Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 อสุรกายในเมืองมนุษย์ (ท.เลียงพิบูลย์) อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 02 เม.ย.2006, 7:59 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

อสุรกายในเมืองมนุษย์
โดย ท.เลียงพิบูลย์

จากหนังสือกฎแห่งกรรม
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เล่ม ๓



มนุษย์เราเกิดมาในโลกนี้มีอิสระ ทั้งการสร้างกรรมดีและกรรมชั่วอย่าคิดว่าเราต้องมีชีวิตอยู่ในโลกมนุษย์เป็นประจำตลอดไป ไม่รู้แก่ไม่รู้เจ็บไม่รู้ตาย อย่าคิดว่ากรรมนั้นไม่มีจริง หรือไม่สามารถจะติดตามมาสนองเราเมื่อปลายมือ

ดังจะนำตัวอย่างชีวิตเกิดขึ้นสมัยก่อนของผู้หญิงผู้หนึ่งต้องชดใช้หนี้กรรมนอนทนทุกข์ทรมาน หญิงผู้นี้ไม่มีอาหารตกท้องเป็นเวลาประมาณ ๖ เดือนแล้วไม่รู้ว่าชีวิตรอดอยู่ได้อย่างไร
เมื่อก่อนที่หญิงผู้นี้จะล้มหมอนนอนเสื่อ รูปร่างอ้วนเจ้าเนื้อ แต่อยู่ๆ ก็เป็นโรคอยากกินอะไรอยากกินจนใจจะขาด แต่ก็กินไม่ได้ ของดีๆ ก็กลืนไม่เข้า กลืนไม่ลงคอมันตีบน้ำก็หยอดไม่ลง หญิงผู้นี้ได้เริ่มป่วย ญาติพี่น้องก็รีบหาหมอที่มีชื่อมารักษาแต่หมอก็ไม่สามารถจะชี้ให้แจ้งชัดลงไปได้ว่าเป็นโรคอะไรเพราะไม่พบสาเหตุของโรค

หมอตรวจดูทุกส่วนทางร่างกายอย่างละเอียดถี่ถ้วนก็ปกติ ผิดแต่อยากกินอาหารแต่กินไม่ได้ เมื่อไม่มีอาหารตกถึงท้องแม้หมอพยายามรักษาก็ไม่สามารถจะช่วยอะไรได้ ระยะป่วยร่างกายก็ยุบลง รูปร่างที่เคยอ้วนใหญ่เจ้าเนื้อสมบูรณ์ก็ค่อยๆ ผอมลง เพราะอาหารไม่ได้ตกถึงท้องเพื่อหล่อเลี้ยงร่างกายน้ำหนักตัวก็ลดลง ในระยะ ๖ เดือน รูปร่างก็เหลือแต่หนังหุ้มกระดูก มันทรมานชีวิตหญิงผู้นี้อย่างสาหัส บางคนก็บอกว่าเป็นโรคประสาท ผู้รู้เรื่องดีก็ว่าโรคบาปกรรม รักษายาก ถ้าปัจจุบันนี้หมอคงให้อาหารทางร่างกาย คงจะต้องทรมานอีกนาน

ท่านผู้ให้เรื่องเรื่องนี้กับข้าพเจ้า ท่านอาจารย์คุณหญิงระเบียบ สุนทรลิขิต ท่านเป็นผู้รู้เรื่องนี้ดีนับแต่เริ่มต้นจนอวสานแม้จะเป็นเรื่องเก่าแต่ก็มีสิ่งน่าคิดท่านได้กรุณาเล่าว่า หญิงผู้นี้สมัยก่อนยากจน เป็นแม่ครัวอยู่กับหญิงสูงอายุ มั่งคั่งเละสูงศักดิ์ท่านหนึ่ง เป็นผู้ใจบุญ มีความศรัทธาสร้างกุศลได้ใส่บาตรพระสงฆ์ทุกเช้าจำนวนร้อยรูป และได้มอบเงินให้แม่ครัวจับจ่ายอาหารมาทำกำชับว่าต้องการอาหารชั้นดีมาใส่บาตรเช้าถูกแพงเท่าไหรเท่ากันหวังจะให้พระได้ฉันอาหารดีๆ ทุกวัน ค่อยเปลี่ยนอย่าให้ซ้ำพระท่านจะเบื่อ ไม่สนใจเรื่องเงินทองค่าใช้จ่าย แม่ครัวก็ตกปากรับคำ ว่าจะจัดอาหารดีจะไม่ซ้ำให้พระท่านเบื่อ ที่สุดนายจ้างก็ไว้เนื้อเชื่อใจ แม่ครัวจะเบิกเงินค่าอาหารใส่บาตรวันละเท่าไหร่ก็มอบให้ไปไม่เคยทักท้วง แรกๆ แม่ครัวก็จัดการเป็นที่เรียบร้อย แต่ก็ยักยอกเบียดบังค่าอาหารใส่บาตรพระบ้างแต่ก็ไม่มากนัก

ต่อมาเมื่อชินนานเข้าก็ได้ใจเท่าที่ยักยอกไว้ได้ยังน้อยไป ก็นึกว่าของอยู่ในห่อไม่มีใครรู้เราจะทำอะไรก็ได้ จิตใจอกุศลก็เพิ่มขึ้น เริ่มทำอาหารถูกๆ แล้วก็เบิกเงินนายจ้างว่าอาหารดีราคาแพงๆ มาใส่บาตร นายจ้างพาซื่อคิดว่าตัวเป็นคนซื่อใจบุญคนอื่นก็คงจะเหมือนตนก็หลงไว้วางโจก็มอบเงินทองค่าอาหารให้ตามคำเรียกร้องและสิ่งอื่นๆ เวลาผ่านไปเป็นปีๆ จนหญิงผู้นี้ยักยอกเงินทองจนเกิดมังคั่งขื้นมา มีที่ดินปลูกบ้าน ลูกหลานมีเพชรมีทองใส่ร่ำรวย เพราะส่วนมากก็เบียดบังค่าอาหารใส่บาตรทุกเช้าประจำสิ่งที่ใส่บาตรห่อเรียบร้อยเช้าๆ ทุกวันก็คือถั่วงอกผัดน้ำมันราคาถูกๆ จะมีสามสี่ห่อที่ไว้แก้หน้าเมื่อนายจ้างสงสัย ทำให้เหลือไว้ให้นายจ้างดูได้รู้ได้เห็นว่าอาหารชั้นดีราคาแพงเพื่อให้ถูกอกถูกใจ แม้คนในบ้านจะรู้ก็ไม่กล้าว่ากล่าวฟ้องร้องนายแต่อย่างใด

นี่ก็เป็นเหตุที่ทำให้หญิงแม่ครัวมั่งคั่งขึ้น แต่บัดนี้กำลังได้รับทุกข์ทรมาน ไม่รู้เมื่อใดจะสิ้นสุดลงในโลกมนุษย์และทั้งต้องไปรับใช้หนี้กรรมความโลภอีกภพหนึ่ง จนกว่าจะสิ้นกรรม โรคบาปกรรมในปัจจุบันก็คืออยากกินแต่ก็กินไม่ได้ บางครั้งอยากกินเหลือเกินจนร้องไห้แต่เหมือนเป็นโรคคอตันแม้แต่น้ำก็หยอดไม่ลง คิดว่าอาหารใส่บาตรเช้าๆ ที่พระมารับบาตรประจำวันก็มีถั่วงอกผัดน้ำมันและจากนั้นก็น้ำเปล่าผัดถั่วงอก ความจริงก็อย่างเดียวกันเป็นประจำวัน พระท่านจะชอบหรือไม่ชอบเมื่อเขาศรัทธาก็ต้องรับไว้ฉันทั้งผัดเอาไว้มากๆ ค้างคืนค้างวันจนถั่วงอกบูดเสียก็ยังใส่บาตรและไม่สนใจว่าพระจะฉันได้หรือไม่

พระที่ท่านบรรลุธรรมชั้นสูงแล้วท่านก็ไม่สนใจในอาหารเพราะท่านฉันไม่ได้ติดรสอาหาร ท่านฉันเพื่อให้สังขารอยู่เท่านั้น หรือเรียกว่าท่านกินเพื่ออยู่ แต่พระที่ท่านยังปลงไม่ได้ ที่ท่านยังมีความรู้สึกในรสอาหาร เพราะท่านอยู่เพื่อฉัน ยังมีกิเลสท่านก็คงฉันอาหารบูดไม่ลงและฉันทุกวันก็เหม็นเบื่อ นี่แหละกรรมที่ได้เบียดบังยักยอกเงินที่มีอำนาจจิตศรัทธาเพื่อสร้างกุศลทำของดีๆ ถวายพระกลับเป็นของเลวๆ ผิดความเจตนาของผู้ศรัทธาตั้งใจจริงก็นับว่าบาปหนัก ฉะนั้น ไม่ต้องรอถึงชาติหน้าเพียงชาตินี้กรรมก็ตามสนองเห็นทันตาแล้ว อาจารย์หญิงท่านบอกว่ายังไม่ทันตายก็เป็นอสุรกาย หรือเปรตในร่างมนุษย์ พระอรหันต์โปรดไม่ถึงแม้แต่อยากน้ำก็ดื่มไม่ได้เพราะกรรมชั่วที่ตัวได้สร้างไว้ตามสนอง

เมื่อข้าพเจ้าได้รับเรื่องนี้จากท่านอาจารย์ คุณหญิงที่เคารพนับถือแล้วมาพิจารณาดูก็จะเห็นได้ว่า ชีวิตแต่ละบุคคลไม่ว่าชายหญิงเมื่อสร้างกรรมไว้แล้ว หากมีผู้รู้เห็นใกล้ชิดตลอดมาในชีวประวัติแล้ว จะเห็นได้ว่ากรรมใดผู้นั้นสร้างไว้ก็จะติดตามมาสนอง เมื่อใกล้จะจากโลกนี้ไปต้องทนทุกข์ทรมาน เมื่อรู้ตัวว่าผิดบางครั้งก็สายเกินไป บางครั้งก็ยังมีเวลากลับใจหญิงผู้นี้กำลังรับกรรม และแม้จะมั่งมีเงินทองเพียงใด ก็ไม่สามารถจะหาผู้ที่รักษาโรคบาปกรรมให้หายได้

เงินทองที่ได้มาโดยไม่สุจริตเบียดเบียนหรือเบียดบังทางทุจริตจิตโลภทำให้พระสงฆ์ได้รับความเดือดร้อน เป็นต้นเหตุ แห่งกรรมตามสนอง เมื่อตัวจะตายแม้จะมีทรัพย์สินมากมายเพียงใดก็ขนเอาไปไม่ได้ ซ้ำกลับเป็นโทษหากมีนรกก็ต้องไปเสวยทุกข์อยู่ในขุมนรกเป็นเปรตอสุรกายต้องทนทุกข์ทรมานอย่างสาหัส อยากกินอะไรก็กินไม่ได้ เพราะกรรมชั่วตามที่ตนได้สร้างไว้ เมื่อยังมีชีวิตอยู่ในเมืองมนุษย์กว่าจะสิ้นสุดกรรม

ฉะนั้น ผู้มีปัญญามีสติจึงไม่คิดประมาท ใช้ชีวิตอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ออกนอกขอบเขตของวงศีลธรรมถือศีลปฎิบัติธรรมไม่ใช้เวลาชีวิตปัจจุบันอย่างสุรุ่ยสุร่ายไปในทางผิดคิดมิชอบ อย่าอยู่นอกเขตของวงศีลธรรมจะทำให้จิตใจห่อหุ้มไปด้วยกิเลสตัณหา มัวเมา มืดมน แสงสว่างของธรรมไม่สามารถส่องเข้าไปถึง ชีวิตจิตใจก็มีแต่ความเศร้าหมองหวาดกลัวอยู่ตลอดเวลา กรรมตามสนองย่อมทำลายอนาคตตนเอง ทำลายชื่อเสียงของวงศ์ตระกูลและเป็นตัวอย่างชั่วให้อนุชนรุ่นหลัง ทำลาย ความดีงามของชาติและศาสนา ดังตัวอย่างของหญิงผู้เป็นโรคบาปกรรม ที่มองเห็นไดัชัดเจนอย่างเงาบนกระจก

ฉะนั้น หากท่านได้พิจารณามิใช่อ่านแล้วผ่านไป คิดว่าไม่เป็นเรื่องไร้สาระก็คงจะได้ประโยชน์ทางใจบ้าง ระยะ ๖ เดือน ก่อนจะตายอยากกินอาหารอยากดื่มน้ำแต่ตนเองได้กลายเป็นเปรตอสุรกายไปแล้ว อย่างโบราณบอกว่าปากเท่ารูเข็ม พอจิตดับก็ดึงไปสู่นรก คงจะต้องทนทุกข์ทรมานชั่วกัลป์กว่าจะสิ้นสุด



....................... เอวัง .......................
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --

แก้ไขล่าสุดโดย admin เมื่อ 26 ก.ค.2006, 10:11 pm, ทั้งหมด 3 ครั้ง
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
admin
บัวทอง
บัวทอง


เข้าร่วม: 15 ธ.ค. 2004
ตอบ: 1886

ตอบตอบเมื่อ: 02 เม.ย.2006, 8:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

กรรมครั้งนี้ ร้ายนัก กรรมหนักยิ่ง
เรื่องของหญิง แม่ครัว ใจชั่วช้า
เธอเบียดบัง ค่าอาหาร ตลอดมา
ไม่นำพา บาปบุญ มาสู่ตน
ยิ่งอาหาร ถวายพระ พิสุทธิ์ยิ่ง
ของทุกสิ่ง เขาอธิษฐาน การกุศล
ต้องเจ็บป่วย เป็นโรคร้าย ผิดผู้คน
กรรมส่งผล รับเวร เห็นทันตา

ท.เลียงพิบูลย์
 

_________________
-- การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง --
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวส่ง Emailชมเว็บส่วนตัว
ไลลารินทร์
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 14 ก.ค. 2006
ตอบ: 64

ตอบตอบเมื่อ: 14 มี.ค.2007, 3:20 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ
 

_________________
เชื่อ ศรัทธา และเคารพพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ด้วยหัวใจอย่างไม่มีข้อกังขาใดๆ
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวYahoo Messenger
ไม้อ่อน
บัวพ้นดิน
บัวพ้นดิน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2007
ตอบ: 62

ตอบตอบเมื่อ: 23 เม.ย.2007, 8:00 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาผู้เกี่ยวข้องทุกท่าน สาธุ
 

_________________
Image
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
suvitjak
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 26 พ.ค. 2008
ตอบ: 457
ที่อยู่ (จังหวัด): khonkaen

ตอบตอบเมื่อ: 30 พ.ค.2008, 1:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สาธุ กงกรรมกงเกวียน
 

_________________
ซื่อกินไม่หมดคดกินไม่นาน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง