Home  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  •  สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทาน  • หนังสือ  •  บทความ  • กวีธรรม  • ข่าวกิจกรรม  • แจ้งปัญหา
คู่มือการใช้คู่มือการใช้  ค้นหาค้นหา   สมัครสมาชิกสมัครสมาชิก   รายชื่อสมาชิกรายชื่อสมาชิก  กลุ่มผู้ใช้กลุ่มผู้ใช้   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว  เช็คข้อความส่วนตัวเช็คข้อความส่วนตัว  เข้าสู่ระบบ(Log in)เข้าสู่ระบบ(Log in)
 
ได้ทำการย้ายไปเว็บบอร์ดแห่งใหม่แล้ว คลิกที่นี่
www.dhammajak.net/forums
15 ตุลาคม 2551
 ผิดศีลข้อ 3 อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
ผู้ตั้ง ข้อความ
๛ สายลม ๛
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 05 ก.ค.2004, 12:45 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

Image

ผิดศีลข้อ 3


ผมยอมรับอย่างไม่กระดากเลยว่า ผมเป็นคนเลว คนบาป ทำแต่กรรมชั่วมามากมาย ศีลทั้ง 5 ข้อ ไม่เคยอยู่ในจิตใจผมเลยแม้แต่ข้อเดียว ผมจะไม่โยนความผิดหรือบาปนั้นไปให้กับเหตุการณ์ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะทุกสิ่งที่ผมได้กระทำลงไปแล้วนั้น มันเป็นเพราะจิตที่ใฝ่ต่ำของผมเอง ทั้งๆ ที่ผมมีทางที่จะหลีกเลี่ยง ไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์เหล่านั้นขึ้นมาก็ได้

ย้อนหลังไปเมื่อปี 2506 ตอนนั้นผมกำลังอยู่ในวัยเบญจเพศพอดี ผมไปหากินอยู่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย โดยอาศัยอยู่กับครอบครัวของคนบ้านเดียวกันซึ่งผมเรียกเขาว่าพี่ทั้งสามีและภรรยา ครอบครัวของเขาอยู่ด้วยกัน 3 คน คือ สามี ภรรยาและลูกชายอายุไม่ถึง 6 ขวบ ภรรยาของเขาค้าขายในตลอดเก่า ส่วนสามีนั้นเป็นช่างและเป็นเจ้าของร้านถ่ายรูป ผมอยู่กับเขานานเข้า ความใกล้ชิดสนิทสนมถือกันเป็นญาติพี่น้องก็เป็นของธรรมดา

เหตุการณ์เกิดขึ้นในคืนหนึ่ง คืนนั้นพี่ผู้ชายไปธุระในจังหวัดและค้างคืน ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ ไม่เกิน 22.00 นาฬิกา ลูกชายก็หลับไปแล้ว เวลาดังกล่าวผมกำลังนอนอ่านหนังสือนิยายอยู่ จู่ๆ ผมก็สะดุ้งสุดตัว เพราะพี่ผู้หญิงแกย่องมานั่งลงข้างเตียงนอนของผม เธออยู่ในชุดนอนที่บางมาก บางจนมองเห็นอะไรต่อมิอะไรทะลุปรุโปร่งไปหมด

มิหนำช้ำ เธอยังส่งยิ้มอันแสนจะยั่วยวนให้อีกด้วย เมื่อสายตาของผมกราดไปเห็นอะไรต่อมิอะไรเข้า ใจมันก็เกิดความปรารถนาขึ้นมา ผมพยายามหักห้ามใจตนเองด้วยการพูกกับเธอว่า "พี่ลงมาทำไม กลับขึ้นไปนอนเสียไป๊ ใครมาเห็นเข้ามันจะไม่ดีไม่งาม"

แทนที่จะเธอจะพูดตอบและกลับขึ้นไปยังชั้นบนซึ่งเป็นห้องนอนของเธอ เธอกลับขยับเข้ามาชิดผมมากเข้าไปอีก ทำให้ส่วนท้ายของเธอเบียดกับขาผมพร้อมกับเลื่อนมือมาจับขาผมไว้ ผลที่สุด ผมก็ทนแก่ความต้องการไม่ไหว ก็ได้ล่วงละเมิดศีล ข้อ 3 ตั้งแต่บัดนั้นมา และเป็นมาอยู่เรื่อยๆ

วันหนึ่ง เธอมาพูกกับผมว่าเธอจะขอแยกทางกับสามีของเธอแล้วจะอยู่กับผมอย่างออกหน้าออกตา ผมรีบปฏิเสธทันที และยังเตือนเธอว่าอย่าได้กระทำอย่างนั้น แค่นี้ผมก็ละอายแก่ใจเต็มทีแล้ว แต่เธอก็ไม่ยอม ผมจึงหาโอกาสหนีจากเธอโดยที่เธอไม่รู้ว่าผมไปอยู่ที่ไหน

เวลาผ่านไปได้ไม่ถึง 2 เดือน เธอก็ตามมาพบผมที่ลำปาง เธอนัดให้ผมไปพบ เมื่อตกลงกันที่โรงแรมที่เธอพักอยู่ ความจริงตอนนี้ถ้าผมจะหลีกเลี่ยงหรือหลบหน้าเธอไปเสีย ก็คงจะสิ้นเรื่องราวกันไปแล้ว แต่ตัณหาครับ ความอยากเพราะความเคยได้ ทำให้ผมก้าวลงอเวจีไปอีกจนได้ กว่าจะสลัดจากเธอได้ก็กินเวลาหลายวันทีเดียว

ผมมาทราบทีหลังว่า เธอแยกกับสามีเธอจริงๆ สามีเธอปวดร้าวมากเพราะเธอทิ้งลูกน้อยไว้ให้และไม่ทราบว่าไปอยู่แห่งหนตำบลใด สามีเธอได้รับความลำบาก ไม่เป็นอันทำมาหากิน จนเป็นบ้าไปพักหนึ่ง

พอผมหนีจากเธอได้ ผมก็รีบแต่งงานทันที ผมอยู่กับภรรยาจนมีลูก 1 คน ลูกกำลังไม่ถึงขวบ ผมก็บังเอิญพบกับหญิงสาวคนใหม่ ภรรยาใหม่ของผมอยู่ในฐานะค่อนข้างมีอันจะกิน อาชีพค้าขายและมีพี่สาวที่แต่งงานแล้วแต่ยังสวยไม่สร่างอยู่คนหนึ่ง เป็นเจ้าของร้านอาหาร

ผมกับภรรยามักจะมาช่วยพี่สาวขายกับข้าวอยู่เสมอ วันไหนผมไม่ว่างก็ให้ภรรยามาช่วย ผมกับพี่สาวอายุใล่ๆ กัน ความใกล้ชิดสนิทสนมฉันญาติก็ทำให้ไม่ถือสาอะไร นานวันเข้า พี่สาวของภรรยากับผมก็ถลำลึกลงไปถึงอเวจีด้วยกันอีก เหตุการณ์แห่งความชั่วช้าเป็นมาอย่างราบรื่น สนุกสนานตามความคิดของคนเลว โดยที่ภรรยาของผมและสามีของพี่สาวไม่ระแคะระคายเลย จนกระทั่งผลของกรรม ตามมาทันเข้า

เย็นวันหนึ่งผมได้ไปนั่งดื่มเหล้ากับพรรคพวกที่ร้านอาหารอีกแห่งหนึ่ง พรรคพวกซึ่งแกคงทนไม่ได้ที่เห็นเพื่อนเป็นควายมานาน จึงได้เล่าพฤติการณ์ของภรรยาของผมให้ผมฟังว่า “เฮ้ย เมื่อกี้ข้าเห็นเมียเอ็งเข้าโรงแรมม่านรูดกับเจ้าตำรวจที่เคยมากินอาหารที่ร้านเอ็งบ่อยๆ ด้วย”

พอผมทราบเท่านั้นแหละ ผมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเลยทีเดียว ผมขับรถกลับบ้านด้วยความเร็วมาก เพราะความโมโห แต่แล้ว “โครม” รถผมเสยท้ายรถบรรทุก 6 ล้อ ที่กำลังจะชิดซ้ายจอดข้างทางอย่างจัง แถบซ้ายทั้งแถบของรถผมพังยับเยิน ส่วนรถบรรทุกไม่เสียหายอะไร จึงไม่มีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาล

จิตใจของผมตอนนั้นไพล่ไปคิดว่าเป็นเพราะเมียมีชู้จึงทำให้ซวย โดยไม่คิดถึงกรรมที่ตนเองได้กระทำมาแม้แต่น้อย ผมกลับถึงบ้านก็พอดีกับที่ภรรยาผมลงจากรถนายตำรวจที่เพื่อนพูดถึงพอดี ผมปวดร้าวมาก ปวดหัวใจเหลือที่จะกล่าว ผมเพิ่งจะทราบว่าพิษของการถูกแย่งของที่ตนรักนั้นเป็นอย่างไร ผมแยกทางกับภรรยาและเริ่มเอาเหล้าเป็นที่พึ่ง สำมะเลเทเมาจนเกือบจะเสียผู้เสียคน

ดีแต่ว่าหัวหน้างานท่านคงจะสังเวชหรือทุเรศก็ไม่ทราบ ท่านจึงพาออกท้องที่เสียนาน และพาไปเกลี้ยกล่อมจนสงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ความรัก ความแค้น จึงจางลง

ทว่ามันก็ไม่ได้ลบรอยขาดหายไป มันยังเป็นรอยขีดข่วนอยู่อย่างนั้น
บัดนี้ ผมปลงตกแล้ว เพราะผมได้พบกับทางสงบ ทางสว่างอันแท้จริง
นี่แหละ กรรมใดใครก่อไว้อย่างไร ย่อมได้รับผลกรรมนั้นไม่ช้าก็เร็ว




...............................................................

จากหนังสือเงากรรม (โลกทิพย์)
 
111
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 พ.ค.2005, 11:36 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

 
สีนิล
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 ก.ค.2005, 11:49 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อยากถามว่า หากตอนนี้ดิฉันกำลังปฎิบัตฺธรรมอยู่ แต่ดิฉันต้อง เป็นภรรยา คนที่สองของผู้ชายคนหนึ่งดิฉันจะหาทางหลีกหนีหนี้กรรมอย่างไรดีคะ ดิฉันรู้ว่าปาบที่ผิดศิลข้อที่ 3 ดิฉันจะทำอย่างไรดีคะ ทั้งๆที่ดิฉันรู้ถึงปาบบุญคุณโทษ แต่ดิฉันก็ไม่สามารถเลิกกับผู้ชายคนนี้ได้ แต่ดิฉันไม่เคยไปเบียดเบียน ครอบครัวเค้าให้ภรรยาเค้ารู้เลย ช่วยด้วยค่ะ อยากตัดขาดให้ได้ค่ะ เพราะไม่อยากสร้างกรรมอีกและดิฉันอยากให้การปฎิบัติธรรมของดิฉัน ประสบความสำเร็จด้วยค่ะ อาจจะดูว่าดิฉันโง่เขลา แนนำด้วยค่ะ
 
มดแดง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 18 ก.ค.2005, 8:01 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณสีนิล ครับ
ถ้าคุณบอกว่า ตอนนี้กำลังปฎิบัติธรรมอยู่ละก็......ผมว่าคุณยังมีบุญอยู่มากเลยนะครับ
คิดว่าบุญเก่าที่คุณ..ทำไว้ดีแล้วในอดีตตามทันนะครับ.....ทำให้คุณละอายต่อบาป...
และยังมีสติ..ทำให้มองเห็นผลของการกระทำ..บาป....นี้ทัน

สาธุ..สาธุ....สาธุ...ขออนุโมทนาบุญครับที่คิดได้ทัน........
ตัดใจเถอะครับ.....เลิกทันที.....ขอเป็นกำลังใจให้ครับ
 
นิดหน่อย
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 17 ส.ค. 2005, 4:41 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เข้าใจความรู้สึกของคุณสีนิลดีค่ะ เพราะตัวเองเคยมีประสบการณ์เช่นเดียวกับคุณ
ตัวเองคิดว่าเรื่องนี้เป็นกรรมเก่า และใช้เวลานานหลายปีค่ะกว่าจะตัดใจได้
...ดิฉันเองพยายามหาอะไรทำเพื่อไม่ให้ตัวเองว่าง และเพราะมีคุณพ่อคุณแม่อยู่
ดิฉันจึงหันมาเอาใจใส่ท่านมากขึ้น จนไม่มีเวลาให้กับใครอีก

คุณสีนิลต้องรู้สึกด้วยตัวเองแล้วว่าเรื่องนี้ทำให้คุณมีความทุกข์มากกว่าความสุข
และคุณก็รู้สึกละอายใจ จึงไปปฏิบัติธรรมเพื่อจะพยายามตัดใจ ใช่ไหมคะ คุณไม่ใช่
คนโง่เขลาหรอก แต่ขอให้คุณคิดดูสิว่าการที่คุณตัดใจไม่ได้เป็นเพราะอะไร
ขอให้คุณลองคิดในแง่ของผลร้ายที่จะเกิดขึ้นกับครอบครัวของเขา ถ้าภรรยา
ของเขารู้... เขาจะต้องเสียใจและอาจจะต้องเลิกกัน... พวกลูกของพวกเขาก็จะได้
รับผลกระทบจากการที่พ่อแม่ต้องเลิกกัน ใช่ไหมคะ ความลับไม่มีในโลกหรอกค่ะ
สักวันเขาอาจจะรู้และถ้าเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น คุณจะรู้สึกอย่างไร
ดิฉันคิดว่าคุณสีนิลเป็นคนดี มีจิตใจเมตตา จึงไม่ทำให้ครอบครัวของผู้ชายคนนี้
ต้องเดือดร้อน ถ้าคุณเป็นภรรยาของชายผู้นี้ แล้วรู้เรื่องนี้ จะเป็นอย่างไร

....ขอให้คิดในแง่ที่คุณเป็นภรรยา คุณคงจะเสียใจ ใช่ไหมคะ ดิฉันเคยรู้สึก
เช่นนี้ และการที่ดำเนินชีวิตแบบนี้ ดิฉันเองไม่เคยมีความสุขเลย รู้สึกทุกข์มากกว่าสุข
พอคิดว่าจะต้องพยายามทำใจ ก็ลองพิจารณาดูว่าผู้ชายคนนี้มีอะไรดีบ้าง เพราะอะไร
จึงทำให้ตัวดิฉันเองไม่สามารถตัดใจได้ (ในระยะแรกๆ) ผู้ชายคนนี้เค้าไม่ใช่คนดี
หรอกค่ะ เพราะถ้าเค้าเป็นคนดี เค้าต้องซื่อสัตย์ต่อภรรยาของเขา ใช่ไหมคะ
.....คุณเป็นคนดีนะคะ อย่าหลงใหลกับคำพูดเพราะ รูปร่างหน้าตาที่ดี การเอาอกเอาใจ
ของเขา คุณควรสงสารตัวเองมากกว่าสงสารเขา เพราะเขารู้ว่าคุณมีจิตใจดี เค้าก็จะ
ทำดีกับคุณเสมอ และคุณก็จะตัดใจจากเขาได้ยาก
... อดีตที่ผ่านไปไม่อาจแก้ไขได้ และอย่าไปคิดให้จิตใจเศร้าหมองเลยค่ะ ขอให้คุณแก้ไข
ปัจจุบันดีกว่า เพื่ออนาคตที่ดีขึ้นกว่านี้ค่ะ คุณเป็นคนดีค่ะ คุณถึงคิดได้ ยังไงล่ะคะ
...คุณปฏิบัติธรรมแล้วคุณจะคิดได้ว่า ชีวิตคุณควรจะได้ทำอะไรที่มีค่ามากกว่านี้ มากกว่า
การที่คุณจะต้องดำเนินชีวิตเช่นนี้ต่อไป...จนกระทั่งวันตาย อย่างงั้นเหรอคะ ดิฉันคิดว่า
ชีวิตคุณมีค่ามากค่ะ และทำประโยชน์ให้ตัวเองได้มากกว่านี้ค่ะ
...ยังไงก็ตาม ขอเป็นกำลังใจให้คุณสีนิล และเชื่ออย่างยิ่งว่าในที่สุดแล้วคุณสีนิลจะ
ตัดใจได้ในที่สุด
 
หญิง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 30 ส.ค. 2005, 11:02 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

มาเป็นกำลังใจคุณสีนิล เลิกให้ได้
แล้วจะสบายทั้งชาตินี้ชาติหน้า
 
nonsoul
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 31 ส.ค. 2005, 2:15 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน



480480.jpg


ทุกคนรู้ ดี-ชั่ว (รู้แทบทุกอย่าง) เหลือเพียงอย่างเดียว....การกระทำในสิ่งที่รู้ ...ทำซิครับ ธรรมดี ดีกว่า
 
อิคิวซัง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 02 ก.ย. 2005, 1:25 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ทำให้ได้นะค่ะ
 
raywata
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 08 ต.ค. 2005
ตอบ: 3

ตอบตอบเมื่อ: 08 ต.ค.2005, 2:30 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวMSN Messenger
ลูกผู้หญิง
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 11 พ.ย.2005, 11:32 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

คุณสีนิล..

อะไรที่ทำแล้ว เป็นอดีต ทำแล้วดีแล้ว (ดีแล้วหมายถึง ดีแล้วที่คิดได้ตอนนี้ ไม่ใช่รอปีหน้าค่อยคิดได้) แม้เราแก้อดีตไม่ได้ แต่เราทำปัจจุบันให้ดีขึ้นได้ เราทุกคนเกิดมาใช้กรรม แต่ใช้กรรมก็ให้อยู่ในศีลในธรรม อย่าปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม อย่าปล่อยให้กิเลสชักนำคุณ แล้วก็มาบอกตัวเองว่าที่เราต้องเป็นอย่างนี้เพราะใช้กรรม

ทุกคนสามารถเลือกทางใช้กรรมได้ ให้อยู่บนพื้นฐานของศีลธรรม ขอให้เข้มแข็ง ขอให้มีสติ มีปัญญา เมื่อใดที่ปัญญาเกิด คุณจะเห็นใดคือทางเสื่อม ใดคือทางเจริญ และถ้าหวังว่า เมื่อคุณได้พิจารณา ไตร่ตรองแล้ว คุณจะสามารถหาอุบาย (เครื่องมือ) อันจะนำไปสู่ทางเจริญได้

ที่สำคัญ ต้องมั่นคงในความดีนะคะ เพราะจิตเรา โดยธรรมชาติมันจะไหลลงต่ำ จะคอยเกเรเพลาดตลอด ตัดสินใจเลิกน่ะไม่อยาก แต่ที่ยากคือ ทำยังไงจึงจะมั่นคง รักษาใจไม่ให้อ่อนไหวไปตามกิเลสในใจเรา

อุบายที่อยากแนะนำ คือ การอย่าอยู่ว่าง เพื่อไม่ให้ฟุ้งซ่าน

1 การสวดมนต์แผ่เมตตาให้กับเจ้ากรรมนายเวร (ได้ผลจริงๆ นะ ถ้าทำบ่อยๆ)
2 การอธิษฐานจิต - ขอให้เรามั่นคงในความดี ขอให้เราสามารถดำรงตนอยู่ในศีลในธรรม
3 การเพ่งอสุภะ (เราก้ไม่ค่อยได้ทำ แต่เค้าว่ากันว่า เรื่องกาม ต้องแก้ด้วยอสุภะ คือให้เห็นความน่ารังเกียจ ความไม่ยั่งยืนของสังขาร ร่างกาย)

ทำความดีต้องทำซ้ำซ้ำ ย้ำหัวตะปูให้แน่น เราเชื่อว่า ถ้าคุณต้องการจะเลิกจริง คุณจะเลิกได้ สุดท้ายก็อยู่ที่คุณแล้วละค่ะ ว่าคุณจะเลือกทางไหน ขอให้มีปัญญา ขอให้แก้ปัญหาได้ และขอให้มีความสุขนะคะ
 
คนธรรมดา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 16 ม.ค. 2006, 11:39 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

......เป็นอีกคนที่ที่มีชีวิตหมือนคุณสีนิล...
.....แต่อาจแตกต่างออกไป...คือแฟน..ไปมา 2 บ้าน...
เขามาหาดิฉันในฐานะภรรยา..แต่ต้องไปอยู่อีกบ้านในฐานะพ่อ..(แยกนอนคนละห้อง) เนื่องจากเหตุผลบีบบังคับหลายอย่าง..ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือภรรยาเก่าไม่ยอมหย่าเขา บอกว่าอยากให้เขาต้องทุกข์ทรมานแบบนี้ไปตลอด...ทำให้เขาหันพึ่งศึกษาธรรมะอย่างจริงจัง (ซึ่งดิฉันก็ได้ผลพลอยได้นี้ด้วย)

...ถ้าเราหนีเหตุการณ์นี้ไม่ได้ เราก็ต้องอยู่อย่างมีสติที่สุด
...ทุกวันนี้เราทั้ง 2 คนแน่ใจอยู่อย่างหนึ่งว่าเราเป็นคู่แท้กันมา...แต่เนื่องจากกรรมหนักที่แฟนไปทำเขาไว้ (ภรรยาเก่า) จึงต้องเป็นอย่างนี้.... (ดูไพ่ยิบซีจะมีไพ่ขึ้นทุกครั้ง, ดูหมอกี่หมอก็บอกตรงกัน, ดูแม่ชีธนพรก็พูดอดีตชาติได้ใกล้เคียงมากๆ...แม่ชียังบอกตำหนิภรรยาเก่าได้ถูกต้อง)...
 
momogo
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 25 ม.ค. 2006
ตอบ: 5

ตอบตอบเมื่อ: 25 ม.ค. 2006, 1:08 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับคุณนิดหน่อยค่ะ
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณสีนิลด้วยนะคะ
หวังเป็นอย่างยิ่งว่า...กำลังใจ (บารมี) จากการปฏิบัติธรรมจะส่งผลให้
คุณสีนิลดำเนินในทางที่ถูกต้อง พ้นจากทุกข์นี้ได้ในไม่ช้าค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัว
koguzen
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 24 เม.ย.2006, 5:56 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ดิฉันขอสนับสนุนคุณสีนิลนะคะ ขอให้คุณทำความดีต่อไปอย่ายอมแพ้ความชั่วที่อยู่ใกล้กับตัวเราเราต้องมีสติ ตลอดเวลา สิ่งที่ผ่านมาเราต้องใช้เค้าไป ตอนนี้อยู่ที่ปัจจุบันขอให้คุณทำความดีต่อไปนะคะ
 
suninart aumtong
บัวผลิหน่อ
บัวผลิหน่อ


เข้าร่วม: 25 เม.ย. 2006
ตอบ: 1
ที่อยู่ (จังหวัด): Chiangmai

ตอบตอบเมื่อ: 25 เม.ย.2006, 4:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนา สาธุ ทุกๆ ท่าน ขอให้มีกำลังใจเข้มแข็ง เช่นกัน สาธุ
ตอนนี้ ดิฉันเป็นลูกสาวที่เกิดจากภรรยาคนที่สองของพ่อ ตอนนี้อต้องการให้แม่ใหญ่ (ภรรยาคนแรกของพ่อ) ยกโทษให้พ่อและแม่ และเข้าใจถึงความทุกข์ใจที่เกิดขึ้นกับแม่ใหญ่ ของให้แม่ใหญ่มีความสุข กาย ใจ รวมถึงพ่อ แม่ ของดิฉันด้วย
ขอให้กำลังใจ แก่คุณสีนิลค่ะ
 
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัว
แค่ผ่านมา
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 27 เม.ย.2006, 5:04 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

เอาใจช่วยคุณสีนิล ชอบคุณมดแดงจัง
 
๛ Nirvana ๛
บัวบาน
บัวบาน


เข้าร่วม: 09 เม.ย. 2006
ตอบ: 403

ตอบตอบเมื่อ: 30 เม.ย.2006, 7:22 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

อนุโมทนาทุกๆ คนครับ สาธุ สาธุ สาธุ
 

_________________
ขอความสวัสดีจงมีแด่ท่าน
ดูข้อมูลส่วนตัวส่งข้อความส่วนตัวชมเว็บส่วนตัวตำแหน่ง AIMMSN Messenger
กี-กี้
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 พ.ค.2006, 11:31 am ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

แฟนเป็นพระ ผิดข้อนี้ด้วยรึไม่คะแต่ไม่ได้มีไรกันนะ
 
ทิพ
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 22 พ.ค.2006, 1:05 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

สู้ สู้ สู้ สู้
กี กี้ อย่าทำเลยนะ แค่คิดก็ผิดแล้วนะ
ตัดใจให้ท่าน เดินทางธรรมนะดีแล้ว นะ คิด ดี ดี นะคะ
 
NaPui
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 23 พ.ค.2006, 11:34 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตา
ไม่ทุกข์ก็ไม่เจ็บ ไม่เจ็บแสนสาหัส ก็ยากที่จะจำ
ตัวอย่างมีอยู่แล้วรอบตัว.........
รู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น.........
แต่ห้ามใจไม่ได้........
บางทีคิดได้ก็สายไป.........
ทางสว่างมักจะไม่เจิดจ้าเมื่อเราอยู่ในความสุข ความสว่างเหมือนกัน .....
แต่จะชัดเจนมากหากเราอยู่ในความทุกข์หรือความมืด หากเราเงยหน้าขึ้นยอมรับความจริง......

นัตถิ ปัญญา สมอาภา.........
 
เมีย 1
ผู้เยี่ยมชม





ตอบตอบเมื่อ: 29 พ.ค.2006, 12:23 pm ตอบโดยอ้างข้อความขึ้นไปข้างบน

ขออนุโมทนาบุญ ที่คุณสีนิลคิดได้และปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง

ดิฉันไม่ทราบว่าจะเรียกเมียหลวงดีหรือเปล่า เพราะสามีไปรู้จักกับผู้หญิงคนหนึ่งทาง internet จนมีความสัมพันธ์กัน เช่าคอนโดอยู่ด้วยกัน โดยฝ่ายหญิงบอกว่าตนเองเป็นม่าย ที่จริงยังมีสามีเป็นตัวเป็นตนค่ะไม่ได้หย่า โกหกกันใช่มั๊ยคะ สุดท้ายสามีดิฉันทราบความจริง และประกอบกับฝ่ายหญิงโกหกหลายเรื่องจนสามีดิฉันรับไม่ได้ สามีดิฉันจึงตัดขาดโดยการขอเลิกกับเธอโดยเด็ดขาด คืนห้องเช่าและไม่ไปหาอีก แต่เธอยังตื้อโดยการส่ง mail ข้อความที่น่ารังเกียจมาออดอ้อนอยู่เสมอ สามีก็ใจแข็งไม่ติดต่อกลับเป็นเวลานานหลายเดือน จนกระทั่งเกิดเรื่องระหว่างดิฉันกับสามีเราผิดใจกันจนดิฉันพาลูกๆ ออกจากบ้าน หลังจากนั้น 2 วันเขาก็กลับมารับดิฉันและลูกกลับบ้าน แต่เขาก็กลับไปติดต่อกันอีก แต่ฝ่ายหญิงก็คงหาเรื่องกวนใจจนทะเลาะกัน เขาก็ตัดความสัมพันธ์กันอีกครั้ง จนฝ่ายหญิงส่ง mail มาต่อว่ามากมาย ไม่รับโทรศัพท์ สุดท้ายตอนนี้ฝ่ายหญิงขอหย่ากับสามีของเธอโดยขอแบ่งสมบัติ ตัวสามีก็เลยตลบหลังด้วยการจะฟ้องสามีของดิฉันที่มีความสัมพันธ์กับภรรยาของเขา จะเอาให้ได้อาย ถึงโรงถึงศาลกันเลย ตอนนี้สามีดิฉันทุกข์ใจมาก สังเกตุจากสีหน้า และอาการเงียบขรึมของเขา เรื่องทุกอย่างดิฉันทราบเพราะ สามีมาขออนุญาตคบหากับผู้หญิงคนนั้น และเขาเล่าให้ดิฉันฟังเกี่ยวกับผู้หญิงคนนั้นตอนเลิกติดต่อกันครั้งแรก เค้าให้เป็นของขวัญวันเกิด ซึ่งเป็นของขวัญที่มีค่าที่สุดในชีวิต

ที่ดิฉันทราบถึงความทุกข์ของเขา ก็เพราะเขาไปปรึกษากับผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่เรานับถือ ทุกวันนี้ ดิฉันได้แต่สวดมนต์ แผ่เมตตา ส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่เจ้ากรรมยายเวร กรวดน้ำให้ และตั้งอธิษฐานจิตขอให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นกับครอบครัวของเรา ที่เล่ามาให้ฟังทั้งหมดนี้ เพื่อเป็นอุธาหรณ์อีกเรื่องหนึ่ง และดีใจที่คุณสีนิล คิดได้ จงทำในสิ่งที่ดี ในทางที่ถูกต้องเถอะค่ะ ดิฉันก็เคยพูดคำนี้กับผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว แต่เธอยังคิดไม่ได้ ดิฉันขอตั้งอธิษฐานจิต ขอบารมีของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลกจงดลจิตดลใจให้ผู้หญิงคนนั้น คิดในสิ่งที่ถูก ทำในสิ่งที่ถูก และมีความสุขเสียที.....สาธุ
 
แสดงเฉพาะข้อความที่ตอบในระยะเวลา:      
สร้างหัวข้อใหม่ตอบ
 


 ไปที่:   


อ่านหัวข้อถัดไป
อ่านหัวข้อก่อนหน้า
คุณไม่สามารถสร้างหัวข้อใหม่
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
คุณไม่สามารถแก้ไขข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลบข้อความของคุณ
คุณไม่สามารถลงคะแนน
คุณ สามารถ แนบไฟล์ในกระดานข่าวนี้
คุณ สามารถ ดาวน์โหลดไฟล์ในกระดานข่าวนี้


 
 
เลือกบอร์ด  • กระดานสนทนา  • สมาธิ  • สติปัฏฐาน  • กฎแห่งกรรม  • นิทานธรรมะ  • หนังสือธรรมะ  • บทความ  • กวีธรรม  • สถานที่ปฏิบัติธรรม  • ข่าวกิจกรรม
นานาสาระ  • วิทยุธรรมะ  • เสียงธรรม  • เสียงสวดมนต์  • ประวัติพระพุทธเจ้า  • ประวัติมหาสาวก  • ประวัติเอตทัคคะ  • ประวัติพระสงฆ์  • ธรรมทาน  • แจ้งปัญหา

จัดทำโดย  กลุ่มเผยแผ่หลักคำสอนทางพระพุทธศาสนา ธรรมจักรดอทเน็ต
เพื่อส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรมในสังคม
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2546
ติดต่อ webmaster@dhammajak.net
Powered by phpBB © 2001, 2002 phpBB Group :: ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง