ปัฐยาวัตร ภาคไทย...พระศาสนโสภณ อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินท

ตอบเมื่อ: 11 พ.ย.2005, 1:30 pm

ปัฐยาวัตร ภาคไทย

พระศาสนโสภณ อดีตเจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทร์

รจนา จัดให้สวดวันมาฆบูชา วิสาขบูชา นับแต่ พ.ศ.2490 เป็นต้นมา

......................................................................

เมื่อราตรีมีพระจันทร์แสงเพ็ญ

ลอยดวงดูเด่น ณ กลางนภา

ทรงกวดหมดเมฆมิมีราคา

แสงจันทร์เย็นตาสราญฤทัย

แสงจันทร์เย็นเยี่ยม ฤ เทียมแสงธรรม

แสงธรรมเย็นฉ่ำ ณ ทุกสมัย

เสียงธรรมเพราะพริ้งและจริงจับใจ

จับใจแจ่มใสมิมีจะคลาย

รสธรรมเอมโอชจะโปรดอภิปราย

รสใดอื่นหลายอะไรจะปาน

ปางเมื่อพระนรสีห์สรรเพ็ชญ์

พระองค์สำเร็จพระโพธิญาณ

วันนั้นเพ็ญมาฆมาสโดยกาล

ประทับสำราญพระเวฬุวัน

วันนั้นครั้นเมื่อตะวันตกบ่าย

แสงแดดอ่อนฉายก็อัศจรรย์

สงฆ์พันสองร้อยและห้าสิบพลัน

มาพรักพร้อมกันมิโดยแนะหมาย

ล้วนเอหิภิกขุทั้งหมดนั้น

เป็นอรหันต์มิเกิดมิตาย

ประณมมือนั่งประนังเรียงราย

น้อมเศียรถวายภิวันทนา

จึงองค์สมเด็จพระสัพพัญญู

ทรงวางกระทู้พระศาสนา

โอวาทปาฏิโมกข์คาถา

ย่นโอวาทานุสาสนีย์

คือไม่ทำบาปเจริญกุศล

ทำจิตของตนสะอาดธุลี

และทรงประกาศพระศาสน์ด้วยดี

กระทั่งเดี๋ยวนี้ก็แนวพระองค์

และทรงตั้งอัครสาวกสอง

ขวาซ้ายเรืองรองประมุขพระสงฆ์

วันนั้นอันท่านนิยมโดยตรง

ว่าจาตุรงคสันนิบาต

ดิถีเช่นนี้ น่ะ มีสมญา

มาฆบูชามิต้องประกาศ

ประสกสีกาก็ยุรยาตร์

มาสู่อาวาสกระทำพิธี

จุดธูปจุดเทียนและเวียนเจดีย์

ยออัญชุลีอภิวันทนา

พุทโธพระพุทธพระองค์สูงสุด

เลอลพมนุษย์และเทวดา

ทรงพากเพียรเจียนจะมรณา

ทรงพบสัจจานุโลมญาณ

ภายในภายนอกพระองค์ผุดผ่อง

ดุจจะทอง ฤ ก็ยังมิปาน

ทรงเพียบพร้อมพระกรุณาสาธารณ์

ห่อนมีประมาณมิเลือกมิเว้น

ยิ่งตรึกยิ่งตรองก็ยิ่งชัดเจน

ดังดวงตาเห็นประจักษ์ นะใจ

พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ สามนี้

ประกันโลกีย์มิให้สลาย

ข้า ฯ ขออัญเชิญประจำในกาย

จวบจนตัวตาย มลาย มลาญ แล ฯ