Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ชีวิตครู (ท.เลียงพิบูลย์) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 19 พ.ค.2006, 8:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ชีวิตครู
โดย ท.เลียงพิบูลย์

จากหนังสือกฎแห่งกรรม
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เล่ม ๓



บ่ายวันหนึ่งในเดือนพฤษภาคม ๒๕๑๐ ตรงกับวันเสาร์ ข้าพเจ้าได้ไปในงานสมรสบุตรชายของเพื่อนที่รักใคร่นับถือกันมากผู้หนึ่ง งานได้เริ่มที่สโมสรใหญ่โตหรูหราแห่งหนึ่งทางพระนครเหนือ บ่ายวันนั้นดินฟ้าอากาศชื่นฉ่ำ ฝนโปรยลงมาเป็นศุภนิมิตดี ฟ้าดินให้ความร่มเย็นเป็นสุขแก่คู่สมรส

ส่วนผู้ที่ได้รับเชิญมาหลั่งน้ำสังข์ เพื่ออวยพรแก่คู่บ่าวสาวก็หลั่งไหลทยอยกันเข้ามามากมาย ฝนไม่ได้เป็นอุปสรรคกับผู้รับเชิญมาในงานสมรส ไม่ช้าห้องโถงก็เต็มไปด้วยผู้มีเกียรติและผู้สูงอายุ ญาติมิตรสหายและท่านผู้เคารพนับถือข้างผู้ปกครองของบ่าวสาวทั้งสองฝ่าย ห้องโถงใหญ่ของสโมสรดูคับแคบลงมาก

ข้าพเจ้าได้พบผู้คุ้นเคยรักใคร่นับถือหลายท่าน ทั้งที่มาจากต่างจังหวัดและพระนคร มีทั้งข้าราชการผู้ใหญ่ พ่อค้า และผู้มีเกียรติ คิดว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคงจะปิติยินดีที่มีผู้รับเชิญมาอวยพรอย่างคับคั่งเช่นนี้ ข้าพเจ้าเป็นเพื่อนรักกับฝ่ายเจ้าภาพก็พลอยปลื้มใจด้วย สิ่งที่ข้าพเจ้าประทับใจที่ไม่รู้ลืมจากภาพที่ได้เห็นในงานสมรสวันนั้น คือ

มีครูชายสูงอายุผู้หนึ่ง อายุเห็นจะเลย ๗ รอบไปนานแล้ว ได้มีคนพยุงขึ้นไปหลั่งน้ำสังข์อวยพรแก่ผู้บ่าวสาว ท่านผู้นั้นเป็นครูเก่าแก่ของเมืองไทยผู้หนึ่ง ที่มีลูกศิษย์ลูกหาพากันรักใคร่นับถือมากมาย และท่านก็รักใคร่เอ็นดูพวกศิษย์ พวกศิษย์ทุกรุ่นทุกวัยก็เคารพรักใคร่ครู เพราะท่านได้ใช้เวลาตลอดชีวิตเป็นครู มุ่งหวังจะปลูกฝังอบรมให้วิชาความรู้แก่ศิษย์ทุกคน เพื่อหวังจะเห็นความก้าวหน้า


ความเจริญรุ่งเรืองของศิษย์เป็นสิ่งที่ท่านปรารถนายิ่งในชีวิต มิเสียแรงที่ท่านได้ทุ่มเททั้งเวลาและความรู้ตลอดชีวิตครู ทำประโยชน์อันยิ่งใหญ่ให้แก่ชาติบ้านเมือง และพวกศิษย์ของท่านในปัจจุบันนี้ต่างก็มีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โต มีชื่อเสียงทั้งทางราชการ ทั้งทหาร และพลเรือนพ่อค้า ได้มีส่วนทำประโยชน์ให้ความเจริญรุ่งเรืองแก่ประเทศชาติ

จะเห็นได้ว่าหลังจากท่านได้หลั่งน้ำพระพุทธมนต์ ให้ศีลให้พรแก่คู่บ่าวสาวแล้ว ท่านก็พาร่างชราออกมานั่งพัก ก็มีศิษย์หลายรุ่นต่างพากันเข้าไปย่อตัวลงกราบท่าน บางท่านก็ใหญ่โตในตำแหน่งหน้าที่ แต่เมื่อเข้าไปเคารพกราบไหว้ใกล้ครู ขณะนั้นจิตใจก็กลับระลึกถึงเหมือนครั้งยังเป็นเด็กอยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน ครูบาอาจารย์นั้นคนสมัยก่อนเขานับถือว่าเป็นผู้มีพระคุณอันสูงยิ่ง นี่เป็นชีวิตประเพณีของไทยแท้มาแต่โบราณ

ศิษย์บางท่านก็ได้พ้นจากราชการเพราะเกษียณอายุออกรับบำนาญ และบางท่านก็ยังพาบุตรหลานเข้ามาแสดงความเคารพ ต่างก็นึกถึงพระเดชพระคุณที่ได้รับการศึกษาเล่าเรียนจากท่าน ต่างก็มีจิตใจเคารพเลื่อมใสศรัทธาเทิดทูนท่าน ด้วยความกตัญญูกตเวที ข้าพเจ้าได้เห็นได้ยินแล้ว ทำให้แทบจะหลั่งน้ำตาออกมา เพราะความปลื้มปิติไปด้วย ท่านคงจะนึกย้อนหลังถึงสมัยเมื่อ ๔๐- ๕๐ ปีก่อน พวกนี้ยังเป็นเด็ก ท่านได้พร่ำสอนให้วิชาความรู้อบรมฝึกให้เป็นพลเมืองดี

บัดนี้ได้เป็นผู้ใหญ่ ต่างก็มีหลักฐานมีชื่อเสียงประกอบคุณงามความดี มีครอบครัว หน้าที่การงานตามฐานะ แต่ละคนไม่มีใครลืมท่านได้ ต่างก็ให้ความเคารพ ผลแห่งความดีในชีวิตครูของท่านได้ทุ่มเทวิชาความรู้ อบรมศีลธรรม ให้ประกอบสัมมาอาชีวะ

ศิษย์ก็เคารพนับถือครู ครูก็รักศิษย์ ไม่ว่างานใดเกี่ยวกับลูกศิษย์ ญาติของลูกศิษย์ เมื่อบอกให้ท่านทราบแล้ว ท่านจะไม่ลืม ต้องเสียสละมาจนได้ไม่ยอมพลาด งานไหนก็งานนั้น ศิษย์จะต้องได้พบท่านเสมอ ข้าพเจ้ายังนึกเคารพบูชาที่ท่านเป็นครูตัวอย่างที่ดี แม้ศิษย์ของท่านจะมีความเป็นอยู่รุ่นปู่แล้วครูก็เอาใจใส่ศิษย์ พวกศิษย์ก็เอาใจใส่ครูอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา

ตามปกติท่านเป็นผู้สันโดษ มักน้อย พวกศิษย์ของท่านไปมาหาสู่ใกล้ชิดเสมอ ถึงปีศิษย์ก็พยายามไปแสดงความคารวะ วันปีใหม่และในวันเกิดเป็นวันสำคัญของท่าน ต่างก็แสดงถึงความกตัญญูกตเวที ศิษย์ทุกคนก็มุ่งหวังช่วยกันทะนุบำรุงให้ครูได้อยู่ดีกินดีมีความสุขบั้นปลายของชีวิต แต่ท่านเป็นผู้มักน้อย

แม้พวกศิษย์จะรวบรวมเงินจำนวนก้อนใหญ่ ขอให้ท่านจัดการจ้างช่างเพื่อซ่อมแซมบ้านเรือนของท่าน ถมคูถมบ่อ ทำถนนให้สะดวกสบาย แต่ท่านก็ได้นำเงินทั้งหมดที่ศิษย์ทั้งหลายมอบให้ไปเข้ากองกุศล มิได้นำมาเพื่อทะนุบำรุงความสุขส่วนตัว ท่านบอกว่า “เบี้ยบำนาญ ที่หลวงท่านจ่ายให้ก็พอใช้แล้ว ไม่มีอะไรจำเป็นที่จะต้องใช้อีก สวนบ้านเรือนก็อยู่ได้ไม่จำเป็นให้ดีเกินไป”


(มีต่อ)
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --

แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 01 ม.ค. 2007, 10:19 am, ทั้งหมด 6 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 19 พ.ค.2006, 8:18 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

โดยเฉพาะเพื่อนข้าพเจ้าซึ่งเป็นพ่อเจ้าบ่าวในวันนั้น เคยพูดว่าท่านเป็นผู้มักน้อย รักลูกศิษย์ และเพื่อนผู้นี้เคยไปเคารพท่านในวันเกิด และปีใหม่เป็นประจำไม่เคยขาด เป็นผู้หนึ่งได้ร่วมกับพวกเพื่อนที่เป็นศิษย์ของครู ซึ่งต่อมาร่วมกันรวบรวมเงินว่าจ้างเหมาให้ช่างจัดการซ่อมแซมที่อยู่อาศัย ถมคูถมบ่อถนนเข้าบ้านให้เรียบร้อย โดยไม่ฟังคำคัดค้านของครูผู้มักน้อยแทนการมอบเงินสดให้ท่าน ข้าพเจ้ายังนึกภูมิใจที่ยังมีครูพอที่จะให้อนุชนรุ่นหลัง ได้เห็นเป็นตัวอย่างที่ดี และพวกลูกศิษย์ก็มีความเคารพนับถือในชีวิตครูของท่านไม่เคยขาด

วันนั้น หลังจากรดน้ำพระพุทธมนต์อวยพรให้คู่บ่าวสาว และอยู่รับประทานเลี้ยงแบบช่วยตัวเองในเวลาค่ำ แม้หลังอาหารค่ำแล้วฝนก็ยังไม่หยุด ข้าพเจ้ากลับมาถึงบ้านแล้วก็อดนึกถึงชีวิตครูผู้สูงอายุไม่ได้ ทำให้ข้าพเจ้านึกถึงสมัยก่อนเมื่ออยู่ในวัยรุ่นเท่าที่เคยรู้เคยเห็น ท่านเป็นครูที่สอนวิชาภาษาต่างประเทศเยี่ยมผู้หนึ่ง เวลานั้นคนไทยน้อยคนที่มีความรู้ความชำนาญภาษาต่างประเทศ ชาวตะวันตกที่มาตั้งรกรากประกอบกิจการในเมืองไทย ได้แสวงหาคนไทยที่รู้ภาษาต่างประเทศมาร่วมกิจการงาน ได้เสนอรายได้อย่างงามสูงกว่ารายได้อาชีพครูมาก

แต่ครูในยุคนั้นส่วนมากท่านอุทิศชีวิตเพื่อเป็นครูจริงๆ เสียสละความสุขส่วนตัว ไม่คำนึงว่ารายได้จะมากหรือน้อย ท่านจึงไม่สนใจใยดีสินจ้างรางวัลที่มีผู้เสนอให้มากกว่าอาชีพครู ชาวต่างประเทศในยุคนั้นจึงจำเป็นต้องหันไปจ้างชาวสิงคโปร์ หรือพวกบ้าบ๋าซึ่งมีความชำนาญภาษาต่างประเทศ แต่ขาดความรู้ภาษาไทยเข้ามาทำงาน ครูสมัยก่อนส่วนมากเป็นผู้มักน้อย เห็นแก่เด็กมากกว่าเห็นแก่ตัว ท่านจึงสอนศิษย์ของท่าน นับแต่รุ่นพ่อจนรุ่นลูก ท่านอุทิศชีวิตเพื่อเด็กจริงๆ

ท่านปฏิบัติต่อพวกศิษย์เหมือนลูกหลานท่าน มีความรักมุ่งหวังปลูกวิชาความูร้เพื่อความเจริญก้าวหน้าเสมอกันทุกคน ไม่มีอคติว่าลูกคนจน ไม่สนใจว่าใครจะเห็นความชอบของท่านหรือไม่
คนส่วนมากมองข้ามไป ไม่ได้นึกว่าเด็กสมัยก่อนมีทั้งความรู้และศีลธรรม มีความกตัญญูกตเวที ก่อนจะดีได้ก็อาศัยครูดี มีความเจริญรุ่งเรืองชีวิตในปัจจุบันสมควรแล้วที่ศิษย์ทั้งหลายจะเคารพบูชาเป็นปูชนียบุคคลเทิดทูนท่านไว้เหนือเกล้า แสดงความกตัญญูกตเวที เมื่อท่านมีชีวิตอยู่จะเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองตลอดไป

คืนนั้นหลังจากข้าพเจ้าไปถึงบ้านแล้ว ก็รีบค้นหา ข้อความบันทึกเรื่องของสุภาพสตรี ซึ่งเป็นครูผู้หนึ่งที่ได้มุ่งหมายมอบชีวิตจิตใจให้เป็นประโยชน์ในการอบรมสั่งสอนศิษย์ ได้มอบเรื่องไว้เมื่อ ๒ ปีกว่า แต่ข้าพเจ้าก็ยังไม่มีโอกาสที่จะปรับปรุงเขียนเรื่องให้เรียบร้อย

ครั้นเมื่อได้มาพบท่านผู้สูงอายุหลายครั้งหลายงาน ทั้งที่อายุและสังขารของท่านอยู่ในวัยชรา ท่านยังใช้เวลาบั้นปลายเพื่อลูกศิษย์ที่รักของท่าน ครูที่ดีย่อมมีทั้งชายและหญิงมีตัวอย่างมากมาย ข้าพเจ้าเพียงหยิบยกเท่าที่ข้าพเจ้ารู้ ที่ได้ยินได้ฟังจากสุภาพสตรี ซึ่งตั้งใจจะใช้ชีวิตครูตลอดไป เหตุการณ์ในชีวิตของสุภาพสตรีผู้นี้เป็นที่น่าศึกษา เหตุผลดังเรื่องที่จะได้กล่าวต่อไปนี้

ดิฉันเป็นผู้ที่รักอาชีพครูมานานแล้ว นับแต่ดิฉันเข้าเล่าเรียน ดิฉันก็อธิบายไม่ถูกว่าเหตุใดจึงชอบชีวิตครู ทั้งนี้เขาว่าเป็นเรือจ้างคอยส่งคนข้ามฟาก ข้อแรกรู้แต่เพียงดิฉันรักเด็ก เด็กผู้หญิงในสายตาของดิฉันว่าน่ารักน่าเอ็นดู ดิฉันจึงอยากใช้เวลาอยู่ใกล้ชิดสนิทสนมให้ความรักความเอ็นดู อบรมสั่งสอนให้การศึกษาแก เท่าที่ความรู้ของดิฉันพอจะให้ได้ อยากเห็นเด็กที่ดิฉันเคยสั่งสอน ได้มีความรู้ความเจริญก้าวหน้าทั้งวิชาความรู้และศีลธรรม

ดิฉันเคยภูมิใจเมื่อศิษย์ที่ดิฉันเคยสอนสอบไล่ได้ เข้ามหาวิทยาลัยได้ และบางคนก็สอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ดิฉันปลื้มใจดีใจไม่แพ้บิดามารดา ผู้ปกครองของแก ศิษย์บางคนมาลาดิฉันก่อนจะออกเดินทางไปต่างประเทศ ดิฉันต้องกอดแกไว้ในอ้อมอก น้ำตาไหลด้วยความปลาบปลื้ม จูบผมแกด้วยความรักใคร่และภูมิใจ

“ครูดีใจกับหนูมาก จนครูไม่สามารถจะพูดอะไรมากกว่านี้ พูดไม่ออก น้ำตามันจะไหลออกมาให้ได้” ดิฉันกล่าวกับแกอย่างตื้นตันใจ

ศิษย์ของดิฉันก็กราบลงที่หน้าอก แล้วพูดเสียงเครือๆ ว่า “หนูก็รักคุณครูและคิดถึงคุณครูมาก นอกจากพ่อแม่ของหนูแล้วมีคุณครูอีกผู้หนึ่งที่หนูรักมาก หนูไม่เคยลืมคุณครูเลย”



....................... เอวัง .......................
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --

แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 26 ก.ค.2006, 1:11 pm, ทั้งหมด 1 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 19 พ.ค.2006, 8:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คำว่าครู มีคุณค่า มหาศาล
ด้วยวิญญาณ สายเลือดครู ผู้สอนสั่ง
สร้างอนุชน เป็นคนดี มีพลัง
สิ่งที่หวัง ปั้นศิษย์นี้ เป็นวีรชน
ดุจพ่อแม่ คนที่สอง คอยสร้างสรรค์
ความถูกต้อง ครูนั้น ชี้เหตุผล
เป็นแม่พระ เสียสละ เพื่อปวงชน
ครูทุกคน ควรยึดถือ สื่อความดี

ท.เลียงพิบูลย์
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
ไม้อ่อน
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2007
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 08 พ.ค.2007, 12:28 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดิฉันก็เป็นครูคนหนึ่ง ยอมรับว่าเหนื่อย และบ้างครั้งท้อเมื่อเจอเด็กก้าวร้าว
แต่ก็เป็นสุขในบางครั้งที่เราได้ให้วิชาความรู้ แก่เด็กอย่างเต็มเปี่ยม เต็มกำลัง
แปลกที่เมื่อเด็กไม่เคยคิดอยากเป็นครูเลย แต่ด้วยชะตาชีวิต ที่ต้องมาเป็นครู
สอนไปเรื่อยๆ กลับ ชอบและไม่ได้รังเกียจอาชีพนี้ แต่ก็เหนื่อยบ้างครั้ง
คิดเสียว่า ได้บุญ นี่แหล่ะค่ะชีวิตดิฉัน
ยิ้ม
 

_________________
Image
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง