มีเพื่อนมาชวนให้เปลี่ยนศาสนา...จะดีไหม?

ผู้เยี่ยมชม

ผมนับถือศาสนาพุทธตามทะเบียนบ้าน
แต่ไม่ใช่พุทธศาสนิกชนที่เคร่งครัดอะไร เรียกว่าไม่ค่อยรู้อะไรเลย
ปัจจุบันไม่เคยสวดมนต์ ทำบุญ ไหว้พระ ไปวัด ฯลฯ
เพื่อนสนิทซึ่งนับถือศาสนาอื่น มาแนะนำและชักชวนให้เปลี่ยนศาสนา
ผมกำลังคิดว่าจะเปลี่ยนดีหรือไม่ ?
เพราะที่ผ่านมา ก็มิใช่ชาวพุทธโดยพฤตินัยอยู่แล้ว

ผู้เยี่ยมชม

ลองศึกษาแก่นของแต่ละศาสนาค้วยความเคารพแล้วคุณจะต้องพบกับศาสนาที่ทำให้คุณเชื่อมั่นแน่นอนครับ สาธุ

ตอบเมื่อ: 01 ก.ค.2006, 11:04 pm

กราบสวัสดี คุณช่างสงสัย

ไม่ว่าศาสนาไหนๆก็ล้วนแต่สอนให้คนเป็นคนดีทั้งสิ้น คุณจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยน ก็เป็นสิทธิ์ของคุณ ชาวพุทธมากมายนับถือศาสนาพุทธเพียงทะเบียนบ้านเท่านั้น ซึ่งจะมีคุณเป็นหนึ่งในนั้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร คุณเปลี่ยนศาสนาแต่คุณไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน หรือเบียดเบียนใคร ถึงจะเปลี่ยนเป็นศาสนาอะไรแต่คุณยังคงดำเนินชีวิตอยู่ด้วยความสงบ และสันติ เพียงเท่านี้ คุณก็ได้ชื่อว่าเข้าถึงแก่นธรรมของศาสนาทุกศาสนาแล้ว...ก็เท่านั้น

ธรรมะสวัสดี

มณี ปัทมะ ตารา ผีเสื้อ

ผู้เยี่ยมชม

ศาสนาพุทธไม่ได้สอนให้เชื่ออย่างงมงาย พระพุทธองค์ทรงสอนเราไม่ให้เชื่อโดยไม่ได้คิดหาเหตุผลด้วยตนเองก่อน ตลอดสี่สิบห้าพรรษาพระพุทธองค์ทรงสั่งสอนแนวทางที่เราจะได้หลุดพ้น
จากการเวียนว่ายตายเกิดอย่างไม่รู้จักจบสิ้น

พระพุทธศาสนา สอนให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด

ส่วนศาสนาอื่น ๆ ยังสอนให้อยู่ในการเวียนว่ายตายเกิดอีก

ผู้เยี่ยมชม

ศาสนาดีหรือไม่ได้ ไม่ได้อยู่ที่ตัวศาสนา แต่อยู่ที่ผู้ปฏิบัติมากกว่า
หากเราเข้าใจในศาสนาของเราอย่างแท้จริง ก็จะไม่เห็นความแตกต่างระหว่างศาสนา

ลองคิดดู

ผู้เยี่ยมชม

ผมว่าขึ้นอยุ่กับใจคุณครับ สำหรับผม แม้ผมยังไม่เข้าใจพุทธศาสนาดีพอ แต่ผมก็เชื่อพระพุทธเจ้าไว้สุงสุดเหนือชีวิตครับ เพราะผมมั่นใจว่า ในอนาคตอีกหลายชาติข้างหน้า ผมจะรุ้แจ้งเห็นจริงและเป็นอิสระจริงตามพระพุทธเจ้าได้ต่อไปด้วยตัวเอง ตามกรรมดีสะสมพร้อม และอีกอย่างหนึ่ง แม้ต่อให้เชื่อ พระเจ้า ว่ามีจริงและช่วยเราได้ มันก้ช่วยเราได้แค่บางอย่างเท่านั้นครับไม่ตลอดไป สุดท้ายเป็นไปตามกรรมแน่นอน แต่ที่แน่ แน่ พระพุทธเจ้า ของเราบอกเราว่า ไม่มีใครช่วยพาเราไปเป็นอรหันต์ของจริงได้ครับ เพราะการเป็นอรหันต์จริง นั้น ต้องสร้างบุญบารมีข้ามชาติด้วยแรงกายแรงใจของตัวเองเท่านั้นครับ ถ้ามีเทวดาหรือพระเจ้ามาช่วยนิดเดียว ไม่มีวันถึง ความเป็นอรหันต์ตามพระพุทธเจ้าได้เลยครับเพราะบุญของเราไม่สะอาดด้วยตัวมันเองและ เพราะเป็นกฏธรรมชาติของการเป็นอรหันต์มีแบบเดียวครับในอนันตจักรวาลคือ ต้องเป็นแบบพุทธสาสนาเท่านั้น

ผู้เยี่ยมชม

ศาสนาพุทธมีคำสอนที่ลึกซึ้ง เน้นการพึ่งพา พัฒนา และรักษาตนเอง ไม่ใช่การอธิษฐานหรือร้องขอจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ดิฉันอยากแนะนำให้ลองอ่านหนังสือช้อปปิ้งบุญดูนะคะ เป็นหนังสือที่สนุก อ่านง่าย และเข้าถึงหัวใจของพุทธศาสนาทีเดียว แต่หากคุณได้ลองศึกษาแล้วเห็นว่ายังไม่ใช่คำตอบของคุณ ก็สามารถเลือกในสิ่งที่คุณศรัทธาได้ ประเทศไทยเราใจกว้างในการนับถือศาสนาอยู่แล้วค่ะ

ขอให้มีความสุขนะคะ

ผู้เยี่ยมชม

ชาวพุทธเรา ยังไม่มีวิธีบริหารและรักษาสังคมพุทธฝ่ายชาวบ้าน อย่างเป็นแบบแผนดีพอ เหมือนศาสนาอื่น ตรงนี้ พวกเราชาวพุทธ ควรช่วยกันแก้ใขครับ สังคมพุทธต้องเข้มแข็งเป็นแบบแผนและยืดหยุ่นและทันโลก เสมอ เสมอ นี่แหละ สังคมจะดีกว่าศาสนาอื่นได้ ต้องเอางานสังคมเข้ามาจับให้ดีกว่าศาสนาอื่นด้วยครับอย่างรอบคอบ

ตอบเมื่อ: 05 ก.ค.2006, 12:56 pm

สวัสดีครับ
ผมเป็นนิสิตปรัชญาและศาสนา
ผมว่าคุณควรจะศึกษาคำสอนของพุทธและศาสนาที่คุณจะเปลี่ยนให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ดีกว่านะครับ
แล้วดูว่าอย่างไหนเหมาะกับคุณ
แต่สำหรับผมแล้ว คิดว่า
คนที่เข้าใจศาสนาพุทธอย่างลึกซึ้งจะไม่มีทางเปลี่ยนศาสนาได้เลย
เพราะเป็นศาสนาที่พิสูจน์ได้
เห็นได้จริงในปัจจุบัน
เป็นจริงโดยไม่จำกัดกาลเวลา
เราสามารถพิศูจน์เรื่องกฎแห่งกรรมได้ แต่ควรพิสูจน์กับกรรมดีนะครับ
พุทธสอนให้เห็นสุขและทุกข์ แล้วละทั้งสองอย่าง ไม่ยึดติด
แต่ศาสนาอื่นสอนให้ละทุกข์แสวงหาสุข
ศาสนาอื่นสอนให้รอคอยโลกหน้า แสวงหาแผ่นดินพระเจ้า
โลกหน้าสำคัญกว่าโลกนี้ อะไรประมาณนั้น
แต่พุทธไม่เคยให้รอคอยโลกหน้า

ท่านพุทธทาสสอนว่าพระไตรปิฎกนั้น
มีแค่30%ที่เป็นแก่น อีก70เป็นแค่เปลือก
คนที่เปลี่ยนศาสนามี2พวกคือ
ไม่เข้าใจคำสอน และ
พวกที่ยึดเปลือกมากกว่าแก่น
พวกหลังจึงมองว่าพุทธเป็นเรื่องงมงาย ไม่น่าเชื่อถือ

ยิ่งวิทยาศาสตร์เจริญก้าวหน้ายั่งขัดแย้งกับความเชื่อของคริสต์ครับ
แต่สอดคล้องกับพุทธ
เช่นไอน์สไตน์บอกว่าที่สุดของที่สุดมันไม่มีอะไร ที่สุดของสรรพสิ่งก็คือความว่างเปล่า
หรือการสร้างโลกในปฐมกาล มันเป็นไปไม่ได้เลยในทางวิทยาศาสตร์
แต่ในอัคคัญสูตร การกำเนิดโลกและมนุษน์จะแสงถึงวิวัฒนาการได้ดีกว่า

นอกจากนี้ ซิกมัน ฟรอยด์นักจิตวิทยาชื่อดังด็ยังเชื่อว่าไม่มีพระเจ้า
เขายังอธิบายเหตุผลที่มนุษย์ศรัทธามั่นในพระเจ้าได้โดยใช้จิตวิเคราะห์
เรียกว่าทฤษฎีการทดแทน
แต่ผมคงอธิบายรายละเอียดไม่ได้เพราะมันยาวมาก
แต่ความยึดมั่นในพระเจ้าสามารถอธิบายได้โดยจิตวิทยา

นรกสวรรค์ของพุทธยุติธรรมนะครับ
เพราะทำแค่ไหนชดใช้กรรมแค่นั้น
แต่คริสต์หรืออิสลามนักวิชาการตะวันตกบอกว่าไม่ยุติธรรมครับ
เพราะว่าเป็นนิรันดร์
ถ้าขึ้นสวรรค์ก็ดีไป แต่ถ้าตกนรกนิรันดร์นี้ยอมรับไม่ได้ครับ
เกิดมาชาติเดียว
ทำชั่วแต่ต้องอยู่ในนรกนิรันดร์

ผมแค่ตอบสิ่งที่เรียนมานะครับ
ทางที่ดีที่สุดคุณควรจะศึกษาศาสนาให้เข้าใจอย่างท่องแท้แล้วค่อยตัดสินใจอีกทีก็แล้วกัน

ผู้เยี่ยมชม

ขอขอบคุณสำหรับคำแนะนำที่ดีๆ และน่าสนใจ
ผมจะนำไปใคร่ครวญในดี

ตอบเมื่อ: 08 ก.ค.2006, 12:43 am

แต่ก่อนเราก็เปนแบบคุณอ่ะค่ะ แต่พอมาในชีวิตเกิดปัญหาขึ้นก็เลยลองหาหนังสือธรรมะ
มาอ่านค่ะ......แล้วมันก็ใช่เลยค่ะ!!!

มันทำให้เราคิดว่า เรานับถือพุทธตามบัตรประชาชนแต่ทำไมเราไม่เอาสิ่งนั้นมาศึกษาดูอย่างจริงจัง จนตอนนี้ยิ่งศึกษาก็ยิ่งรู้ว่า ทุกอย่างที่พระพุทธเจ้าสอนไว้..ใช่เลย...ค่ะ

ตอนนี้เราต้องท่อง ว่า...... ตติยัมปิ พุทธัง สรนัง คัจฉามิ ....... ไม่ว่าจะยังไง ก็จะขอยึดพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งที่ระลึก ค่ะ

ผู้เยี่ยมชม

ไม่เดือดร้อนใคร ก็พอแล้วนะ ผมว่า

ตอบเมื่อ: 08 ก.ค.2006, 9:46 pm

ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีเหมือนกัน แต่ขึ้นอยู่กับตนเองว่าจะศรัทธาในศาสนาไหน ที่สำคัญที่สุดคือปฏิบัติตามศาสนาที่ตัวคุณเองนั้นถือ

ผู้เยี่ยมชม

1. ศาสนาเป็นคำสอนเกี่ยวกับแบบแผนความประพฤติ ถ้ามีแบบแผนความประพฤติดีตามคำสอนของศาสนาก็ได้รับผลดีมีสุขไม่มีทุกข์ พระพุทธศาสนามีแบบแผนความประพฤติที่ประเสริฐเรียกว่า "พรหมจรรย์" หรือพรหมจริยา ถ้าประพฤติได้ก็เป็นคนประเสริฐ ถ้าไม่ประพฤติก็ไม่ประเสริฐเพียงแต่นับถือก็ไม่ประเสริฐ ต้องประพฤติจึงจะประเสริฐได้

2. คำสอนของพระพุทธศาสนามีหลักการสำคัญว่า (1) สอนให้ละบาปกรรม (2) สอนให้ทำบุญกุศลไว้ (3) สอนให้ทำจิตของตนให้บริสุทธิ์ หลุดพ้นจากวงจรของกิเลสบาปคือพ้นจากโลภ โกรธ หลง ดำรงตนอยู่ในทางบุญ

3. พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนว่า "สิ่งทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า ใจพาให้เลิศล้ำ ใจทำให้สำเร็จ ผู้ใดมีใจที่ถูกประทุษร้ายให้เศร้าหมองไม่ผ่องใส จะพูดจะทำสิ่งใดย่อมได้รับความทุกข์ยากลากตามต่อเหมือนล้อเกวียนที่กำลังหมุนตามรอยเท้าโคที่กำลังลากเกวียนไป ฉันนั้น" ในทางที่จะทำให้เกิดสุขพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนว่า "สิ่งทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า ใจพาให้เลิศล้ำ ใจทำให้สำเร็จ ผู้ใดมีใจผ่องใส จะพูดจะทำสิ่งใดย่อมได้รับความสุขสบายไปตามตัวเขาเหมือนเงาติดตาม ฉันนั้น"

4. การได้เกิดเป็นมนุษย์นั้นแสนยากมีบุญมากมีศีลครบห้าจึงได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ยิ่งได้มาพบพระพุทธศาสนายิ่งถือว่าเป็นโชคอันดีเป็นลาภอันประเสริฐ จงภูมิใจเถิด จงเกิดศรัทธาหาโอกาสประพฤติปฏิบัติตามหลักพุทธธรรมอย่างจริงจัง ท่านก็จะได้ผลจริงๆ เห็นได้ด้วยตนเองเป็น "สันทิฏฐิโก" ให้ผลไม่จำกัดกาลเป็น "อกาลิโก" ขณะยังไม่สาย ขอเชิญชวนให้คุณ "ช่างสงสัย" รีบตัดสินใจประพฤติตามหลักพุทธธรรมเสียแต่วันนี้ โชคดีจะเป็นของคุณ

ธรรมสวัสดี จาก "ศาสนวิทยากร"

ตอบเมื่อ: 18 เม.ย.2008, 3:59 pm

๑. ตามที่อ้างว่าสรรพสิ่งต้องมีผู้สร้างจะกำเนิดมาลอยๆไม่ได้ และอ้างว่าสรรพสิ่งมีพระเจ้าเป็นปฐมเหตุ ผมถามครับว่า แล้วพระเจ้ามาจากไหน ถ้าตอบว่า พระเจ้ามีอยู่แล้ว ดำรงอยู่แล้ว ก็หมายความว่า คำพูดที่ว่าสรรพสิ่งต้องมีผู้สร้างในประโยคแรกผิด เพราะขัดแย้งกันเอง ย่อมหมายความว่า ในเมื่อพระเจ้ายังมีอยู่แล้วได้เอง จะแปลกอะไรถ้าชีวิตจะถือกำเนิดมาได้เอง จริงไหมครับ

๒. ตามคัมภีร์ พระเจ้าแผ่แผ่นดินแล้วใช้ภูเขาเป็นหมุดปัก จากนั้นสร้างชั้นฟ้าทั้งเจ็ด แล้วสร้างแสงสว่างโดยมีพระอาทิตย์ แล้วให้พระจันทร์สลับกันขึ้น โดยมีพระเจ้านั่งคุมที่บัลลังก์ ผมถามครับ
- การแผ่แสดงว่าโลกแบน และไม่มีประโยคไหนในคัมภีร์ที่บอกว่าโลกกลม
- ภูเขาเกิดจากการยกตัว ทำไมคัมภีร์บอกเป็นหมุดปักล่ะครับ
- ชั้นฟ้าของโลกมิได้มีเจ็ดชั้น เปิด Encyclopedia ดูได้ ทำไมคัมภีร์ว่ามีเจ็ดล่ะครับ
- แผ่นดินหรือโลกเกิดก่อนจักรวาลและดวงทิตย์ได้ยังไง โลกอายุน้อยกว่าจักรวาลและดวงอาทิตย์มาก

๓. จากคัมภีร์พระเจ้าสร้างชีวิตในวันแรก แล้วคนในวันที่หก ถามครับ
- แสดงว่าคนกับไดโนเสาร์เกิดยุคเดียวกัน ?
- ทฤษฏีวิวัฒนาการผิด?

๔. เรื่องรูปเคารพ อิสลามโจมตีว่าสร้างจากปูน จากโลหะ ไปกราบไหว้ทำไม หิน ดิน โลหะจะไปรู้เรื่องอะไร ผมถามครับว่า แล้วถ้าผมกล่าวว่า พระเจ้าก็สร้างจากอวิชชาหรือความเขลาที่หลอกตัวเอง พร้อมกับกล่าวว่า การสวดอ้อนวอนหรือการขอพรจากพระเจ้าก็ไร้ผล เสียเวลา เพราะพูดกับสิ่งไร้ตัวตน กล่าวอย่างนี้ถูกไหม

สรรพสิ่งต้องมีเหตุแห่งกำเนิดถูกต้องครับ ไม่มีอะไรเกิดมาเองลอยๆได้ แต่สรรพสิ่งต้องมีปฐมเหตุ???

หินงอกเกิดจากอะไร พระเจ้าสร้างหรือ?? หินงอกเกิดจาก น้ำ เกลือแร่ แรงดึงดูด เวลา ครับ แค่หินงอกอย่างเดียวก็อาศัยเหตุแห่งกำเนิดถึง 4 ตัวแล้ว ขาดตัวใดตัวหนึ่งก็ไม่มีทางเกิดหินงอกได้

ถามต่อ น้ำเกิดจากอะไร เกลือแร่เกิดจากอะไร แรงดึงดูดเกิดจากอะไร เวลาเกิดจากอะไร แต่ละตัวก็จะมีเหตุแห่งกำเนิดมากกว่าหนึ่งแตกออกไปไม่สิ้นสุด น้ำก็ยังมาจากโมเลกุลของไฮโดรเจน ออกซิเจน ร่วมกับ catalyst คือ ประจุไฟฟ้า ขาดตัวใดตัวหนึ่งน้ำไม่มีทางเกิดเกลือแร่ก็มีทั้ง แคลเซี่ยม ฟอสเฟต และอื่นๆ อีก นี่ก็มีเหตุมากกว่าหนึ่งแรงดึงดูดเกิดจากอะไร เกิดจากโลกหมุน ทำไมโลกหมุน อ้าว มีต่ออีก เวลาล่ะเกิดจากอะไร สรุป ไหนล่ะครับปฐมเหตุ เพราะแค่หินงอกอย่างเดียวยังมีเหตุแห่งกำเนิดนับได้เกินสิบแล้ว

ตกลงพระเจ้าสร้างอะไรเป็นตัวเริ่มต้น สร้างออกซิเจนหรือ อ้าว ออกซิเจนก็แยกได้อีกอ่ะครับอาจารย์ พระเจ้าสร้างดวงอาทิตย์?? สร้างยังไง พระเจ้าไปหาวัตถุดิบพวกไฮโดรเจนจากไหน เพราะไฮโดรเจนที่เป็นองค์ประกอบของดวงอาทิตย์ก็มิใช่ย่อยสุด ยังแยกได้อีก ไหนล่ะครับ ต้นกำเนิดดวงอาทิตย์
ตกลงพระเจ้าสร้างสรรพสิ่งเริ่มจากจุดไหน เพราะเจาะตรงไหนก็มีย่อยลงไปได้อีกเรื่อย ๆ ตกลงแค่หินงอกอันเดียว มีกำเนิดจากอะไร

ตอบเมื่อ: 18 เม.ย.2008, 6:55 pm

ขอให้ลงมือศึกษาหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา ดูก่อนดีปะค่ะ
แล้วค่อยตัดสินใจว่า เปลี่ยนศาสนา...จะดีไหม?

เอ๊า ! ขอให้ศึกษา มงคลชีวิต ๓๘ ประการ
http://www.dhammajak.net/board/viewtopic.php?t=13008

ตอบเมื่อ: 18 เม.ย.2008, 10:05 pm

มืดมามืดไป

มืดมาสว่างไป

สว่างมามืด

สว่างมาสว่างไป

เลือกเอาเองแล้วกันครับ สาธุ

ตอบเมื่อ: 02 พ.ค.2008, 5:52 pm

เห็นด้วยกับคุณปุ๋ยงับ สู้ สู้

ตอบเมื่อ: 04 พ.ค.2008, 11:25 pm

ด้วยความหวังดีครับ

โชคดีแค่ไหนแล้วที่คุณเกิดมาเป็นคนพุทธ+คนไทย
ใต้ร่มบารมีแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
84000พระธรรม มีให้คุณแสวงหาปฏิบัติตาม
ได้ผลประเสริฐจริงเยอะแยะ ถ้าอยากเปลี่ยนเพราะ
อารมณ์ชั่ววูบหรือเพราะเพื่อนชวนคิดใหม่ดีกว่าครับ

ขอให้สวัสดีไม่ว่าคุณจะเลือกทางใด สาธุ

ตอบเมื่อ: 06 พ.ค.2008, 12:19 am

พระพุทธศาสนาเป็นเอกในโลก คุณมีสิ่งที่ดีอยู่แล้วอย่าเปลี่ยนเลย