Home
•
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทาน
•
หนังสือ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
•
แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้
ค้นหา
สมัครสมาชิก
รายชื่อสมาชิก
กลุ่มผู้ใช้
ข้อมูลส่วนตัว
เช็คข้อความส่วนตัว
เข้าสู่ระบบ(Log in)
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
ความดีที่ไม่สูญ (ท.เลียงพิบูลย์)
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ผู้ตั้ง
ข้อความ
admin
บัวทอง
เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886
ตอบเมื่อ: 23 พ.ค.2006, 8:46 am
ความดีที่ไม่สูญ
โดย ท.เลียงพิบูลย์
จากหนังสือกฎแห่งกรรม
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เล่ม ๕
เทศกาลตรุษจีนตรงกับวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๐๔ เป็นวันถือ เป็นประเพณีเดิมซึ่งถือกันตลอดมา และเป็นวันหยุดของห้างร้านทั้งจีนและชาวต่างประเทศที่เกี่ยวกับกิจการค้า แม้แต่ธนาคารพาณิชย์ซึ่งปีก่อนไม่หยุด แต่ปีนี้ก็หยุดไปตามกัน
ข้าพเจ้าถือโอกาสในวันหยุดนัดหมายไว้ว่า จะไปพักผ่อนที่ชายหาดทะเลพัทยาพร้อมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ฉะนั้นย่ำรุ่งวันที่ ๑๕ ข้าพเจ้าก็ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ มุ่งตรงไปจุดหมายปลายทางคือ พัทยา
แต่วันนี้รู้สึกว่าโชคไม่สู้จะดี ฝนโปรยมาแต่เช้า ท้องฟ้ามืดครึ้ม เมื่อรถผ่านด่านเก็บค่าทางบางปูไปได้ไม่ไกลนัก รถก็หยุดลงเครื่องยนต์ไม่ยอมทำงานต่อไป
ข้าพเจ้านำรถเข้าข้างทางแล้วก็ลงมือตรวจแก้ เครื่องมือก็มีไขควงเพียงอันเดียว นี่เป็นความบกพร่องอันหนึ่งที่ข้าพเจ้านึกตำหนิตัวเอง ที่ไม่ได้ตรวจดูเครื่องมือให้เรียบร้อยก่อนออกเดินทางไกล และข้าพเจ้ายังหย่อนความชำนาญในทางเครื่องยนต์ ฉะนั้น หลังจากแก้ไขไปพักหนึ่งอย่างงูๆ ปลาๆ ก็หมดปัญญา และนึกขำแต่ในใจว่ารถเจ้ากรรมแต่ไหนแต่ไรไม่เคยเสีย เมื่อจะเสียก็เสียเอาวันสำคัญคือวันตรุษจีน ทุกหนทุกแห่งเขาหยุดงานหมดตามช่างที่ไหนมาแก้ ซ้ำมาเสียห่างจากกรุงเทพฯ เกือบ ๔๐ กิโลเมตร
คิดแล้วก็ไม่เห็นมีทางอื่นจะดีเท่าโดยสารรถเข้ากรุงเทพฯ แล้วก็เที่ยวหาช่าง และก็นึกท้อใจเพราะอู่และช่างที่เคยใช้เป็นประจำก็เคยบอกว่าตรุษจีนปีนี้จะไปเที่ยวพระพุทธบาท ฉะนั้นช่างที่ประจำก็หมดหวังแน่ ช่างอื่นๆ ไม่เห็นเลยในวันตรุษเทศกาลสำคัญเช่นนี้เขาหยุด แม้จะพบก็คงบ่ายเบี่ยงไม่ยอมมาเป็นแน่ นี่เป็นข้อที่น่าหนักใจมาก
แต่ถึงอย่างไรก็ดี ก่อนอื่นจำเป็นจะต้องเข้ากรุงเทพฯ แล้วไปขบปัญหาเอาข้างหน้า ข้อแรกก็หารถโดยสาร ฉะนั้นข้าพเจ้าจึงสั่งคนในรถข้าพเจ้าว่าจะไปกรุงเทพฯ และกว่าจะกลับมาก็เห็นจะหลายชั่วโมงบางทีอาจค่ำก็ได้ เพราะยังนึกไม่ออกว่าจะตามช่างได้ที่ไหน เคราะห์ดีหน่อยที่ยังมีอาหารและน้ำอยู่ในรถ พอจะแบ่งกันรับประทานกันหิวไปได้
ครั้นเห็นรถบัสโดยสารกำลังผ่านมา ข้าพเจ้าก็ออกมายืนโบกมือเป็นสัญญาณให้หยุดและจะขอโดยสารไปด้วย ครั้นแล้วรถที่ผ่านมาก็ผ่านไปโดยไม่เบาเครื่องและบอกสาเหตุที่ไม่ยอมรับ ข้าพเจ้าบอกตัวเองว่ารถคันนี้คนคงเต็มจึงไม่หยุดรับ และก็มองไม่เห็นคนในรถเพราะเอาผ้าใบลงกันฝนทั้งสองข้าง
แต่แล้วคันหลังๆ ก็เหมือนกับคันแรก โดยผ่านมาแล้วก็ผ่านไปโดยไม่ยอมเบาเครื่อง และข้าพเจ้าก็บอกตัวเองว่าเราคงจะขึ้นผิดที่เสียแล้ว เห็นจะเป็นเพราะไม่มีป้ายบอกหยุดรับส่งผู้โดยสาร รถส่วนบุคคลที่ผ่านเข้ากรุงเทพฯ ก็มีคนนั่งเต็ม บางคันก็เป็นรถรับจ้าง ซึ่งมีผู้เช่าเดินทางไกลก็มีคนนั่งเต็มเหมือนกัน
รถส่วนบุคคลบางคันที่ผ่านมาจะเข้ากรุงเทพฯ พอดีจะอาศัยนั่งได้บ้างก็ไม่ยอมหยุด หันมาหัวเราะเหมือนข้าพเจ้าเป็นตัวตลกเต้นอยู่กลางฝนเช่นนั้น แต่แล้วฝนก็ลงหนาเม็ดขึ้น
ข้าพเจ้าจึงต้องรีบขึ้นไปนั่งหลบฝนอยู่บนรถ นั่งมองดูน้ำฝนไหลตามกระจก นึกขันตัวเองที่รถบัสโดยสารไม่ยอมรับข้าพเจ้าก็ดี รถส่วนบุคคลที่ไม่ยอมรับและหัวเราะเหมือนข้าพเจ้าเป็นตัวตลกก็ดี ข้าพเจ้าไม่ได้โกรธและไม่เคยนึกโกรธ เพราะความโกรธคือความทุกข์ ธุระอะไรที่ข้าพเจ้าจะเอาความทุกข์มาใส่ตัว ข้าพเจ้าได้แต่ขำตัวเอง
บัดนี้ฝนหนาเม็ดขึ้น ได้แต่นั่งจับเจ่าอยู่ในรถไปไหนไม่ได้
แล้วก็หวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งสงครามโลกครั้งที่ ๒
ประเทศไทยกำลังขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง ราคาน้ำมันเบนซินแพงต้องปันส่วนตลาดมืด มีขายก็ราคาสูง รถยนต์วิ่งตามถนนน้อยลงอย่างผิดตา ค่าโดยสารและค่าขนส่งสูงขึ้นหลายเท่าตัว ผ่านคลองด่านมาได้ไม่กี่กิโลเมตรก็เห็นผู้คนพลุกพล่านผิดปกติ
ข้าพเจ้าเป็นคนอยากรู้อยากเห็นจึงหยุดรถที่หน้าบ้านครูเที่ยง ซึ่งเป็นครูใหญ่โรงเรียนประชาบาลแถวนั้น เมื่อถามดูก็ได้ความว่า เมื่อบ่ายโมงมีรถยนต์โดยสารจากศรีราชาจะเข้ากรุงเทพฯ ได้มาหยุดลงที่หน้าบ้านครูเที่ยง ครั้นแล้วก็มีผู้คนพยุงหญิงสาวผู้หนึ่งลงจากรถ ผู้หญิงนั้นแสดงว่าเจ็บปวดมากไม่สามารถจะเดินทางต่อไปได้ คนรถจึงนำลงทั้งๆ ที่ผู้หญิงไม่รู้จักใครในตำบลนี้เลย เป็นการเดินทางมาคนเดียว
ครูเที่ยงกับภรรยาเป็นผู้มีใจดีได้จัดการให้เข้าพักในบ้าน ปรากฏว่าครรภ์แก่คงจะคลอดบุตร ครูเที่ยงจัดการกั้นม่านให้ลับตาคน แต่แล้วก็ไม่คลอด การเจ็บปวดทวีมากขึ้น ฉะนั้น ชาวบ้านจึงวิ่งวุ่นหายากลางบ้านมาช่วยตามมีตามเกิด ส่วนมากเป็นยาแผนโบราณ แต่ไม่ได้ผลหรือทำให้ดีขึ้น ครูเที่ยงแสดงความวิตกทุกข์ร้อน จะหาหมอแผนใหม่และแผนโบราณก็ไม่มีในตำบลนี้หรือใกล้เคียง จะถามถึงชื่อเสียงและญาติพี่น้องของหญิงนั้นว่าอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้เรื่อง เพราะแกเจ็บปวดจนไม่ได้สติ ข้าพเจ้าสงสารและเห็นอกเห็นใจ
ครูเที่ยงเป็นผู้ที่มีมนุษยธรรมดีสงเคราะห์ผู้ที่อยู่ในยามเจ็บไข้ได้ทุกข์ และตนเองก็ต้องหนักอกเป็นทุกข์เป็นร้อน เพราะผู้ป่วยมีอาการหนักขึ้น และชาวบ้านแถวนั้นก็มีจิตใจสูงที่ได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ตาดำๆ ด้วยกันอย่างเต็มอกเต็มใจ
ข้าพเจ้าเองก็มีทางที่จะช่วยได้บ้างและสงสารเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ข้าพเจ้าจึงบอกครูเที่ยงว่า ข้าพเจ้าจะเข้ากรุงเทพฯ รีบไปรับหมอมาโดยเร็ว แม้จะเสียเวลานานหน่อยแต่ก็แน่นอน ครูเที่ยงแสดงความดีใจและมีหวังขึ้นมา ข้าพเจ้ามิได้รอช้ารีบขึ้นรถเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ทันที ตรงไปที่นเรศพยาบาล ถนนนเรศสี่พระยา ซึ่งนายแพทย์ประวัติฯ เป็นผู้อำนวยการ
พอจอดรถที่หน้าตึก ข้าพเจ้ารีบไปด่วนและร้องเรียกหมอตั้งแต่ขึ้นบันได แต่บังเอิญวันนั้นหมอไม่ได้ไปไหน ข้าพเจ้าโล่งใจเพราะกลัวว่าจะไม่พบหมอ ข้าพเจ้าบอกว่าเร็วด่วนหมอ มีคนป่วย... .. จะคลอดบุตรกำลังเจ็บปวดมาก........ หมอรีบเก็บเครื่องมือและยาใส่กระเป๋าแล้วถามถึงตำบลที่จะไป ข้าพเจ้าบอกให้ทราบแล้วก็รีบฉวยกระเป๋ารีบออกมาขึ้นรถ มีหมอตามติดมาด้วย ข้าพเจ้าเร่งน้ำมันเต็มที่เพราะเวลานั้นถนนไม่ค่อยจะมีรถมากนัก จราจรก็ไม่มี ข้าพเจ้าจึงทำเวลาให้เร็วพอใช้ พอถึงข้าพเจ้าก็มองเห็นครูเที่ยงคอยดูเราอยู่แล้ว พอเห็นเรากลับมาถึงก็แสดงความยินดี บอกว่าไปมาได้เร็วมาก ข้าพเจ้าทราบจากครูเที่ยงว่า คนไข้ไม่มีอาการอะไรดีขึ้นเลย หมอได้รีบตรวจอาการด่วนและให้ยาและฉีดยา
ข้าพเจ้านั่งสนทนากับชาวบ้านอยู่ข้างนอก ครู่ใหญ่ข้าพเจ้าก็ได้ยินเสียงทารกร้อง พวกเราพากันดีใจและเข้าใจว่าคนไข้คงจะปลอดภัยแล้ว สักครู่หมอก็ออกมาบอกว่า พ้นอันตรายแล้ว หมอได้มอบยาไว้ให้และบอกวิธีปฏิบัติ จากนั้นข้าพเจ้าก็พาหมอกลับกรุงเทพฯ บุตรที่คลอดทราบว่าเป็นหญิง แล้วก็ลืมเหตุการณ์ครั้งนั้นเสียสิ้น และเป็นเหตุบังเอิญเมื่อ ๒ ปีก่อนข้าพเจ้าได้พบเพื่อนผู้หนึ่งซึ่งเรามิได้พบกันประมาณยี่สิบกว่าปี เพราะต่างแยกย้ายกันไปไม่ได้พบกันเลย
(มีต่อ)
_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 26 ก.ค.2006, 5:41 pm, ทั้งหมด 4 ครั้ง
admin
บัวทอง
เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886
ตอบเมื่อ: 23 พ.ค.2006, 9:16 am
เมื่อข้าพเจ้าเข้าไปนั่งในบ้าน เพื่อนผู้นี้ก็เรียกภรรยาออกมาให้รู้จักและข้าพเจ้าเองก็ไม่เคยพบเห็นภรรยาของเพื่อนผู้นี้มาก่อน แต่ภรรยาของเพื่อนผู้นี้บอกว่าเคยรู้จักข้าพเจ้ามาก่อนแล้ว แต่ยังไม่รู้จักตัว ข้าพเจ้าก็งง นึกไม่ออก แต่แล้วภรรยาเพื่อนก็เรียกหญิงรุ่นสาวออกมาทำความเคารพข้าพเจ้า แล้วก็เล่าเรื่องที่บุตรสาวคนนี้คลอดที่บ้านครูเที่ยงเมื่อคราวสงครามโลกครั้งที่ ๒ ข้าพเจ้าจึงนึกได้ นี่เป็นเรื่องที่ข้าพเจ้าช่วยด้วยความสงสาร
ในถนนสายเดียวกันที่ข้าพเจ้ากำลังนั่งมองดูน้ำฝนไหลผ่านกระจกโดยไม่รู้ว่าจะทำอะไรดีกว่านี้ อีกครั้งหนึ่ง ข้าพเจ้าจำได้ว่าเป็นเวลาเย็น ข้าพเจ้าได้เดินทางมาที่สมุทรปราการและกำลังจะกลับบ้าน มีชายคนหนึ่งเข้ามาถามข้าพเจ้าว่ากำลังจะไปไหน ข้าพเจ้าบอกว่าจะกลับกรุงเทพฯ ชายผู้นั้นก็แสดงความหมดหวัง ข้าพเจ้าถามว่าจะไปไหน
ก็ได้ทราบว่ารถยางแตกอยู่ที่คลองด่านทางที่จะแยกไปประตูน้ำ
โดยต้องอาศัยรถผ่านนำยางที่แตกมาปะๆ เสร็จแล้วจะหารถนำยางที่ปะแล้วไปใส่ ก็หารถโดยสารไปไม่ได้ รถก็ทิ้งอยู่กลางทาง ความจริงข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักท่านผู้นี้มาก่อนเลย แต่หวนนึกถึงว่าข้าพเจ้าไปยางแตกเช่นนี้บ้างและกำลังมองหาผู้เห็นอกเห็นใจเช่นนี้
คิดแล้วข้าพเจ้าก็ตกลงใจไปส่งถึงที่รถยางแตกก็พอดีค่ำ ข้าพเจ้าทราบภายหลังว่าท่านผู้นี้มาหลบภัย และบ้านอยู่ซอยโรงหนังบางกะปิ เมื่อออกจากแยกคลองด่านเวลาค่ำแล้วจะกลับบ้าน
เมื่อผ่านมาถึงแถวบางปู ไฟหน้าฉายเห็นมีรถยนต์อยู่ข้างทางคันหนึ่ง และมีผู้ยืนอยู่กลางถนนโบกมือให้ข้าพเจ้าหยุด ก็ทราบว่ารถของท่านผู้นั้นน้ำมันหมด
จะขอโดยสารรถไปซื้อน้ำมันที่ปากน้ำ ครั้นถึงปากน้ำแล้วขอร้องให้ข้าพเจ้าไปส่งที่บางปู ข้าพเจ้าก็เห็นใจเพราะไม่มีรถไป ภายหลังข้าพเจ้าจึงทราบว่าท่านผู้นั้นเป็นนายตำรวจ
ข้าพเจ้าคิดถึงเรื่องเหล่านี้แล้วทำให้จิตใจสบายขึ้นอย่างประหลาด เพราะข้าพเจ้าทำไปด้วยเห็นอกเห็นใจ ไม่เคยหวังอะไรตอบแทน เกิดมั่นใจว่าทุกคราวที่คับขันมองไม่เห็นทางออก แต่แล้วเมื่อถึงนาทีสุดท้ายก็มีทางออกอย่างงดงามเสมอ ข้าพเจ้าคิดว่าคนเราสร้างความดีคงไม่สูญแน่ คิดไปแล้วหลายเรื่องฝนก็ยังไม่หาย
บัดนี้ หวนไปนึกถึงเรื่องเก่าแก่ แม้จะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับถนนสายนี้ จิตใจของคนในครั้งนั้นข้าพเจ้ายังจำได้ทุกวันนี้ คือเมื่อครั้งเปิดถนนสายกรุงเทพฯ - สมุทรปราการใหม่ๆ ทางสมุทรปราการมีงานต้อนรับชาวกรุง มีทั้งตลาดนัดเช้าและโยนห่วงปาเป้า
ข้าพเจ้าเวลานั้นก็นัดเพื่อนฝูงไว้หลายคนจะออกจากกรุงเทพฯ ก่อนย่ำรุ่ง โดยข้าพเจ้าจะนำรถออกตระเวนรับเพื่อนๆ ตามบ้าน เมื่อถึงเวลากำหนดและรับเพื่อนครบตามจำนวนแล้ว ข้าพเจ้าขับรถมุ่งหน้าตรงไปสมุทรปราการทันที เช้าวันนั้นเราเที่ยวเตร่กันจนเป็นที่จุใจแล้ว พอสายหน่อยเราก็ชวนกันกลับ
การกลับคราวนี้ยังสรวลเสเฮฮากันอย่างสนุกสนานเบิกบาน ล้อเลียนตามภาษาเพื่อนๆ ที่สนิท พอรถเลี้ยวโค้งที่จะเข้าเขตสำโรงกึ่งกลางระหว่างโค้งกับสะพานสำโรง ก็เกิดเหตุขึ้น คือ คุณตุ๊ วัชราธร ชะโงกหน้าออกมาชี้มือให้ข้าพเจ้าดูแล้วตะโกนว่า เฮ้ย ? นั่นล้ออะไรวะ มันวิ่งแข่งกับล้อรถลื้อ
ข้าพเจ้ามองตามมือชี้ก็เห็นล้อรถกำลังวิ่งออกนำหน้ารถข้าพเจ้าไป จากนั้นเพื่อนที่นั่งข้างหลังอีกสามคนก็ชะโงกออกมาดู ต่างแปลกใจถ้าเป็นกลางคืนก็คิดว่าผีหลอก แต่เพื่อนนั่งข้างหลังไม่ทันเห็น รถก็เอียงตะแคงวูบลงไป บังโคลนครูดกับถนนเป็นทางยาว ข้าพเจ้าร้องออกมาได้แต่เพียง จบกัน ล้อรถอั้วเอง
แม้รถเราจะตะแคงหยุดลงแล้ว เจ้าล้อมันวิ่ง ปุเรง ! ปุเรง ! อย่างอิสระโดยไม่ยอมหยุด แล้วมันก็กระดอนออกไปลงอยู่ในคูคลอง ร้อนถึงเด็กเลี้ยงควายโดดลงไปเอาขึ้นมาให้ ฝรั่งคนนั้นขับตามหลังเห็นเหตุการณ์รถของเรามาตลอด ฝรั่งผู้นั้นหัวเราะจนตัวงอ หน้ารถคันนั้นส่ายไปส่ายมา เมื่อเราหายตะลึงแล้วก็พากันออกมายืนดูรถเพลาหลัง และก็พากันหัวเราะจนน้ำตาไหล
เมื่อข้าพเจ้าตรวจดูแล้วก็หมดหนทางที่จะนำรถกลับได้ เพราะน๊อตหัวเพลาแตกลิ่มเพลาท้ายตกกระเด็นหายไปหาไม่พบ... ไม่มีทาง... หมดทาง ข้าพเจ้าบอกเพื่อนๆ แต่แล้วรถตามหลังมาก็พากันหยุดและลงมาถามว่า จะให้ช่วยอะไรได้บ้าง
ข้าพเจ้ารู้สึกตื้นตันในน้ำใจของท่านเหล่านั้นที่ได้หลั่งความเห็นอกเห็นใจ บัดเดี๋ยวใจข้างถนนก็มีรถจอดกันเป็นทิวแถว ทุกคนต่างลงมาจากรถมาถามพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ข้าพเจ้าบอกขอบคุณทุกท่านที่คอยให้ความช่วยเหลือที่มีจิตใจเมตตากรุณา บอกว่าน๊อตหัวเพลาแตกลิ่มเพลาหาย ล้อจึงออกมา และแม่แรงในรถก็ไม่มี
แต่แล้วคุณพระมาตลี (ผิว) บอกว่าไม่ต้องแม่แรง ช่วยกันยกแล้วเอาหินข้างทางมารอง แล้วในไม่ช้ารถของข้าพเจ้าก็ถูกยกขึ้นด้วยกำลังคน มีก้อนหินข้างทางรองอยู่เบื้องล่าง ข้าพเจ้าจำได้ว่าคุณพระฯ ได้กลับไปที่รถของท่าน ค้นอะไรอยู่พักหนึ่งทางท้าย แล้วก็หยิบเอาลิ่มออกมา แล้วมาเทียบเข้ากับเพลารถของข้าพเจ้าก็เข้ากันได้พอดี แล้วข้าพเจ้าก็เห็นคุณหมอทองอยู่ฯ ห้างขายยาปราสาททองก็ไปค้นหีบเครื่องมือที่รถ ไม่ช้าก็ได้น๊อตหัวเพลามาอันหนึ่ง เมื่อมาใส่แล้วขันเกลียวเข้ากันดี มันเป็นเรื่องที่ประหลาดและเหมาะเจาะอะไรเช่นนั้น จากนั้นข้าพเจ้าก็ได้รับความกรุณาจากคุณพระมาตลีจัดการเรียบร้อย ข้าพเจ้าอดที่จะระลึกถึงเหตุการณ์เหล่านี้เสียมิได้ และยังนึกขอบคุณท่านที่ได้ช่วยเหลือรถของข้าพเจ้ากลับถึงกรุงเทพฯ โดยเรียบร้อย
ข้าพเจ้านึกถึงเรื่องเก่าๆ เพลิน ฝนซาลง จำเป็นที่จะต้องรีบด่วนเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อหาช่างมาแก้รถให้เรียบร้อย แม้มีความหวังน้อยแต่ก็ต้องลองดู พอดีข้าพเจ้ามองเห็นรถจิ๊บคันหนึ่งวิ่งมาแต่ไกลกำลังจะผ่าน มองเห็นในรถมีแต่คนขับคนเดียว ข้าพเจ้ารีบออกไปโบกมือให้รถหยุด เมื่อรถหยุดข้าพเจ้าก็ขอโดยสารเข้ากรุงเทพฯ ผู้ขับนั้นเป็นชายหนุ่ม แสดงความยินดีที่ให้ข้าพเจ้าโดยสารไปด้วย ข้าพเจ้าโล่งใจที่ปัญหาข้อแรกได้ผ่านพ้นไปแล้ว ยังหนักใจเมื่อถึงกรุงเทพฯ แล้ว จะหาช่างที่ไหน
ทันใดนั้น ชายหนุ่มถามถึงจุดประสงค์ ข้าพเจ้าบอกว่ารถเสีย ไฟไม่เข้าหัวเทียน ตั้งใจไปตามช่างกรุงเทพฯ ชายหนุ่มผู้นั้นแสดงความหนักใจแทนข้าพเจ้า บอกว่าไปตามช่างวันนี้เห็นจะไม่สำเร็จแน่เพราะเป็นวันหยุดทุกแห่ง แต่แล้วก็บอกว่า ผมอยากจะลองช่วยคุณแก้ดูว่าเกี่ยวกับไฟพอมีทาง หากผมแก้ไม่ตก ผมคิดว่าอย่าเสียเวลาเข้ากรุงเทพฯ เลย เพราะเวลานี้บ่ายแล้ว ไปมาจะค่ำ คงไม่ทัน และช่างคงหาไม่ได้ ผมมีเชือกอยู่ท้ายรถพอจะลากเข้ากรุงเทพฯ ได้ ข้าพเจ้าได้ฟังคำของชายหนุ่มผู้มีจิตใจสูงผู้นี้ก็ร้อนวูบขึ้นมาทันที ความหวังก็เกิดขึ้นในนาทีสุดท้าย
แม้ชายผู้นี้จะแก้รถของข้าพเจ้าไม่ตก ก็ยังมีหวังที่จะลากจูงเข้ากรุงเทพฯ ได้โดยมิต้องค้างแรมอยู่กลางทาง ทันใดชายผู้นั้นกลับรถถอยหลังมาจอดชิดกับรถของข้าพเจ้า แล้วหยิบเครื่องมือออกมาจากรถ ข้าพเจ้าเกรงใจเพราะฝนยังไม่หาย แม้จะตกไม่นานนักก็ทำให้เปียกได้ ขอให้รอฝนหายเสียก่อนค่อยลงมือ
แต่ชายผู้นั้นบอกว่าไม่เป็นไร สมกับคำ อันความกรุณาปราณี จะมีใครบังคับก็หาไม่ฯ รู้สึกว่าชายผู้นี้มีความชำนาญในเครื่องยนต์ไม่น้อย ใช้เวลาแก้ไขไม่นานนัก รถก็มีชีวิตชีวาขึ้นพร้อมที่จะรับใช้ต่อไป นับว่าโชคดีอย่างประหลาดที่มาพบชายผู้นี้ได้แก้ปัญหาหนักอกสุดสิ้นไป
และยังนึกขอบใจรถที่ผ่านๆ มานั้นไม่ยอมรับข้าพเจ้าเข้ากรุงเทพฯ มิฉะนั้นข้าพเจ้ามัวตามช่างที่ไม่แน่นอนและไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อใด
ต่อจากนั้นข้าพเจ้าก็ออกเดินทางต่อไปจนถึงจุดหมายปลายทาง และกลับมาถึงกรุงเทพฯ โดยเรียบร้อย ทั้งนี้เพราะความกรุณาปราณีซึ่งไม่หวังสิ่งใดตอบแทน ทั้งๆ ที่ข้าพเจ้าไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย แม้ชายผู้นั้นจะอ่อนวัยกว่าข้าพเจ้ามาก แต่ความดีที่มีเมตตากรุณาทำให้ข้าพเจ้าเคารพนับถือด้วยความจริงใจ
ชายผู้นั้นคือ คุณธีระ อยู่จังหวัดชลบุรี
................ เอวัง ................
_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 26 พ.ย.2006, 2:57 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
แมวขาวมณี
บัวบาน
เข้าร่วม: 28 ก.ค. 2006
ตอบ: 307
ตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2006, 4:26 am
ความเมตตาแก่กัน ทำให้โลกน่าอยู่ขึ้น
เมตตาธรรมค้ำจุนโลก
_________________
พฤษภกาสร อีกกุญชร อันปลดปลง
โททนต์ เสน่งคง สำคัญหมาย ในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้น ทั้งอินทรีย์
สถิตย์ทั่ว แต่ชั่วดี ประดับไว้ ในโลกา
ไลลารินทร์
บัวพ้นดิน
เข้าร่วม: 14 ก.ค. 2006
ตอบ: 64
ตอบเมื่อ: 16 มี.ค.2007, 3:46 pm
ความดีไม่มีขาย ถ้าอยากได้ต้องทำเอง หันมาทำความดีกันเยอะๆนะคะ
_________________
เชื่อ ศรัทธา และเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วยหัวใจอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:
แสดงทั้งหมด
1 วัน
7 วัน
2 สัปดาห์
1 เดือน
3 เดือน
6 เดือน
1 ปี
เรียงจากเก่า-ใหม่
เรียงจากใหม่-เก่า
:: ลานธรรมจักร ::
»
กฎแห่งกรรม
ไปที่:
เลือกกลุ่ม บอร์ด
กลุ่มสนทนา
----------------
สนทนาธรรมทั่วไป
แนะนำตัว
กฎแห่งกรรม
สมาธิ
ฝึกสติ
การสวดมนต์
การรักษาศีล-การบวช
ความรัก-ผูกพัน-พลัดพลาก
กลุ่มข่าวสาร-ติดต่อ
----------------
ข่าวประชาสัมพันธ์
ธรรมทาน
รูปภาพ-ประมวลภาพกิจกรรมต่างๆ
สำหรับนักเรียน นักศึกษา ขอความรู้ทำรายงาน
แจ้งปัญหา
รูปภาพในบอร์ด
กลุ่มสาระธรรม
----------------
หนังสือธรรมะ
บทความธรรมะ
นิทาน-การ์ตูน
กวีธรรม
นานาสาระ
ต้นไม้ในพุทธประวัติ
วิทยุธรรมะ
ศาสนสถานและศาสนพิธี
----------------
สถานที่ปฏิบัติธรรม
วัดและศาสนสถาน
พิธีกรรมทางศาสนา
พุทธศาสนบุคคล
----------------
พระพุทธเจ้า
ประวัติพระอสีติมหาสาวก
ประวัติเอตทัคคะ (ภิกษุณี, อุบาสก, อุบาสิกา)
สมเด็จพระสังฆราชไทย
ประวัติและปฏิปทาของครูบาอาจารย์
ในหลวงกับพระสุปฏิปันโน
อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณ
ไม่สามารถ
สร้างหัวข้อใหม่
คุณ
ไม่สามารถ
พิมพ์ตอบ
คุณ
ไม่สามารถ
แก้ไขข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลบข้อความของคุณ
คุณ
ไม่สามารถ
ลงคะแนน
คุณ
สามารถ
แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ
สามารถ
ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้
เลือกบอร์ด •
กระดานสนทนา
•
สมาธิ
•
สติปัฏฐาน
•
กฎแห่งกรรม
•
นิทานธรรมะ
•
หนังสือธรรมะ
•
บทความ
•
กวีธรรม
•
สถานที่ปฏิบัติธรรม
•
ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ
•
วิทยุธรรมะ
•
เสียงธรรม
•
เสียงสวดมนต์
•
ประวัติพระพุทธเจ้า
•
ประวัติมหาสาวก
•
ประวัติเอตทัคคะ
•
ประวัติพระสงฆ์
•
ธรรมทาน
•
แจ้งปัญหา
จัดทำโดย กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ
webmaster@dhammajak.net
Powered by
phpBB
© 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
www.Stats.in.th