะนี้แม่ได้กลายเป็นอุบาสิกา พระเจ้าพระสงฆ์หลายรูปหลายองค์เรียกแม่ว่าโยม แม่รู้สึกพอใจที่ถูกพระตั้งเป็นโยม

ที่สำคัญก็คือแม่เปิดประตูบ้าน พานประตูเรือนให้พระสงฆ์เข้าเทศน์ตามฤดูกาล มีเพื่อนบ้านใกล้เคียงมาร่วมฟัง ลูกหลานได้มีโอกาสฝึกปรือมรรยาท เข้าพระเข้าเจ้าสนิทสนม เกิดผลดีทางสมาคมไปในแนวที่อบอุ่น และอยู่ในร่องในรอยที่แม่พอใจเป็นพิเศษ..... นี่เป็นผลที่เกิดจากความรู้สึกยามที่คิดว่าถูกละเลยทอดทิ้ง..... แม่นึกยกประโยชน์ให้แก่ความทุกข์

ลูกเหมือนแก้วแววตา แม่ถนอมนักหนาและก็ไม่เสียทีเลย เพราะไม่มีลูกคนใดไม่ว่าหญิงหรือชายได้ประพฤติตัวเป็นปัญหาให้หนักใจ แม่มั่นใจว่าเป็นผลของการไม่ห่างพระ แม่ไม่เสียดายทุนรอน เรี่ยวแรงที่ทุ่มเทลงไปเพื่อลูก เหตุที่แต่ละคนมีชีวิตก้าวหน้าไปสู่ความมั่นคงพอวางใจหายห่วง จนกระทั่งทุกคนเป็นฝั่งเป็นฝาไปแล้ว แม่ก็ยังไม่ยอมให้แก้วแววตาของแม่กระจาย ย้ายแยกกันไปทางไหน แม่ตั้งความปรารถนาที่จะเป็นฝั่งที่ห่างหรือไม่ทอดทิ้งคนว่ายน้ำ

ที่แม่เป็นสุขเป็นพิเศษ ก็ตรงที่ทั้งเขยและสะใภ้ต่างทำตัวไม่ต่างอะไรกับลูกในไส้ ระยะที่แม่อบอุ่นก็คงได้แก่ ยามที่แม่พรั่งพร้อมทั้งลูกและผัวและหลานๆ หลายสาย แม่รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมหาราชินี ครอบครัวแม่เป็นครอบครัวใหญ่ มั่นคงเป็นสุขโดยไม่จำเป็นต้องลวงตัวเอง นี่ก็เพราะทุกคนรู้จักยกย่องให้เกียรติกัน ต่างเคารพนับถือความรู้สึกของกันและกัน แม่รู้เหมือนกันว่าครอบครัวจะดำรงสภาพเช่นนี้ไม่ได้ตลอดไป แม่ใจหายเมื่อนึกภาพการย้ายแยกแตกกระจายของลูกหลาน ก็ได้แต่ภาวนาว่าหากจะมีเหตุการณ์นั้น ก็ขอให้แม่ตายเสียก่อนเถิด อย่าให้ตนต้องได้พบเห็นสภาพอันโหดร้ายอย่างนั้นเลย และแม่ก็ไม่เคยระแวงว่าจะมีใครหักหาญทำลายน้ำใจแม่

แม่อายุมากขึ้น มีโอกาสได้เห็นความเจริญของลูกๆ ทั้งกายและจิตใจ แม่คิดว่าคงมีผู้หญิงไม่กี่คนหรอกที่จะโชคดีเท่าแม่ แม่ไม่จำเป็นต้องริษยาใคร ชีวิตของผู้หญิงถ้าไม่มีความยินดีต่อสภาพอย่างนี้ ก็น่าจะถือว่าเป็นคนหมดหวัง ไม่มีทางได้เสวยผลของชีวิตแน่ๆ จะหวังอะไรให้สูงไปกว่านี้เล่า เมื่อรักสมัครที่จะมีชีวิตอย่างคนมีเกียรติ ชีวิตไม่เคยด่างพร้อย ไม่เคยพ่ายแพ้ความชั่ว มีความมั่นคงทางครอบครัว ทั้งลูกหลานและผัวก็ไม่เคยทำให้ผิดหวัง ผู้หญิงยังจะต้องการอะไรยิ่งกว่านี้เล่า

แม่มีสิทธิที่จะชื่นใจกับชีวิตของแม่ เพราะแม่รู้ชัดถนัดแก่ใจว่า ความรุ่งเรืองมั่นคงทั้งหลายแหล่มันไม่ได้เป็นผลจากการบันดาลของพระเจ้าองค์ใด แต่มันเป็นผลออกมาจากกรรมที่ถูกต้องดีงามตามหลักคำสอนของพระพุทธองค์ ที่แม่ฝังแม่ประคองไว้ในเนื้อวิญญาณตลอดชีวิต และแม่ก็ยังไม่ยอมหยุดยั้งในการสร้างกรรมที่ดีงาม แม่ไม่ยอมสิ้นหวัง เหมือนคนเดินทางจำต้องเตรียมเสบียง

วันนั้นเป็นวันเสาร์สามโมงเช้า แม่ดูโทรทัศน์รายการพุทธประทีป มีพระภิกษุสององค์ที่คุ้นเคยกับแม่ออกรายการ บรรยายถึงงานนิทรรศการทางพระพุทธศาสนาที่จะมีในวันอาทิตย์รุ่งขึ้นที่วัดหนึ่ง..... ซึ่งเป็นวันอาสาฬหบูชา ผู้บรรยายได้ประกาศว่า มีการแสดงหลายรายการรวมทั้งอภิปรายเรื่อง “อยู่อย่างไทย” ทางผู้จัดเชิญผู้มีชื่อเสียงเป็นวิทยากร แม่สนใจหันไปปรารภกับลูกคนหนึ่งว่า

“หนู พรุ่งนี้ไปเป็นเพื่อนแม่หน่อยนะลูก”

“คุณแม่จะไปไหนคะ ?”

“แม่จะไปวัด ฟังอภิปราย แม่อยากฟังคุณสมัคร”

แต่แม่ก็ไม่ได้ฟังคุณสมัคร เพราะย่างเข้าเขตวันอาสาฬหบูชานั้น แม่ก็สิ้นใจ มีอะไรบ้างที่แน่นอน โอ้ ! ชีวิต............ เตสํ วูปสโม สุโข สู่ความสงบ เถิดนะแม่



........................ เอวัง .........................

ดอกไม้ ดอกไม้ ดอกไม้
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
สาวิกาน้อย
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 27 มี.ค. 2006
ตอบ: 2065

ตอบตอบเมื่อ: 25 ก.ค.2006, 5:13 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สา...............ธุ ยิ้ม
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
เด็กน้อย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 06 ส.ค. 2006, 11:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง