Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 การค้นหาความจริงของชีวิต : หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
ลูกโป่ง
บัวแก้ว
บัวแก้ว


เข้าร่วม: 01 ส.ค. 2005
ตอบ: 4089

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2005, 3:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน
เป็นเรื่องของการตีปัญหาซับซ้อนของชีวิต
ให้แตกกระจายออกไป
จนมองเห็นความจริงในสิ่งต่างๆ ที่แตกกระจายออกไปนั้น
เป็นเรื่องของการค้นหาความจริงของชีวิต
ตามวิธีการที่พระพุทธเจ้าได้ทรงกระทำมา
คือเพ่งมองเข้าไปในชีวิตของตนเอง
เฝ้าดูการเคลื่อนไหวทั้งมวลภายในตัวของเราเอง
เฝ้าสังเกตวิจารณ์แต่กุศลและอกุศลที่ดำเนินไปในตัวของเราเอง
ด้วยการวิปัสสนากรรมฐานโดยใช้เวลาของการปฏิบัติทั้งหมด
เพ่งมองเข้าไปแต่ในชีวิตของตนเองดังนี้
ปัญหาต่างๆ ที่ได้กล่าวมาขั้นต้นนั้น
จะผุดขึ้นมาในความคิดของเรา
และเราก็จะพบคำตอบปัญหาเหล่านั้นอย่างครบถ้วนและแจ่มแจ้ง

เราจะปล่อยชีวิตที่ปล่อยให้ความเคยชิน
หรือใจที่ปราศจากสติที่นำไปนั้น
ช่างแตกต่างกันอย่างลิบลับชีวิตที่ผูกไว้กับสติและปล่อยให้สติเป็นผู้นำ

วิปัสสนากรรมฐานเริ่มต้นด้วยการปลดแอกตัวเรา
เริ่มต้นด้วยการปลดปล่อยตัวเราจากความเป็นทาสของความเคยชิน
หรือใจที่ไม่อยู่ในความควบคุมของสติ
นับตั้งแต่ปฏิบัติกรรมฐาน ชีวิตของคนเราจะได้รับความเป็นไท
และเราจะทราบได้เองว่า ตั้งแต่มีชีวิตมาเราไม่เคยได้รับความเป็นไทเช่นนี้มาก่อนเลย
นับตั้งแต่เวลานั้นแทนความมืดบอด
เราก็ได้จุดดวงประทีปให้แก่ชีวิตของเรา
ดวงประทีปนั้นแท้จริงก็มีประจำอยู่กับชีวิตของเรานั่นเอง
แต่เราไม่ได้จุดมัน

เราพูดอยู่เสมอถึงคำว่า สติ ปัญญา
เราใช้ปัญญาอยู่เสมอก็จริง
แต่สตินั้นแท้จริง เรานำออกใช้น้อยนัก
ทั้งที่สตินั้นมีคุณค่าแก่ชีวิต
และจำเป็นแก่ชีวิตที่มีคุณค่าอย่างเหลือที่จะประมาณได้

ประทีปดวงนั้นคือ สติ
นับตั้งแต่เราปฏิบัติวิปัสสนา
เราก็ได้จุดประทีปดวงนั้นขึ้น
แสงสว่างจะค่อยกล้าขึ้นและโพลงขึ้นเป็นลำดับ
จนถึงขั้นที่เราสามารถมองเห็นสิ่งต่างๆ
ที่แฝงอยู่ในความมืดและเราไม่เคยเห็นมาก่อน


คัดลอกจาก :
http://www.jarun.org/
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
poivang
บัวตูม
บัวตูม


เข้าร่วม: 18 มิ.ย. 2005
ตอบ: 224

ตอบตอบเมื่อ: 30 ก.ย. 2005, 5:19 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาค่ะคุณลูกโป่ง
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง